หลับอยู่มิรู้ตื่น
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
17 เมษายน 2024, 01:53:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลับอยู่มิรู้ตื่น  (อ่าน 9641 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
05 พฤศจิกายน 2013, 06:50:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2013, 06:50:PM »
ชุมชนชุมชน

1.
ข้าพเจ้าหลับอยู่มิรู้ตื่น
ใช่ชั่วคืนชั่วเดือนหากเหมือนกัป
จะเนิ่นนานปานใดมิได้นับ
เฝ้าไล่จับความฝันอันงามงด

ในฝันนั้นข้าฯผันพรากจากถิ่นฐาน
เที่ยวท่องผ่านเทือกเขายาวจรด
ปลายโพ้นฟ้าผืนนทีที่เคี้ยวคด
งามเกินพจมานจะหว่านคำ

บรรลุยังเมืองน้อยกลางดอยสูง
ล้วนเพื่อนฝูงมากหน้าเห็นคลาคล่ำ
ต่างสรวลเสเฮฮาว่าลำนำ
ไมตรีจิตเลอล้ำประจำไป

จิบสุราชมจันทร์รังสรรค์สรวง
มิรุกล่วงโลกียวิสัย
ทั้งอ่อนน้อมถ่อมยิ่งหาชิงชัย
เรื่องน้อยใหญ่รู้อภัยด้วยใจจริง

มิแบ่งเผ่าแบ่งพันธุ์ชั้นวรรณะ
วิสาสะในทีไมตรียิ่ง
พร้อมดูแลแผ่เผื่อเอื้อพักพิง
มิทอดทิ้งผู้ทุกข์ยากลำบากทน


2.
ข้าพเจ้าท่องไปในความฝัน
ผ่านคืนวันหฤหรรษ์อันเข้มข้น
มิรู้เหนือใต้ใดในสกล
หากเปี่ยมล้นความสุขทุกอณู

ริ้วอรุณอุ่นอาบทาบแผ่นผิว
ทุ่งทองปลิวลมพาหญ้าเอนลู่
หอมพฤกษาผกาพันธุ์กลั่นกลิ่นกรู
นกขันคูไพเราะเสนาะนาน

ใต้หุบเขาเหนือลำน้ำท่ามคลื่นหมอก
ล้อระลอกธารเมฆาฟ้าประสาน
ธรรมชาติวาดเห็นเด่นตระการ
กล่อมวิญญาณมวลมนุษย์ได้หยุดพัก

ละวางสิ้นทุกสิ่งทั้งจริงเท็จ
เพาะเมล็ดพันธุ์เอื้อเพื่อเป็นหลัก
แตกกิ่งก้านร่มเงาเฝ้าฟูมฟัก
รอความรักผลิบาน ณ.ลานใจ


3.
ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นคืนสู่โลก
เสียงกรรโชกก่นทอก็แว่วไหว
ความโกรธเกลียดเคียดขึ้งอื้ออึงไกล
ใช่แล้วใช่!!นี่คือโลกของเรา

การแบ่งแยกแตกร้าวยังก้าวต่อ
แม่กับพ่อน้องกับพี่ผีไม่เผา
ตาต่อตาฟันต่อฟันต่างมันเมา
คือเรื่องเศร้าของสังคมอุดมการณ์

ไฟแห่งความชิงชังยังถูกจุด
ศพมนุษย์กองก่ายคล้ายสุสาน
ศาสนาพร่าเลือนเหมือนตำนาน
มือหนึ่งกรานมือหนึ่งกรีดมีดฆ่ากัน


4.
ข้าพเจ้าจึงหลับต่อไม่ขอตื่น
ใช่ชั่วคืนงดงามของความฝัน
แต่ขอหลับมิรู้ตื่นทุกคืนวัน
กว่าหมอกควันความเกลียดชังจะจางลง

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กังวาน, D, ...สียะตรา.., รพีกาญจน์, จารุทัส, ไพร พนาวัลย์, (พระอภัย), panthong.kh, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, ดุลย์ ละมุน, ปู่ริน, อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รัตนาวดี, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 พฤศจิกายน 2013, 07:04:PM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2013, 07:04:PM »
ชุมชนชุมชน



ชีวิตคู่อยู่กันมานานนัก
น้ำพริกผักปลาร้าหากินส่ง
มางวดนี้โชคช่วยเลขหวยตรง
กอไผ่ดง ที่ปลูกออกลูกงาม

มีลูกมาสี่ผลยลคล้ายเห็ด
ก็ซื้อสิสี่เจ็ด เด็ด..เลขหาม
ทุ่มสุดตัวมิอั้นฝันวาววาม
ได้รับเลยล้านสามเงินตามมา

