หลับอยู่มิรู้ตื่น
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
30 เมษายน 2024, 03:08:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: หลับอยู่มิรู้ตื่น  (อ่าน 9665 ครั้ง)
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2013, 06:50:PM »

1.
ข้าพเจ้าหลับอยู่มิรู้ตื่น
ใช่ชั่วคืนชั่วเดือนหากเหมือนกัป
จะเนิ่นนานปานใดมิได้นับ
เฝ้าไล่จับความฝันอันงามงด

ในฝันนั้นข้าฯผันพรากจากถิ่นฐาน
เที่ยวท่องผ่านเทือกเขายาวจรด
ปลายโพ้นฟ้าผืนนทีที่เคี้ยวคด
งามเกินพจมานจะหว่านคำ

บรรลุยังเมืองน้อยกลางดอยสูง
ล้วนเพื่อนฝูงมากหน้าเห็นคลาคล่ำ
ต่างสรวลเสเฮฮาว่าลำนำ
ไมตรีจิตเลอล้ำประจำไป

จิบสุราชมจันทร์รังสรรค์สรวง
มิรุกล่วงโลกียวิสัย
ทั้งอ่อนน้อมถ่อมยิ่งหาชิงชัย
เรื่องน้อยใหญ่รู้อภัยด้วยใจจริง

มิแบ่งเผ่าแบ่งพันธุ์ชั้นวรรณะ
วิสาสะในทีไมตรียิ่ง
พร้อมดูแลแผ่เผื่อเอื้อพักพิง
มิทอดทิ้งผู้ทุกข์ยากลำบากทน


2.
ข้าพเจ้าท่องไปในความฝัน
ผ่านคืนวันหฤหรรษ์อันเข้มข้น
มิรู้เหนือใต้ใดในสกล
หากเปี่ยมล้นความสุขทุกอณู

ริ้วอรุณอุ่นอาบทาบแผ่นผิว
ทุ่งทองปลิวลมพาหญ้าเอนลู่
หอมพฤกษาผกาพันธุ์กลั่นกลิ่นกรู
นกขันคูไพเราะเสนาะนาน

ใต้หุบเขาเหนือลำน้ำท่ามคลื่นหมอก
ล้อระลอกธารเมฆาฟ้าประสาน
ธรรมชาติวาดเห็นเด่นตระการ
กล่อมวิญญาณมวลมนุษย์ได้หยุดพัก

ละวางสิ้นทุกสิ่งทั้งจริงเท็จ
เพาะเมล็ดพันธุ์เอื้อเพื่อเป็นหลัก
แตกกิ่งก้านร่มเงาเฝ้าฟูมฟัก
รอความรักผลิบาน ณ.ลานใจ


3.
ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นคืนสู่โลก
เสียงกรรโชกก่นทอก็แว่วไหว
ความโกรธเกลียดเคียดขึ้งอื้ออึงไกล
ใช่แล้วใช่!!นี่คือโลกของเรา

การแบ่งแยกแตกร้าวยังก้าวต่อ
แม่กับพ่อน้องกับพี่ผีไม่เผา
ตาต่อตาฟันต่อฟันต่างมันเมา
คือเรื่องเศร้าของสังคมอุดมการณ์

ไฟแห่งความชิงชังยังถูกจุด
ศพมนุษย์กองก่ายคล้ายสุสาน
ศาสนาพร่าเลือนเหมือนตำนาน
มือหนึ่งกรานมือหนึ่งกรีดมีดฆ่ากัน


4.
ข้าพเจ้าจึงหลับต่อไม่ขอตื่น
ใช่ชั่วคืนงดงามของความฝัน
แต่ขอหลับมิรู้ตื่นทุกคืนวัน
กว่าหมอกควันความเกลียดชังจะจางลง

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

กังวาน, D, ...สียะตรา.., รพีกาญจน์, จารุทัส, ไพร พนาวัลย์, (พระอภัย), panthong.kh, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, ดุลย์ ละมุน, ปู่ริน, อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รัตนาวดี, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s