O โคลงสี่สุภาพ O
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
18 เมษายน 2024, 09:27:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: O โคลงสี่สุภาพ O  (อ่าน 3893 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
05 ตุลาคม 2018, 06:59:AM
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« เมื่อ: 05 ตุลาคม 2018, 06:59:AM »
ชุมชนชุมชน



O เจ้าเอย .. O






O เย็นเยียบงันเงียบล้วน - - - สูญสลาย
เมื่อเริ่มแสงกำจาย - - - จับฟ้า
ลบเลือนมืดหม่นกลาย - - - ย้อนกลับ
ให้โลกรู้เจิดจ้า - - - จับจ้องรัศมี ฯ

O มวลรสมาศไม้แห่ง - - - แดนวสันต์
เหมือนกรุ่นกลิ่นโลมขวัญ - - - ฝากรู้
ให้รื่นรสเขมะพรรณ- - - - ผ่านแนบ ทรวงเฮย
ก่อนเนตรปลาบแววชู้ - - - วาบเร้ารุมถวิล ฯ

O ค่อยค่อยเผยพักตร์พริ้ม - - - เพรา-พะนอ
แข่งเรื่อราศีทอ - - - กระทบ-ไล้
รูป, จักขุ, พรรณลออ - - - ราวแอบ อกแม่
หอมจึ่งอุ่นอกไว้ - - - ระหว่างเช้าเชิญคะนึง ฯ

O รูป, จักขุ, กระทบแล้ว - - - เลือนฤา
ปรุงแต่งกระโหมฮือ - - - กระหึ่มเร้า
รูปใดเล่าที่กระพือ - - - กระเพื่อมอยู่
เห็นแต่รูปนาม-เฝ้า - - - ใฝ่ละห้อยคอยเห็น ฯ

O รูปนาม, นันทิ, ตั้ง - - - ต่อผสาน บทเนอ
แรกจักขุวิญญาณ - - - ผัสสะ, รู้
เนตรเหลือบสบ, สังขาร - - - ปรุงแต่ง
ลอบ, หลบ, สบ, ตอบชู้ - - - ชื่นล้ำคำเฉลย ฯ

O ลอบ, เหลือบ, หลบ, สบต้อง - - - แววตา
โลมลูบใจ, บัญชา - - - เร่งเชื้อ
เร้นเลศเมื่อชม้อยหา - - - เพรียกห่วง ใยแม่
จักขุ, รูปนิ่มเนื้อ - - - นิ่งเชื้อเชิญประชัน ฯ

O ลมคงร่ำผ่านคล้าย - - - เสียงครวญ
เมื่ออีกใจเฝ้าหวน - - - ห่วงละห้อย
สรรพเสียงสุโนกจวน - - - จบโสต
เมื่อรูปเนื้ออ่อนน้อย - - - แนบไว้-นิวรณ์, หวัง ฯ

O กำแพงใดก่อขึ้น - - - ขัดขวาง
จักล่มลับอับปาง - - - ปลาตสิ้น
เยื่อใยเหนี่ยวรั้ง, กาง - - - กั้นอยู่
ขวากแค่เพียงกระผีกริ้น - - - อาจรู้กั้นหรือ ฯ

O คอยเถิดความห่วง, พ้น - - - พรรณนา
จักเร่งโหมฤทธา - - - โอบล้อม
เช้าจดค่ำจวบวา- - - - ระนิท ราแล
รสรื่นกุสุมาลย์, พร้อม - - - แวดล้อมอาลัย ฯ

O แต่นี้-หวง, ห่วงละห้อย - - - จักเห็น
เช้าจดสายบ่ายเย็น - - - ยั่ว-ย้ำ
ค่ำคืนครุ่นคิดเอ็น- - - - ดูแม่ แลแม่
คอย-รูปพักตร์ล่วงล้ำ - - - อย่ารู้เลือนสลาย ฯ

O ย่อมมาดหมายร่นฟ้า - - - มาจบ
รั้งเหนี่ยว-วัน, พระลบ - - - ผุดล้อม
แผ่นดินแผ่นน้ำตลบ - - - ตะล่อมกัก กุมเนอ
สังคีตครวญแผ่วพร้อม - - - ผูกให้-ห่วง, ถวิล ฯ

O ถึงแม้นอยู่ต่างฟ้า - - - ต่างฝัน
โลกกลับหมุนพลิกผัน - - - ผูกไว้
เยื่อใยทอดรัดพัน - - - ผูกเงื่อน นั้นนา
เกินอาจแกะแก้ได้ - - - นับด้วยนิรันดร ฯ

O จันทร์เพ็ญลอยเด่นฟ้า - - - ฝ่ายาม
เมื่อรูปเนตรน้ำวาม - - - วับเต้น
โอภาสแห่งจันทร์งาม- - - - งดอยู่
ด้วยเลศในเนตร-เว้น - - - วาบนั้น, ทำไฉน ฯ