ฉลองให้สามีที่เคียงข้าง
ชวนกันย่างไปตลาดกวาดซื้อหา
หมึก,เป็ด,ไก่,ไข่,หมู,หอย,ปู,ปลา
ทั้งพิซซ่า หลากล้นผลไม้ไทย

พอเสร็จสรรพดับเสียงตะเกียงแสง
เดินตะแคงขึ้นเตียงเคียงหลับใหล
ถึงฟ้าแจ้งจางปางคนข้างใจ
นอนพุงใหญ่ใสแท้แหมน่าชัง

อัดเป็นนุ่นยัดหมอนนอนแผ่หรา
น้ำลายคาคราบหนับจับหมอนฝัง
ตื่นได้แล้วพี่"หมิง"ไหงนิ่งจัง
ตายหรือยังเล่าเนี่ยเฮียพุงโต

"ดิน"







ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, รพีกาญจน์, จารุทัส, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, ดุลย์ ละมุน, ปู่ริน, ...สียะตรา.., อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, กังวาน, รัตนาวดี, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

05 พฤศจิกายน 2013, 07:30:PM
...สียะตรา..
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 396
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,049


.


« ตอบ #2 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2013, 07:30:PM »
ชุมชนชุมชน




......ตื่นเถิด...ณ......ที่นี้

...สายนทีมีนกยูง...ฝูงบุหรง

...เงาแสงเดือนเคลื่อนส่องผ่องเต็มวง

...งามบรรจงเกินหลับใหลด้วยใจ...ที่กลัว

......ตื่นเถิด...ณ......ที่นี้

...สุมาลีขจรจรุงฟุ้งไปทั่ว

...สบกรุ่นไหม.....ละเอียดละอองของดอกบัว

...ส่งกลิ่นยั่วปลุกจิตจาก...นิทรา




......สั้นไปหน่อยนะคะ...ว่างๆจะมาต่ออีกนิด.......แต่ก็....ตื่นเถอะนะคะนอนมากเดี๋ยวอ้วน...

(...ขออนุญาตคุณจารุทัสนะคะที่เขียนเองเออเอง    เคารพรัก)







ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : จารุทัส, พี.พูนสุข, panthong.kh, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, ดุลย์ ละมุน, ปู่ริน, D, อริญชย์, Shumbala, ยามพระอาทิตย์อัสดง, กังวาน, รัตนาวดี, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 พฤศจิกายน 2013, 09:16:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #3 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2013, 09:16:PM »
ชุมชนชุมชน

1.
ข้าพเจ้าหลับอยู่มิรู้ตื่น
ใช่ชั่วคืนชั่วเดือนหากเหมือนกัป
จะเนิ่นนานปานใดมิได้นับ
เฝ้าไล่จับความฝันอันงามงด

ในฝันนั้นข้าฯผันพรากจากถิ่นฐาน
เที่ยวท่องผ่านเทือกเขายาวจรด
ปลายโพ้นฟ้าผืนนทีที่เคี้ยวคด
งามเกินพจมานจะหว่านคำ

บรรลุยังเมืองน้อยกลางดอยสูง
ล้วนเพื่อนฝูงมากหน้าเห็นคลาคล่ำ
ต่างสรวลเสเฮฮาว่าลำนำ
ไมตรีจิตเลอล้ำประจำไป

จิบสุราชมจันทร์รังสรรค์สรวง
มิรุกล่วงโลกียวิสัย
ทั้งอ่อนน้อมถ่อมยิ่งหาชิงชัย
เรื่องน้อยใหญ่รู้อภัยด้วยใจจริง

มิแบ่งเผ่าแบ่งพันธุ์ชั้นวรรณะ
วิสาสะในทีไมตรียิ่ง
พร้อมดูแลแผ่เผื่อเอื้อพักพิง
มิทอดทิ้งผู้ทุกข์ยากลำบากทน

แต่เรื่องจริง ไม่เป็น เช่นนั้นแน่
ฝันปรวนแปร เปลี่ยนไป ให้สับสน
กินอิ่มมาก เมื่อวาน เขาบานบน
ทั่งสกล เซ่นไหว้ หมายร่มเย็น

พอตกบ่าย นำมา เป็นอาหาร
กับแกล้มทาน อร่อย พลอยกินเล่น
ทั้งน้ำจิ้ม พริกหรือ คือประเด็น
ให้ลำเค็ญ อิ่มท้อง ต้องเข้านอน
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
2.
ข้าพเจ้าท่องไปในความฝัน
ผ่านคืนวันหฤหรรษ์อันเข้มข้น
มิรู้เหนือใต้ใดในสกล
หากเปี่ยมล้นความสุขทุกอณู

