กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
15 ธันวาคม 2025, 10:50:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10
 1 
 เมื่อ: 1 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย Msp. - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


อย่าเผลอเพลินเกินแน่นหนา หน้ากากสวม
กลายหลอมรวมเรื่องจริงเท็จ เพ็ดทูลเผย
แม้นกลืนพจน์หมดสิ้น คุ้นชินเคย
จนถ้อยเปรยเหลือบอกไซร้ ไหนเท็จจริง

โซ…เซอะเซอ
15 ธันวาคม 2568



 2 
 เมื่อ: 3 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย มังตรา - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ




ฝากแสงจันทร์แทนใจ ในวันนี้
ในวันที่อ่อนแรงแสงเกื้อหนุน
ในวันที่ชีวาตม์ขาดสมดุล
ในวันที่รักของคุณอาจเจือจาง

ฝากแสงจันทร์จากลึกใจ ในอดีต
เคล้าสังคีตคุ้นเปรย มิเคยห่าง
ช่วยชี้ชวนหวนรัก ที่หักร้าง
เผื่อว่าบาง…บางทีรัก จักหวนคืน




Soul Searcher
Inspired to write 15/12/2025



 3 
 เมื่อ: 3 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย กวินพัฒน์ - กระทู้ล่าสุด โดย กวินพัฒน์
 โอว์...มายก็อด

นี่คือการแย่งเอ็มฮาเร็มหวาน
ใช่ไหมจ๊ะนงคราญสำราญอื้อ
สนุกทับจับคั้นจนมันมือ
คนน่ารักใสซื่อยื้อไปมา

เอ็มคนกลางลำบากหากจะเลือก
นอนกลิ้งเกลือกลุกลนล้นผวา
ถูกเลือกส่งลงคลองสองนางพญา
เชิญเลยจ้าเอ็มถึกด้วยฝึกนาน

ตื้นตันสุดเชิงชายได้ผงาด
แย่งเลือดสาดกันเชียวเสียวเลือดพล่าน
ใจเย็นเย็นเอ็นร้าวแทบเข่าคลาน
เลือดเต็มลานเลือดเราเมาเวที


 โอว...ซวยละตรู
อะไรครับเนี่ย ไม่ต้องแย่งกันครับ
ใจเย็นๆ แย่งแปลกๆ 555  งง....



 4 
 เมื่อ: 10 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย กวินพัฒน์ - กระทู้ล่าสุด โดย กัลมลี*

อุ๊บส์  ห้ามพูด ผู้ชายมือสองสำรองด้วย!
เป็นตัวท็อปหรือตัวซวยเพราะกล้วยฝ่อ ( แลบลิ้น..กวนทีน ขออภัยสัมผัสมันมาแบบนี้)
อยากกลับคอกตามใจไม่หักคอ
แต่ว่าขอไปส่งถึงตรงเลาจน์

ว่าจะไปปาร์ตี้พอดีค่ะ
ทางผ่านสวรรค์พี่สาวขี้เหงา  หน้าโคตรลามกน้ำยายไหย
ส่วนเอ็มแลกกะละมังก็ยังเอา
ถ้างี่เง่าแปร์สอนได้ใช้หลังมือ

   โฮ่ะ ๆๆๆ
สวรรค์เบี่ยง

 5 
 เมื่อ: 11 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย Msp. - กระทู้ล่าสุด โดย กัลมลี*

ฉันใส่หมดทั้งตัวหัวจรดเท้า
เพื่อจะเอายิ้มสุขแจกทุกที่
บทแสดงสรรหาแฟนตาซี
เพื่อให้มีเสียงหัวเราะทั่วไป

แทบจะขาดอากาศชุดมาสคอต
เกือบไม่รอดกลับบ้านคลานไม่ไหว
ตอนเต้นตีลังกาสาแก่ใจ
จึงลืมวัยไปนิดเกือบขิตเลย
 ไปสวรรค์

 6 
 เมื่อ: 11 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย กวินพัฒน์ - กระทู้ล่าสุด โดย Msp.
เป็นผู้ชายมือสองสำรองด้วย
เผื่อตัวจริงเขาป่วยช่วยหามจั่ว
กลับฮาเร็มนะจ๊ะอย่าได้กลัว
ใครจะยั่วกลับคอกอย่าออกมา

