หนังจีนเรื่องโปรด(Hero) และที่มาของนามปากกา
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
19 เมษายน 2024, 12:19:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หนังจีนเรื่องโปรด(Hero) และที่มาของนามปากกา  (อ่าน 27614 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
28 กันยายน 2013, 12:35:AM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« เมื่อ: 28 กันยายน 2013, 12:35:AM »
ชุมชนชุมชน

                                       

     -หนังจีนเรื่องโปรดของผมHero ที่เป็นที่มาของนามปากกาไร้นาม(หรือไร้หนามหรือไร้นวมในปัจจุบัน)ของผม ผมจะลองแต่งเป็นคำประพันธ์ลองดู หวังว่าเพื่อนๆคงเข้าใจและสนุกไปด้วยนะครับ(ผมยกให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังจีนที่ดีที่สุดตลอดกาลตามมุมมองของผมที่เป็นแฟนหนังจีนขนานแท้ดั้งเดิม) เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, พี.พูนสุข, D, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
28 กันยายน 2013, 12:49:AM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #1 เมื่อ: 28 กันยายน 2013, 12:49:AM »
ชุมชนชุมชน

          (จอมยุทธไร้นาม)

(เมื่อไร้นามแต่งเรื่องการได้มาของอาวุธสามชิ้นแด่จิ๋นซีฮ่องเต้)

(กาพย์ฉบัง ๑๖)

๐ทหารเคลื่อนขบวนจวนถึง                 วังเวสน์เขตขึง
ซึ่งอ๋องอภิภูผู้หาญ

๐พร้อมตรวนตรึงซึ่งชายชาญ              มุ่งมาศิรกราน
กราบบาทอ๋องฉินยินดี

๐จอมทัพแกล้วกล้าปารมี                  อิ่มเอมเปรมปรีดิ์
ฤดีด้วยจรัสศาตรา-

๐ของศัตรูคู่แค้นแคว้นครา                 ราวีกรีธา
เกริกเกรียงเยี่ยงยศราชัน

๐บรรดาศัตรูขู่ขวัญ                         เข้มแข็งสำคัญ
เป็นที่หวาดหวั่นไพร่พล

๐รวมแล้วแกล้วนามสามคน               ผู้หมายมลายชนม์
ของอ๋องจิ๋นมหิศวร

๐ฝีมือฉกาจฉกรรจ์ล้วน                     ไร้ผู้คู่ควร
ท่านอ๋องจึ่งต้องหมายหัว

๐บัดนี้ดีใจไป่กลัว                           อาวุธติดตัว
ของศัตรูอยู่กับเรา

๐จอมยุทธยอดเยี่ยมเปี่ยมเชาว์           ไร้ศาตรา, เศร้า
ย่อมมิอยากอยู่ให้อายใคร

๐ท่านอ๋องร้องแย้มแจ่มใจ                 เขาคือผู้ใด
นามกรกลับกร่อนหย่อนเยิน

(ท่านอ๋องถาม)

๐เล่ามาอย่าช้าอย่าเขิน!                  เหตุให้ฮึกเหิน?
ห้าวหาญชำนะสามสิงห์?!?

(ขุนนางขันทีข้างกายอ๋องประกาศบัญชากฎท่านอ๋อง)

(ฟ้าเวิ้ง)

๐ผู้ใดคว้าชัยได้จริง                       ฉกทวนด่วนชิง
ถองท้า "ฟ้าเวิ้ง" เพลิงเผา

๐รางวัลพันชั่งพร้อมเหมา               ผืนดินปลูกเหย้า
พันไร่ให้ไว้ฉลอง

๐ทั้งที่นั่งบัลลังก์ทอง                   ได้ใกล้ท่านอ๋อง
ดื่มชาระยะชิดเคียง

๐ร้อยก้าวห่างองค์เกริกเกรียง         หนึ่งนี้มีเพียง
ผู้กล้าคร่า " ฟ้าเวิ้ง" ลง!!

