12 พฤษภาคม 2013, 11:05:PM |
พ.พิมพา
|
|
« เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2013, 11:05:PM » |
ชุมชน
|
@ ใจเอ๋ยโอ้ใจเรา.......... ยังเคว้งคว้างว่างเปล่าอยู่กลางหน ใจดวงเดียวเที่ยวท่องล่องว่ายวน มาหลงฟ้าหลงฝนจนชาชิน
@ ระเรื่อยเร่เห่ห่มแค่ลมหนาว ซึมซับความปวดร้าวไม่รู้สิ้น น้ำตาน้อยย้อยแก้มแต้มสู่ดิน คอยเกาะกินกัดกร่อนอยู่ค่อนวัน
@ ไร้ที่พึ่งพักพิงผิงไอรัก เหมือนเรือน้อยเสียหลักถูกผลักหัน อยู่กลางคลื่นคืนร้ายใต้เงาจันทร์ รอแค่วันอับปางเสียกลางชล
@ อยากยินยอมซ่อมแซมแต้มรอยยิ้ม ให้เต็มอิ่มอีกคราท้าลมฝน ยังกลัวใจตัวเองเกรงกมล จะทุกข์ทนเหมือนเก่าเคยเศร้ามา
@ จึงเร่ร่อนพเนจรคนร่อนเร่ สิ้นบุพเพความรักที่ไร้ค่า จะทำใจยอมรับโชคชะตา ใจเหนื่อยล้ากล้ายอมรับกับความจริง
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, สมนึก นพ, muneenoi, รัตนาวดี, สุวรรณ, D, ~ขลุ่ยกันแสง~, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, คอนพูธน, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
12 พฤษภาคม 2013, 11:39:PM |
Prapacarn ❀
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2013, 11:39:PM » |
ชุมชน
|
ลมเอ๋ย..ลมโบก หวนวิโยคพัดให้ใจเกรงกริ่ง หรือสายลมแห่งความเหงาเข้าแอบอิง ทะเลนิ่งกลับหวั่นจนครั่นครืน
ประภาคารตระหง่านตั้งริมฝั่งท่า ส่องแสงมาฝ่าลม..ยามขมขื่น หวังก็เพียงชาวเลได้เห่คืน อยู่เหนือคลื่น..ปลอดภัย ในราตรี
เฝ้านำทางไม่ห่างเห..เธอเร่ร่อน อย่าร้าวรอนหวั่นไหวใจริบหรี่ จวบรุ่งสางรอแสงแห่งสุรีย์ ห่มชีวี..รุ่งอรุณทออุ่นไอ
แซม
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พ.พิมพา, สมนึก นพ, muneenoi, รัตนาวดี, สุวรรณ, D, ~ขลุ่ยกันแสง~, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, คอนพูธน, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
Take my love, take my land Take me where I cannot stand I don't care, I'm still free You can't take the sky from me..
|
|
|
13 พฤษภาคม 2013, 01:11:AM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2013, 01:11:AM » |
ชุมชน
|
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตและผู้ที่ปรากฏในภาพ พเนจรรอนแรมอยู่กลางป่า ปกป้องพสุธาถิ่นอาศัย ทุกย่างก้าวยืนนั่งระวังภัย ห่วงอาลัยชาวประชาผาสุกมี
ย่ำบุกป่าฝ่าเขาลำเนาห้วย หาตัวช่วยนำทางกางแผนที่ เข็มทิศวางทางเหนือกำหนดดี คลาดเคลื่อนกี่องศามาแก้กัน
มาตราส่วนตัวย่อต่อขยาย ถึงที่หมายห่างไกลเท่าใดนั่น ห้าตารางแผนที่มีสัมพันธ์ เดินทั้งวันห้า กม.รอเสร็จงาน
ถึงที่พักนั่งอิงพิงเป้หลัง คอยแอบบังร่มไม้กระจายผ่าน แกะเจ้าทากตัวร้ายได้คืบคลาน ดูดเลือดเป็นอาหารจานโอชา
ใกล้ค่ำยินเสียงเพลงบรรเลงก้อง ลิงค่างร้องสลับรับทั่วป่า ครั้นยามดึกเงียบไปเสียงใหม่มา เสียงหรีดหริ่งเรียกหาคู่กลางไพร
มันช่างเหมือนตัวข้าเวลานี้ หลายราตรีหลบมาอยู่ป่าใหญ่ อยากวิงวอนหล่อนว่าอย่าร้างไป ถึงตัวไกลแต่ใจมอบให้เธอ.