ริ้วอรุณอุ่นอาบทาบแผ่นผิว
ทุ่งทองปลิวลมพาหญ้าเอนลู่
หอมพฤกษาผกาพันธุ์กลั่นกลิ่นกรู
นกขันคูไพเราะเสนาะนาน

ใต้หุบเขาเหนือลำน้ำท่ามคลื่นหมอก
ล้อระลอกธารเมฆาฟ้าประสาน
ธรรมชาติวาดเห็นเด่นตระการ
กล่อมวิญญาณมวลมนุษย์ได้หยุดพัก

ละวางสิ้นทุกสิ่งทั้งจริงเท็จ
เพาะเมล็ดพันธุ์เอื้อเพื่อเป็นหลัก
แตกกิ่งก้านร่มเงาเฝ้าฟูมฟัก
รอความรักผลิบาน ณ.ลานใจ

ท่องเที่ยวแดน ดงใด ในความฝัน
คงไม่เท่า เทียมทัน วันสดใส
แสนยาวนาน กาลกล่าว หนาวฤทัย
ลำธารไหล หลั่งริน ถิ่นดงดอย

ริ้วเรื่อเรือง ทองทาบ ให้วาบหวาม
ค่อนสองยาม ท่ามกลาง ทางถดถอย
หุบเหวห้วง ลึกล้ำ น้ำตาปรอย
หินสลัก หยักย้อย ลอยวาริน
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
3.
ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นคืนสู่โลก
เสียงกรรโชกก่นทอก็แว่วไหว
ความโกรธเกลียดเคียดขึ้งอื้ออึงไกล
ใช่แล้วใช่!!นี่คือโลกของเรา

การแบ่งแยกแตกร้าวยังก้าวต่อ
แม่กับพ่อน้องกับพี่ผีไม่เผา
ตาต่อตาฟันต่อฟันต่างมันเมา
คือเรื่องเศร้าของสังคมอุดมการณ์

ไฟแห่งความชิงชังยังถูกจุด
ศพมนุษย์กองก่ายคล้ายสุสาน
ศาสนาพร่าเลือนเหมือนตำนาน
มือหนึ่งกรานมือหนึ่งกรีดมีดฆ่ากัน

เมื่อมันคือ เรื่องจริง ทุกสิ่งสร้าง
ปล่อยไปบ้าง ช่างเถิด จักเฉิดฉัน
ได้แต่ปลง ยืนดู อดสูพลัน
เขาห้ำหั่น เฉกเช่น ไม่เป็นไทย

จะกี่ยุค สมัย ใครจักช่วย
คงมอดม้วย มรณา ฆ่ากันใหญ่
จิตสำนึก ไม่มี ชี่ช้ำใจ
เวรกรรมไหม พี่น้อง ต้องจาบัลย์
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
4.
ข้าพเจ้าจึงหลับต่อไม่ขอตื่น
ใช่ชั่วคืนงดงามของความฝัน
แต่ขอหลับมิรู้ตื่นทุกคืนวัน
กว่าหมอกควันความเกลียดชังจะจางลง
 เคารพรัก

จะหลับต่อ หรือตื่น จำขื่นขม
เกิดเป็นปม แก้ยาก ขอฝากส่ง
หยุดเถอะหนอ บอบช้ำ ย้ำตามตรง
สันติจง คืนกลับ มาฉับไว
พันทอง
๕/๑๑/๕๖
 ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, ชลนา ทิชากร, ดุลย์ ละมุน, ปู่ริน, ...สียะตรา.., D, อริญชย์, Shumbala, ยามพระอาทิตย์อัสดง, กังวาน, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 พฤศจิกายน 2013, 10:33:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #4 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2013, 10:33:PM »
ชุมชนชุมชน


เหตุแวดล้อมห้อมกายเลวร้ายทั่ว
ล้วนน่ากลัวปริวิตกสั่น
สาปแช่งด่าอาฆาตเงื้อฟาดฟัน
ผ่านคืนวันแลเล็งเขม็งเกลียว

ปสาทะกระทบจบสมอง
ลู่ครรลองยินยลสถลเขี่ยว
มิระบายคายคูแต่ผู้เดียว
ดังข้นเคี่ยวผนึกลึกลงดาน

นอนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าสองตาหลับ
จำตีกลับรายเรียงเจียงประสาน
ส่งสะท้อนย้อนยองสิ่งต้องการ
อันตรธานจากร้ายกลายเป็นดี