O ชื่นเอยแต่เมื่อต้อง - - - แววตา
เผยเลศชู้ขจ่างมา - - - มอบไว้
ลอบ, หลบ, สบ, ตอบ, ครา - - - ครั้งหนึ่ง นะแม่
ถ้วนนรกหกฟ้าไซร้ - - - ดั่งสิ้นดับสูญ ฯ

O เจ้าเอย, จนดับ, ทิ้ง - - - ทรมาน
หรือตราบรอบสังขาร - - - หยุดสร้าง
เอกภพจักรพาฬ - - - พาล่ม ลาญแล
ไฟนอกโลกแล่นล้าง - - - อาจล้างอาลัย ฯ


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2015&date=05&group=5&gblog=53

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ระนาดเอก, Mr.music

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 ตุลาคม 2018, 06:37:PM
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« ตอบ #1 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2018, 06:37:PM »
ชุมชนชุมชน



O ที่ปลายปีกนก .. O





O ปักษีเสาวเลขล้วน - - - เริงลม
เมื่อสุดสิ้นรอบผทม - - - ทั่วหล้า
ปลายปีกคลี่เสพสม - - - สางรุ่ง
แสงแรก, ผู้ครองฟ้า - - - ส่อง, ร้องระงมเสียง ฯ

O หลัง-ปอยผมหล่นล้อม - - - รูปพักตร์
หน้าผากจดนิ้ว, มรรค - - - มุ่งรู้
ธรรมพุทธะจำหลัก - - - ลงจิต
โลกบัดนั้น, เหลือผู้ - - - เพ่งรู้, พิมพ์รอย ฯ

O รื่นรมย์ด้วยเลศเฝ้า - - - แฝงรอย
เหลือบ, หลบ, เนตรปริบปรอย - - - ปลาบ, สะท้อน
เผย-รูป, พฤติ- ตาม, ทยอย - - - ยั่วหยอก
สุมอกให้รุมร้อน - - - ระหว่างห้วงละห้อยเห็น ฯ

O สายลมแผ่วจบริ้ว - - - เรียวขน นกแล
เมื่อรูป, พฤติ-อลวน - - - แวดล้อม
ปลายปีกนก, ใจคน - - - ไหว, หวั่น-
หวั่นว่า-รูป, พฤติ-พร้อม - - - เพรียกให้คอยคะนึง ฯ

O ปีกนกโบกเบียดฟ้า - - - ลอยฝูง
เมื่อรูปนาม-จับจูง - - - จิตไว้
เนตรลอบเหลือบ, ฟ้าสูง - - - ใสสว่าง
ตาสบ, หลบ-สะเทิ้นไซร้ - - - สร่างสิ้นฤาเขษม ฯ

O ลำลมโลมลูบริ้ว - - - เรียวขน นกเนอ
เมื่อคลี่ปีกบินบน - - - เบียดฟ้า
คำนึงนึก, ใจคน - - - ครวญอยู่
ครวญครุ่นคิดแต่หน้า - - - หนึ่งหน้านวลเดียว ฯ

O ตาสบ, ตาสื่อให้ - - - หวนคะนึง
แก้มอิ่มดั่งคอยรึง - - - รัดไว้
เนตรวามวับทอดถึง - - - ประเทียบบท
เรียวปากราวแย้มให้ - - - ห่วงละห้อยพลอยกระเหิม ฯ

O ถ้วนสิ้นความผ่องแผ้ว - - - เมื่อเผย
หอมกว่าช่อมาลย์เคย - - - ชิดใกล้
ต้องลมร่ำ, รำเพย - - - รส, กลิ่น
งามรูป, หอมรส-ให้ - - - ห่วงน้อยหวานหอม ฯ

O ปลายปีกบางคว้างลิ่ว - - - ลอยลม
เมื่อสบเนตรปลาบคม - - - เหลือบค้อน
ปีกนกโบก, อภิรมย์ - - - รออยู่
รอ-ว่าแววเหลือบ-อ้อน - - - ออดให้พะน้าพะนอ ฯ

O ชั่วแววตาหลบ, สะเทิ้น, - - - ทรมาน-
ย่อมจากเหตุสังขาร - - - บีบเค้น
เมื่อ-ตา, รูป, วิญญาณ - - - สัมผัส
สบรูป, รูปลอบเร้น - - - แต่งแต้มแววตา ฯ

O เมื่อวางชาติภพล้อม, - - - อาลัย-
ย่อมเอ่ออาบดวงฤทัย - - - ท่วมท้น
ถ้อยคำ, ทุกความนัย - - - คะนึงอยู่
ค่อยเอ่อขึ้นตราบล้น - - - แหล่งห้วงเสน่หา ฯ

O ปลายปีกยังโบกโล้ - - - ลมบน
เมื่อเนตรวามว่าย-วน - - - ไป่เว้น
เนตรเหลือบ, เนตรสบ-สน - - - ธิรูป นามเฮย
ก่อรูปนามบีบเค้น - - - บีบคั้น-ครวญคะนึง ฯ

