พิมพ์หน้านี้ - หลับอยู่มิรู้ตื่น

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: Shumbala ที่ 05 พฤศจิกายน 2013, 06:50:PM



หัวข้อ: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 05 พฤศจิกายน 2013, 06:50:PM
1.
ข้าพเจ้าหลับอยู่มิรู้ตื่น
ใช่ชั่วคืนชั่วเดือนหากเหมือนกัป
จะเนิ่นนานปานใดมิได้นับ
เฝ้าไล่จับความฝันอันงามงด

ในฝันนั้นข้าฯผันพรากจากถิ่นฐาน
เที่ยวท่องผ่านเทือกเขายาวจรด
ปลายโพ้นฟ้าผืนนทีที่เคี้ยวคด
งามเกินพจมานจะหว่านคำ

บรรลุยังเมืองน้อยกลางดอยสูง
ล้วนเพื่อนฝูงมากหน้าเห็นคลาคล่ำ
ต่างสรวลเสเฮฮาว่าลำนำ
ไมตรีจิตเลอล้ำประจำไป

จิบสุราชมจันทร์รังสรรค์สรวง
มิรุกล่วงโลกียวิสัย
ทั้งอ่อนน้อมถ่อมยิ่งหาชิงชัย
เรื่องน้อยใหญ่รู้อภัยด้วยใจจริง

มิแบ่งเผ่าแบ่งพันธุ์ชั้นวรรณะ
วิสาสะในทีไมตรียิ่ง
พร้อมดูแลแผ่เผื่อเอื้อพักพิง
มิทอดทิ้งผู้ทุกข์ยากลำบากทน


2.
ข้าพเจ้าท่องไปในความฝัน
ผ่านคืนวันหฤหรรษ์อันเข้มข้น
มิรู้เหนือใต้ใดในสกล
หากเปี่ยมล้นความสุขทุกอณู

ริ้วอรุณอุ่นอาบทาบแผ่นผิว
ทุ่งทองปลิวลมพาหญ้าเอนลู่
หอมพฤกษาผกาพันธุ์กลั่นกลิ่นกรู
นกขันคูไพเราะเสนาะนาน

ใต้หุบเขาเหนือลำน้ำท่ามคลื่นหมอก
ล้อระลอกธารเมฆาฟ้าประสาน
ธรรมชาติวาดเห็นเด่นตระการ
กล่อมวิญญาณมวลมนุษย์ได้หยุดพัก

ละวางสิ้นทุกสิ่งทั้งจริงเท็จ
เพาะเมล็ดพันธุ์เอื้อเพื่อเป็นหลัก
แตกกิ่งก้านร่มเงาเฝ้าฟูมฟัก
รอความรักผลิบาน ณ.ลานใจ


3.
ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นคืนสู่โลก
เสียงกรรโชกก่นทอก็แว่วไหว
ความโกรธเกลียดเคียดขึ้งอื้ออึงไกล
ใช่แล้วใช่!!นี่คือโลกของเรา

การแบ่งแยกแตกร้าวยังก้าวต่อ
แม่กับพ่อน้องกับพี่ผีไม่เผา
ตาต่อตาฟันต่อฟันต่างมันเมา
คือเรื่องเศร้าของสังคมอุดมการณ์

ไฟแห่งความชิงชังยังถูกจุด
ศพมนุษย์กองก่ายคล้ายสุสาน
ศาสนาพร่าเลือนเหมือนตำนาน
มือหนึ่งกรานมือหนึ่งกรีดมีดฆ่ากัน


4.
ข้าพเจ้าจึงหลับต่อไม่ขอตื่น
ใช่ชั่วคืนงดงามของความฝัน
แต่ขอหลับมิรู้ตื่นทุกคืนวัน
กว่าหมอกควันความเกลียดชังจะจางลง

 emo_126


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 05 พฤศจิกายน 2013, 07:04:PM
(http://www.qzub.com/cartoon_016.gif)


ชีวิตคู่อยู่กันมานานนัก
น้ำพริกผักปลาร้าหากินส่ง
มางวดนี้โชคช่วยเลขหวยตรง
กอไผ่ดง ที่ปลูกออกลูกงาม

มีลูกมาสี่ผลยลคล้ายเห็ด
ก็ซื้อสิสี่เจ็ด เด็ด..เลขหาม
ทุ่มสุดตัวมิอั้นฝันวาววาม
ได้รับเลยล้านสามเงินตามมา

