กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
19 พฤษภาคม 2025, 02:49:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10
 1 
 เมื่อ: 3 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย กัลมลี* - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ

กระทู้น้อยลอยล่องมาตามลม
ฟังเอวกลมเสวนาพาเสียวไส้
แปลกจริงหนอก็มิรู้ว่าทำไม
จึงหวั่นไหวไปกับเสียงผายลมของเธอ



…กระทู้อะไรกันครับเนี่ย หึหึ…
ป.ล. หาเพลงเข้ากับบรรยากาศกว่าเพลงนี้
ไม่ได้แล้วครับ


 เอ้อ..จริงว่ะ

โซ…เซอะเซอ
18 พฤษภาคม 2568




 2 
 เมื่อ: 3 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ



...(ทวง) สัญญาหน้าฝน...


   เสียงสายฝนซัดสาดซู่
ร่างกายเปียกปอนอยู่
แต่ไม่รับรู้ถึงซึ่งความเหน็บหนาว

ยืนอย่างเคว้งคว้าง
ระหว่างเส้นทางสู่ดวงดาว
เพียงอยากถ่ายทอดความรู้สึกและเรื่องราว
ในบางครั้งบางคราวที่หัวใจซัดส่ายระส่ำ

เสียงลำนำเริ่มเทิ้มสั่นไหวคลอน
เพียงแค่มีใครรับฟังคำออดอ้อน
ฉันคงจักนอนตายตาหลับ ไปกับความปลาบปลื้ม

โอ้ความรัก…
ยากนักที่จะหักห้ามจิต ให้คิดลืม
เยี่ยงเคยลิ้มรสความด่ำดื่ม แห่งมธุรพจน์บทกวี

แม้เนิ่นนาน ผ่านเดือนคล้อยเคลื่อนไปเป็นปี
ฉันยังยืนหยัดอย่างมั่นคงพลี-
หัวใจใฝ่เฝ้ารอ

เคล้าคืนค่ำ…
นั่งฮัมเพลงบรรเลงคลอ
อย่างใจจดใจจ่อ ทวงคำสัญญาหน้าฝน
จวบจนเธอนั้นจักหวนคืนกลับมา




[สัญญาหน้าฝน : คาราบาว]


“…ฟ้าในเดือนฝนฉ่ำคงนึกขําต่อคําสัญญา
ฝนหล่นเทร่วงมา สายลมพัดพายิ่งรนร้อนใจ
ไหนว่าไปแล้วกลับหน้าฝน
ใครเป็นคนสัญญาเอาไว้
ทิ้งให้รอทุกข์ทนเท่าไหร่ คนอย่างเงี๊ยะก็มี

ฝนเจ้าจงไหลกลับ ไปรอรับคนผิดสัญญา
ฝนคอยสมนํ้าหน้า อย่าเพิ่งตกมาข้าแสลงใจ
เดือนเป็นปีล่วงผ่านไปแล้ว
แก้วตาเจ้าแหกตาใช่ไหม
รู้อย่างงี้ไม่คิดรักใคร กัดจิ้งหรีดมันกว่า

มองเห็นควายตัวผู้ตัวเมีย
คลอเคลียแล้วให้คิดอิจฉา
เป็นควาย มันไม่มีปัญญา
ปัญหาเลยไม่มี

ได้แต่หวัง หวัง หวังว่าสักวันหนึ่ง
ถึงได้คอย คอย คอยเธออยู่อย่างนี้
แล้วมาหลอก หลอก หลอกให้ฉันตายใจ
ลือไปทั้งตําบล

ถ้าฉันมีเงินทอง มากมายหลายหมื่น
คงไม่ยืนรอเธอจนฝนหมดฟ้า
ฉันจะจ้างเครื่องบินหว่านฝนลงมา
ต่อสัญญาฝนเทียม

ถ้าฉันมีเงินทอง มากมายหลายหมื่น
คงไม่ยืนรอเธอจนฝนหมดฟ้า
ฉันจะจ้างเครื่องบินหว่านฝนลงมา
ต่อสัญญาฝนเทียม

รักจนใจปี้ป่น เกิดเป็นคนทําตัวไม่เจียม
ขวัญไม่ควรคู่เรียม
ไม่เหมือนนิยายจากคลองแสนแสบ
วันที่เธอได้จากไปไกล ใครจะรู้ไปแล้วโกยแนบ
รักมันมีมากมายหลายแบบ เจ็บทั้งแสบทั้งคัน

ถึงเธอไปไม่กลับ ยังคอยนับวันเดือนข้างฝา
ปฏิทินดารา ยังส่งยิ้มมาถากถางหัวใจ
โดนเขาคาบไปหม่ำเสียแล้ว เอ็งไม่ต้องทําสงกะสัย
หลงเมืองกรุงทั้งยาวทั้งใหญ่ จ้างก็หาไม่เจอ