O ลมร่ำอยู่ค่ำเช้า, - - - ฉันทา-
ก็ก่อแรงปรารถนา - - - เหนี่ยวรั้ง
สางรุ่งตราบถึงรา- - - - ตรีมืด ค่ำแม่
ปีกนกโบกทุกครั้ง - - - เปรียบคล้ายแรงถวิล ฯ

O จากเหลือบ, หลบ, สบ, ต้อง - - - แววตา
จนรับรู้ปรารถนา - - - อ่อนน้อย
บัดนี้ท่วมทรมา- - - - ถวิลแม่ แลแม่
ทุกช่วงยามผ่านคล้อย - - - ข่มละห้อยฤาหาย ฯ

O ลบเลือนช่วงหม่นไข้ - - - ลำเค็ญ
ด้วยรูปลำเพาเพ็ญ - - - เพิก, ล้าง
ฟ้าสูง, ปีกนก, เอ็น - - - ดูร่วม ยามเฮย
ลายเมฆ, ปีกร่อนคว้าง, - - - นึกหน้า-รอถนอม ฯ

O หยัดยืนใต้ขอบฟ้า - - - สีคราม
คำกลั่นกรองเป็นความ - - - ฝากไว้
ตราบวันส่องแสงงาม - - - งดอยู่
จักจืดจางร้างได้ - - - แต่ด้วยชีพสูญ ฯ

O เหลือบ, หลบ, สบเนตรซึ้ง - - - สื่อนำ
เคลื่อนรูป, เคลื่อนนาม, สัม - - - ผัส-รู้
สายใยถักทอ, กำ - - - หนดจิต แลแม่
เกินเคลื่อนคลายสวาดิชู้ - - - แต่รู้-เกินสลาย ฯ

O คำ, ความ, กรองกอปรให้ - - - หวาน, หอม
เช่นช่อเกสรพะยอม - - - ยั่ว-เย้า
คันธารส, ฤาออม - - - อดอยู่ นะแม่
เห็นแต่โรยกลิ่นเร้า - - - รื่น-ล้อมถนอมขวัญ ฯ

O กรองคำเอากอปรร้อย - - - รวมพจี
ยกภาษ, บวงวาที - - - ทิพไท้
สบ-ถ้อยสื่อ, ไมตรี - - - ตรึงอก แม่เนอ
เกินเคลื่อนคลายออกได้ - - - นับด้วยนิรันดร ฯ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2015&date=15&group=5&gblog=55

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 ตุลาคม 2018, 01:53:PM
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« ตอบ #2 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2018, 01:53:PM »
ชุมชนชุมชน



O กลางสายลมร่ำ .. O





O กรองคำนำกอปรร้อย - - - รวมพจี
ยกภาษ, บวงวาที - - - ทิพไท้
สบ-ถ้อยสื่อ, ไมตรี - - - ตรึงอก แม่เนอ
เกินเคลื่อนคลายออกได้ - - - นับด้วยนิรันดร ฯ

O เมื่อเห็น, เมื่ออ่านแล้ว - - - ยากเลือน
ทุกนึกคิดคอยเตือน - - - ตอบถ้อย
ยามห่างยิ่งห่วงเสมือน - - - มนต์เพรียก หาแม่
ถวิลแต่เนื้อความร้อย - - - สื่อรู้อารมณ์ ฯ

O สารสยามพากยะพร้อง - - - รำพัน นี้ฤา
หมายเพรียกเบญญาสวรรค์ - - - แวดล้อม
รูปนาม-นฤมิตบรร - - - เจิดสู่
เพื่อจิตวิญญาณน้อม - - - แนบห้วงเสน่หา ฯ

O ลมร่ำ, แดดแรกเช้า - - - เรื่อทอ
เสียงนก, รูปนวลลออ - - - แว่ว, ชม้อย
อกนี้, รูปนามพะนอ - - - แนบอยู่
จากรูป-จนห่วงละห้อย - - - ห่างด้วยถวิลถึง ฯ

O สายลมพรมผ่านไล้ - - - โลมวรรณ
นกแผ่วเสียง, กรุ่นคัน- - - - ธะรส-ล้อม
คำนึง, รูปนวล, นัน- - - - ทิร่วม กาลนา
โอบรูป, เหนี่ยวรูป-น้อม - - - แนบซึ้งตรึงทรวง ฯ

O ลมเอยพรมผ่านไล้ - - - โลมองค์
โอบอกใจคอยพะวง - - - วุ่นว้า
ทุกนิ่งนึก, จำนง - - - อกอุ่น โอบเนอ
เกินหยุดแรงไขว่คว้า - - - อยู่เฝ้าถนอมขวัญ ฯ

O ลมเอยพรมผ่านไล้ - - - โลมนวล
โอบอกใจเฝ้าครวญ - - - คร่ำชู้
ยามห่าง-นึกแต่หวน - - - หารูป นั้นเนอ
ให้นรกหกฟ้ารู้ - - - ห่วงละห้อยคอยเห็น ฯ

O ชื่นกลิ่นคันธรสล้อม - - - โลมยาม
แต่เมื่อเนตรแฝงความ - - - ฝากย้อน
สบ-สื่อกอปรเลศวาม - - - วับอยู่
อกบัดนั้นจึงสะท้อน - - - สั่นด้วยแรงเขษม ฯ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2015&date=19&group=5&gblog=56