ดลบรรเจิดเปิดจิตนิมิตภาพ
สุขเอิบอาบสดชื่นคลื่นถ้วนถี่
เริงภูผาป่าเปลี่ยวเขียวขจี
ชมมาลีเดือนดาวแสงแวววาม

ท่องซาบซึ้งพึงใจในเมืองสวย
อุดมด้วยผู้คนมากล้นหลาม
ยิ้มเต็มหน้าปราศรัยส่อใจงาม
ซึมซับความวิจิตรตราติดทรวง

การเดินทางหว่างพบจบสิ้นสุด
หวนสู่จุดแรกเริ่มยิ่งเพิ่มห่วง
ยากลบเลือนรุนแรงแก่งทั้งปวง
ถึงจะล่วงหลับหลีกอีกกี่นาน

รพีกาญจน์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, ดุลย์ ละมุน, ปู่ริน, ...สียะตรา.., D, อริญชย์, Shumbala, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, กังวาน, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 พฤศจิกายน 2013, 11:41:AM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,361



« ตอบ #5 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2013, 11:41:AM »
ชุมชนชุมชน

...ชื่อกระทู้ อ่านแล้ว งวยงง
เธอคง หลับละเมอ แน่หนา
เก่งจริง กลอนจาร รจนา
ตัวข้า ขอเคล็ด เด็ดเถกิง

...แถมส่ง ลงบ้าน- กลอนไทย
ยอยก ผองไผ ให้เหลิง
ข้าตื่น แต่งแต่ ใจกระเจิง
แม้ถูก ด่าเปิง ก็ยอม
555

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, จารุทัส, Shumbala, รพีกาญจน์, D, ดุลย์ ละมุน, กังวาน, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 พฤศจิกายน 2013, 12:38:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #6 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2013, 12:38:PM »
ชุมชนชุมชน


ท่านคงเป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิต
จึงลิขิตคำคมกลมกล่อม
ข้าพเจ้าอ่อนด้อยถ้อยน้อม
ล้างหูพร้อมรับฟังตั้งใจ

หากท่านนี้มีเรื่องเคืองขุ่น
จงเมตตาการุณขานไข
ด้วยผู้น้อยด้อยอาจพลาดไป
ผิดที่ไหนได้โปรดชี้แจง

 เคารพรัก

*ไม่ทราบว่าท่านtoshare ต้องการสื่อสิ่งใด ผมด้อยปัญญา ไม่อาจเข้าใจสิ่งที่ท่านเขียน ได้โปรดชี้แนะอย่างชัดเจนอีกครั้ง

เพื่อที่หากผมทำสิ่งใดผิด จะได้แก้ไขปรับปรุง หรือหากกระทู้นี้ผิดกฎของเวบ หรือเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้ง ผมก็พร้อมจะลบครับ*

ด้วยความเคารพ

Shumbala

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, อริญชย์, D, ดุลย์ ละมุน, กังวาน, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 พฤศจิกายน 2013, 01:22:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,361



« ตอบ #7 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2013, 01:22:PM »
ชุมชนชุมชน

ไม่มีผิดใด ๆ หรอกครับ เพียงแต่ขำชื่อกระทู้ "หลับ" ยังแต่งกลอนได้ 555
จำเพลง "ปิดไฟใส่กลอน เขียนจดหมาย (ถึงคนรัก)" ได้ไหมครับ
ปิดไฟ ก็ยังเขียนได้ (มีคนบอกว่า "ก็เขาตาบอดน่ะ" 555)

ผมแซวว่า หลับยังแต่งได้ดีขนาดนี้ ผมต้องขอเคล็ดดี ๆ บ้าง 555

บรรลุยังเมืองน้อยกลางดอยสูง
ล้วนเพื่อนฝูงมากหน้าเห็นคลาคล่ำ
ต่างสรวลเสเฮฮาว่าลำนำ
ไมตรีจิตเลอล้ำประจำไป

จิบสุราชมจันทร์รังสรรค์สรวง
มิรุกล่วงโลกียวิสัย
ทั้งอ่อนน้อมถ่อมยิ่งหาชิงชัย
เรื่องน้อยใหญ่รู้อภัยด้วยใจจริง

มิแบ่งเผ่าแบ่งพันธุ์ชั้นวรรณะ
วิสาสะในทีไมตรียิ่ง
พร้อมดูแลแผ่เผื่อเอื้อพักพิง
มิทอดทิ้งผู้ทุกข์ยากลำบากทน