มีเขตแดนแผนผังอย่าย่างแหย่
มีความสุขกับแม่นะป๊ะป๋า
เอ็มกะล่อนอ่อนหัดอาจจัดมา
ตอนอิ่มนั่นล่ะหนานะเชิญรอ


555  นี่ตัวท็อป รอก่อนนะ

 หัวเราะเยาะ

 7 
 เมื่อ: 12 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย กวินพัฒน์ - กระทู้ล่าสุด โดย กัลมลี*


อุ๊ย ผู้ชายมือสองรักต้องห้าม
แฟนหรือยามเฝ้าใจคู่หมายหมั้น
โดนเอ็มเทงานแต่ง(แช่งทั้งวัน)
ตกลงกัล* แต่งกับแม่ครับเอ็ม

เรียกป๊าสิ ปะป๊า....มาให้กอด   หัวเราะเยาะ
หอมอีกฟอดรับไหว้สวยด้วยดอกเข็ม
ว่างพาแฟนมาไหว้อย่าใจเค็ม
ถ้าห้องเต็มล็อคดี-ดี....(จะ)ตีท้ายครัว


เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ไอ้บ้า
ไปเคลียร์กันเองนะคะ โชคดีค่ะเอ็ม  ไม่รู้ไม่ชี้

 8 
 เมื่อ: 14 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


(…เชิญอ่านต่อครับ…)


เช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนเวลาเริ่มงาน
ผมพาตัวเองมายืนอยู่หน้าอาคารพานิชย์สามชั้น
สองคูหา แถวบริเวณ เมืองเก่า เขตพระนคร

“สร้างสรรค์ ฝันกว้าง ย่างก้าวไปมิหยุด“
ผมยืนอ่าน คติพจน์ ที่เขียนด้วยตัวหนังสือ
สีลูกกวาด ด้วยอาการคัน อยากจะเติม
ข้อความต่อให้ ตามสันดานคนชอบ
ชักใบให้เรือเสียของผมว่า
“จะสะดุดเมื่อหมดทุน” …เหอๆ

ภายใต้คำขวัญ มีประกาศรับสมัคร
งานเขียนบทกวี สร้างสรรค์
สำหรับเชิญชวนให้เยาวชน
ให้หันมาสนใจรักการอ่านบทกวี
หากได้รับการตีพิมพ์ จะได้รับค่าตอบแทน
ตามสมควร

…ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร
สองสาวเดินจูงมือกันเดินมา
คนนึงสูงโปร่งผอมเพรียว
หุ่นเหมือนนางแบบ
ส่วนอีกคนหุ่นเหมือน
ดั้มพ์ มัตซูโมโต้ อดีตนักมวยปล้ำหญิง
ชาวญี่ปุ่น ผู้โด่งดังในช่วงปี ‘80

“อากาศเริ่มหนาวแล้วนะ รีย์
จันทร์ชอบอากาศหนาว ลมหนาว
ยามเช้า ทำให้รู้สึกสดชื่นดี”


เสียงหญิงสาวคนสูงเอ่ย

“เอ๊ะ…นั่นมัน…
จันทร์ เธอจำอีตาโรคจิต
ที่พยายามมาจีบเธอที่ร้านกาแฟ
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนได้ไหม
อีตาวิญญาณ อะไรนั่นน่ะ”

“รีย์ ไปพูดถึงเขาทำไมน่ะ”

“ก็มันเล่นมายืนอยู่หน้าออฟฟิศเราน่ะสิ”

“ใช่หรือ รีย์ จำผิดคนหรือเปล่า
ไม่น่าจะใช่นะ เพราะออฟฟิศเราอยู่ไกล
จากร้านกาแฟนั้น โชอยู่ ไม่น่าจะบังเอิญ
มาโผล่แถวนี้ได้“

”ใช่แน่นอน เสื้อยังใส่ตัวเดิมเลย
ไอ้เสื้อสัปดน “คิด วิเคราะห์ แยกแยะ”
อะไรนั่นน่ะ

และชั้นว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
เธออยู่เฉยๆ เดี๋ยวชั้นจัดการเอง
ไอ้พวกโรคจิต แบบนี้ต้องเจอคนอย่างชั้น”


 ขณะที่ผมกำลัง ยื่นอ่านประกาศอยู่นั้น
สั่งดังแหว อย่างไม่เป็นมิตร
ก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง

“นี่นาย…นายมาสะกดรอยตามเพื่อนชั้นรึ
เดี๋ยวเจอดีแน่ ชั้นจะแจ้งตำรวจ“


ผมหันขวับไปตามเสียงข่มขู่นั้นทันที
แต่สายตาผมกลับมองเลยผ่านเจ้าของเสียง
ไปยังใบหน้าหวานหวานที่อยู่ข้างๆ

“สวัสดีครับคุณจูบจันทร์”

“สวัสดีค่ะคุณวิญญูชน ไม่ทราบคุณมาที่นี่ได้ยังไงคะ”
เธอจำเสียงทุ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี

“เอ่อ ผมนั่งรถเมล์มาครับ”

“คือจันทร์หมายถึงว่า คุณตั้งใจมาที่นี่
หรือบังเอิญผ่านมาคะ”

“ผมตั้งใจครับ”


ผมเป็นคนโกหกไม่ขึ้น ถ้าโกหกทีไร
มักจะโดนจับได้เสมอ จึงเลือกที่จะพูดความจริง

“คือตั้งแต่วันนั้นที่คุณบอกว่า คุณทำงานนิตยสาร
”กวีสีลูกกวาด“ ผมก็เลยสนใจ เลยลองค้นหาข้อมูลดู
เห็นว่า กำลังรับสมัครฟรีแลนซ์
ที่จะส่งงานมาให้พิจารณาลง ผมเลยสนใจ
และอยากจะมาลองดูครับ เพราะช่วงนี้เอง
ผมก็ว่างอยู่ เลยมาครับ“

”อ้อ ค่ะ เรากำลังหา content เอามาลง
เลยเปิดรับให้ผู้ที่สนใจ ส่งบทความหรือบทกวี
มาเสนอค่ะ“

“แต่ชั้นไม่เชื่อนาย ชั้นคิดว่านายมีเจตนาไม่บริสุทธิ์
นายคิดจะมาหาเพื่อนชั้นต่างหาก“

“นั่นก็ใช่ครับ”

“นายไม่ต้องมาปฏิเสธ…อ้าวเอ๊ะ”


คำตอบผมทำเอา ผู้รับบทผู้พิทักษ์นางเอกงง

“ใช่ครับ อีกส่วนนึงคือผมอยากมาพบคุณจันทร์
คือผมคิดว่าคุณเป็นคนน่าสนใจ
และ ผมอยากทำความรู้จักคุณมากขึ้นครับ
ผมคิดว่าเราจะสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ครับ”


คำพูดอันเต็มไปด้วยความจริงใจ ของผม
ทำให้ บรรยากาศทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง
ไปชั่วขณะ

“แต่ชั้นไม่ไว้ใจคุณ ชั้นว่าคุณมันดูกะล่อนพิกล
คุณแค่เอาเรื่องการส่งบทกวี มาอ้างเพื่อมาจีบ
เพื่อนชั้น“


เสียงผู้พิทักษ์นางเอก พยายามทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่

“ผมทั้งสนใจเรื่องเขียนบทกวี
และอยากทำความรู้จักกับคุณ
ตั้งแต่วันที่คุณจากมาโดยที่ผม
ไม่รู้เลยว่าจะเจอคุณอีกไหม จะติดต่อคุณอย่างไร
เหมือนชีวิตผมมันโหวงเหวง อย่างไรก็ไม่รู้
นี่เป็นครั้งแรก ในชีวิตที่ แสนจะป๊อดเรื่อง
ผู้หญิงของผม ที่ผมกล้าที่จะออกตามหาคุณ
กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกที่ผมมี

แม้ว่าผมจะเป็นคนกลัวการถูก ปฏิเสธ
และกลัวความผิดหวังเป็นที่สุด
แต่เพราะผมรู้สึกว่า ผมคงจะเสียใจไปตลอดชีวิต
ถ้าผมไม่ได้ทำความรู้จักกับคุณ
ไม่ว่าผลของมันจะเป็นเช่นไรก็ตาม“


บรรยากาศที่มันสงบนิ่งอยู่แล้ว
กลับสงบนิ่งยิ่งขึ้นไปอีก
เกือบจะห้าวินาที ก่อนที่จะมีเสียงหวานๆ
กังวานขึ้น

”จันทร์ขอขอบคุณนะคะ ที่คุณพูดเปิดเผย
ทุกอย่าง อย่างจริงใจ
จันทร์เองเป็นคนที่มีเพื่อนน้อย
เพราะจันทร์ไม่อยากเป็นภาระของใคร
นอกจากรีย์ แล้วจันทร์ก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนอีก