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ดอกกระเจียว, พี.พูนสุข, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 ตุลาคม 2018, 06:29:PM
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« ตอบ #3 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2018, 06:29:PM »
ชุมชนชุมชน



O หอมกลิ่นบุปผชาติ .. O





O พากย์กรองหมายกล่อมให้ - - - ห่วง, ถวิล
คอยรสความหลั่งริน - - - รัดล้อม
เพื่อโลกแวดล้อมภิน - - - ทนาล่ม สิ้นเฮย
เพียงพี่เหลืออยู่พร้อม - - - รักพ้นพรรณนา ฯ

O เจ้าเอย-ความออดอ้อน - - - อวลนัย
แต่เมื่อความอ่อนไหว - - - แว่ว-รู้
จนโลกแตกดับไป - - - เป็นอื่น
หวัง-จิตวิญญาณชู้ - - - อย่ารู้เลือนสลาย ฯ

O พิมพ์ดวงเจ้าอ่อนด้อย - - - เดียงสา
ตื่น, รับรู้รมยา - - - ยั่วเย้า
ทุกข์โลกถูกล่มคา - - - แขขับ แสงแล
เสียงคีต, เสียงวอนเว้า - - - แว่ว-สะท้านสะท้อนเสียง ฯ

O อาวรณ์ไหวหวั่นชู้ - - - เชยขวัญ
เหยียบโลกยอสรวงสวรรค์ - - - หล่นล้อม
คีตครวญแผ่ว, แว่วบรร- - - - ลุโสต
ครวญแผ่วนั้น-แผ่วพร้อม - - - ผัสสะสร้อยเดียงสา ฯ

O เสียงเอยเสียงโอดอื้น - - - เอาทาร
เพรียกสิทธิ์รสกุสุมาลย์ - - - มอบให้-
ทรงสิทธิ์ครอบวิญญาณ - - - ให้สยบ ยอมเฮย
สืบโลกทุกโลกไว้ - - - ยากเว้นวางถวิล ฯ

O รูปองค์, ความออดอ้อน - - - อวลสมัย
แววตื่นตอบอ่อนไหว - - - วาบเต้น
เกสรารูปแฝงใบ - - - หอมกรุ่น นั้นนา
ผึ้งภู่อาจ-ละเว้น - - - ยากเว้น .. คือเรียม ฯ

O เรณูหอมรื่นล้อ - - - ริ้วลม
หอมกว่า, เมื่อปรารมภ์ - - - รูปเจ้า
ภู่ผึ้งตฤปหวาน, จม - - - จ่อมอยู่
หวานกว่า, ความวอนเว้า - - - กระซิบไว้ประโลมหวัง ฯ

O ลมโรยคันธะรสแต้ม - - - ติดทรวง
แล้ว-ย่อมเพียงสุดาดวง - - - เด่นหน้า
ตรึงรูปติดใจหวง - - - หาอยู่
ช่วย-ดับดาวทั่วฟ้า - - - ร่วมฟื้นแรงฝัน ฯ

O ศัพท์เสียงกระซิบเนื้อ - - - นัยความ
นั้น-เปิดโลกคุกคาม - - - บีบเค้น
เหนี่ยวใจจดจ่องาม - - - เงียบอยู่
วามทั่วแววตอบเต้น - - - อาจเร้นซ่อนหรือ ฯ

O อบอวลคำเอ่ยอ้อน - - - ออดแสดง
แผ่วกระซิบความแฝง - - - ฝากชู้
เยี่ยงหวานสุมาลย์แจรง - - - จรดหยาด
ผึ้ง, ภู่, คน แต่รู้ - - - หลั่งน้ำใจสนอง ฯ

O ปีกบางหรุบปีกล้อม - - - ละอองหวาน
ตฤปรสกลางช่อมาลย์ - - - แมกไม้
อกอุ่น-อุ่นเนื้อคราญ - - - ครวญ-กล่อม
แตะรูปตฤปรสให้ - - - ห่วงละห้อยคอยหา ฯ

O ผาณิตเพรียกภู่น้อม - - - แนบพะนอ
เมื่ออีกงามประหนึ่งรอ - - - รับรู้
อุ่นเนื้ออุ่นนวลลออ - - - อิงแอบ
เผยรูปร่ำรอชู้ - - - ชิดเนื้อนวล .. ถนอม ฯ

O หอมกรุ่นกลีบดอกเชื้อ - - - เชิญภมร
แต่เมื่อเสียงเว้าวอน - - - แผ่ว-กระชั้น
แยกฤา-สุมาลย์, สมร - - - หอม-อุ่น
เสียง, อุ่น, หอม-ยามนั้น - - - ประณีตล้ำคำแถลง ฯ

O แล้วเล่าหลังตฤปรู้- - - รสสุคนธ์
เบิกบทความอลวน - - - ว่อนล้อม
แล้วเล่าจากอนุสน- - - - ธิรูป
เพรียกจิตวิญญาณพร้อม - - - ปลีกพ้นนิพพิทา ฯ