(ไร้นามแกล้งแต่งเรื่องเพ็ดทูล)



๐ข้านั้นครั้นคร่าเคี่ยวคง              กระบี่ข้าตรง
ปะทะระยะชิดเชียว

๐ไพร่พลท่านต้องมองเหลียว        พยานใช่เดียว
หากหลายชายเนตรเน้นยล

๐ข้านิ่งเขานิ่งนองฝน                 เพลงพิณเวียนวน
ต่างคนต่างเตรียมเหี้ยมหาญ

๐ฝนซาลืมตาพร่าผ่าน               พุ่งเพื่อเพียงผลาญ
ทวนแทงแผลงมาข้าสวน

๐กระบี่คมเข้าเกล้าครวญ           ทวนนั้นผันผวน
ย่อมนำกำชัยได้มา


(ปลายทวนของฟ้าเวิ้งที่ไร้นามได้มา)


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
28 กันยายน 2013, 01:01:AM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #2 เมื่อ: 28 กันยายน 2013, 01:01:AM »
ชุมชนชุมชน

(จิ๋นซีฮ่องเต้,อ๋องจิ๋น)

(จิ๋นซีฉงน)

-กาพย์ยานี๑๑-

๐ข้าคิดพินิจนัย                     ที่เจ้าได้ซึ่งศาตรา
ย่อมมีกระบี่กล้า                    ฟ้าเวิ้งจึ่งพึงพ่ายลง

๐เพราะข้าเคยเห็นมา             ว่าฟ้าเวิ้งเหลิงอย่างหงส์
ทวนเขาเกลาคมคง               มิควรใครกำชัยเหนือ!

๐เอาเถอะข้าเชื่อเจ้า              จงเร่งเล่าสองเรื่องเหลือ
ที่มาอันคลุมเคลือ                 คือกระบี่"หิมะเหิน"

(ขุนนางขันทีข้างกายอ๋องประกาศบัญชากฎท่านอ๋องคำรบ๒)

๐มันผู้ใดได้มา                   ซึ่งศาตราอันกล้าเกิน
กระบี่หิมะเหิน                    จักเจริญเชิญรับสาส์น

๐ดินหมื่นไร่ให้ครอง            พร้อมแป้นทองมโหฬาร
จงลุกอย่าช้านาน               ห้าสิบก้าวเข้ามาเคียง

๐ท่านอ๋องต้องยินดี            เปรมปรีดิ์มานโปรดปรานเพียง
ยอดยุทธย่อมซ้องเสียง       สรรเสริญซึ่งหนึ่งจอกชา


(หิมะเหิน)

(ไร้นามแต่งเรื่องที่มากระบี่คู่กายหิมะเหิน)

๐ท่านอ๋องต้องรู้นัย          "ฟ้าเวิ้ง"ใส่ใจนักหนา
คือหนึ่งขนิษฐา                 นามนางนี้"หิมะเหิน"

๐แต่นางยังครองคู่           แม้นพธูดูบ่เพลิน
กับชายผู้คล้ายเมิน            เหมือนหมดรักหากเงียบงัน

๐"กระบี่หัก"ศักดิ์สง่า         เป็นผู้กล้าวิชาอัน-
เป็นหนึ่งในหล้านั้น              แลสามี"หิมะเหิน"

๐สามีภรรยายุทธ             มาแกล้งหยุดผลาญเผชิญ
ในสำนักจำเริญ                ศาสตร์อักษรขจรขจาย

๐ค้าขายเขียนคำคม          เป็นเงื่อนปมอันคมคาย
ชื่อเสียงเลื่องลือหลาย        และข้าหมายมาสังหาร

๐แกล้งมาว่าจ้างเขียน       ซึ่งคำเธียรแต่งฝาบ้าน
ในวันที่ทหาร                   ของท่านอ๋องล้อมเมืองเขา

๐กระบี่หักปรัชญ์กล้า        ย่อมแปลกตาสงกาเชาว์
เหตุเลศใดไยเจ้า               จึงมาจ้างวันสงคราม

๐แท้จริงขอประลอง         ท่านทั้งสองพร้อมข้อความ
ฟ้าเวิ้งฝากนงราม            หิมะเหินว่าคะนึง


