รวมบทประพันธ์ของ สนอง เสาทอง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
16 เมษายน 2024, 12:44:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2 3
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รวมบทประพันธ์ของ สนอง เสาทอง  (อ่าน 78040 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
18 พฤศจิกายน 2012, 09:49:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2012, 09:49:AM »
ชุมชนชุมชน

ไอแพดประถมหนึ่ง
ขึงเด็กตรึงไอทีสมัย

-๑-

เด็กไทยครั้งเก่าสมัย          ปู่ย่ายายป้องประหงม
กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงแม่นม                เพียรปลูกบ่มจริตนิสัย
ซื่อใสเขลาเดียงสา                   ดั่งขาวผ้างามขาวใส
รั้นบ้างข้างขัดใจ                          ดื้อสมวัยในอ่อนเยาว์
ขวบเกณฑ์เข้าอนุบาล               ครูค่อยปั้นประดอยเจ้า
คบเพื่อน-ได้กล่อมเกลา               เอาใจเขาใส่ใจตัว
ประถมเรียนกอไก่                     พยัญชนะไล่ท่องใส่หัว
อาขยานผันเสียงรัว                    ไล่รายตัวอ่านออกเสียง
ครูจับเขียนลายสือ                   ใครลายมือไม่คมเกลี้ยง
คัดซ้ำร้อยแถวเรียง                    งดมื้อเที่ยงกิ่วท้องไส้
หนังสือเล่มกระดาษ                 อ่านปรุขาดเก่าใจหาย
ทบทวนเนื้อความนัย                  จบแจ้งไขสรรพตำรา
อ่านออกคิดเขียนได้               ไม่เข้าใจขวนขวายหา
ครบเกณฑ์เจนวิชา                    ได้ปัญญาใช้เลี้ยงตน

-๒-

เด็กไทยรุ่นไอแพด                  แม่พ่อแชทโกลาหล
นมวัวเลี้ยงลูกคน                      จึงแปลกปนปลอมนิสัย
ทีวีออนไลน์สื่อ                        เข้าถอนรื้อไล่เดียงใส
ปั่นมอมข้างกร้าวร้าย                  ผลักเสือกไสปล้นวัยเยาว์
สามขวบปรีอนุบาล                  ครูแข่งปั้นยัดเยียดเจ้า
แม่พ่อแข่งปลุกเร้า                     แข่งคอร์สเป้าก้าวอินเตอร์
ครั้นวัยแข่งประถม                   ผู้ใหญ่บ่มแข่งเหิมเห่อ
ไอที-สมาร์ทโฟนเกร่อ                แข่งบำเรอเคร่งหาจัด
คัดไทยอย่างแกนแกน              คีย์บอร์ดแป้นพลิ้วสัมผัส
ทัชสกรีน-นิ้วป้ายปาด              ลายมือคัดคร่ำครึสมัย
กระดาษเล่มหนังสือ                เจ้าเบื่อรื้อเล็มความหมาย
เว็บไซต์-เกมออนไลน์             เจ้าฉับไวเข้าสืบค้น
เด็กไทย-ไอทีสมัย                แฝงเร้นกายปลีกห้องหน
โลกเสมือน-ฝังคิดคน                กลืนกลายตนปลักสมัยยุค
ปอหนึ่งรุ่นไอแพด                  มุ่นหมกแชทจ่อมคลีคลุก
โลกจริงไม่พันผูก                      โลกเสมือนรุกผลักเคลื่อนสมัย

-๓-

ไอแพดประถมหนึ่ง              ขึงเด็กตรึงไอทีสมัยฯ 




สนอง เสาทอง
3 สิงหาคม 2555
สุรินทร์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เพรางาย, พี.พูนสุข, บ้านริมโขง, ไม่รู้ใจ, ไร้นวล^^, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, บ้านกลอนไทย

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 พฤศจิกายน 2012, 06:03:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #1 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2012, 06:03:PM »
ชุมชนชุมชน

โชห่วยเจียนสิ้นร้าง
บนแพร่งทางค้าปลีกสมัย

-๑-
โชห่วยค้าชำย่อย            ซุกลึกซอยตึกแถวเก่า
ซิ้ม-แป๊ะ, ตื่นก่อนเช้า            ง่วนจมเจ่าเตรียมเช้าขาย
ห้องร้านไกลปากทาง         ใกล้เจียนร้างน่าใจหาย
แป๊ะ-ซิ้ม, เจ็ดสิบปลาย            ขืนฝืนกายประสาแก
ปากซิ้มขั้นเราะร้าย         ด่าเถียงใครหงอคร้ามแพ้
แป๊ะฝืนขืนยักแย่               โปรยยิ้มแต้แกยิ้มเปลือง
สนุกซิ้มซ้ำซากเล่า         ใช่โม้เต้า-เฉาฉุยเขื่อง
สาวสมัยโรงผ้าเฟื่อง            ซิ้มลือเลื่องพ้งจักรทอ
แป๊ะนั้นครั้งหนุ่มแน่น         ว่องเซลส์แมนขายจานหม้อ
จักรยานถีบปั่นปร๋อ            เซ็งลี้ฮ้อตะลอนทั่ว
แม่สื่อ-เซ้าซี้แหย่            ชมแป๊ะแท้-ใช่ซี้ซั้ว
ตึ่งนั้งใช่ไกลตัว               ไม่เขลาชั่วนักเลงพนัน
ม่าเตี่ย-ขึงขังขัด            ซิ้มฮึดฮัดอย่างดื้อรั้น
แป๊ะ-ซิ้มได้แต่งงาน            เซ้งห้องร้านทำโชห่วย
ตาซิ้มปริ่มสุขเคล้า         ไม่เบื่อเล่าเรื่องตี๋หมวย
ลูกเต้า-สบายรวย            โชคบุญช่วยเป็นคุณหมอ
หมดห่วงลูกแต่งงาน         แยกเรือนบ้านแต่งหับหอ
เวียนกล่อมแม่กับพ่อ            บอกเถอะพอเลิกโชห่วย
สองหมอ-ไม่เข้าใจ         งานค้าขายได้ต้า-อ่วย
ใช่หวังทางร่ำรวย            เช่นจ้าวหวยบ้ารวยใหญ่