O แผ่วพลิ้วลมผ่านไล้ - - - โลมผกา
ระริกรูปปีกภุมรา - - - ร่อนล้อม
แผ่วเสียงออด, เพรียกนา - - - สิกรับ รสแม่
รับรสแห่งรูป, น้อม - - - แนบไว้รองถวิล ฯ

O ศัพท์เสียงกระซิบอ้อน - - - อบอวล
เหนี่ยวจิตวิญญาณครวญ - - - คร่ำชู้
เกสรรูปหอม, หวน - - - หาภู่ นั้นเนอ
ผาณิตมาลย์ย่อมรู้ - - - เหนี่ยวรั้งรอยภิรมย์ ฯ

O คันธรูปแย้มกลีบเชื้อ - - - เชิญภมร
ลมแผ่วลูบเกสร - - - สั่นพลิ้ว
ฉันทารูปเตรียบกร - - - กอดเกี่ยว
ซ่านแผ่วเป็นริ้วริ้ว - - - รูป, เนื้อ-รอถนอม ฯ

O กลีบช่อคันธรสช้อย - - - รอเชย
พลิ้วผ่านลมรำเพย - - - แผ่วฟุ้ง
เรียวรูปอ่อนเนื้อ, เกย - - - ก่ายอยู่
รอเหยียดก้าวเหยียบรุ้ง - - - รอบคุ้งขอบขันธ์ ฯ

O แอบ-อุ่นนวลอ่อนน้อย - - - นงพะงา
พิมพ์รูปรสตฤษณา - - - เหนี่ยวรั้ง-
ให้โลกล่มลับคา - - - เสียงคร่ำ ครวญเนอ
อย่างแผ่วเบาซ้ำครั้ง - - - ข่มละห้อยฤๅหาย ฯ

O หอมเอยกลางแห่งห้วง - - - เสน่หา
กลบรูปรสกุสุมา - - - มอดเชื้อ
อวลกลิ่นกล่อมถึงนา- - - - สิก-รูป
ให้รับรอง, โอบเอื้อ - - - อุ่นเนื้อนวลนิรันดร์


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=01-2013&date=06&group=5&gblog=42

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 พฤศจิกายน 2018, 07:30:PM
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« ตอบ #4 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2018, 07:30:PM »
ชุมชนชุมชน



O สังสาระกระแส .. O





O เบญจางค์ประดิษฐ์น้อม - - - นอบกร
นบดิลกชิเนนทร - - - อธิกไท้
คุณพระยิ่งอาภรณ์ - - - พาดห่ม-
คลุมทั่วตรีภพไว้ - - - ระหว่างถ้อยธรรมกถา ๚ะ๛

O กอปรประนมนัขน้อม - - - บังคัล
คุณพระไตรปิฎกธรร- - - - มุตม์แม้น-
สายธารอมฤตบรร- - - - โลมอาบ-
โซมซาบจิตทั่วแคว้น - - - ใฝ่เฝ้าเสาะแสวง ๚ะ๛

O นบบาทสาวกเชื้อ - - - ชินวงศ์
ถ้วนหมู่สมมุติสงฆ์ - - - สืบไว้-
ซึ่งองค์มรรค, ธำรง - - - หลักสัจจ์ แท้นา
เผยแผ่พุทธธรรมให้ - - - ถูกถ้วนกระบวนความ ๚ะ๛

O นบผู้กำเนิดเอื้อ - - - อาตมา
คุณยิ่งคุณใดหา - - - เทียบได้
อาจารย์อุปัชฌาย์ - - - ถ้วนหมู่
คุณท่านก่อเค้าให้ - - - ห่วงรู้รอยธรรม ๚ะ๛

O เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น - - - พันแสง
ควรแต่พระธรรมแสดง - - - ค่ำเช้า
กลับเป็นธูปเทียนแฝง - - - ฝากโลก-
ให้จิตคอยใฝ่เฝ้า - - - เก็บสร้างสั่งสม ๚ะ๛

O โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น - - - ไพหาร
งามวิจิตรพิสดาร - - - ยิ่งแล้ว
ช่อฟ้ายอดเฟื้อยปาน - - - พุ่งฝ่า พรหมฤๅ
ทองปิดองค์พระแผ้ว - - - ผ่องเนื้อธรรมไฉน ๚ะ๛

O กบสองมือก้มกราบ - - - องค์พระ
จิตเพ่งตั้งฉันทะ - - - เอ่ยถ้อย
ยศศักดิ์ทรัพย์ฐานะ - - - นึกอยู่
เอาต่อรองเชื่อมร้อย - - - ร่มเนื้อนาบุญ ๚ะ๛

O ทำบุญหวังสู่เบื้อง - - - บนสรวง
ควันธูปเปลวเทียนบวง- - - - บอกฟ้า
ปิดทองรูปพระทวง - - - บุญท่าน แล้วแฮ
สุข-รื่นรมย์ทั้งหล้า - - - แวดล้อมเถิดหรือ ๚ะ๛