ส่วนนี้ ผม(และอาจรวม เพื่อน ๆ บ้านกลอนฯ)อ่านแล้วเคลิ้มเลย ผมเลยกลัวเหลิงครับ 555

ผมนะ ขนาดแต่งตอนตื่น ส่งงานประกวด ตกรอบออกบ่อย ๆ 555
แต่งทีไรมีคนเขาบอกว่า "อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง"
อย่างครั้งนี้ คุณ Shumbala ยังต้องเขียนมาถามเลย 555

เนื้อหาดีนะครับ แต่อ่านแล้วเหมือนท้อ หมดกำลังใจที่เห็นโลกวุ่นวายไม่เลิก
ต้องมี "อุเบกขา" และคิดว่า มัน "เป็นเช่นนั้นเอง" ก็คนเป็นตัวปัญหาแน่ ๆ อยู่แแล้ว
ผมเป็นคริสต์ เลยอาศัยว่า "สำเร็จเป็นเรื่องพระ พยายามเป็นเรื่องเรา"
ดังนั้น ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่เราเถิดครับ

................ หน้าที่

...ทุกทุก ทิวาวาร      สุรีย์ขาน ขับแสง
สำแดง หน้าที่ตน       บบ่น บ่เลิกรา
ผาสุก มอบทุกผู้        รอบรู้ ฤ โง่เขลา
เทาเทา ฤ ขาวดำ      รวยล้ำ ฤ สุดจน
เตือนคน รู้หน้าที่        สละพลี กายกมล
ทุกข์พ้น สิแน่แท้        ละเลิก กิเลสแล้
ตัดสิ้น "ตัวกู"


ขอพระอวยพรครับ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, รพีกาญจน์, อริญชย์, D, ดุลย์ ละมุน, กังวาน, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, Shumbala, พี.พูนสุข, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 พฤศจิกายน 2013, 10:23:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #8 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2013, 10:23:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอบคุณท่านtoshareมากครับ ที่อุตส่าห์อธิบายเสียยืดยาว
ทีแรกผมก็นึกว่าผมทำอะไรผิด รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้ก็สบายใจแล้วละครับ ยิ้มหน้าใส

รวมทั้งต้องขออภัยท่านด้วย ที่ชื่อกระทู้ได้ไปรบกวนให้ท่านรู้สึกเสียอารมณ์กับการหลับของผม555
 ยิ้มให้จ้ะ
รับปากว่าจะตื่นเลยครับ เพื่อให้ท่านรู้สึกดีขึ้น อิิอิ

ขอบคุณอีกครั้งครับ

 เคารพรัก เคารพรัก

ปล.ผมไม่ได้เขียนกลอนตอนหลับหรอกนะครับ แต่เขียนตอนที่...

ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นคืนสู่โลก
เสียงกรรโชกก่นทอก็แว่วไหว
ความโกรธเกลียดเคียดขึ้งอื้ออึงไกล
ใช่แล้วใช่!!นี่คือโลกของเรา

ตอนนั้นสะดุ้งตื่นก็เลยเขียนกลอนบทนี้จนเสร็จ ก่อนจะหลับต่อครับ  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 เคารพรัก



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, panthong.kh, D, อริญชย์, พี.พูนสุข, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤศจิกายน 2013, 10:24:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #9 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2013, 10:24:PM »
ชุมชนชุมชน



ชีวิตคู่อยู่กันมานานนัก
น้ำพริกผักปลาร้าหากินส่ง
มางวดนี้โชคช่วยเลขหวยตรง
กอไผ่ดง ที่ปลูกออกลูกงาม

มีลูกมาสี่ผลยลคล้ายเห็ด
ก็ซื้อสิสี่เจ็ด เด็ด..เลขหาม
ทุ่มสุดตัวมิอั้นฝันวาววาม
ได้รับเลยล้านสามเงินตามมา

ฉลองให้สามีที่เคียงข้าง
ชวนกันย่างไปตลาดกวาดซื้อหา
หมึก,เป็ด,ไก่,ไข่,หมู,หอย,ปู,ปลา
ทั้งพิซซ่า หลากล้นผลไม้ไทย

พอเสร็จสรรพดับเสียงตะเกียงแสง
เดินตะแคงขึ้นเตียงเคียงหลับใหล
ถึงฟ้าแจ้งจางปางคนข้างใจ
นอนพุงใหญ่ใสแท้แหมน่าชัง

อัดเป็นนุ่นยัดหมอนนอนแผ่หรา
น้ำลายคาคราบหนับจับหมอนฝัง
ตื่นได้แล้วพี่"หมิง"ไหงนิ่งจัง
ตายหรือยังเล่าเนี่ยเฮียพุงโต