-๒-
โชห่วยค้าชำหน            ใช่รวยล้นคนค้าขาย
ซื้อมาและขายไป            เจียดกำไรออมต่อทุน
ซิ้ม-แป๊ะ, กินอยู่เขียม         ใช้อย่างเจียมปั่นเงินหมุน
เชื่อ-ซื้อ, คนเคยคุ้น            เทียวอุดหนุนข้องพูดคุย
ตาโชคแกขี้เมา            เก็บของเก่าถังขยะคุ้ย
มะเทิ่งเอะอะคุย               ถ่มขากถุยชวนตีท้า
อีสาวหม้ายยังสวย         ไม่เคอะขวยคะนองกล้า
ยายนวลขมังมนตรา            จริตท่วงท่าชั้นเจ้าทรง
ไอ้พจน์กอทอมอ            หุ่นม่อต้อกวาดฝุ่นผง
เชื่อเหล้า-บัญชีลง            ไม่เบี้ยวโกงสิ้นเดือนใช้
โก๋ชัยเงินหวยออก         เบ่งคับตรอกทำหน้าใหญ่
เต็มขวด-สดสดจ่าย            วินมอ-ไซค์ห้อมล้อมริน
ถังแตก-หน้าเซียวซีด         ไร้แรงฤทธิ์เปรี้ยวปากลิ้น
เป๊กน้อยหลบเหนียมกิน            มาดเขื่องสิ้นทิ้งเสือลาย
กี๋ติ๋มหน้าตาดี            สิ้นเดือนทีหลบลิบหาย
เทียวผลาญเงินละลาย            เหนียวหนี้ใช้-แสร้งไขสือ
ยิ้มเจื่อนปั้นเรื่องเศร้า         ตอแหลเล่าอ้อนเชื่อซื้อ
จ่ายพรุ่ง-เปียแชร์มือ            ตีหน้าตื๊อรั้นดื้อหยิบ
โชห่วย, คืนวันเก่า         ทุกข์สุขเคล้านานับสิบ
นินทาป้องกระซิบ            ปากยิบยิบป้ายสันสี

-๓-
ซิ้ม-แป๊ะ, โชห่วยร้าน         จึงผูกพัน-ย่านวิถี
คนซอยถ้อยพาที               ครั้งก่อนมี-ค้าปลีกห้าง
ค้าสมัยไร้พรมแดน         หมุนเพลาแกนทุนเฟืองคลั่ง
ทุนใหญ่บ่าโถมถั่ง             ทุนเล็กรั้งทางขัดสน
เสรี-ทุนข้ามชาติ            เปิดรุกฆาตปิดช่องหน
ทุนบ้านเข้าตาจน            พ่ายเกมกลค้าเสรี
ไทยเทศ-ค้าปลีกห้าง         ถือโอหังเข้าเบียนบี้
เซเว่น, ยี่สิบสี่-               ชั่วโมงมี, ขายขวบวัน
ห้างแอร์ฉ่ำยะเยียบ         กลค้าเฉียบโปรโมชั่น
ลดแจก-แข่งรางวัล            ทุกฟลอร์ชั้นปั่นราคา
บริการสะดวกซื้อ            เชิญเลือกรื้อหยิบฉวยคว้า
ไม่ซื้อใครไม่ว่า               เชิญแวะมาเพลินเที่ยวเล่น
โซนเด็กโซนผู้ใหญ่         โซนหญิงชายง่ายพบเห็น
โซนแบ่ง-ชัดกฎเกณฑ์            ทุกโซนเฟ้นเน้นของแบรนด์
พลาซ่าศูนย์อาหาร         ฟาสต์ฟู้ดร้านจอแจแน่น
เปลืองกินปลิ้นพุงแอ่น            หัวฉิวแล่น-แข่งนาฬิกา
เสรี-โลกทุนสมัย            คนซื้อย้ายขึ้นห้างค้า
ตราห้างประทับค่า            ตีป้ายตราสมัยนิยม
ค้าชำทุนบ้านบ้าน         จึงซูบซานไข้เหงาห่ม
ร่อแร่-เจียนสิ้นลม            พิษอาคมเสรีทุน

-๔-
โชห่วยค้ายิบย่อย         คนร่อหรอยเรื้อรกฝุ่น
ซิ้มเงียบนั่งผ้าชุน               แป๊ะแสร้งวุ่นไล่แมวหมา
เก้อคอยชะเง้อหาย         ผ่านโมงบ่ายขายเหว่ว้า
มากคนล้นไคลคลา            มุ่งห้างค้าวุ่นวายขรม
ปากซิ้มเคยเปราะปาก         เจี๋ยมเป่าสากปั้นหงิมก้ม
ผล็อยงีบม่อยจ่อมจม            ฝันแล้งลม-ห่มเลื่อนลอย
ยิ้มแป๊ะไม่เปลืองยิ้ม         ชะม้ายซิ้มปั้นขรึมหงอย
ท้อหวั่น, แสงวันคล้อย            กี่เปลืองคอยในเปลืองหวัง
ผู้คนเหิมค่าสมัย            เครดิตใช้เชื่อของห้าง
รูดปื้ด-พลาสติกบาง            หนี้รุงรังดั่งต้องสาป
จับจ่ายใช้ง่ายคล่อง         บัตรเดียว-ครอง, ของหามหาบ
ช้อปเพลินจนเยินยับ            เกินรายรับ, ดอก-ต้นผ่อน
วิถีคนรุ่นใหม่            ไลฟ์สไตล์ดิจิตอล
สื่อสมัยเสี้ยมพร่ำสอน            แบกทูนคอนวัตถุค่า
โชห่วยค้าชำร้าน            ฝืนสังขารขืนคร่ำคร่า
กร่อนผุกาลเวลา               ไม่เร็วช้าชำรุดสลาย
ซิ้ม-แป๊ะ, จ่อมเหงาหม่น         บ้างใครคนผ่านกรายใกล้
แห้งยิ้มในทักทาย            ละเหี่ยคล้ายไม่เหลือหวัง
โชห่วยบนแพร่งผ่าน         สะดวกร้าน-ค้าปลีกห้าง
ทุนใหญ่ล้อมกั้นขวาง            ใกล้หมดทางเจียนสิ้นลม