ฉลองให้สามีที่เคียงข้าง
ชวนกันย่างไปตลาดกวาดซื้อหา
หมึก,เป็ด,ไก่,ไข่,หมู,หอย,ปู,ปลา
ทั้งพิซซ่า หลากล้นผลไม้ไทย

พอเสร็จสรรพดับเสียงตะเกียงแสง
เดินตะแคงขึ้นเตียงเคียงหลับใหล
ถึงฟ้าแจ้งจางปางคนข้างใจ
นอนพุงใหญ่ใสแท้แหมน่าชัง

อัดเป็นนุ่นยัดหมอนนอนแผ่หรา
น้ำลายคาคราบหนับจับหมอนฝัง
ตื่นได้แล้วพี่"หมิง"ไหงนิ่งจัง
ตายหรือยังเล่าเนี่ยเฮียพุงโต

"ดิน"

(http://www.qzub.com/cartoon_016.gif)








หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 05 พฤศจิกายน 2013, 07:30:PM



......ตื่นเถิด...ณ......ที่นี้

...สายนทีมีนกยูง...ฝูงบุหรง

...เงาแสงเดือนเคลื่อนส่องผ่องเต็มวง

...งามบรรจงเกินหลับใหลด้วยใจ...ที่กลัว

......ตื่นเถิด...ณ......ที่นี้

...สุมาลีขจรจรุงฟุ้งไปทั่ว

...สบกรุ่นไหม.....ละเอียดละอองของดอกบัว

...ส่งกลิ่นยั่วปลุกจิตจาก...นิทรา




......สั้นไปหน่อยนะคะ...ว่างๆจะมาต่ออีกนิด.......แต่ก็....ตื่นเถอะนะคะนอนมากเดี๋ยวอ้วน...

(...ขออนุญาตคุณจารุทัสนะคะที่เขียนเองเออเอง    emo_126)









หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 05 พฤศจิกายน 2013, 09:16:PM
1.
ข้าพเจ้าหลับอยู่มิรู้ตื่น
ใช่ชั่วคืนชั่วเดือนหากเหมือนกัป
จะเนิ่นนานปานใดมิได้นับ
เฝ้าไล่จับความฝันอันงามงด

ในฝันนั้นข้าฯผันพรากจากถิ่นฐาน
เที่ยวท่องผ่านเทือกเขายาวจรด
ปลายโพ้นฟ้าผืนนทีที่เคี้ยวคด
งามเกินพจมานจะหว่านคำ

บรรลุยังเมืองน้อยกลางดอยสูง
ล้วนเพื่อนฝูงมากหน้าเห็นคลาคล่ำ
ต่างสรวลเสเฮฮาว่าลำนำ
ไมตรีจิตเลอล้ำประจำไป

จิบสุราชมจันทร์รังสรรค์สรวง
มิรุกล่วงโลกียวิสัย
ทั้งอ่อนน้อมถ่อมยิ่งหาชิงชัย
เรื่องน้อยใหญ่รู้อภัยด้วยใจจริง

มิแบ่งเผ่าแบ่งพันธุ์ชั้นวรรณะ
วิสาสะในทีไมตรียิ่ง
พร้อมดูแลแผ่เผื่อเอื้อพักพิง
มิทอดทิ้งผู้ทุกข์ยากลำบากทน
([url]http://image.ohozaa.com/i/564/KGiVt.gif[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/inI[/url])
แต่เรื่องจริง ไม่เป็น เช่นนั้นแน่
ฝันปรวนแปร เปลี่ยนไป ให้สับสน
กินอิ่มมาก เมื่อวาน เขาบานบน
ทั่งสกล เซ่นไหว้ หมายร่มเย็น

พอตกบ่าย นำมา เป็นอาหาร
กับแกล้มทาน อร่อย พลอยกินเล่น
ทั้งน้ำจิ้ม พริกหรือ คือประเด็น
ให้ลำเค็ญ อิ่มท้อง ต้องเข้านอน
พันทอง
 emo_116 emo_126
2.
ข้าพเจ้าท่องไปในความฝัน
ผ่านคืนวันหฤหรรษ์อันเข้มข้น
มิรู้เหนือใต้ใดในสกล
หากเปี่ยมล้นความสุขทุกอณู