O ไหว้พระมือผ่านล้อม - - - ลูบผม
ใจรื่นด้วยเรื่องสม- - - - มุติสร้าง
มิจฉาฝ่าอารมณ์ - - - รุดเร่ง
พาจิตลอยเคว้งคว้าง - - - ระหว่างถ้อยเดียรถีย์ ๚ะ๛

O ภาพการจำพรากพ้น - - - เวียงวัง
ค่อยแจ่มชัดขึ้นประนัง - - - ชุลิตน้อม
พรหมจรรย์ย่อมเพื่อฝัง - - - ฝ่ายโลก ล่วงแล
โลกที่กายจิตพร้อม - - - ผ่านรู้, ปรารมภ์ ๚ะ๛

O รูปองค์ที่ใต้ร่ม - - - โพธิ์พฤกษ์
ในคาบยามค่ำดึก - - - สงัดล้อม
ดวงจิตใคร่ครวญตรึก- - - - ตรองโลก
ตราบจิตแจ้งถ้วน, พร้อม - - - วิโมกข์แย้มเยือนสมัย ๚ะ๛

O ที่โคนโพธิ์ร่มครึ้ม, - - - ครวญความ
พร้อมรูปจันทร์เพ็ญวาม - - - วาบแจ้ง
คือภาพพุทธะในยาม - - - สยบโลก
อวิชชา, สังขาร, แล้ง - - - ลบสิ้นปลาตสูญ ๚ะ๛

O ดินฟ้าสาคเรศล้วน - - - บันลือ
เมื่อพุทธธรรมกรรพือ - - - พากย์พร้อง
ยื้อยุดฉุดยึดถือ - - - ทอนถ่าย
ผ่านสัจจะโลมต้อง - - - แต่งแต้มบัวตม ๚ะ๛

O โลก, เหตุแห่งโลก, ทั้ง- - - - ความดับ โลกแล
อีกเที่ยวทางสำหรับ - - - ดับนั้น
คือแก่นหลักให้จับ - - - จูงผ่าน โลกแล
โลกที่คอยบีบคั้น - - - จิตให้ - ละห้อยหา ๚ะ๛

O ยี่สิบห้าศตวรรษพ้น - - - ผ่านยุค
แม้น-แว่วเสียงคอยปลุก - - - ปลอบไห้
หากเสียงโศกซมทุกข์- - - - ทนกลบ สิ้นฤๅ
พร้อมจิตหลงกราบไหว้ - - - รูปปั้นดินเผา ๚ะ๛

O ยี่สิบห้าศตวรรษพ้น - - - ผ่านยาม
เหลือมดเท็จให้ตาม - - - ตรึกรู้
พฤติมิจฉาลาม - - - ท่วมโลก
แต่เมื่อบัวต่ำคู้ - - - ยอดโค้งเกลือกตม ๚ะ๛

O สอบด้วยไตรลักษณ์ให้ - - - เห็นแล
อนิจจัง-คือโลกแปร - - - เปลี่ยนได้
ทุกขัง-วกเวียนกระแส - - - เกิดดับ
อนัตตา-ย่อมว่าง, ไร้ - - - รูป-ทั้งนามธรรม ๚ะ๛

O ไตรภูมิ, ยกอรรถเลี้ยว - - - พาหลง
สืบทอดหลักพราหมณ์ลง - - - ระหว่างถ้อย
น้ำลึกยากหยั่งลง- - - - สุดลึก นั่นแล
ตื้นกว่ามากกว่า, น้อย - - - กว่า-ร้อยรูเข็ม ๚ะ๛

O ดวงมาน, พวงมาศ, น้อม - - - นำคะนึง
ธรรมพระเมื่อแจ้งถึง - - - แก่นถ้อย
มรรคาฝ่านรก, จึง - - - แจ้งแก่ จิตแล
ชาติภพหยุดเชื่อมร้อย - - - ดับเชื้ออวิชชา ๚ะ๛

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2017&date=01&group=5&gblog=65

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุวรรณ, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 พฤศจิกายน 2018, 07:12:PM
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« ตอบ #5 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2018, 07:12:PM »
ชุมชนชุมชน



O ลิลิต..ศรัทธาธรรม O





ร่าย
O ศรีสวัสดิเดชะ - - - ยอธรรมะบรรยาย
ยกความหมายขึ้นตรอง - - - ในครรลองเหตุผล
หวังทุพพลสบภาษ - - - พ้นจากทาสมิจฉา
ดั่งชนกาลามะ - - - หมายสัททะเป็นฐาน
สืบสันดานกล่าวอ้าง - - - เพื่อสืบสร้างทางชอบ
พระจึงตอบจึงตั้ง - - - สิบทางรั้งลุ่มหลง
เพื่อธำรงพรหมจรรย์ - - - กล่อมเกลาขวัญนับนาน
ชั่วกัปกาลโลกนี้ - - - คอยช่วงชี้โลกหน้า
ล่มบอดบ้าหลงผิด - - - เพื่อสอบจิตสอบใจ
บ่งความนัยแห่งพุทธ - - - หวังฉวยฉุดงมงาย
ทุบทำลายโฉดเชื้อ - - - ดลเนตรนั้นก่อเกื้อ
ตรึกรู้แก่นธรรม - - - ท่านนา