-๕-
โชห่วยเจียนสิ้นร้าง   บนแพร่งทางค้าปลีกสมัยฯ

สนอง เสาทอง
25 กรกฎาคม 2555
อินทามระ 10 กทม
.

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, สุวรรณ, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 พฤศจิกายน 2012, 06:07:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #2 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2012, 06:07:PM »
ชุมชนชุมชน

แม่ที่เห็นเมื่อวันวาน
วันนี้ท่านเช่นอยู่เป็น


ตาแม่ของวันวาน
คือไฟงานคุฉานสู้
เกรี้ยวไฟโชติคบชู
ไฟตาคู่โชนไฟงาน
ตาแม่ของวันนี้
วอมแวมหรี่ไฟสังขาร
เชื้อไฟใช้เก่านาน
ใกล้เชื้อถ่านมอดฝุ่นเถ้า
มือแม่ของวันวาน
คือมืองานอันหาญห้าว
เนื้องานถ้วนหนักเบา
ไคลเหงื่อเคล้าปรุงเนื้อนา
มือแม่ของวันนี้
คือมือที่บอบเปลี้ยล้า
อ่อนโรยแปล้พ่ายชรา
เหน็บป่วยชาอยู่อาจิณ
บ่าแม่ของวันวาน
คือบ่างานอันแกร่งหิน
คอนแบกกรำด้านชิน
บ่าด้านสิ้นเกินด้านพอ
บ่าแม่ของวันนี้
คือบ่าที่ฝืนเหี่ยวห่อ
ขืนบ่าแบกตั้งคอ
บ่าแบกท้อเล็ดน้ำตา
เท้าแม่ของวันวาน
คือเท้างานอันกร้านกล้า
ดำ-เกี่ยว, เท้าแม่พา
ย่ำเนื้อนาหอมเนื้อข้าว
เท้าแม่ของวันนี้
คือเท้าที่คลอไม้เท้า
ย่องแย่งเหยาะเยื้องเบา
ยักแย่เท้าทุกก้าวย่อง

แม่ที่เห็นเมื่อวันวาน
วันนี้ท่านเช่นอยู่เป็นฯ

12 สิงหาคม 2555
สนอง  เสาทอง

[/font][/size][/color]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, ไร้นวล^^, สุวรรณ, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 08:17:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #3 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 08:17:AM »
ชุมชนชุมชน

กุลีคำเจียมฝีมือ

     ภักดีใจวิถีบรรณ               แรมรอนตามฝัน
กุลีคำ-เจียมฝีมือ
     แบกหัวใจดวงฝันดื้อ          เฝ้าเพียรฝึกปรือ
เทียวท่องเรือกสวนทุ่งคำ
     เนิ่นผ่านล่วงวารฉนำ         เรียงร้อยลำนำ
แบกคำปรุงความคำนอง
     มิใฝ่หวังชนแซ่สร้อง          มิหวังเรืองรอง
เพียรมุ่งประดอยความเรียง
     ใดยออวยยศชื่อเสียง         มิผายมองเมียง
ยินดียินร้ายใดใด
     เพียรปั้นเสกคำตามนัย       หมายมุ่งตามใฝ่
จารจดจารึกยุคกาล
     เรียงร้อยเรื่องราวถิ่นย่าน     บนหนรายผ่าน
สิ่งละอันพันละน้อย
     ประจงจับมาเรียงร้อย         เก็บนิดเก็บหน่อย
เบี้ยใต้ถุนร้านฝุ่นผง
     เก็บออมเรื่องราวพฤกษ์พง   ดอกดินดอกดง
เรียงถ้อยรำพึงรำพัน
     เก็บเดือนดาวพราวฟ้านั่น    ถักทอใยฝัน
สร้านชื่นระรื่นวิญญาณ์
     มิคิดหวงรุ้งเพ็ญฟ้า           อีกเดือนดารา
ฤาสูรย์เพื่อหมายหวังตน
     แจกปันให้ชนถ้วนยล         ร่ำดื่มเสพชนม์
สรรพสิ่งใต้ห้วงจักรวาล
     ใดดีใดงามเจือจาน           ใดรื่นผลิบาน
ปันทั่วเพื่อนทุกข์เพื่อนไท
     เปือกตมอาจมเราะร้าย        มิเอียงพรั่นไหว
เสพดื่มอาบร่ำให้หมอง
     ภักดีใจฝันร่ำร้อง              ฝันในครรลอง
กุลีใช้แรงอักษร
     ค่ำเช้าเสพดื่มกาพย์กลอน   แม้ยามหลับนอน
ยังฝันละเมอลำนำ
     เทียวจรนาสวนเคียวกำ      ผู้ใช้แรงคำ
หว่านดำเกี่ยวคำเลี้ยงตน
     มิหลงเห่อเหิมกมล           เจียมใจฝึกฝน
ทำกินบนถิ่นทุ่งคำฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง


[/font][/size]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : จารุทัส, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 08:47:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #4 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 08:47:AM »
ชุมชนชุมชน