"ดิน"










ฉันฝันว่าเธอฝันว่าฉันฝัน
ว่าเรานั้นฝันไปในยามโพล้
ทั้งถูกหวยรวยหุ้นลุ้นไฮโล
ได้เงินมากองโต-โอ้โห..รวย

เธอฝันว่าฉันเป็นเช่นหนุ่มหล่อ
ส่วนฉันก็ฝันเพ้อว่าเธอสวย
เราต่างฝันอลวนจนงงงวย
คุณพระช่วย! ใครกันที่ฝันไป

หนุ่มก็หล่อสาวก็สวยรวยต่างหาก
จึงร่วมฝากชีวันเหมือนฝันใฝ่
แล้วในฝันเธอนั้นไข่มาสี่ใบ
พอฟักไข่กลายเป็นลิงขำกลิ้งเลย

 เอ้อ..จริงว่ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, เวหน.., ไพร พนาวัลย์, D, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤศจิกายน 2013, 10:27:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #10 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2013, 10:27:PM »
ชุมชนชุมชน




......ตื่นเถิด...ณ......ที่นี้

...สายนทีมีนกยูง...ฝูงบุหรง

...เงาแสงเดือนเคลื่อนส่องผ่องเต็มวง

...งามบรรจงเกินหลับใหลด้วยใจ...ที่กลัว

......ตื่นเถิด...ณ......ที่นี้

...สุมาลีขจรจรุงฟุ้งไปทั่ว

...สบกรุ่นไหม.....ละเอียดละอองของดอกบัว

...ส่งกลิ่นยั่วปลุกจิตจาก...นิทรา




......สั้นไปหน่อยนะคะ...ว่างๆจะมาต่ออีกนิด.......แต่ก็....ตื่นเถอะนะคะนอนมากเดี๋ยวอ้วน...

(...ขออนุญาตคุณจารุทัสนะคะที่เขียนเองเออเอง    เคารพรัก)









ตื่นใต้แสงแห่งเพ็ญยามเด่นฉาย
เจิดประกายงามจรัสจนจัดจ้า
สาดสะท้อนแสงพรายสายธารา
ระยับฟ้าปฐพีเป็นสีทอง

ละลานตายามบุหรงบรรจงร่าย
กรีดปีกกรายสยายหางอย่างผุดผ่อง
ขับสีสันแสงจันทร์ยวนนวลละออง
ถึงหลับต้องตื่นแลชะแง้ชม

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, D, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤศจิกายน 2013, 10:29:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #11 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2013, 10:29:PM »
ชุมชนชุมชน

ส่วนตัวข้าอยากตื่นไม่อยากหลับ
ตื่นมานับดวงดาวอยู่บนจั่ว
หอบผ้าผ่อนนอนกลิ้งลองทิ้งตัว
ข้าวโพดคั่วเคี้ยวเคี้ยวไม่เกี่ยวใคร

ในราตรีดีแล้วเว้นแมวหง่าว
จะส่งเสียงเกรี๊ยวกร๊าวไปถึงไหน
ดีที่แสงดวงดาวยังพราวใจ
ยังสดใสข้ามคืนให้ชื่นชม

ดาวคือสิ่งจริงแท้แม้ไกลลิบ
ยังกระพริบกลับมาพาสุขสม
ดาวดวงนี้รุจิควรภิรมย์
ไม่อาจถูกใครข่มให้งมงาย
เคารพรัก
จารุทัส

ในบางคราวหลับฝันก็หรรษา
ในบางคราแค่ฝันกลับขวัญหาย
ต้องตื่นตานับดาวพร่างพราวพราย
จวบเบื้องปลายขอบฟ้าทาสีทอง

หรือบางวันฝันไปในยามตื่น
แต่บางคืนตื่นยามความฝันหมอง
ครั้นอยากหลับกลับตื่นขืนประคอง
อยากตื่นตรองกลับหลับลงพับนอน

แท้ที่จริงหลับฝันหรือฉันตื่น
มิอาจยืนยันไว้ในอักษร
นับแต่เกิดจนถึงวันฉันม้วยมรณ์
มิรู้ก่อนหน้านั้นฝันหรือจริง

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, เวหน.., ไพร พนาวัลย์, D, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤศจิกายน 2013, 10:34:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #12 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2013, 10:34:PM »
ชุมชนชุมชน

ตอบคุณพันทองครับ(ไม่อ้างอิงนะครับ เพราะยาวมาก ยิ้มให้จ้ะ)