O ครวญคิดตอนก้มกราบ - - - องค์พระ
เป็นห่วงธรรมสัจจะ - - - จักสิ้น
จากนัยแห่งพุทธะ - - - ที่บิด เบือนนา
สืบทอดมาแหว่งหวิ้น - - - ยากรู้แท้เทียม ฯ

O บูชิตบูชนียะผู้ - - - พ้นผลาญ
ยกอรรถบุพาจารย์ - - - จับปลิ้น
ให้เห็นเลศแทรกลาญ - - - หลักพุทธ
จนผิดความหมายสิ้น - - - สู่รู้รจนา ฯ

O พระเปรียบธรรมดั่งไม้ - - - มวลพนา
เพียงหยิบมือนำมา - - - มอบให้
แต่ส่วนโทษทุกขา - - - ควรกร่อน
จำแนกเหตุผลไว้ - - - ครบถ้วนกระบวนความ ฯ

O อรรถะสัททะทั้ง - - - ศรัทธา สิ้นเนอ
แทรกส่วนของอัตตา - - - แต่งแต้ม
ตามภูมิแห่งปัญญา - - - ตั้งอยู่
ถ้อยยกบรรยายแย้ม - - - จึ่งเพี้ยนแผกผัน ฯ

O สืบเสียงพระพุทธผู้ - - - เหนือพรหม
ช่วยปราชญ์รับปรารมภ์ - - - ร่วมชี้
ให้เห็นแง่เงื่อนปม - - - จุดเปลี่ยน
แทรกอยู่ในธรรมนี้ - - - แน่นแฟ้นเหลือฝืน ฯ

O ธรรมใดอุบัติตั้ง - - - แต่เหตุ
พระตรัสธรรมแจงเลศ - - - เริ่มต้น
ตรัสความดับฤทธิเดช - - - โดยขจ่าง
ตรัสมรรคาฝ่าพ้น - - - พิษร้อนผ่อนสลาย ฯ

O กรรมพราหมณ์บังพุทธแย้ม - - - บรรยาย
วงวัฏฏ์มิอาจสลาย - - - สลัดพ้น
วนรอบเกิดแก่ตาย - - - ว่าหนึ่ง เดียวเวย
ชีพหยุดวิญญาณด้น - - - แหวกฟ้าหาภูมิ ฯ

O กรรมเก่าคงยากย้อน - - - ยล-ยิน พ่อเอย
ยากผ่านสภาพอจิน- - - - ตยะได้
เชื่อหรือภาษวศิน - - - อวดวิเศษ
ล้วนมิจฉาแทรกไว้ - - - หว่างถ้อยเดียรถีย์ ฯ

O หมกมุ่นสิ่งยากรู้ - - - รุงรัง ใจเอย
แปรเปลี่ยนเป็นอนิจจัง - - - บอกแจ้ง
เกิดโตแก่ตายฝัง - - - ร่างฝาก ดินนา
รูปดับจิตเลือนแล้ง - - - ละร้างสัญญาสลาย ฯ

O เสียงเพรียกเสียงพร่ำพร้อง - - - พะนอบุญ
เสียงย่อมอ่อนหวานละมุน - - - ละเมียดแจ้ว
เหนี่ยวสรวงแนบพิรุณ - - - ร่วมหยาด
ทิพกระพริบพร่างแพร้ว - - - ผ่านให้ใจเห็น ฯ

O ตู้บุญตู้บาปตั้ง - - - ตำตา
รอหมู่ผู้ละลา - - - กิเลศใช้
หลุมขวากหล่มศรัทธา - - - ทวยเหล่า
สร้างวัตถุขวางไว้ - - - หว่างถ้อยรอยธรรม ฯ

O อิ่มอกใจคลับคล้าย - - - ลอยโพยม
บาปล่มบุญหล่อโสม- - - - ะนัสแผ้ว
หวังตัดอัตตาโซรม - - - ลดเสพ ตรองเนอ
หรือมุ่งภพพร่างแพร้ว - - - ภาคหน้าดังไฉน ฯ

O เมื่อเอาอนัตตลักษณ์ตั้ง - - - เทียบตน
แต่เกิดวิวัฒน์วน - - - ว่าง-สร้าง
รูปจิตเปลี่ยนแปรจน - - - ผิดแผก
ใครเล่าอาจเอ่ยอ้าง - - - ชีพนั้นนิรันดร์สมัย ฯ

O อารามอร่ามเรื้อง - - - องค์พระ
กรรมพิธีวาทะ - - - ท่วมท้น
สนทนาวิสาสะ - - - เสนาะอยู่ พ่อเอย
ตาบอดคลำช้างด้น - - - ดุ่มหน้าสาธยาย ฯ