นกร้างคู่...ครวญเหงา

นกน้อยมาร้างคู่
เกาะเจ่าอยู่เดียวเซื่องหงอย
ไร้คู่พร้องคลอขับร้อย
ใจละห้อยละเมอหาคู่ใจ

น้ำคำนกร้างคู่เว้าวอน
เอ่ยอ้อน...จิ๊บ...จิ๊บ...พร่ำไห้
'...ว่าเหงาจิต...ว่าเหงากาย...'
วิโยคใจระทมโศกท้อ

เสียงนกเศร้าเอื้อนเฉลย
จิ๊บ...จิ๊บ...อกเอ๋ยอนาถหนอ
ครวญเพ้อ, รำพันพ้อ
เหี่ยวห่อร้างคู่...คว้างฤทัย

น้ำคำนก...สะอื้นเครือ
'...คงเหงาเหลือ...คงเหงาร้าย...'
ไร้คู่แปงรังทอหญ้าใย
อุ่นอาศัย, ประสาอกนกน้อย

นกร้างคู่...ครวญเหงา
จิ๊บ...จิ๊บ...เนิบเบา...ค่อยค่อย
ไร้คู่ขับคลอขานสร้อย
น้อยอกน้อยใจชะตาตน

นกเอยคงเหงา...เปลี่ยวอก
ไร้คู่นกเคล้าพะนอร่วมหน
คงเหงาร้าย, ร้างคู่เคียงกมล
ในเหงาหม่นจมเจ่าอยู่ลำพังฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : จารุทัส, รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 09:48:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #5 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 09:48:AM »
ชุมชนชุมชน

ใจเอย...อย่ารั้นห่ม

ใจเอยหากเหนื่อยนัก
เอนพิงพักให้เหนื่อยคลาย
ร้อนรุ่มร้ายร้อนใด
เก็บออมไว้อย่าโทสัน

ใดใดมิได้ดั่ง
ตั้งใจหวังต้องใจฝัน
อย่าดื้อ-อย่าดึงดัน
อย่าโมหันด้วยใจน้อย

ยอมรับในอ่อนไหว
ร้องไห้ได้-ใช่ท้อถอย
แค่เพียงนิ่มเนื้อกลอย
ทิ้งคนคอย-อาบไข้ซม

เมื่อรักมั่นฉะนี้
มีหรือที่จักติดหล่ม
มายา-น้อยอารมณ์
มาผูกปม-น้อยใจเรียม

ด้วยรักต้องข่มใน
ปลอบฤทัยให้ล้นเปี่ยม
แน่นหนักใจหมั่นเขียม
เตือนใจเจียมยอมอาบขม

ใจเอยอย่าน้อยใจ
ในใดใดมิต้องสม
อย่าดื้อ-เอารั้นห่ม
ยอมเสพตรมเซ่นรักพลีฯ



จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, จารุทัส, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 10:14:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #6 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 10:14:AM »
ชุมชนชุมชน

ใจรำพึง...ยามฝนพรำ

เย็นฝนพร่าง...พราวเย็น
พราวพรูกระเซ็นพราวหน้า
แผ่วพริ้วลม แผ่วแผ่ว, โผยแผ่วพา
เย็นฝอยฟ้า, ฝนเย็น...ไอวสันต์

พรำฝน...คืนฝนพรำ
ใจคะนึงร่ำหาคนไกล, เพ็ญขวัญ
หวาดจริตวิกลพรั่น
หวั่นใครอื่นพะนอแนบ...แอบเคล้า

พร่างฝนเย็น...พราวพร่าง
เหงาลึกภวังค์พะวงเจ้า
ห่วงหวงแก้มไหมนวลนงเยาว์
ในเปลี่ยวเหงา...เคว้งลำพัง

หนาวฝนเย็น...เหน็บหนาว
หวงนักเจ้าละไมบาง, ยามไกลร้าง
นึกหวั่นมีใครอื่นแอบชื่นปราง
เสกใจนาง...คว้างไหว

พราวฝนพร่าง...พรำพราว
ใจคนไกลเคล้าเครือสะอื้นไห้
วอนวิรุณฝากคำถ้อยนำไป
กล่อมเจ้าใจ...อย่าร้ายบั่นรัก

แผ่วฝนพรำ...พรำแผ่วแผ่ว
ใจมิแผ่ว, รุ่มร้อนร้ายพะวงหนัก
ห่วงหวงคนไกลร้ายรวนนัก
รอนรักจืดจาง...ด้วยห่างกาย

รำพึงเพ้อ...พร่ำรำพึง
รำพันเว้าวอนย้ำคำนึง, ยามห่างหาย
เธอเอยอย่าผวนร้างกลายอื่นไป
วอนเก็บใจ, เพื่อฉัน...คนเดียวฯ

จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, จารุทัส, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 10:44:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #7 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 10:44:AM »
ชุมชนชุมชน

นี่แหละรักเรา

รักเอยเกิดแต่ใด
ใครตอบได้วานตอบที
แรกรักปักฤดี
แรกรักมีเริ่มหนไหน

เธอฉันต่างชายหญิง
มาต่างสิ่ง-มาต่างสาย
แผกต่างเลือดในกาย
ในต่างใจ-ต่างรักกัน

แรกพบคือเพื่อนพ้อง
ใจผูกคล้องร้อยเกี่ยวพัน
คือเพื่อนเรียนร่วมชั้น
ร่วมสุขฝันในอ่อนเยาว์

สุขเหลือร้ายเดียงใส
มิรู้ใด-ฉันหนุ่มสาว
รู้แต่-เธอเพื่อนเรา
แอบปลื้มเขา-ก็ปลื้มใจ