หลงเมืองกรุงทั้งยาวทั้งใหญ่ จ้างก็หาไม่เจอ…“


…เจอฝนถล่มหนักทุกวัน
จึงขอหยิบกลอนเก่ามาแต่งใหม่
ทวงสัญญาหน้าฝนจากใครบางคน…


โซ…เซอะเซอ
18 พฤษภาคม 2568



 3 
 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2025, 10:01:PM 
เริ่มโดย กัลมลี* - กระทู้ล่าสุด โดย PIKuL
ตัวอักษรลอยมานำพากลิ่น
เสียงที่ควรได้ยิน..จนจิตหลอน
น้ำหอมใดไม่มีผลจนหลับนอน
กลิ่นยังย้อนเข้าความฝัน...ยันลืมตา

นี่น่ะคือคือเสียงใจทั้ง 4 ห้อง
ใครเล่าหนอมาจับจองอยากเห็นหน้า
หากจะรัก..รักที่ใจ..ใช่ตดมา
หากตดกลับ..ก็อย่าว่าแล้งน้ำใจ. อิอิ


 4 
 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2025, 09:55:PM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย PIKuL
อารมณ์ จิตใจ ให้คิดบวก
ตาบอด หูหนวก ในบางสิ่ง
มองข้าม หลบหลีก อย่าช่วงชิง
ความโลภ ละทิ้ง สิ่งล่อลวง.



 5 
 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2025, 10:34:AM 
เริ่มโดย manachida - กระทู้ล่าสุด โดย toshare

ขอเป็น กลอนหก นะครับ

@ รักเมตตา หล้า"สรวง"สร้าง
รู้ ! แม้"ต่าง" สรรค์สร้าง"สรวง"
ตัด"กู"นั้น บั่นเลวลวง
"ตน"ก่อหน่วง สกัดลวงเลว

@ เมตตารัก ผลักเหวทุกข์
ไมตรี รุก พ้นทุกข์เหว
"กู" ตนลุ ละเพลิงเปลว
กัน"ตู"เหลว ขจัดเปลวเพลิง

* ขอเพิ่มเกณฑ์
กลบท จตุรงคยมก ด้วยครับ


 6 
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2025, 05:19:PM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย toshare

จตุรงคยมก

[จะตุรงคะยะมก]
น. ชื่อกลอนกลบทโบราณ
มีบังคับพิเศษคือ
ทุก ๆ ๒ บทให้ใช้ภาษาบาลีแต่งวรรคแรกทั้งวรรค
และวรรคที่ ๒ เฉพาะจังหวะแรก

ตัวอย่างว่า

ภุมมาจายันตุเทวา
ภุมมะจาเจ้าที่บดีสูร
อารักษ์เรืองฤทธิ์เดชเกษสกูล
อันเรืองรูญรังษีระวีวร.
(ชุมนุมตำรากลอน)


กลบทจตุรงคยมก 
"กลบทศิริวิบุลกิตติ์"
โดย หลวงศรีปรีชา (เซ่ง)

# ยักขะคันธรรพนาคา 
ยักษ์คณาคนธรรพ์อันเสร็จสรรพ ทั่วโลกล้วนนาคครุฑมนุษย์นับ     
เที่ยวเลี้ยวลับเลื่อนล่วงจงจ้วงใจ
     
# มามุ่งมองย่องหยิบเปนทิพญาณ
 มากมาดหมานหมายจิตรเราพิสไมย
แจ่มแจ้งจิตรใจจัดศรัทธาใน       
จอดจริงใจจิตรมั่นกตัญญู



จะขอ นำเสนอ ในรูปแบบ  กลอนหก ครับ

@ รักเมตตา พาปันแบ่ง
รู้"มั่น"แต่ง สรรค์สร้าง"สรวง"
ตัด"กู"นั้น บั่นหลอกลวง
"ตน"ก่อหน่วง ถ่วงเกื้อกูล

@ รักเมตตา อารีก่อ
เร่งมุต่อ "รัก" บ่สูญ
ตัว"กู"พลัน สรรค์จรูญ
"ตน"ก็พูน สงบครัน



 7 
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2025, 07:44:AM 
เริ่มโดย manachida - กระทู้ล่าสุด โดย manachida
กลบทคะนองรำ

 & นาวากล &

  อันวลีที่นำคำเอ่ยเอื้อน
ดังเปรยเยือนเยัาหน่อยคอยเปล่งเสียง
กริ่งกมลยลหยั่งฟังเพลงเคียง
นึกเกรงเพียงเพื่อเพิ่มเติมเลบง