     (สีหน้ากระบี่หักหลังได้ยินข้อความ(ไร้นามแต่งเรื่องโม้))



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
28 กันยายน 2013, 01:14:AM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #3 เมื่อ: 28 กันยายน 2013, 01:14:AM »
ชุมชนชุมชน

(กระบี่หักกำลังคิดเขียนอักษรให้ไร้นาม)


-โคลง ๔ สุภาพ-

๐ไร้นามแกล้งเล่าล้วน       ลวงสาส์น
อ๋องนิ่งฟังบ่ขาน             แข่งเอื้อน
ไร้นามแต่งต่อปาน           เป็นดั่ง   นั้นนอ
ว่ากระบี่หักเปื้อน              แปร่งห้วงทรวงเซ

๐เล่ห์ข้าทำย่อมย้ำ           ยุแยง
เขาคู่ข้ารึแจง                  จ่อสู้
เขาแตกหักสำแดง           ดังกล่าว
ข้าจึ่งหาญห้าวผู้-            แกร่งกล้าเพียงเดียว

(ไร้นามกำลังยุแยงกระบี่หัก,แต่ไร้นามโม้)

๐จิตเหี่ยวแห้งหักแล้ว      ชายหญิง
ยังต่อสู้กันจริง               เพราะชู้
กระบี่หักหิมะเหินชิง          ชาญฉ่า
หนึ่งเพลี่ยงเหลือหนึ่งสู้     เหตุข้าคว้าชัย


(เมื่อครั้งกระบี่หักกับหิมะเหินบุกวังเพียงสองคนเพื่อสังหารอ๋องฉิน)

(อ๋องฉินคิดใคร่ครวญ และแล้วก็กล่าวว่า)

๐ไยเจ้านั้นปดเพี้ยง        แคลนดนู
เจ้าอย่าดูถูกชู               เรื่องเฟ้อ
ประเมินต่ำแต่งถู            ถ้อยเถื่อน
ข้าจักเล่าไป่เพ้อ             พบพ้อทั้งสอง

๐เขาเข้าจ้องคร่าข้า        ถึงวัง
ทหารนับหมื่นยัง            พ่ายต้าน
สองคู่รักจิตขลัง            เคียงมั่น
แลจิตใจย่อมจ้าน            อย่างนั้นยอดคน

๐ชนใดนับยอดแล้          ฤๅรวน
แค่เรื่องรักฤๅครวญ       ข่วนเกล้า
เจ้าอย่าเล่าปดสวน         สัจจะ
สองยุทธบุกพุ่งเป้า         ปราบข้าเยี่ยงอ๋อง

๐เจ้าลองพิเคราะห์ให้       เห็นตาม
บุกบ่กลัวดาบจาม           หอกจ้วง
เจ้าอ่านจิตดูความ          หาญเถิด
ใจใหญ่ไยเบื้องห้วง          จิตกล้ำเกินเหิน?



(ไร้นามตะลึง และแสงเทียนต่อหน้าท่านอ๋องมัน.......)

๐เชิงเทียนเผอิญผลุบพริ้ว     หวิวไหว
ฤๅดั่งลังเลใน                      จิตร้อน
อ๋องอ่านเหตุที่ไฟ                  สับส่าย
อาจคลับคล้ายสะท้อน           นฤผู้เผดียงกานท์







ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
28 กันยายน 2013, 01:26:AM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #4 เมื่อ: 28 กันยายน 2013, 01:26:AM »
ชุมชนชุมชน

(ขุนนางขันทีข้างกายอ๋องประกาศบัญชากฎท่านอ๋องคำรบ๓)

-โคลงดั้นวิวิธมาลี-

๐ใครหาญกล้าชนะกล้ำ         "กระบี่หัก"
ย่อมเหมาะต่อดื่มชา              ชิดไท้
พร้อมทรัพย์ส่งให้ศักดิ์          สูงสง่า
จงลุกมาใกล้เข้า                   อีก, เชิญ

๐สิบก้าวจากกษัตริย์ด้วย       เกียรติไกร
นั่งดื่มชาอย่าเขิน                  ค่ากล้า
ไร้นามจึ่งลุกไป                      นั่งใหม่
เพียงสิบก้าวหน้าใกล้             ท่านอ๋อง

(อ๋องจึงไม่เชื่อเรื่องไร้นามหลอก และบอกว่า......)