ด้วยวัยละอ่อนนัก
มีรู้รัก-เป็นฉันใด
พร้องหน้าว้าวุ่นใจ
เกลือกใครใคร-รู้นัยจริง

รักเอยเกิดแต่นี้
สามสิบปีเก็บแน่นนิ่ง
วันนี้-แจ้งทุกสิ่ง
ไม่ประวิงบอกรักกันฯ

จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, จารุทัส, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 11:06:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #8 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 11:06:AM »
ชุมชนชุมชน

ใจดวงนี้...พลีรักภักดีเธอ

เก็บใจเพื่อรักเพื่อฝัน
ผนึกแน่นจำเนียรกาลจำหลัก
มิมักง่าย...ในค่ารัก
บูชาภักดีเซ่นพลีบำเรอ

รักเดียวคือเธอนั้นแท้มั่น
เก็บใจรักพะนอฝันมิหวั่นเก้อ
ทุกเมื่อวารฝันเพ้อ, พ่ายละเมอ
ทุกเสี้ยวห้วงฝัน, มีเธอ-ในคะนึงหา

ใจเธอเช่นฉันหรือใดเจ้า
คือรักแรก...สิเหน่หา
คือแรกรัก, ปักใจ ปักอุรา
เก็บรักใฝ่...ฝังตรึงตรา...ฝันอุ่นอิง

ครั้งวารแอบรักเธอเหน็บซุกใจ
เก็บซ่อนบึ้งบาดาลหฤทัย...แน่นนิ่ง
ไหวหวาดหวั่น, เธอไม่จริง
ไม่มีฉัน...ในสายตา

ในแอบรักเธอ...แอบสุขใจ
เพียงเห็นเธอเอมสุขใสเริงร่า
ก็สุขล้ำ ก็สุขเหลือ ก็สุขล้นอุรา
แค่ปรารถนา...เห็นเธอสุขฤดี

เมื่อรักเธอก็รัก...มิแปรอื่น
'...แม้มิได้ชื่น, สมรัก-ภพชาตินี้
ก็ยังรั้นในรักมิคลายภักดี...'
แท้ใจดวงนี้...พลีรักภักดีเธอฯ

จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 12:04:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #9 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 12:04:PM »
ชุมชนชุมชน

อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ

อุ่นลมรักรำเพยกรุ่นอุ่นใจ
กรุ่นอุ่นไอแผ่วกรุ่นละมุนนัก
อุ่นใดใดมิเทียมกรุ่น...อุ่นลมรัก
รื่นร่ายกรุ่นห่มจำหลักหนุนอุ่นทรวง

อุ่นลมรักวูบผ่านอุ่นอิ่มอก
พัดคืนผวน...วกมาห่มหวง
ลมรักกรุ่นพัดหวนอุ่นฤดีดวง
รำเพยรื่นมาห่มหวงอุ่นดวงหฤทัย

อุ่นลมรักรื่นรื่นรำเพย
แผ่วแผ่วเผย...ผ่าวอุ่นวาบไหว
รื่นผ่าวแผ่วระบัดไล้อุ่นรวงใจ
ผ่าวละไม, แผ่วละมุน, ห่มอุ่นวิญญาณ์

อุ่นลมรักคืนฝนพรำ
อ้อยอิ่งเรื่อยร่ำ...เอื่อยเอื่อยช้า
หนาวฝอยฝนเย็น, หรือสู้อุ่นแท้รักรื่นชีวา
อุ่นอกอุ่นเอกา...อุ่นในห้วงฝันคำนึง

ใยอุ่นลมรักทอถักห่มอุ่นอิ่มใจ
อุ่นมิรู้วาย ณ บึ้งหทัย, สัมผัสถึง
ผ่าวอุ่นลมรักรำเพยแผ่ว, ละเมียดรึง
ละไมกรุ่น...ละมุนซึ้ง...อุ่นตรึงรัญจวญ

รื่นรื่นอุ่นลมรักพัดเผยแผ่วรำเพย
อุ่นไหนเลยสู้อุ่นลมรักพัดคืนผวน
อิ่มอุ่นอก อิ่มอุ่นใจเธอ มิร้ายรวน
อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 12:43:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #10 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 12:43:PM »
ชุมชนชุมชน

ยามอุ่นรัก...ห่มเอมใจ

ยามอุ่นรัก...อุ่นห่มใจ
อุ่นใดเท่า, เทียบอุ่นรัก-หวามสร้าน
ใยแท้รักทอถักอุ่นละมุนดวงมาน
วาดวิมานฉิมพลี...แรฤดีสวรรค์ฟ้า

เมื่อดวงใจ...กอดกุมแท้รัก
เกี่ยวร้อยบ่วงจิตรัดรึงเงื่อนเสน่หา
สองแรงใจป่ายฝันรักเต็มศรัทธา
อุปสรรคนานา...มิอาจกั้น

ยามสองใจ...กรอมฝันรัก
อุ่นอิงพำนักจิบดื่มรักฝัน
ห่มอุ่นกอดใจกันและกัน
สุขมาพลัน...อาบซ่านใจ

เมื่อสองใจ...ปักป้ายรัก
เฝ้าฟูมฟักผลิช่องามสล้างไสว
จึงวาดช่อรุ้งฝันรักนั้น, งามสีแรระบาย
หวังแปงป้าย...สร้างฝันจริง

ยามดวงใจ...พูนฝันรัก
ต่างฝันเดียวกัน, ฝันออมรักยิ่ง
สองใจสองกายฝันหวังอุ่นอิง
เอนพักพิง...ในอ้อมฝันนั้น

เมื่ออุ่นรัก...ห่มเอมใจ
ใดใดในทุกสิ่งกล่อมหวาน
ใดใดในแท้รัก...งดงาม
โลกดุจวิมาน...สวรรค์ฟ้าฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Music, รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 01:35:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #11 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 01:35:PM »
ชุมชนชุมชน

พันธะแห่งใจ

ความรัก "...คือสองใจผูกพัน
คือฉันเธอเกี่ยวร้อยฝัน, ผูกใจสองมั่นไว้
ศรัทธาแห่งรักคือ 'พันธะแห่งใจ'
เกิดแต่สองใจ...ฝันทอรุ้งไสวสวรรค์..."