ริ้วอรุณอุ่นอาบทาบแผ่นผิว
ทุ่งทองปลิวลมพาหญ้าเอนลู่
หอมพฤกษาผกาพันธุ์กลั่นกลิ่นกรู
นกขันคูไพเราะเสนาะนาน

ใต้หุบเขาเหนือลำน้ำท่ามคลื่นหมอก
ล้อระลอกธารเมฆาฟ้าประสาน
ธรรมชาติวาดเห็นเด่นตระการ
กล่อมวิญญาณมวลมนุษย์ได้หยุดพัก

ละวางสิ้นทุกสิ่งทั้งจริงเท็จ
เพาะเมล็ดพันธุ์เอื้อเพื่อเป็นหลัก
แตกกิ่งก้านร่มเงาเฝ้าฟูมฟัก
รอความรักผลิบาน ณ.ลานใจ
([url]http://image.ohozaa.com/i/371/2GzNH.gif[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/141C[/url])
ท่องเที่ยวแดน ดงใด ในความฝัน
คงไม่เท่า เทียมทัน วันสดใส
แสนยาวนาน กาลกล่าว หนาวฤทัย
ลำธารไหล หลั่งริน ถิ่นดงดอย

ริ้วเรื่อเรือง ทองทาบ ให้วาบหวาม
ค่อนสองยาม ท่ามกลาง ทางถดถอย
หุบเหวห้วง ลึกล้ำ น้ำตาปรอย
หินสลัก หยักย้อย ลอยวาริน
พันทอง
 emo_116 emo_126
3.
ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นคืนสู่โลก
เสียงกรรโชกก่นทอก็แว่วไหว
ความโกรธเกลียดเคียดขึ้งอื้ออึงไกล
ใช่แล้วใช่!!นี่คือโลกของเรา

การแบ่งแยกแตกร้าวยังก้าวต่อ
แม่กับพ่อน้องกับพี่ผีไม่เผา
ตาต่อตาฟันต่อฟันต่างมันเมา
คือเรื่องเศร้าของสังคมอุดมการณ์

ไฟแห่งความชิงชังยังถูกจุด
ศพมนุษย์กองก่ายคล้ายสุสาน
ศาสนาพร่าเลือนเหมือนตำนาน
มือหนึ่งกรานมือหนึ่งกรีดมีดฆ่ากัน
([url]http://image.ohozaa.com/i/371/2GzNH.gif[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/141C[/url])
เมื่อมันคือ เรื่องจริง ทุกสิ่งสร้าง
ปล่อยไปบ้าง ช่างเถิด จักเฉิดฉัน
ได้แต่ปลง ยืนดู อดสูพลัน
เขาห้ำหั่น เฉกเช่น ไม่เป็นไทย

จะกี่ยุค สมัย ใครจักช่วย
คงมอดม้วย มรณา ฆ่ากันใหญ่
จิตสำนึก ไม่มี ชี่ช้ำใจ
เวรกรรมไหม พี่น้อง ต้องจาบัลย์
พันทอง
 emo_116 emo_126
4.
ข้าพเจ้าจึงหลับต่อไม่ขอตื่น
ใช่ชั่วคืนงดงามของความฝัน
แต่ขอหลับมิรู้ตื่นทุกคืนวัน
กว่าหมอกควันความเกลียดชังจะจางลง
 emo_126
(http://image.ohozaa.com/i/e75/ZGqsN9.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/vVFbR2Svjs90fdRe)
จะหลับต่อ หรือตื่น จำขื่นขม
เกิดเป็นปม แก้ยาก ขอฝากส่ง
หยุดเถอะหนอ บอบช้ำ ย้ำตามตรง
สันติจง คืนกลับ มาฉับไว
พันทอง
๕/๑๑/๕๖
 emo_116 emo_116


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 05 พฤศจิกายน 2013, 10:33:PM

เหตุแวดล้อมห้อมกายเลวร้ายทั่ว
ล้วนน่ากลัวปริวิตกสั่น
สาปแช่งด่าอาฆาตเงื้อฟาดฟัน
ผ่านคืนวันแลเล็งเขม็งเกลียว