๐ข้าคิดว่าอย่างเจ้า               ไร้นาม
ไป่กาจชำนะประลอง               ยุทธเข้ม
ฟ้าเวิ้งเก่งเกินหยาม              โดยดาบ  ใดเอย
เจ้ากับมันเม้มเร้น                  เรื่องเรา

๐คงวางแผนก่อนแสร้ง         ราวี
เจ้ากับฟ้าเวิ้งเดา                   ว่าพ้อง
ต่อหน้าเหล่าทหารมี               พยานเล่ห์
แล้วยุทธเจ้าต้องขั้น              เยี่ยมเทียม

๐ฟ้าเวิ้งจึ่งคิดคล้อย              คะนึงตาม
ยอมยกทวนมอบเตรียม         ต่อเจ้า
กระบี่หักหิมะเหินยาม             ยินแยบ-  คายนา
ย่อมอ่านออกเข้าพร้อม        ร่วมแผน

๐ข้าสงสัยแค่ข้อ                  เดียวนา
ไยยอดยุทธช่างแสน             เชื่อจ้อย
เจ้าอาจกล่าวเงื่อนครา         คุยแง่
ว่าอาจยุทธช้อยชั้น             เฉิดฉาน!?!?



(และเปลวเทียนก็ยังพริ้วไหว)

๐ท่านอ๋องสังเกตต้อง          ตะลึงเทียน
เดี๋ยวส่ายซ้ายขวาปาน          ชีพตั้ง
รึจิตยอดยุทธเจียน              กระอึก กระอักนา
จักต่อฤๅยั้งก้าว                  กลับหลัง



(ในที่สุดไร้นามก็เฉลยความจริง)

-โคลงดั้นตรีพิธพรรณ-

๐ข้ามิอาจซ่อนเร้น               พรางจริง
ขอเล่าครั้งข้าขอ                  ร่วมต้าน
ชาวจ้าวเจ็บโดนชิง               ฉกแผ่น-  ดินนอ
หวังคร่าแค้นสะท้านแคว้น      ชื่อฉิน

๐จึ่งตกลงกับทั้ง                 สามสหาย
ตัวจักสิ้นชนม์ไป                  ไป่รื้อ
แคว้นฉินโฉดพาลหลาย         ละโมบ
อ๋องยิ่งเดชดื้อด้าน               ยากผลาญ

๐จึ่งมีเพียงเคล็ดนี้               ดนูมี
ที่เชี่ยวชาญพอเตรียม          คร่าม้วย
"สิบก้าวดาบเดียว"ดี            กวัดด่วน
ย่อมเยี่ยมยอดด้วยเด้ง         ดับชนม์

๐ขอเพียงอาวุธเจ้า              รวมมา
ข้าค่อยขนเข้าหา                 ฮ่องเต้
สิบก้าวฝึกจนวิชา                ใดเปรียบ  ยากเฮย
ฤทธิ์บ่โอ้เอ้ง้าง                    ดาบเดียว

๐ทั้งสามประจักษ์แจ้ง          เพลงยุทธ
ยอมร่วมเกี่ยวร่วมแรง         หลอกแล้
จึงอยู่ต่อหน้าสุด                 เพียงสิบ  ก้าวนา
แลยากคิดแก้ด้วย                ไพร่พล






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
28 กันยายน 2013, 01:44:AM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #5 เมื่อ: 28 กันยายน 2013, 01:44:AM »
ชุมชนชุมชน




(แต่แปลก!อ๋องฉินรู้ว่ายากจะรอดพ้นความตาย  แต่ยังนิ่งสงบ และเอ่ยถามถึงกระบี่หักว่า.......)