ยามอุ่นอิงในห้วงฝันรัก
สลักจิตสลักใจสลักมั่น
ตรึงจิตตรึงใจตรึงดวงมาน
รัดรึงแน่นหนัก...มิคลาย

ยามอุ่นแท้รักในอ้อมใจฝัน
กอดอุ่นแท้รักนั้น...มิรู้หน่าย
มิยินดี, ยินร้ายใด
ปรารถนาเพียงเข้าใจ...ฉันเธอ

ไม่มีนิยามใดในความรัก
ใจสองเพียรฟูมฟักปลูกฝันเพ้อ
ยามแรมร้างต่างฝันละเมอ
มีฉันเธอ, เต็มห้วงฝันนั้น

ความรักคือความรัก
เมื่อได้รักก็คือรักศรัทธาฝัน
เกี่ยวใจสองร้อยคล้องผูกกัน
พร้องมั่นภักดี 'พันธะแห่งใจ'

อย่าถาม...เหตุผลแห่งรัก
แม้ใครประจักษ์...ย่อมรู้ได้
'...ความรักคือดอกผลแห่งศรัทธาสองใจ...'
คือ 'พันธะแห่งใจ' มั่นนิรันดร์ฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 01:58:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #12 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 01:58:PM »
ชุมชนชุมชน

ปณิธานรัก

ปณิธานแห่งรักข้า
คือปรารถนาคนที่ใช่
รักแล้วรักนั้น, มิบั่นแปรไกล
จำนนคุกใจ...ในใครคนนั้น

เชื่อและศรัทธาในหัวใจ
รักใคร '...ซื่อตรงจำหลักใจฝัน
แน่นหนักเพียงอสงไขยกาล
มิร้ายรอนบั่นร้างสิเนหา...'

หากรักใครได้ผูกพัน
ทุ่มเทเพื่อรักฝันมิพรั่นสมัยค่า
ม่านมหานทีเถื่อนผาไพร, ระแหงเวลา
คิดเหิมแข่งกั้น, จะฝืนรั้น-ฝ่าข้ามไป

แบกแท้รัก, ป่ายเวิ้งธารวาร
มิท้อหวั่นประคองไต่
ซื่อในรอ ซื่อในรัก ซื่อในหทัย
รอใครที่ใช่ 'คนนั้น' เฉลยใจเผยคำ

เมื่อได้รัก, หัวใจรั้นดื้องายงม
'...หากไม่สม, ไม่ขอมีรักใดกรายกล้ำ
ยอมสังเวยพลีสิ้น, คุกใจเธอจองจำ
ให้ใจเฉาช้ำ, แห้งตาย-ไปกับกาย...'

นี่คือ 'ปณิธาน' รักหาญกล้า
จักภพนี้ ภพหน้า กัปกัลป์ไหน
จักรักเธอเสมอเพียง 'ทาสในเรือนใจ'
ตราบชีพวาย...รักเดียวนิรันดร์ฯ



จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 02:56:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #13 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 02:56:PM »
ชุมชนชุมชน

สองใจเอื้ออาทร

ไฟรักมาสุมไฟ
เผาสุมใจคุสุมทรวง
รักเอยดั่งบาศก์บ่วง
มัดผูกห่วง-กลัดปมใจ

ก่อนเอยเคยสุขเหลือ
ออมชีพเกื้อในฝันใฝ่
แต่ตัวในเปลี่ยวดาย
ผ่อนเลี้ยงกายพอสุขตน

แต่นี้-ต่อแต่ไป
มีห่วงใจ-มีห่วงคน
มัดห่วง-พะวงหน
ใช่ดื้อด้น-ใช่ดื้อไป

ก้าวเดินไปข้างหน้า
ใครห่วงหา-ใครห่วงใย
ขาดเหลือในใดใด
ใครเติมให้-ใครแบ่งปัน

รักเอยเห็นเช่นนี้
สองใจพลีเพื่อใจฝัน
ร้ายใด-พร้องฝ่าฟัน
ถักทอฝันร่วมหนจร

ร้อนรุ่มร้อนร้ายใด
ไม่ร้อนร้าย-ในรายร้อน
สองใจ-เอื้ออาทร
ผ่อนร้ายร้อนให้ผ่อนคลายฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง
[/size]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 03:14:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #14 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 03:14:PM »
ชุมชนชุมชน

ยามเธอไกล...ห่วงใย...คิดถึง

เธอจากไป...ใจห่วงถึง
เฝ้ารำพึงเหม่อชะแง้อยู่หลัง
ใจพะวงหา แต่ค่ำ, ขวบคืน-รุ่งราง
ซ่านฟุ้งไหว, เหงาคว้าง...ยามเธอร้างจร

ยังเก็บจำทุกความดี
คอยห่วงใยพัดวี, ใดทุกข์ ใดร้อน
ในใดใด ห่วงเหลือ...ห่วงอาทร
ยามไกลอรเพียรโทรย้ำใจห่วงถึง

ยามนี้แลหาชะเง้อหาย
เสื้อตัวสวยเธอซื้อให้เมื่อคราหนึ่ง
มองเสื้อตัวนั้น, ละเมอไหว-แรโศกคำนึง
เพ้อรำพึง...ฟ้องเดือนดารา

ใจห่วงหวงยามร้างจร
เคยอุ่นคำอ้อน, ถ้อยสรรหอมภาษา
จำซึ้งวันร่วมปลูกประดู่ไพรฟื้นใจนา
อุราสะทก ไหวสะท้อน ใจสะอื้นครวญ