       สายธารกลค้นคว้ามาเอื้อนเอ่ย
       มาร่ำเปรยเปลี่ยนรับกับเสียงเปล่ง
        แผ่ขจายร่ายคู่อยู่เคียงเพลง
        จึงเพียงเกรงกลัวหลงพะวงไป

สดับแล้วแว่วแว่วแล้วสรวลเส
ชักชวนเห่คะนองรำร่ำขานไข
สลับพจน์รจนาว่ากานท์ใจ
วิมานในรั้วฝันวันเบ่งบาน

        เชิญเรามาพากันสันต์เสสรวล
        ร้องเห่ชวนลำนำร่ำไขขาน
        อักษรซ่อนกลอนกลบนใจกานท์
        และในมานนักเขียนเพียรประพันธ์
   
              ครูแดง
 เคารพรัก

สวัสดีค่ะ คุณtoshare, คุณโซ....เซอะเซอ  ขอบคุณค่ะ

 8 
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2025, 06:25:AM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


...ชั่วนิจนิรันดร...(ย้อนอดีต)

“...ฉันรักเธอแม้เทียบเสมอกับดวงชีวิต
รักเธอชั่วนิจนิรันดร
แม้เธอห่างไกลใจก็หวงห่วงนิวรณ์
ถึงแม้ม้วยมรณ์ ไม่ถอนรักที่มี

รักฉันนั่น เหมือนดั่งตะวันมั่นรักฟากฟ้า
รักดังหมู่ปลารักวารี
เหมือนดังกับแหวนแสนจะรักแก้วมณี
เหมือนขุนคีรีสวาทพื้นดินเดียวกัน

มากมายราวกับห้วงมหรรณพ
มิรู้จบดังกับมีทำนบกั้น
แต่มั่นคงเหมือนดั่งสิงขร ซ้อนแผ่นดินนั้น
ทั้งความซื่อสัตย์ มัดใจคงมั่น
ดั่งตะวันซื่อต่อฟ้า

ฉันรักเธอ แท้จริงเสมอไม่ลวงให้หลง
รักฉันมั่นคงดังวาจา
เห็นใจฉันเถิดหนอ ขอมอบไว้ให้สัญญา
ฉันจะบูชาชั่วนิจนิรันดร
ชั่วนิจนิรันดร ชั่วนิจนิรันดร...”


[ชั่วนิจนิรันดร : คำร้อง/ทำนอง : พยงค์ มุกดา]




   อรุโณทัยทอแสงแห่งรัก
โผล่มายิ้มทายทักเหมือนรักเก่า
ที่แม้เนิ่นนานนั้นมิบรรเทา
ยังความเศร้าส่งคะนึงถึงมิลืม
   คราหวนอ่านอักษรกลอนลายสือ
มักคุ้นคือรสสวาทเยิ้มหยาดปลื้ม
คอยสอดแทรกทรวงผสานคำหวานยืม
พจน์ด่ำดื่มพร่างฝันพรรณนา
   พร้องเพรียกกาลพักสะดุดหยุดกับที่
เพื่อวารีพลิกฟื้นพื้นภูผา
ด้วยงดงามความรักมั่นศรัทธา
ย้อนเวลาคืนสู่ฝัน…นิรันดร

  ย้อนรอยอดีตเรื้อง………..บรรเลง
คลอสดับเสียงเพลง.…….…เก่าละเน้อ
ระบายบอกรักเกรง…………ร้างกร่อย
ได้แต่เขียนกลอนเพ้อ………พลอดฟ้าอุษาสาง



…ย้อนกลับไปอ่านกลอนเก่าๆ
พร้อมฟังบทเพลงซึ้งๆ กับเสียงใสๆ
เป็นธรรมชาติของนักร้องสมัครเล่น
เลยอดไม่ได้ที่จะหยิบกลอนเก่ามาปัดฝุ่น
ขัดเกลาใหม่มาลงอีกครั้ง…


โซ…เซอะเซอ
14 พฤษภาคม 2568



 9 
 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2025, 09:59:PM 
เริ่มโดย manachida - กระทู้ล่าสุด โดย manachida
(กลบทถ้อยสลับ)

     ฟ้าหลังฝน
    -----------------

พิรุณโปรย โรยรํ่า ชื่นฉํ่าฟ้า
      พระพายพา พลิ้วผ่าน ม่านฟ้าฉํ่า
            สายรุ้งโค้ง โยงสวย อวยอิงนำ
                  พฤกษาลํ้า เลิศหรู ชูนำอิง

สกุณา อาทร อ้อนยิ่งสม
      เพลงไผ่พรม เพริศพร ย้อนสมยิ่ง
            ชวนเคล้าคลอ พ้อแอบ แนบพักพิง
                   ก้านเกยกิ่ง สิ่งส่ง คงพิงพัก