-กลอนสุภาพ-

๐โอ้วิชาเช่นนี้ฤทธีย่อม-                    เกินจะล้อมโดยเหล่าห้าวพหล
แม้ข้าจักหักลงโดนปลงชนม์              ข้าไม่สนตักษัยใครหลีกฤๅ?



๐เพียงข้าเคยโดนบุกกระตุกดาบ        เกือบได้อาบโลหิตคนคิดหือ
ลุยมาสองกระบี่และนี่คือ                  สองคนดื้อหิมะเหินเดินลุยมา



๐พร้อมสามีกระบี่หักยุทธยากต้าน     ทวยทหารนับหมื่นยังฝืนฝ่า
หนึ่งนางนั้นต้านทหารโรมรันมา        และหนึ่งชาตรีตะลุยยุ่ยทั้งวัง

๐ประจันหน้าเรานี้ไม่มีถอย               แม้นยุทธน้อยข้าสู้ดูขึงขัง
กระบี่หักหาญโหมโถมพลัง               ยากจะยั้งข้าจะแย่พ่ายแพ้เทียว

๐แต่โอ้!นี่กระบี่หักช่างชักช้า              คล้ายละล้าละลังลาญฟุ้งซ่านเขี้ยว
เกือบปลิดชีพฉับฉานประหารเชียว      กลับหลีกเลี้ยวหันหลังพังกิจตน!!!????




(ไร้นามบอกบางสิ่งท่านอ๋อง)

๐ท่านอ๋องเอ๋ยเคยครวญกระบวนไหม    วิเคราะห์นัยกระบี่หักสักกี่หน
ท่านประเมินหนึ่งชายคล้ายชอบกล        คือต่ำจนเกินจินต์กวินทร์วงศ์

๐เขาคนนี้กระบี่หักหนักแน่นยุทธ           เยี่ยมยอดสุดจากสามนามระหง
เขาบอกข้าเลิกจ้องคร่าอ๋องลง            แล้วบรรจงจารสลักอักษรา

๐คำคำนี้กระบี่หักทักห้ามแผน              เลิกคิดแค้นเคี่ยวไฟเพราะ "ใต้หล้า"
เพียงหนึ่งคำล้ำลึกตรึกตรองมา           ผ่านเพลาข้าค่อยคล้อยตามคำ

๐จักหักหาญโหดหือกระพือหัตถ์           แลฟาดฟัดเฟี้ยวฟ้าวกี่เช้าค่ำ
แค้นกี่แคว้นแค่นอกยกทัพยำ               ก็บ่ทำให้ราษฎร์ปราศเข็ญครวญ

๐พ่ายแล้วแก้แพ้แล้วแค้นกี่แว่นแคว้น    ราษฎร์ยิ่งแสนโศกทุกข์ลุกโหยหวน
เห็นเพียงท่านเท่านั้นอันสมควร            รวบรวมล้วนหลากเหล่าเข้าหนึ่งเดียว

๐แล้วประชาราษฎรหยุดร้อนเร่า           หยุดกระเส่ากระส่ายซมระทมเสียว
แค้นส่วนตัวค่ากี่ชีวีเชียว                     ราษฎร์นั่นเทียวที่ต้องร้องไห้โฮ

๐รวมดินแดนเป็นหนึ่งถึงสงบ              ไร้ซากศพสงครามความโมโห
ดินเดิมมีกี่ก๊กชิงฉกโชว์                      หากเศร้าโศกีคลอก็ปวงชน


(อ๋องฉินได้ยินถึงกับน้ำตาคลอเบ้า)

-อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑-

๐เห็นนัยหทัยเรา                               เฉพาะเขากระบี่ฉล
ศัตรูฉกาจกล                                   คติกลับประทับใจ

๐คนเขาประณามข้า                           จิตพาละกว่าใคร
โหดหาญะญาณไท้                             ผิวะยักษ์ก็ไม่ปาน

๐เพื่อนแท้สิแลเห็น                             รึก็เป็นริปูพาล
เกิดมาประสาชาญ                             สขิมีมิเสียชาย
(*ริปู แปลว่า ศัตรู;  สขิ แปลว่าเพื่อน)