นพ 13พ.ค.56
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, Prapacarn ❀, รัตนาวดี, สุวรรณ, D, ~ขลุ่ยกันแสง~, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, คอนพูธน, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, พ.พิมพา
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
13 พฤษภาคม 2013, 01:56:AM |
muneenoi
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2013, 01:56:AM » |
ชุมชน
|
ใจเอ๋ยโอ้ใจเรา........................ ........................................ ........................................ ใจเหนื่อยล้ากล้ายอมรับกับความจริง
"suthep98"
นึกว่ามีเพียงเรา ที่เปล่าเปลี่ยว ยังมีเอี่ยว สหายกลอน ผู้ร่อนเร่ นั่งเรือน้อย ลอยล่อง ท่องทะเล เหมือนไกวเปล อยู่กลางคลื่น ฝืนชะตา
หากเหนื่อยนัก พักลง ที่ตรงนี้ เทียบวารี มีหวัง ที่ฝั่งท่า บ้านกลอนไทย ไม่โดดเดี่ยว เปลี่ยววิญญาณ์ เลิกผวา เสียงคลื่น เคยตื่นกลัว
"มุนีน้อย"
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, Prapacarn ❀, สุวรรณ, D, สมนึก นพ, ~ขลุ่ยกันแสง~, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, คอนพูธน, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, พ.พิมพา
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
แต่งกลอนเพราะใจรัก หนักใจเพราะตัณหา เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน สำราญด้วยพระธรรม..
|
|
|
13 พฤษภาคม 2013, 07:55:AM |
~ขลุ่ยกันแสง~
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2013, 07:55:AM » |
ชุมชน
|
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตและผู้ที่ปรากฏในภาพ พเนจรรอนแรมอยู่กลางป่า ปกป้องพสุธาถิ่นอาศัย ทุกย่างก้าวยืนนั่งระวังภัย ห่วงอาลัยชาวประชาผาสุกมี
ย่ำบุกป่าฝ่าเขาลำเนาห้วย หาตัวช่วยนำทางกางแผนที่ เข็มทิศวางทางเหนือกำหนดดี คลาดเคลื่อนกี่องศามาแก้กัน
มาตราส่วนตัวย่อต่อขยาย ถึงที่หมายห่างไกลเท่าใดนั่น ห้าตารางแผนที่มีสัมพันธ์ เดินทั้งวันห้า กม.รอเสร็จงาน
ถึงที่พักนั่งอิงพิงเป้หลัง คอยแอบบังร่มไม้กระจายผ่าน แกะเจ้าทากตัวร้ายได้คืบคลาน ดูดเลือดเป็นอาหารจานโอชา
ใกล้ค่ำยินเสียงเพลงบรรเลงก้อง ลิงค่างร้องสลับรับทั่วป่า ครั้นยามดึกเงียบไปเสียงใหม่มา เสียงหรีดหริ่งเรียกหาคู่กลางไพร
มันช่างเหมือนตัวข้าเวลานี้ หลายราตรีหลบมาอยู่ป่าใหญ่ อยากวิงวอนหล่อนว่าอย่าร้างไป ถึงตัวไกลแต่ใจมอบให้เธอ.
นพ 13พ.ค.56ท่านร่อนเร่ พเนจร นอนกลางป่า ท่านบอกว่า ยินเสียง สัตว์ด้วยเหรอ ท่านรำพึง ถึงใคร ใคร่ละเมอ ใกล้ใจเธอ เสมอ เพ้อกับใจ ยินสำเนียง เสียงหวน ครวญหรือเปล่า เสียงขลุ่ยเศร้า ลอยละลิ่ว อย่างพลิ้วไหว ขลุ่ยเรียกนาง กลางป่าเขา ลำเนาไพร ที่จากไป ไกลห่าง จางผูกพัน ขลุ่ยโศกศัลย์ กรรแสง ทั่วแห่งหน ได้ยินยล เสียงไห้ บ้างไหมนั่น "ท่านพี่นพ" ว่าไง ในเสียงมัน ที่รำพัน พลิ้วไป ในพนา น้ำตาฟ้า ในฝัน ที่บรรเลง อีกทั้งเพลง ลาวครวญ ชวนโหยหา ธรณีกรรแสง แห่งความเศร้า โศกโศกา แล้วตามมา ด้วยเสียง..เสียงขลุ่ยเรียกนาง
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ, muneenoi, คอนพูธน, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, D, panthong.kh, พ.พิมพา
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
13 พฤษภาคม 2013, 09:43:PM |
|
|
|