ปสาทะกระทบจบสมอง
ลู่ครรลองยินยลสถลเขี่ยว
มิระบายคายคูแต่ผู้เดียว
ดังข้นเคี่ยวผนึกลึกลงดาน

นอนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าสองตาหลับ
จำตีกลับรายเรียงเจียงประสาน
ส่งสะท้อนย้อนยองสิ่งต้องการ
อันตรธานจากร้ายกลายเป็นดี

ดลบรรเจิดเปิดจิตนิมิตภาพ
สุขเอิบอาบสดชื่นคลื่นถ้วนถี่
เริงภูผาป่าเปลี่ยวเขียวขจี
ชมมาลีเดือนดาวแสงแวววาม

ท่องซาบซึ้งพึงใจในเมืองสวย
อุดมด้วยผู้คนมากล้นหลาม
ยิ้มเต็มหน้าปราศรัยส่อใจงาม
ซึมซับความวิจิตรตราติดทรวง

การเดินทางหว่างพบจบสิ้นสุด
หวนสู่จุดแรกเริ่มยิ่งเพิ่มห่วง
ยากลบเลือนรุนแรงแก่งทั้งปวง
ถึงจะล่วงหลับหลีกอีกกี่นาน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 06 พฤศจิกายน 2013, 11:41:AM
...ชื่อกระทู้ อ่านแล้ว งวยงง
เธอคง หลับละเมอ แน่หนา
เก่งจริง กลอนจาร รจนา
ตัวข้า ขอเคล็ด เด็ดเถกิง

...แถมส่ง ลงบ้าน- กลอนไทย
ยอยก ผองไผ ให้เหลิง
ข้าตื่น แต่งแต่ ใจกระเจิง
แม้ถูก ด่าเปิง ก็ยอม
555


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 06 พฤศจิกายน 2013, 12:38:PM

ท่านคงเป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิต
จึงลิขิตคำคมกลมกล่อม
ข้าพเจ้าอ่อนด้อยถ้อยน้อม
ล้างหูพร้อมรับฟังตั้งใจ

หากท่านนี้มีเรื่องเคืองขุ่น
จงเมตตาการุณขานไข
ด้วยผู้น้อยด้อยอาจพลาดไป
ผิดที่ไหนได้โปรดชี้แจง

 emo_126

*ไม่ทราบว่าท่านtoshare ต้องการสื่อสิ่งใด ผมด้อยปัญญา ไม่อาจเข้าใจสิ่งที่ท่านเขียน ได้โปรดชี้แนะอย่างชัดเจนอีกครั้ง

เพื่อที่หากผมทำสิ่งใดผิด จะได้แก้ไขปรับปรุง หรือหากกระทู้นี้ผิดกฎของเวบ หรือเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้ง ผมก็พร้อมจะลบครับ*

ด้วยความเคารพ

Shumbala


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 06 พฤศจิกายน 2013, 01:22:PM
ไม่มีผิดใด ๆ หรอกครับ เพียงแต่ขำชื่อกระทู้ "หลับ" ยังแต่งกลอนได้ 555
จำเพลง "ปิดไฟใส่กลอน เขียนจดหมาย (ถึงคนรัก)" ได้ไหมครับ
ปิดไฟ ก็ยังเขียนได้ (มีคนบอกว่า "ก็เขาตาบอดน่ะ" 555)

ผมแซวว่า หลับยังแต่งได้ดีขนาดนี้ ผมต้องขอเคล็ดดี ๆ บ้าง 555

บรรลุยังเมืองน้อยกลางดอยสูง
ล้วนเพื่อนฝูงมากหน้าเห็นคลาคล่ำ
ต่างสรวลเสเฮฮาว่าลำนำ
ไมตรีจิตเลอล้ำประจำไป

จิบสุราชมจันทร์รังสรรค์สรวง
มิรุกล่วงโลกียวิสัย
ทั้งอ่อนน้อมถ่อมยิ่งหาชิงชัย
เรื่องน้อยใหญ่รู้อภัยด้วยใจจริง

มิแบ่งเผ่าแบ่งพันธุ์ชั้นวรรณะ
วิสาสะในทีไมตรียิ่ง
พร้อมดูแลแผ่เผื่อเอื้อพักพิง
มิทอดทิ้งผู้ทุกข์ยากลำบากทน