จันทร์ไม่รังเกียจที่จะเป็นเพื่อนกับคุณนะคะ
แต่ไม่ใช่ในฐานะแฟน คุณคงเข้าใจดีว่า
คนที่มีสภาพอย่างจันทร์ ไม่สามารถใช้
ชีวิตอย่างคนปกติธรรมดาได้
จึงไม่อยากให้ความหวังกับใคร
และก็ไม่อยากให้ตนเองตั้งความหวังลมๆแล้งๆ
กับใครด้วย“


นั่นแหละ ความที่เธอเป็นเธอนี่แหละ ที่มัน
ทำให้ผมหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ
ความสวยก็ด้วยแหละ

แต่ความที่เป็นคนเข้าใจชีวิต
เข้าใจตนเองและผู้อื่น และมีจิตวิญญาณ
ที่สวยงามของเธอนั้น ที่ทำให้ผมหลงรักเธอ

“ผมเข้าใจดีครับ ผมแค่อยากเป็นส่วนหนึ่ง
ในชีวิตคุณ ไม่ว่าจะเป็นเศษเสี้ยวเล็กน้อย
สักเพียงใด

ไม่ว่ามันจะแค่ 1 วัน 1 เดือน 1 ปี หรือชั่วชีวิต
มันจะทำให้คนที่ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกีบชีวิต
อย่างผมมี เป้าหมายในชีวิต…
เป้าหมายของผมคือ อยากเห็นรอยยิ้มของคุณ
ในทุกๆวัน และแค่อยากเห็นคุณ
มีชีวิตที่มีความสุข“


ผมฟังเสียงตัวเองพูด ไดอะล็อกที่เหมือน
คัดมาจากบทละครน้ำเน่า
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า ผมพูดออกไปได้อย่างไร

ผมเหลือบ มองดูดวงตาสวยคู่นั้น
โดยไม่รู้ว่าผมอุปทานคิดเข้าข้าง
ตัวเองไปเองหรือเปล่า
แต่ผมเห็นริ้วเรื่อชมพูบสงๆบนแก้มใสๆนั้น
พร้อมกับรอยยิ้มที่ผมจะไม่มีวันลืม


……เป็นเวลาครบหนึ่งปี ที่โชคชะตาชักพาเรา
ให้มารู้จักกัน
ผมนอนหนุนตักแฟนผม ใต้ร่มจามจุรีใหญ่เขียวครึ้ม
ขณะที่เธอนั่งกุมมือผมอย่างเงียบๆ
เราต่างถ่ายทอดความรู้สึกลึกซึ้ง
ให้กันและกัน โดยที่ไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ

สายลมพัดโชยเอื่อยๆ พร้อมกับเสียงเพลงคุ้นหู
ที่ล่องลอยมาตามลม
พอได้ยินเสียงเพลงนี้ พลันรอยยิ้มก็ปรากฏ
บนใบหน้าของเราทั้งสองคนโดยมิได้นัดหมายกัน…




“...หากฉันเพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อยอาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความหมายใดซ่อนในดวงฤทัย
บ่งบอกความในใจ ที่ดวงตา

หากรู้ว่ารักเจ้ายังหลีกเร้นหลบ
ถ้าพบจะพาดวงใจเปี่ยมรักมา
แอบอารมณ์ละมุนอุ่นไอรักชักพา
ให้วิญญาสองเรารื่นสราญ

โอ้ ความรักนั่นอยู่ไหนไยจึงไม่เห็น
มองหาเช้าเย็น มิพบพาน
ใจเอ๋ยใจเรารักเขาหรือนั่น
ปล่อยรักนั้นให้เดินผ่านไป

หากฉันเพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อยอาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความรักซ้อนซ่อนในดวงฤทัย
อาบอุ่นใจ สองเราเรื่อยมา...”