นิทราในรัตติกาลเพื่อผ่านฝัน
หวังสักวันสันติผลิแววใส
ดังน้ำค้างพร่างพรมพนมไพร
ประดับในผองปวงดวงผกา

ให้บานแย้มยามแรกแล้วแตกหน่อ
ระบัดช่อดอกใบในโลกหล้า
ก่อนเปรอปรนผลงามนามปัญญา
เปี่ยมด้วยรักศรัทธาระดาไป

ว่าดอกไม้ทั้งมวลล้วนน้องพี่
ดังหนึ่งมีรากเหง้าเฝ้าอาศัย
บนแผ่นดินผืนเดียวเกาะเกี่ยวใจ
เหตุไฉนเข่นฆ่ามิรามือ

ทุกกองไฟไหม้เผาใครเล่าร้อน?
ทุกกองฟอนล้วนไทยมิใช่หรือ??
ทุกทุกการราวีที่แย่งยื้อ
บรรลัยคือผองเราเท่าเท่ากัน

พ้นผ่านจันทร์ตะวันใหม่จะไขแสง
ทั่วหนแห่งรัฐไทยมิใช่ฝัน
คืนความสุขลบรอยร้าวทุกคราวครัน
จะต้องมีสักวัน..ฝันเป็นจริง

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เวหน.., ไพร พนาวัลย์, D, รพีกาญจน์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤศจิกายน 2013, 10:44:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #13 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2013, 10:44:PM »
ชุมชนชุมชน


เหตุแวดล้อมห้อมกายเลวร้ายทั่ว
ล้วนน่ากลัวปริวิตกสั่น
สาปแช่งด่าอาฆาตเงื้อฟาดฟัน
ผ่านคืนวันแลเล็งเขม็งเกลียว

ปสาทะกระทบจบสมอง
ลู่ครรลองยินยลสถลเขี่ยว
มิระบายคายคูแต่ผู้เดียว
ดังข้นเคี่ยวผนึกลึกลงดาน

นอนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าสองตาหลับ
จำตีกลับรายเรียงเจียงประสาน
ส่งสะท้อนย้อนยองสิ่งต้องการ
อันตรธานจากร้ายกลายเป็นดี

ดลบรรเจิดเปิดจิตนิมิตภาพ
สุขเอิบอาบสดชื่นคลื่นถ้วนถี่
เริงภูผาป่าเปลี่ยวเขียวขจี
ชมมาลีเดือนดาวแสงแวววาม

ท่องซาบซึ้งพึงใจในเมืองสวย
อุดมด้วยผู้คนมากล้นหลาม
ยิ้มเต็มหน้าปราศรัยส่อใจงาม
ซึมซับความวิจิตรตราติดทรวง

การเดินทางหว่างพบจบสิ้นสุด
หวนสู่จุดแรกเริ่มยิ่งเพิ่มห่วง
ยากลบเลือนรุนแรงแก่งทั้งปวง
ถึงจะล่วงหลับหลีกอีกกี่นาน

รพีกาญจน์


การเดินทางของความฝันพลันสิ้นสุด
ย้อนคืนจุดเริ่มต้นบนทางผ่าน
ความเป็นจริงจะขานไขในไม่นาน
เมื่อถึงกาลวิปริตจะปลิดลง

สรรพสิ่งเกิดก่อแล้วรอดับ
เนิ่นนานนับสักวันพลันสูญส่ง
เพียงดวงจิตสถิตไว้ให้มั่นคง
เจตจำนงแห่งสวรรค์ยากผันกลาย

สบตากับความฝันอันแสนสุข
แล้วจึงปลุกศรัทธาที่ลาหาย
มิมีงานเลี้ยงใดไม่แยกย้าย
แสงสุดท้ายปลายทางสว่างรอ

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เวหน.., ไพร พนาวัลย์, D, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 พฤศจิกายน 2013, 10:20:AM
เนิน จำราย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 637
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,224



« ตอบ #14 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2013, 10:20:AM »
ชุมชนชุมชน

1.
ข้าพเจ้าหลับอยู่มิรู้ตื่น
ใช่ชั่วคืนชั่วเดือนหากเหมือนกัป
จะเนิ่นนานปานใดมิได้นับ
เฝ้าไล่จับความฝันอันงามงด

ในฝันนั้นข้าฯผันพรากจากถิ่นฐาน
เที่ยวท่องผ่านเทือกเขายาวจรด
ปลายโพ้นฟ้าผืนนทีที่เคี้ยวคด
งามเกินพจมานจะหว่านคำ

บรรลุยังเมืองน้อยกลางดอยสูง
ล้วนเพื่อนฝูงมากหน้าเห็นคลาคล่ำ
ต่างสรวลเสเฮฮาว่าลำนำ
ไมตรีจิตเลอล้ำประจำไป