ส่วนนี้ ผม(และอาจรวม เพื่อน ๆ บ้านกลอนฯ)อ่านแล้วเคลิ้มเลย ผมเลยกลัวเหลิงครับ 555

ผมนะ ขนาดแต่งตอนตื่น ส่งงานประกวด ตกรอบออกบ่อย ๆ 555
แต่งทีไรมีคนเขาบอกว่า "อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง"
อย่างครั้งนี้ คุณ Shumbala ยังต้องเขียนมาถามเลย 555

เนื้อหาดีนะครับ แต่อ่านแล้วเหมือนท้อ หมดกำลังใจที่เห็นโลกวุ่นวายไม่เลิก
ต้องมี "อุเบกขา" และคิดว่า มัน "เป็นเช่นนั้นเอง" ก็คนเป็นตัวปัญหาแน่ ๆ อยู่แแล้ว
ผมเป็นคริสต์ เลยอาศัยว่า "สำเร็จเป็นเรื่องพระ พยายามเป็นเรื่องเรา"
ดังนั้น ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่เราเถิดครับ

................ หน้าที่

...ทุกทุก ทิวาวาร      สุรีย์ขาน ขับแสง
สำแดง หน้าที่ตน       บบ่น บ่เลิกรา
ผาสุก มอบทุกผู้        รอบรู้ ฤ โง่เขลา
เทาเทา ฤ ขาวดำ      รวยล้ำ ฤ สุดจน
เตือนคน รู้หน้าที่        สละพลี กายกมล
ทุกข์พ้น สิแน่แท้        ละเลิก กิเลสแล้
ตัดสิ้น "ตัวกู"  

ขอพระอวยพรครับ


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 06 พฤศจิกายน 2013, 10:23:PM
ขอบคุณท่านtoshareมากครับ ที่อุตส่าห์อธิบายเสียยืดยาว
ทีแรกผมก็นึกว่าผมทำอะไรผิด รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้ก็สบายใจแล้วละครับ emo_54

รวมทั้งต้องขออภัยท่านด้วย ที่ชื่อกระทู้ได้ไปรบกวนให้ท่านรู้สึกเสียอารมณ์กับการหลับของผม555
 emo_47
รับปากว่าจะตื่นเลยครับ เพื่อให้ท่านรู้สึกดีขึ้น อิิอิ

ขอบคุณอีกครั้งครับ

 emo_126 emo_126

ปล.ผมไม่ได้เขียนกลอนตอนหลับหรอกนะครับ แต่เขียนตอนที่...

ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นคืนสู่โลก
เสียงกรรโชกก่นทอก็แว่วไหว
ความโกรธเกลียดเคียดขึ้งอื้ออึงไกล
ใช่แล้วใช่!!นี่คือโลกของเรา

ตอนนั้นสะดุ้งตื่นก็เลยเขียนกลอนบทนี้จนเสร็จ ก่อนจะหลับต่อครับ  emo_20

 emo_126





หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 10:24:PM
([url]http://www.qzub.com/cartoon_016.gif[/url])


ชีวิตคู่อยู่กันมานานนัก
น้ำพริกผักปลาร้าหากินส่ง
มางวดนี้โชคช่วยเลขหวยตรง
กอไผ่ดง ที่ปลูกออกลูกงาม

มีลูกมาสี่ผลยลคล้ายเห็ด
ก็ซื้อสิสี่เจ็ด เด็ด..เลขหาม
ทุ่มสุดตัวมิอั้นฝันวาววาม
ได้รับเลยล้านสามเงินตามมา

ฉลองให้สามีที่เคียงข้าง
ชวนกันย่างไปตลาดกวาดซื้อหา
หมึก,เป็ด,ไก่,ไข่,หมู,หอย,ปู,ปลา
ทั้งพิซซ่า หลากล้นผลไม้ไทย

พอเสร็จสรรพดับเสียงตะเกียงแสง
เดินตะแคงขึ้นเตียงเคียงหลับใหล
ถึงฟ้าแจ้งจางปางคนข้างใจ
นอนพุงใหญ่ใสแท้แหมน่าชัง

อัดเป็นนุ่นยัดหมอนนอนแผ่หรา
น้ำลายคาคราบหนับจับหมอนฝัง
ตื่นได้แล้วพี่"หมิง"ไหงนิ่งจัง
ตายหรือยังเล่าเนี่ยเฮียพุงโต