...ความในใจ...(เพลงประกอบละคร ปริศนา)
[ คำร้อง ทำนอง โดย อ.วิรัช อยู่ถาวร ]



…วันนี้ขึ้นมาทำงานที่ต่างจังหวัด
จึงมีช่วงเวลาที่ได้ มีโอกาสนั่งนิ่งๆสงบๆ
ปราศจากความวุ่นวาย ของโลกภายนอก
เขียนนิยายเรื่องแรกของ
ตัวเองให้จบเสียที หลังจากเขียนค้างเติ่งมานาน…

เชิญติติงได้โดยไม่ต้องเกรงใจนะครับ
จะได้นำไปพัฒนาการเขียนของตัวเองครับ

ในอนาคต อาจจะได้ไปมีอาชีพนักเขียน
จริงๆในช่วงวัยเกษียณ กับเขาบ้างก็ได้
…ใครจะไปรู้ จริงไหมครับ

…ขอขอบพระคุณทุกท่านที่สู้อุตส่าห์
อดทนอ่านจนจบครับ…



     ...เธอเป็นเสมือนแดดอบอุ่นในยามเช้า
   ที่ปลุกฉันให้ตื่นขึ้นมายิ้มรับกับชีวิต

   และเป็นสายลมโชยอ่อนยามค่ำคืน
   ที่คอยปลอบประโลมยามที่ฉันเหนื่อยล้า
   และเห่กล่อมให้ฉันนอนหลับฝันดี…


วิญญูชน
14 ธันวาคม 2568



 9 
 เมื่อ: 14 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ



“เดี๋ยวครับ แล้วผมจะติดต่อคุณได้อย่างไร
 ล่ะ…เอ่อ ครับ..”
เสียงประตูร้านปิดดังปัง ก่อนที่ผมจะพูดจบประโยค



(ภาคต่อจากตอนที่ ๒)
*** ถ้าท่านบังเอิญหลงเข้ามาอ่าน
กรุณาย้อนกลับไปอ่าน …ความในใจ…
ตอนที่ ๑ และตอนที่ ๒ ก่อนครับ***



…ความในใจ (๓)…


…เสียงปังของประตูนั้นเหมือนจะดังก้องอยู่ในหัวผม
ราวเกือบสิบวินาที พร้อมกับความรู้สึกแปลบๆ
ที่หัวใจ

ผมควรจะรีบก้าวตามไปขอคอนแทคจากเธอ
แต่ในความเป็นจริง ผมกลับยืนนิ่งงงอยู่
ปล่อยให้เธอเดินออกไปจากชีวิตของผม
ต่อหน้าต่อตา

เหมือนหลายๆครั้งที่ผมปล่อยให้โอกาสทั้งหลาย
ในชีวิต ผมหลุดลอยไป เพราะผมไม่กล้าพอที่จะ
เอื้อมมือไปไขว่คว้ามัน ในขณะที่โอกาสมาถึง

ตลอดทั้งอาทิตย์นั้น ผมเฝ้าวนเวียนกลับไปนั่ง
ที่ร้านกาแฟร้านเดิมนั้นทุกวัน
โดยพยายามบอกตัวเองว่า แค่ไปหาที่สงบๆ
นั่งจิบกาแฟ แต่ในใจลึกๆนั้น
ก็หวังว่าจะมีโอกาสได้พบเจอเธออีกครั้ง

แต่…ผมก็ไม่ได้พบเห็นเธออีกเลย
แม้แต่เงา

พอครบอาทิตย์ ผมก็เริ่มรู้สึกทุรนทุราย
ใจผมมีแต่ความเศร้าเหงาลึกๆ
เหมือนคนอกหัก ทั้งๆที่
ผมเคยเจอเธอแค่เพียงครั้งเดียว
และแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย

“…ไอ้บ้าเอ้ย…เอ็งเป็นอะไรไปวะ
เจอเขาแค่ครั้งเดียว ไม่รู้จักมักจี่
อะไรกับเขาด้วย ทำท่าจะเป็นจะตาย…
ไอ้อ่อนเอ้ย…เสียงในหัวเจ้าเก่าของผมดังขึ้น”


แต่ความปากแข็งแต่ใจอ่อน ซึ่งเป็นคุณสมบัติ
เด่นประจำตัวของผม…
…จึงมีอีกเสียงที่แอบ พูดเบาๆแทรกขึ้นมา
เบาๆว่า

“จงเชื่อในความรู้สึกของตัวเองสิ
เคยรู้สึกแบบนี้ กับใครที่พึ่งรู้จัก
มาก่อนรึ?”