๐เอ้า!เจ้าประหารชนม์                         ดนุคนมิกลัวตาย
เชิญเฉียบกระบี่หมาย                          อภิฆาตะข้าพลัน

๐โอกาสะครานี้                                  พิศะที่กระดาษนั้น
อักษรวิเศษอัน                                   อริกวาดกระบี่เขียน
(*พิศ  แปลว่า มอง)



(ท่านอ๋องหันหลังให้ไร้นาม  เพ่งพิศกระดาษใหญ่แผ่นนั้น ที่เขียนอักษรคำว่า "ใต้หล้า")

๐โอ้!!ยอดกระบวนภาษณ์                    และพิลาสประหนึ่งเธียร
"ใต้หล้า" สง่าเที้ยร                            ทุรภพสงบลง

(*ภาษณ์ แปลว่า การพูด, ในที่นี้แปลโดยนัย หมายถึง ภาษาซึ่งก็คือตัวอักษร,  เธียร แปลว่า นักปราชญ์
เที้ยร  แปลว่า เทียม, เทียบ;    ทุร แปลว่า ยาก ลำบาก ทุกข์)


(ขั้นรายการ, แหะๆๆๆ จะแต่งฉันท์ต่อดีมั้ยเนี่ย ถึงตรงนี้ แม้จะใกล้จบ แต่จะมีสักกี่คนที่ทนอ่านน้อ มีแต่คำบาลี-สันสกฤต) ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

๐แต่ว่าจะคร่าข้า                              อปหาระดาบปลง
จากไหนจะคมคง?                           คตทศบาทผลาญ!?!?

(*อปหาร แปลว่า ขโมย ยึด;  คต แปลว่า ถึงแล้ว;  ทศ แปลว่า สิบ ทศบาท ก็คือเพลงกระบี่ สิบก้าวในดาบเดียวฉะนั้นแล)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
28 กันยายน 2013, 02:07:AM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #6 เมื่อ: 28 กันยายน 2013, 02:07:AM »
ชุมชนชุมชน

-ผมกลัวใครที่มาอ่านจะเบื่อซะก่อนจึงแต่งช่วงท้ายเป็นกลอนเปล่า(ฝึกหัด) เพื่อเป็นการเอาใจท่านน้องหยกและน้องแป้ง ดังนี้-

(ไร้นามทั้งตอบท่านอ๋องและทั้งลังเล)


(ท่านอ๋องโยนดาบให้ไร้นามใช้สังหารตัวเองเฉยเลย)

-กลอนเปล่า(ชั้นอนุบาล)-

๐ข้าก็จะยืมดาบท่านที่เหน็บสะเอวกระชับ
กระโดดสิบก้าวปั๊บและก็จับมาสังหาร
แล้วท่านก็จะวายปราณ
ด้วยดาบของท่าน......แต่เป็นกระบวนยุทธแพรวพราว..."สิบก้าวในดาบเดียว"

๐แต่อนึ่งเทียนซึ่งปลิวไสวคล้ายใจที่สั่นไหว
จะผลุบรึปะทุเพลิงไฟ.....ก็แค่สักประเดี๋ยว
พัดพริ้วคล้ายมิพร้อมยอมสมานยุทธดุจเดียว
โอ้!!ไร้นามเฉลียว...แช่มช้า.........จะฆ่ารึจะคลาย

๐และแล้วละล้าละลังละล่ำละลักกระอักอุรา
ไร้นามกระโดดมา....ปานว่าหนุมาณ....รวดเร็วดั่งแดหมาย
ชั่วอึดใจสิบก้าวพราวพราย
สะอึกดาบเข้าหลังชาย...คือไท้แห่งฉิน....นั่นแล





๐อ๋องฉินสะดุ้ง.......ด้ามดาบกระทุ้ง
โอ้!ไร้นามมิได้มุ่งชีวาข้าแน่แน่
อ๋องฉินจึ่งชะแง้
ชำเลืองแล...ไร้นามทิ้งแผน....ทิ้งแค้น...แคว้นฉิน...พร้อมรินพจี

๐ขอให้ท่านอ๋องจงจำ....รับคำ....ความสัตย์
อย่าตระบัด.....ตระหนัก...ให้จงหนัก....ศักดิ์แห่ง"ใต้หล้า"สง่าศรี
จงเป็นจักรพรรดิที่ดี!
บำรุงประชาชี....ให้แผ่นดินนี้.....รุ่งเรือง!