"ดิน"

([url]http://www.qzub.com/cartoon_016.gif[/url])









ฉันฝันว่าเธอฝันว่าฉันฝัน
ว่าเรานั้นฝันไปในยามโพล้
ทั้งถูกหวยรวยหุ้นลุ้นไฮโล
ได้เงินมากองโต-โอ้โห..รวย

เธอฝันว่าฉันเป็นเช่นหนุ่มหล่อ
ส่วนฉันก็ฝันเพ้อว่าเธอสวย
เราต่างฝันอลวนจนงงงวย
คุณพระช่วย! ใครกันที่ฝันไป

หนุ่มก็หล่อสาวก็สวยรวยต่างหาก
จึงร่วมฝากชีวันเหมือนฝันใฝ่
แล้วในฝันเธอนั้นไข่มาสี่ใบ
พอฟักไข่กลายเป็นลิงขำกลิ้งเลย

 emo_85 emo_126


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 10:27:PM



......ตื่นเถิด...ณ......ที่นี้

...สายนทีมีนกยูง...ฝูงบุหรง

...เงาแสงเดือนเคลื่อนส่องผ่องเต็มวง

...งามบรรจงเกินหลับใหลด้วยใจ...ที่กลัว

......ตื่นเถิด...ณ......ที่นี้

...สุมาลีขจรจรุงฟุ้งไปทั่ว

...สบกรุ่นไหม.....ละเอียดละอองของดอกบัว

...ส่งกลิ่นยั่วปลุกจิตจาก...นิทรา




......สั้นไปหน่อยนะคะ...ว่างๆจะมาต่ออีกนิด.......แต่ก็....ตื่นเถอะนะคะนอนมากเดี๋ยวอ้วน...

(...ขออนุญาตคุณจารุทัสนะคะที่เขียนเองเออเอง    emo_126)









ตื่นใต้แสงแห่งเพ็ญยามเด่นฉาย
เจิดประกายงามจรัสจนจัดจ้า
สาดสะท้อนแสงพรายสายธารา
ระยับฟ้าปฐพีเป็นสีทอง

ละลานตายามบุหรงบรรจงร่าย
กรีดปีกกรายสยายหางอย่างผุดผ่อง
ขับสีสันแสงจันทร์ยวนนวลละออง
ถึงหลับต้องตื่นแลชะแง้ชม

 emo_126


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 10:29:PM
ส่วนตัวข้าอยากตื่นไม่อยากหลับ
ตื่นมานับดวงดาวอยู่บนจั่ว
หอบผ้าผ่อนนอนกลิ้งลองทิ้งตัว
ข้าวโพดคั่วเคี้ยวเคี้ยวไม่เกี่ยวใคร

ในราตรีดีแล้วเว้นแมวหง่าว
จะส่งเสียงเกรี๊ยวกร๊าวไปถึงไหน
ดีที่แสงดวงดาวยังพราวใจ
ยังสดใสข้ามคืนให้ชื่นชม

ดาวคือสิ่งจริงแท้แม้ไกลลิบ
ยังกระพริบกลับมาพาสุขสม
ดาวดวงนี้รุจิควรภิรมย์
ไม่อาจถูกใครข่มให้งมงาย
emo_126
จารุทัส

ในบางคราวหลับฝันก็หรรษา
ในบางคราแค่ฝันกลับขวัญหาย
ต้องตื่นตานับดาวพร่างพราวพราย
จวบเบื้องปลายขอบฟ้าทาสีทอง

หรือบางวันฝันไปในยามตื่น
แต่บางคืนตื่นยามความฝันหมอง
ครั้นอยากหลับกลับตื่นขืนประคอง
อยากตื่นตรองกลับหลับลงพับนอน

แท้ที่จริงหลับฝันหรือฉันตื่น
มิอาจยืนยันไว้ในอักษร
นับแต่เกิดจนถึงวันฉันม้วยมรณ์
มิรู้ก่อนหน้านั้นฝันหรือจริง

 emo_126


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 10:34:PM
ตอบคุณพันทองครับ(ไม่อ้างอิงนะครับ เพราะยาวมาก emo_47)

นิทราในรัตติกาลเพื่อผ่านฝัน
หวังสักวันสันติผลิแววใส
ดังน้ำค้างพร่างพรมพนมไพร
ประดับในผองปวงดวงผกา