“…ไอ้บ้าเอ้ย ต่อให้เอ็ง ค้นหาเขาจนเจอ
แล้วเขากลับทำเป็นไม่รู้จัก หรือจำเอ็งไม่ได้ล่ะ
หน้าแตกละเอียดเลยนะเว้ย
แล้วยังมี ยัยเพื่อนนางยักษ์ของเธออีก
เอ็งคงเจอเสียงหัวเราะเยาะ คำดูถูก ทับถม
เหยียบย่ำ จมธรณีเลยน่ะเว้ย

เอ็งทำเฉยๆ ไว้ดีกว่าจะได้ไม่ต้องเจ็บใจ
เอ็งจำไว้
…อะไรที่เป็นของเรา ก็ย่อมเป็นของเรา…
ไม่ต้องไปดิ้นรนหรอก
ถ้าเอ็งกับเขาเป็นเนื้อคู่กันจริง
เดี๋ยวก็ต้องมีเหตุให้มาพบเจอกันอีกเองล่ะ
หรือถ้าเขารู้สึกกับเอ็ง อย่างที่เอ็งรู้สึกนี้
เค้าก็ต้องแวะกลับมาที่ร้านนี้เพื่อหวัง
จะเจอเอ็งบ้างแหละ… เชื่อข้า
เอ็งจะได้ไม่ต้องเสียหน้า เสียฟอร์ม…“


ผมนั่งฟังเสียงในหัวของผมโต้เถียงกันไปมา
สักพัก
แต่แล้ว…เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เจ้าเสียงเบาๆ
นิ่มๅ ในหัวของผมสามารถเอาชนะ ไอ้เสียงห้าว
ผู้ที่เคยเป็นฝ่ายชนะมาตลอดได้

ผมจึงรวบรวมความกล้า ตั้งปณิธานว่า
ผมจะค้นหาเธอให้เจอ

   คุณสมบัติหนึ่งที่ผมมี ที่พอจะเป็นประโยชน์
ในชีวิตที่ไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพายของผมบ้าง
คือการเป็นคนชอบ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ
เพราะตอนเด็กๆ ชอบอ่านนิยาย ลึกลับ
สืบสวนการฆาตกรรม อะไรทำนองนี้
(ซึ่งผมก็แอบภูมิใจเล็กๆ กระทั่งไปหาซื้อ
เสื้อทีเชิร์ต ที่มีตัวพิมพ์ ว่า คิด วิเคราะห์ แยกแยะ
ขนาดตัวเขื่องๆ อยู่กลางเสื้อ)

ผมจึงนั่งลำดับข้อมูลที่ผมรู้เกี่ยวกับตัวเธอ
- เธอชื่อ จูบจันทร์ (แต่ไม่รู้นามสกุล)
- จบอักษรศาสตร์ (แต่ไม่รู้สถาบันไหน)
- อายุประมาณ 28-30 ปี
- เป็นผู้พิการทางสายตา
- มีเพื่อนสนิทชื่อ สัตยสุรีย์
- ทำงานนิตยสารที่ชื่อ“กวีสีลูกกวาด” อะฮ้า…ผมอุทานอย่างตื่นเต้น

เริ่มจากจุดนี้แหละ ผม Google คำว่า “กวีสีลูกกวาด“ ทันที

“…ฮัลโหล…สวัสดีครับ นั่น นิตยสารกวีสีลูกกวาด“ใช่ไหมครับ
 ผมขอเรียนสายคุณจูบจันทร์ครับ”

“…เอ้อ วันนี้คุณจูบจันทร์ลาค่ะ มาทำงานพรุ่งนี้ค่ะ
จะฝากข้อความอะไรไว้ไหมคะ”

“…เอ่อ ไม่เป็นไรครับ”



…พอดีข้อความเกิน 2,000 คำ เลยต้องแยกเป็น2 ตอน
เชิญอ่านต่อ ที่ …ความในใจ (๓/๒)…ครับ


 10 
 เมื่อ: 18 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย กวินพัฒน์ - กระทู้ล่าสุด โดย Msp.
เห็นคาตานะพ่อล่อหลอกสาว
เสน่ห์กราวโปรยทั่วภพตลบหลัง
เรายุ่งงานพานเมื่อยเปื่อยแล้วมั้ง
แล้วเธอยังเจ้าชู้ประตูดิน

เตือนนะแม่งามขำเดี๋ยวช้ำจิต
เอ็มจริตแอบร้ายไปทั่วถิ่น
เราคือคู่ตัวแท้แม่ยุพิน
เดี๋ยวแดดิ้นกลับหลังแม่ยังทัน


msp.

 หัวเราะเยาะ

เฮ้อ คู่หมายเสน่ห์แรงก็งี้..เธอต้องว่างเพื่อเราสิ  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s