จิบสุราชมจันทร์รังสรรค์สรวง
มิรุกล่วงโลกียวิสัย
ทั้งอ่อนน้อมถ่อมยิ่งหาชิงชัย
เรื่องน้อยใหญ่รู้อภัยด้วยใจจริง

มิแบ่งเผ่าแบ่งพันธุ์ชั้นวรรณะ
วิสาสะในทีไมตรียิ่ง
พร้อมดูแลแผ่เผื่อเอื้อพักพิง
มิทอดทิ้งผู้ทุกข์ยากลำบากทน


2.
ข้าพเจ้าท่องไปในความฝัน
ผ่านคืนวันหฤหรรษ์อันเข้มข้น
มิรู้เหนือใต้ใดในสกล
หากเปี่ยมล้นความสุขทุกอณู

ริ้วอรุณอุ่นอาบทาบแผ่นผิว
ทุ่งทองปลิวลมพาหญ้าเอนลู่
หอมพฤกษาผกาพันธุ์กลั่นกลิ่นกรู
นกขันคูไพเราะเสนาะนาน

ใต้หุบเขาเหนือลำน้ำท่ามคลื่นหมอก
ล้อระลอกธารเมฆาฟ้าประสาน
ธรรมชาติวาดเห็นเด่นตระการ
กล่อมวิญญาณมวลมนุษย์ได้หยุดพัก

ละวางสิ้นทุกสิ่งทั้งจริงเท็จ
เพาะเมล็ดพันธุ์เอื้อเพื่อเป็นหลัก
แตกกิ่งก้านร่มเงาเฝ้าฟูมฟัก
รอความรักผลิบาน ณ.ลานใจ


3.
ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นคืนสู่โลก
เสียงกรรโชกก่นทอก็แว่วไหว
ความโกรธเกลียดเคียดขึ้งอื้ออึงไกล
ใช่แล้วใช่!!นี่คือโลกของเรา

การแบ่งแยกแตกร้าวยังก้าวต่อ
แม่กับพ่อน้องกับพี่ผีไม่เผา
ตาต่อตาฟันต่อฟันต่างมันเมา
คือเรื่องเศร้าของสังคมอุดมการณ์

ไฟแห่งความชิงชังยังถูกจุด
ศพมนุษย์กองก่ายคล้ายสุสาน
ศาสนาพร่าเลือนเหมือนตำนาน
มือหนึ่งกรานมือหนึ่งกรีดมีดฆ่ากัน


4.
ข้าพเจ้าจึงหลับต่อไม่ขอตื่น
ใช่ชั่วคืนงดงามของความฝัน
แต่ขอหลับมิรู้ตื่นทุกคืนวัน
กว่าหมอกควันความเกลียดชังจะจางลง

 เคารพรัก


เห็นด้วยกับหลับต่อแต่ต้องรอตื่น
พรุ่ง,มะรืนหากลมเย็นอาจเห็นบุหรง
เหง้ากระทือหรือหัวอื่นคืนป่าดง
เราพอคงได้กักตุนพันธุ์สมุนไพร

รากราคะของมนุษย์สุดจะกล่าว 
ตั้งแต่เล็กจนเฒ่าไม่เข้าไหน
แค่บอกหลานหวานขมรสอย่างไร
ยังห่มใจด้วยคาวแล้วจึงเล่าความ

เนิน จำราย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, อริญชย์, Shumbala, ชลนา ทิชากร, D, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 พฤศจิกายน 2013, 10:13:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #15 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2013, 10:13:PM »
ชุมชนชุมชน


ยังรอตื่นคืนกลับรับฟ้าสาง
อาบแดดจางแสงทองส่องอร่าม
สันติธรรมย้ำเจตทุกเขตคาม
สู่ช่วงยามผองชนพ้นโพยภัย

บทเพลงของความรักจักปรากฏ
หยาดน้ำตาเศร้าสลดสิ้นหยดใส
ประดับรอยยิ้มวางแทบกลางใจ
รับแสงทองของวันใหม่ในแผ่นดิน

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 พฤศจิกายน 2013, 01:37:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,361



« ตอบ #16 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2013, 01:37:PM »
ชุมชนชุมชน


....ตื่นรับอรุณรุ่ง.......ขอตั้งจิตมุ่ง...........ปรับปรุงกายใจ

แบ่งปันช่วยเหลือ......เอื้อเฟื้อตลอดไป......ทั้งรวยยากไร้..........จักไม่ละเลย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, D, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s