ให้บานแย้มยามแรกแล้วแตกหน่อ
ระบัดช่อดอกใบในโลกหล้า
ก่อนเปรอปรนผลงามนามปัญญา
เปี่ยมด้วยรักศรัทธาระดาไป

ว่าดอกไม้ทั้งมวลล้วนน้องพี่
ดังหนึ่งมีรากเหง้าเฝ้าอาศัย
บนแผ่นดินผืนเดียวเกาะเกี่ยวใจ
เหตุไฉนเข่นฆ่ามิรามือ

ทุกกองไฟไหม้เผาใครเล่าร้อน?
ทุกกองฟอนล้วนไทยมิใช่หรือ??
ทุกทุกการราวีที่แย่งยื้อ
บรรลัยคือผองเราเท่าเท่ากัน

พ้นผ่านจันทร์ตะวันใหม่จะไขแสง
ทั่วหนแห่งรัฐไทยมิใช่ฝัน
คืนความสุขลบรอยร้าวทุกคราวครัน
จะต้องมีสักวัน..ฝันเป็นจริง

 emo_126


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 10:44:PM

เหตุแวดล้อมห้อมกายเลวร้ายทั่ว
ล้วนน่ากลัวปริวิตกสั่น
สาปแช่งด่าอาฆาตเงื้อฟาดฟัน
ผ่านคืนวันแลเล็งเขม็งเกลียว

ปสาทะกระทบจบสมอง
ลู่ครรลองยินยลสถลเขี่ยว
มิระบายคายคูแต่ผู้เดียว
ดังข้นเคี่ยวผนึกลึกลงดาน

นอนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าสองตาหลับ
จำตีกลับรายเรียงเจียงประสาน
ส่งสะท้อนย้อนยองสิ่งต้องการ
อันตรธานจากร้ายกลายเป็นดี

ดลบรรเจิดเปิดจิตนิมิตภาพ
สุขเอิบอาบสดชื่นคลื่นถ้วนถี่
เริงภูผาป่าเปลี่ยวเขียวขจี
ชมมาลีเดือนดาวแสงแวววาม

ท่องซาบซึ้งพึงใจในเมืองสวย
อุดมด้วยผู้คนมากล้นหลาม
ยิ้มเต็มหน้าปราศรัยส่อใจงาม
ซึมซับความวิจิตรตราติดทรวง

การเดินทางหว่างพบจบสิ้นสุด
หวนสู่จุดแรกเริ่มยิ่งเพิ่มห่วง
ยากลบเลือนรุนแรงแก่งทั้งปวง
ถึงจะล่วงหลับหลีกอีกกี่นาน

รพีกาญจน์


การเดินทางของความฝันพลันสิ้นสุด
ย้อนคืนจุดเริ่มต้นบนทางผ่าน
ความเป็นจริงจะขานไขในไม่นาน
เมื่อถึงกาลวิปริตจะปลิดลง

สรรพสิ่งเกิดก่อแล้วรอดับ
เนิ่นนานนับสักวันพลันสูญส่ง
เพียงดวงจิตสถิตไว้ให้มั่นคง
เจตจำนงแห่งสวรรค์ยากผันกลาย

สบตากับความฝันอันแสนสุข
แล้วจึงปลุกศรัทธาที่ลาหาย
มิมีงานเลี้ยงใดไม่แยกย้าย
แสงสุดท้ายปลายทางสว่างรอ

 emo_126


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 09 พฤศจิกายน 2013, 10:20:AM
1.
ข้าพเจ้าหลับอยู่มิรู้ตื่น
ใช่ชั่วคืนชั่วเดือนหากเหมือนกัป
จะเนิ่นนานปานใดมิได้นับ
เฝ้าไล่จับความฝันอันงามงด

ในฝันนั้นข้าฯผันพรากจากถิ่นฐาน
เที่ยวท่องผ่านเทือกเขายาวจรด
ปลายโพ้นฟ้าผืนนทีที่เคี้ยวคด
งามเกินพจมานจะหว่านคำ

บรรลุยังเมืองน้อยกลางดอยสูง
ล้วนเพื่อนฝูงมากหน้าเห็นคลาคล่ำ
ต่างสรวลเสเฮฮาว่าลำนำ
ไมตรีจิตเลอล้ำประจำไป