โอ้แก้วตาดวงใจ
ยามร้างห่างไกลระกำสรวล
ทั้งที่ใจสองมิร้ายรวน
ออมรักหวง, มิพ่ายผวนแพ้ธารวาร

ยามเธอไกล ห่วงใย คิดถึง
ใจโศกคำนึง, ไหวสะท้าน
'...ทุรนทุราย...ทุกคืนทุกวัน...'
นับวันรอ, เธอย้อนคืนมาย้อนเยือนฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 04:09:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #15 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 04:09:PM »
ชุมชนชุมชน

วอนลม
(นำรักข้าห่มใจนาง...ห่มรักเรา)

วอนลมนำฝันรักแรมจร
ไปห่มใจบังอรยามหลับใหล
ลมเจ้าเอ๋ยอย่าเบือนบิดเถลไฉ
ทางแสนไกล, เร่งไว...เว้าวาน

วอนดาริกาพรั่งฟ้าระยิบพราว
เป็นเพื่อนพระพายทุกหนผ่าน
วอนจันทร์ทอแสงงามนวลนาน
ปรายแสงถ้วนถิ่นย่านส่องนำจร

วอนพิรุณเยื้องหลบทางหน
อย่าเพ่อร้อนรน, ผัดผ่อน
พอพระพายเคลื่อนพ้นผ่าน, ค่อยย้อน
มาโปรยฝนฉ่ำพฤกษ์เถื่อน

วอนลมฝากคำรักสุดคะนึง
จำมั่นถึงทุกคำถ้อยข้าเอ่ยเอื้อน
ว่ารักตรึงจิตมิร้างเลือน
เฝ้ารำพัน, พ้อดาวเดือน...เหงาฤดี

วอนลมแจ้งในรัก...ศรัทธาใจ
บอกย้ำคนไกล...ข้าภักดีมิหน่ายหนี
มั่นในแท้รัก '...ยิ่งเดือนดาราคู่ราตรี
ยิ่งคู่สุรีย์อาทรวารทิวาทอใยสูรย์สาย...'

วอนลมเร่งรุดหนสัญจร
วอนเดือนดาวอย่าร้างรอนทอแสงฉาย
นำแท้รักไปคลี่ห่มใจอรอุ่นหลับสบาย
ให้รักข้า ห่มใจนาง ห่มรักเราฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 04:11:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #16 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 04:11:PM »
ชุมชนชุมชน

ห่วงหวง...ปิ่มขาดใจ

จันทร์นวล...คืนเพ็ญ
ปรายแสงเย็นวาดเด่นนิศา
ดอกดาวพรายเปื้อนแก้มนภา
อวดแสงพริบพร่า วิบวาว...แข่งแข

เพ็ญคืนแรฟ้าแพรเพ็ญ
มิวายแหงนแขเด่นเหม่อชะแง้
เหงาร้าย, เหน็บลึกบึ้งรวงแด
เงาโศกพาด...ทาบหฤทัย

วอนจันทร์...แอร่มฟ้า
นำช่อรวงใจแห่งรักข้าไปให้
ส่งให้ถึงใจเธอ ณ แสนไกล
อย่าแสร้งเบือนไถลเร่งไคลคลา

จันทร์เจ้าเอ๋ย
อย่าเมินเฉยคำวอนข้า
เร่งรุดพลัน, อย่าเสียการ-เยิ่นเวลา
ก่อนเธอ...นิทราหลับใหล

วานจันทร์ฝากคำถ้อย
กระซิบค่อยค่อย...ใกล้ใกล้
'...ว่ารักยิ่งแผ่นดินแผ่นฟ้า, ยิ่งมหาชเลลัย
ยิ่งอสงไขยจักรวาล...'

วอนจันทร์เตือนย้ำคนไกล
มีใจดวงแท้รัก, รุ่มร้อนโศกศัลย์
'...กระวนกระวายเคียงจาบัลย์...'
ห่วงหวง ปิ่มอาสัญ ยามแรมไกลฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : จารุทัส, รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 04:56:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #17 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 04:56:PM »
ชุมชนชุมชน


เรียงถ้อย...รำพันรัก

เรียงร้อยถ้อยคำรัก
รำพันเพ้อวอนพิไรพร่ำ
มิรู้หน่ายรินคำรักพราวคำ
วอนเว้าพรอดรำพันรัก-ขวบคืน

คั้นน้ำถ้อยบำเรอยวนใจ
กลั่นคำหอมพรมฤทัยฉ่ำรื่น
กรองคำซึ้งหวานพันหมื่น
เสกคำรักรวยรื่นประโลมเจ้า

เมื่อแจ้งถ้อยคำรัก...อิ่มใจ
พร่ำรินวจีป้ายโลมเล้า
ป้อนพูนคำรักหอมแต่ค่ำเจียนเช้า
ปรุงคำรักอุ่นประหงมใจเจ้า...ลืมนอน

รินคำหวานพราวพรู
สรรน้ำถ้อยรื่นหู...เอ่ยอ้อน
โปรยคำรักหอมจรุงรื่นฤทัยอร
เซิ้งฟ้อนคำรักรำร่ายประจง-คลี่ห่ม

ชื่นใดเล่าเท่าชื่นคำรักหอม
อิ่มสร้านใจกล่อมชื่นสุขสม
หอมด่ำลึกภวังค์, หวามอารมณ์
มอมฤทัยจ่อมจมบึ้งวิญญาณ์

จวนสูรย์รุ่ง...สว่างแจ้ง
มิแล้งไร้น้ำถ้อยสิเน่หา
มิเหือดแห้งคำหอมเกี้ยวพา
มิอยากเอ่ยคำอำลายามใกล้จร