สายธารนอง ล่องไหล ให้หลักแหล่ง
       กุหลาบแดง แต่งแต้ม แย้มแหล่งหลัก
             เปิดเผยความหวามวาบซาบซึ้งรัก
                   บัลลังก์ศักดิ์ ชีวิต พิศรักซึ้ง

ฟ้าหลังฝน ดลใจ ใฝ่ถึงอยู่
      โลกเชิดชู รู้ชัด หยัดอยู่ถึง
              ธรรมชาติ หยาดหยด บทตราตรึง
                     นับเป็นหนึ่ง ในฝัน อันตรึงตรา

                                 "ต้นสาย"
                                      13/5/68

- อ.มนชิดา  พานิช  สร้างสรรค์
- ต้นสาย ธารา  ประพันธ์

ขอของคุณ คุณต้นสายมากค่ะที่อนุญาตให้นำมาลงในบ้านกลอนไทย

 10 
 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2025, 09:52:PM 
เริ่มโดย Soonjun - กระทู้ล่าสุด โดย Soonjun
๐สิ่งที่ถูกบันทึก๐

รอยเหยียบย่ำบนผืนทราย
ต่อให้คลื่นจะช่วยกลบทำลาย เป็นหมื่นหน
แต่สิ่งที่ผืนทรายจดจำ คือการเยียบย่ำจากเหล่าผู้คน
นับร้อยนับพันที่เวียนวน ตลอดมา

คงเหมือนเรื่องราวในหัวใจ
สิ่งที่ถูกบันทึก ไม่ใช่ใคร ที่ทำให้หัวใจปวดปร่า
แต่เป็นเรื่องราวเก่าเก่า ที่บอกเล่าพรรณนา
เป็นภาพจำที่ย้อนกลับไปกลับมาเหมือนละคร

อาจจะผิดที่ฉันเองไม่ยอมตัดใจ
ฉันคงสับสนเกินไป หรืออาจเพราะหัวใจไหวอ่อน
น้ำเสียง ถ้อยคำ ยังคงตอกย้ำเมื่อล้มตัวลงนอน
ภาพฝันยังเล่าเรื่องราวทุกตอนไม่เคยจาง

ต่อให้ใครมาลบเรื่องราวเหมือนผืนทราย
หรืออีกกี่ผู้คนมากมายบนโลกกว้าง
ช่วยลบเรื่องราวนับร้อยพัน ให้ภาพเหล่านั้นเบาบาง
แต่สิ่งที่กลับชัดเจนขึ้นทุกอย่าง. . .คือภาพเรายังเดินเคียงข้าง. . .ในความทรงจำ





ถึงหาดทรายจะเต็มไปด้วยร่องรอยดาดดื่น..
และมีเพียงเกลียวคลื่นคอยกลบกลืนอยู่ซ้ำซ้ำ..
กับอีกร่องรอยในทะเลทราย..
ที่เลือนหายเพราะมีสายลมเหนี่ยวนำ
ทุกร่องรอยทุกการกระทำ..
ไม่ได้ถูกจดจำ..
แต่ถูกกลบฝังด้วยจำนวนของเม็ดทราย

เหมือนเรื่องราวที่ผ่านมา..
บ้างก็ค้างคา..
บ้างก็งามคุณงามค่าจนไม่อยากให้เลือนหาย
บ้างก็เจ็บช้ำคับแค้น..
สุมแน่นจนคิดว่าไม่อาจจางคลาย
แต่เชื่อเถอะว่า..เรื่องราวทั้งดีและร้าย
จะกลายเป็นธรรมดา ด้วยเวลาที่คอยกลบกลืน..

แล้วจะเกิดเรื่องราวและร่องรอยใหม่ใหม่
วนเวียนไปอยู่อย่างนี้..อย่างที่ใจไม่อาจฝืน
และความรู้สึกค้างคา..
งามคุณงามค่าก็จะหวนคืน..
เจ็บช้ำคับแค้นกล้ำกลืน..
ยังคงฟื้นตื่น..รอให้เวลากลืนกิน..

ความจริงของโลกย์เป็นอยู่อย่างนี้..
เป็นวิถีความเพลินในยินดี..ไม่มีวันจบสิ้น
ถ้าหน่ายความซ้ำแล้วซ้ำเล่า..
ก็จงอย่าทิ้งรอยเท้าไว้บนผืนทรายผืนดิน
ความรักความชังที่ก่อแรงถวิล..
ปล่อยวางลงทั้งสิ้น..
จะได้คุ้นชินกับความเป็นอิสระของใจ..

สวัสดีครับคุณเฮยอิง ขอบคุณที่ร่วมกระทู้นะครับ

หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s