(ท่านอ๋องลังเล ในใจคงครุ่นคิดอยากได้ไร้นามมาเป็นแม่ทัพข้างกาย แต่เหล่าขุนนางและทหารนับหมื่นที่วิ่งมาล้อมวังขึ้นคันธนูเล็งเป้าเดียว พร้อมต่างพากันตะโกนก้องท้องพระโรง!)

๐กฎย่อมเป็นกฎ..อย่าทุรยศ....กฎตน...ท่านอ๋อง!!
ระเบียบปกครอง...ก็ย่อมยงไว้....ให้ระบือลือเลื่อง!!
ประหารมัน....ประหารมัน....ผู้ผิดมหันต์....อย่าเก็บไว้รกเมือง!!!
จักฟูเฟื่อง....ฟุ้งฟ้า....อย่าทำลายระเบียบบุรี.......!!!!



(และแล้วท่านอ๋องก็รับสั่งด้วยพระหัตถ์)



-กลอนสุภาพ-

๐ดอกธนูพรูพรั่งทั้งหมื่นดอก
พุ่งพวยออกสู่เป้าเกล้าชายศรี
ผู้ไร้นามหนึ่งน้อมยอมชีวี
อ๋องจิ๋นซีจึงประจักษ์หลักนำชัย

๐และแล้วแว่นแคว้นใดว่าใหญ่น้อย
อ๋องจิ๋นค่อยรวมประเทศเขตขัณฑ์ไหน
เป็นแผ่นดินสินธุ์ฟ้ารุจาไกล
แผ่นดินใหญ่ว่าจีนประทินทองฯ





(บางครั้งผมก็เรียกจิ๋น บางครั้งก็ฉิน ในที่นี้ผมขอใช้ในความหมายเดียวกันนะครับ)

จบแล้วคร้าบบบ สนุกไหมคร้าบบบบบ แหะๆๆๆๆๆ

และขอขอบพระคุณสำหรับท่านที่ทนอ่านนะครับผม เอ้อ..จริงว่ะ เคารพรัก


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, อริญชย์, D, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
29 กันยายน 2013, 09:29:AM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #7 เมื่อ: 29 กันยายน 2013, 09:29:AM »
ชุมชนชุมชน

ฮีโร่ตัวจริง แรงบันดาลใจของ เจ็ท ลี จากซูเปอร์สตาร์ มาเป็นผู้ให้ ก็เพราะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่เขาพบบนเกาะมัลดีฟส์นี่ เอง ที่คลื่นยักษ์สึนามิกลืนทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด



ด้วยสัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอด เจ็ท ลี รีบหนีขึ้นฝั่งสุดชีวิตพร้อมกับภรรยาและลูกๆ แต่พอรู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่ง เขาได้พบความจริงว่า ลูกและภรรยาที่เขาทั้งอุ้มทั้งจูงขึ้นฝั่งนั้นหลุดไปจากมือทั้งสองข้างของ เขา และตัวเขาเองก็ลอยไปติดอยู่ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง มองไม่เห็นลูก มองไม่เห็นภรรยา แล้วก็หมดสติไป ตื่นมาอีกครั้ง เขาเดินเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ตามชายหาด คลื่นสึนามิถอยกลับไปที่ใต้น้ำ เขามองเห็นความตายเกลื่อนหาดไปหมด