เรียงถ้อย...รำพันรัก
พร่ำคำลาช้ำเศร้าตาผ่าวร้อน
ฝากย้ำคำครวญอาบซึ้งใจอร
จำร้างจร เจียนย่ำรุ่ง สางสูรย์แจ้งฯ


จากกวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ
ผู้แต่ง สนอง เสาทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 08:18:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #18 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 08:18:PM »
ชุมชนชุมชน

สิบสองพฤศกมาส
(วิวาห์รำลึก)

(๑)
ย่างเหมันต์นอนหนาวคราวปีก่อน
ใจรนร้อนเร้าเร่งเฝ้าเร่งรัด
กระทิงเปลี่ยวเหิมห่ามเต็มกำดัด
ไฟรักโหมกระโชกพัดดุกระชั้น

(๒)
ในเปลี่ยวดายร้างคู่อยู่เหงาคว้าง
ห่มเรื้อเศร้าอ้างว้างท้อและหวั่น
วันวิวาห์แม้ผันเลื่อนผัดข้ามวัน
สามสิบปีแห่งรักนั้นฝันลมแล้ง

(๓)
ในคืนเหงาหม่นมืดฝันเหว่ว้า
เห็นดวงหน้าของเธอเต็มฝันแกล้ง
รอยยิ้มนั้นผ่องพราวอาบเรื่อแดง
กี่กำแพงเคยกางกั้นก็พลันทลาย

(๔)
“แต่งงานกันไหม” ใจสารภาพ
คือคำถ้อยง่ายงามนักซื่อเดียงใส
คือคำจริงกลั่นจากบึ้งหฤทัย
สื่อแท้นัยอย่างดื้อรั้นเริ่มฝันเรา

(๕)
ย่างเมษาหัวใจพล่านรุ่มร้อน
สู้แรมรอนบุกฝ่าไปเค้นใจเจ้า
เธอมีใครเคียงครองร่วมฝันดาว
เชยชื่นคลอพะนอเคล้าคู่ฉิมพลี

(๕)
ศกวสันต์มิถุนาฝนพร่างพรำ
จ่อมชีวันข่มกลืนกล้ำทุกข์ล้นปรี่
กระวนกระวายทุกทิวาทบราตรี
หวั่นหวาดฤดีเคว้งเปล่าจมเถ้าฝัน

(๖)
เข้าตุลาปลายฝนต้นหนาววก
สะท้อนอกวูบไหวใจท้อพรั่น
“สมัชชา” หรือ  “ฉัน” เห็นดีกัน
คำเธอยืนยันคือสุดท้ายปลายทางเรา

(๗)
อานุภาพแห่งแท้รักเธอกล้ำขืน
กลืนน้ำตาหยัดยืนข่มฝืนก้าว
สู่อกฉันเติมฝันครั้งอ่อนเยาว์
จึงวิวาห์เพื่อมีเรามีกันและกัน

(๘)
วารดิถีสิบสองพฤศกมาส
พิงแสงดาวแรวาดวิมานฝัน
ในฝันนั้นมีเราสองร่วมยืนยัน
รำลึกวันสมวิวาห์เต็มฝันรักฯ

สนอง เสาทอง
12 พ.ย. 55
อินทามระ 10

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มกราคม 2013, 09:58:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #19 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 09:58:PM »
ชุมชนชุมชน

ดอกเยื่อยางมลายวับสิ้น
(ในวันดอกแดดดกดุโคตรวายุห่า)

ดอกแดดแดงบานดกดุแต่ยามเช้า
แผดงร้อนฟาดเผาแล้งดินป่นไหม้
แพรกหญ้าเถาเลื้อยเกรียมกรอบวาย
มิผ่อนเพลาดุแผดร้ายเมื่อสายเยือน

วายุร้อนกระโชกซัดกระชักซ้ำ
ยางต้นโค่นแผ่คว่ำกิ่งใบเรี่ยเกลื่อน
ขนำน้อยคะมำซบดินทุ่งไหวสะเทือน
น้ำลายขมเฝื่อน, น้ำตาเปื้อนรวงฤดี

ยางผลิระบัดเรียงขนัดสวยเมื่อวันก่อน
แบกทุนดอกร้อน, นาบ้าน-จำนองหนี้
หวังดอกเยื่อยางพูนหวังดอกฝันชีวี
ดอกมีดยังมิพลี, ดอกหนี้ชำแรกบาน

ดุ่มเดินเหม่อหม่นกลางทุ่งแดด
ให้มันแผดให้มันเผากายเกรียมกร้าน
ให้มันเลียให้มันลามคุสุมดวงมาลย์
ให้วิญญาณยับย่อยเถ้าฝอยจุณ

ลิขิตฟ้าชะตาใดใครขีดเส้น
สังเวยเข็ญสังเวชชะตาสังวาสธุลีฝุ่น
กงกรรมเวรชะตาใดในบาปบุญ
มิเกื้อหนุนพ้นหล่มทุกข์ทัณฑ์ชะตา

แหงนเบิ่งฟ้าถามฟ้าผีป่าแถน
ไฉนสาปดินแร้นแล้ง, เสกโคตรวายุห่า
สู้ตากร้อนปลีแดดไถงป่ายเข็มเวลา
เพียรแถกคว้าพออยู่กิน-หมิ่นค่ำเช้า

ดอกแดดบานหื่นดุร่านร้ายเหลือ
ดอกเหงื่อพราวผดดอกเกลือแสบเร่า
ดอกเยื่อยางมลายวับสิ้น, ไม่เหลือเงา
ดอกเบี้ยผลิบานเช้า, งามสาย-มิวายเย็น

ดอกเยื่อยางมลายสิ้นต้นกิ่งใบเรี่ยรกดิน
ดอกเบี้ยจำนองติดปีกโผบิน, ไปสิ้นทางฯ


สนอง  เสาทอง
23 พ.ค. 55
สุรินทร์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, ชลนา ทิชากร, Thammada, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s