จิบสุราชมจันทร์รังสรรค์สรวง
มิรุกล่วงโลกียวิสัย
ทั้งอ่อนน้อมถ่อมยิ่งหาชิงชัย
เรื่องน้อยใหญ่รู้อภัยด้วยใจจริง

มิแบ่งเผ่าแบ่งพันธุ์ชั้นวรรณะ
วิสาสะในทีไมตรียิ่ง
พร้อมดูแลแผ่เผื่อเอื้อพักพิง
มิทอดทิ้งผู้ทุกข์ยากลำบากทน


2.
ข้าพเจ้าท่องไปในความฝัน
ผ่านคืนวันหฤหรรษ์อันเข้มข้น
มิรู้เหนือใต้ใดในสกล
หากเปี่ยมล้นความสุขทุกอณู

ริ้วอรุณอุ่นอาบทาบแผ่นผิว
ทุ่งทองปลิวลมพาหญ้าเอนลู่
หอมพฤกษาผกาพันธุ์กลั่นกลิ่นกรู
นกขันคูไพเราะเสนาะนาน

ใต้หุบเขาเหนือลำน้ำท่ามคลื่นหมอก
ล้อระลอกธารเมฆาฟ้าประสาน
ธรรมชาติวาดเห็นเด่นตระการ
กล่อมวิญญาณมวลมนุษย์ได้หยุดพัก

ละวางสิ้นทุกสิ่งทั้งจริงเท็จ
เพาะเมล็ดพันธุ์เอื้อเพื่อเป็นหลัก
แตกกิ่งก้านร่มเงาเฝ้าฟูมฟัก
รอความรักผลิบาน ณ.ลานใจ


3.
ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นคืนสู่โลก
เสียงกรรโชกก่นทอก็แว่วไหว
ความโกรธเกลียดเคียดขึ้งอื้ออึงไกล
ใช่แล้วใช่!!นี่คือโลกของเรา

การแบ่งแยกแตกร้าวยังก้าวต่อ
แม่กับพ่อน้องกับพี่ผีไม่เผา
ตาต่อตาฟันต่อฟันต่างมันเมา
คือเรื่องเศร้าของสังคมอุดมการณ์

ไฟแห่งความชิงชังยังถูกจุด
ศพมนุษย์กองก่ายคล้ายสุสาน
ศาสนาพร่าเลือนเหมือนตำนาน
มือหนึ่งกรานมือหนึ่งกรีดมีดฆ่ากัน


4.
ข้าพเจ้าจึงหลับต่อไม่ขอตื่น
ใช่ชั่วคืนงดงามของความฝัน
แต่ขอหลับมิรู้ตื่นทุกคืนวัน
กว่าหมอกควันความเกลียดชังจะจางลง

 emo_126


เห็นด้วยกับหลับต่อแต่ต้องรอตื่น
พรุ่ง,มะรืนหากลมเย็นอาจเห็นบุหรง
เหง้ากระทือหรือหัวอื่นคืนป่าดง
เราพอคงได้กักตุนพันธุ์สมุนไพร

รากราคะของมนุษย์สุดจะกล่าว 
ตั้งแต่เล็กจนเฒ่าไม่เข้าไหน
แค่บอกหลานหวานขมรสอย่างไร
ยังห่มใจด้วยคาวแล้วจึงเล่าความ

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 11 พฤศจิกายน 2013, 10:13:PM

ยังรอตื่นคืนกลับรับฟ้าสาง
อาบแดดจางแสงทองส่องอร่าม
สันติธรรมย้ำเจตทุกเขตคาม
สู่ช่วงยามผองชนพ้นโพยภัย

บทเพลงของความรักจักปรากฏ
หยาดน้ำตาเศร้าสลดสิ้นหยดใส
ประดับรอยยิ้มวางแทบกลางใจ
รับแสงทองของวันใหม่ในแผ่นดิน

 emo_126


หัวข้อ: Re: หลับอยู่มิรู้ตื่น
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 12 พฤศจิกายน 2013, 01:37:PM

....ตื่นรับอรุณรุ่ง.......ขอตั้งจิตมุ่ง...........ปรับปรุงกายใจ

แบ่งปันช่วยเหลือ......เอื้อเฟื้อตลอดไป......ทั้งรวยยากไร้..........จักไม่ละเลย