ขณะที่เขาร้องห่มร้องไห้เหมือนจะเป็นบ้าจะเป็นหลังอยู่นั้น ก็มีชาวบ้านสองสามคนอุ้มลูกสองคนและก็จูงภรรยาเขามา “คุณ ลูกคุณใช่ไหม” เจ็ท ลี หันไปมอง วิ่งไปกอด พ่อ แม่ ลูก โถมกอดกันกลม ร้องห่มร้องไห้ ดีใจที่ผ่านนาทีชีวิตมา อยู่รอดปลอดภัยกันตรงนี้ เมื่อเสียงร้องไห้ด้วยความดีอกดีใจสิ้นสุดลงแล้ว เขาหันไปมองผู้ที่นำภรรยาและลูกมาส่ง หายไปไหนก็ไม่รู้ เดินตามหาจนทั่วชายหาดก็ไม่เจอ ถามใครก็ไม่มีคนเห็น

เขาทรุดลงนั่งในสภาพเปียกมะลอกมะแลก แล้วถามตัวเองว่า ไหนล่ะพระเอกตัวจริง เขาแสดงภาพยนตร์มาสี่สิบปีของชีวิต ทุกเรื่องเขาฝันอย่างเดียวว่า ต้องเป็นที่หนึ่ง ต้องเป็นฮีโร่ แล้วพอเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ ฮีโร่ในหนังคนนั้นไม่สามารถช่วยได้แม้กระทั่งเมียและลูกสุดที่รักของตัวเอง อย่าว่าแต่ลูกและเมียเลย ตัวเองก็ช่วยตัวเองไม่ได้ เขานั่งแล้วก็ร้องไห้อยู่ตรงนั้น ท่ามกลางความมึนงงสงสัยของลูกและภรรยา

เขาใช้เวลาตามหาคนที่ช่วยเหลือครอบครัวเขาไม่พบ กลับมาถึงบ้านเกิด เจ็ทลีนั่งถามตัวเองอยู่อีกครึ่งปี เขาถามว่า การเป็นพระเอกในหนังแทบไม่ได้ช่วยอะไร นอกจากช่วยให้ตัวเขาเองมีชื่อเสียงฟุ้งกระจายไปทั่วโลก และก็ได้เป็นพระเอกอย่างดีก็แค่บนแผ่นฟิล์ม

ครึ่งปีที่หยุดการแสดงไปนั้น เขาได้บทสรุปว่า คนที่ช่วยเขา แท้ที่จริงไม่ใช่คนมีชื่อเสียง ไม่ใช่คนดัง ไม่ใช่ผู้มีอำนาจ แต่เป็นคนเล็กคนน้อย คือชาวบ้านธรรมดาๆ สามัญที่สุดนี่แหละ ชาวบ้านธรรมดาๆ สามัญที่สุด แต่มีใจอันประเสริฐเลิศล้ำที่ช่วยเสร็จแล้วไม่รับแม้แต่คำขอบคุณ คนเช่นนั้นต่างหากคือพระเอกตัวจริง

เพื่อที่จะแสดงความขอบคุณชาวบ้านกลุ่มนั้นเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ในที่สุดจึงตัดสินใจตั้งมูลนิธิ Jet Li One Foundation หรือมูลนิธิหนึ่งหยวน เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาวโลกมาจนทุกวันนี้ ปัจจุบัน เจ็ท ลี เล่นหนังเป็นงานอดิเรกและเดินสายช่วยชาวโลกเป็นงานหลัก

ทุกคนสามารถช่วยเหลือกันและกันได้ โดยไม่ต้องรอให้เกิดวิกฤติ ใครช่วยเหลือเกื้อกูลอะไรได้ขอให้ช่วยทันที เห็นปัญหาอยู่ตรงไหน เห็นเพื่อนมนุษย์ตกทุกข์ได้ยากอยู่ตรงไหน เห็นโลกกำลังมีวิกฤติอย่างไร ขอเพียงแค่หัวใจเราไม่เย็นชา อยากลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ให้ปัญหาเหล่านั้นมันคลี่คลาย แค่นั้นประกายแห่งความเป็นพระโพธิสัตว์ก็เกิดขึ้นแล้ว

ขอขอบคุณ ศูนย์พัฒนาคุณธรรม มมร วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ facebook.com/profile.php?id=100002662791599


 ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ

Jet Li , my Hero !!!

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, เพรางาย, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, รัตนาวดี, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s