O สมณะศักดิ์เสนาะล้ำ - - - เลิศนาม ท่านเอย
สมเด็จพรหมเทพตาม - - - แต่ตั้ง
เหนี่ยวโลกกอดแน่นหวาม - - - หวิวอก
ใครเล่าอาจหยุดยั้ง - - - ศักดิ์ย้อมพรหมจรรย์ ฯ

O พระจอมคนละแล้ว - - - บัลลังก์
เกียรติศักดิ์พระฝากฝัง - - - สู่พื้น
ก่อนจำพรากจากวัง - - - วงศ์ราช
เพียงจะพลิกหทัยฟื้น - - - ฝ่าห้วงสงสาร ฯ

O ลูกชาวบ้านยากแค้น - - - ขัดสน
บวชพระปฏิบัติตน - - - ต่อ-สร้าง
อามิสอาบห้วงกมล - - - กระมิด- กระเมี้ยนเนอ
เรือนอยู่ไม่ว่างร้าง - - - วิจิตรล้ำปรนเปรอ ฯ

O น้อมมโนมนัสผู้ - - - จอมภพ
ภาษพระผ่านมารสบ - - - สยบสิ้น
ต้นกลางจวบปลายครบ - - - ความบอก
หลั่งล่มใจเดือดดิ้น - - - กร่อนร้อนทารุณ ฯ


O สืบสัจจ์หนุนโลกนี้ - - - สาปส่งมดเท็จชี้
ก่อนกี้สำแดง

O วิชชาแหว่งสิ้นแล้ว - - - แต่มิจฉาเจื้อยแจ้ว
เผือดแผ้วทางเพียร

O มรรคาเธียรมุ่งพ้น - - - ตาบอดคลำช้างด้น
ท่วมท้นศรัทธา

O บ่งโลกหน้าโลกนู้น - - - ไกลห่างด้านก่อนพู้น
ผ่องหน้าสาธยาย


O โลกในกายวกเวียน - - - แลพากเพียรบีบคั้น
จักกร่อนเกรียนกีดกั้น - - - หั่นห้ำฤๅหาย

O เสพรูปหมายงดงาม - - - ด้วยตาตามจับจ้อง
เสพส่ำเสียงโสตพ้อง - - - เพราะพร้องฤๅเลือน

O หอมเอยเตือนนาสิก - - - ฤๅจักพลิกหักห้อม
สัมผัสนุ่มเนื้อพร้อม - - - อุ่นอ้อมอกเอย

O หวานชิดเชยสุขสม - - - ทุกปรารมภ์ไขว่คว้า
หมายเสพใจห่อนล้า - - - วุ่นว้าวนเวียน

O เรื่องราวเพียรคิดย้อน - - - รำลึกตอนโกรธยิ้ม
ใจตื่นตาหลับพริ้ม - - - เสพลิ้มอาการ


O เพียงเพื่อตัดทุกข์สิ้น - - - สูญสลาย
ใช่เพื่ออัตตาขยาย - - - ขยับตั้ง
ศักดิ์สิทธิ์ที่มากมาย - - - มอมโลก
ล่อหลอกเขลาเหนี่ยวรั้ง - - - จิตให้หฤหรรษ์ ฯ

O บัวบานดอกล่อล้อ - - - ภุมริน
หอมอบหวานเวียนถวิล - - - ว่อนล้อม
ใจเอยแต่เมื่อจิน- - - - ตนาส่าย ซัดเนอ
ฤๅต่างภู่ผึ้งน้อม - - - นอบสร้อยเกสรา ฯ

O โอ - ภาพโอภาสพ้น - - - พันแสง
พจน์พร่ำพระธรรมแสดง - - - รอบรู้
ลิ่มลมระดมแถลง - - - ไหลหลั่ง
ผุดพลุ่งเข้ากอบกู้ - - - เหล่าผู้กิเลศเผา ฯ

O สอนสั่ง..ให้มอดม้วย - - - อาตมา
มุ่งบั่นวิจิกิจฉา - - - อื่นผู้
ดำรงมั่นคงสภา- - - - วะปราชญ์
ทุกคำตอบรอบรู้ - - - เร่าร้อนสื่อสาร ฯ

O ไวพจน์ธรรมท่วมทั้ง - - - ธานี
ยึดจับพุทธวิถี - - - ท่องก้อง
สอดแทรกพระบาลี - - - ประโลมอก
โอ..เผ่านกผกร้อง - - - แซ่ซ้องยุคสมัย ฯ

O ธรรมภาษล้วนเพริดแพร้ว - - - พิสดาร
ถ้อยถกก็โอฬาร - - - ลึกล้ำ
ปุชฉาวิสัชนาการ - - - ซึ้งกล่าว
โอ้..เยือกเย็นเปรียบน้ำ - - - ย่อมน้ำลายสนอง ฯ

O ว่า..กาลามสูตรตั้ง - - - เป็นทิศ
ไย..บุพกรรมนิรมิต - - - หมดสิ้น
เห็น..บุญบาปวิปริต - - - รับส่ง ได้ฤๅ
ตาทิพย์หรือปากปลิ้น - - - เป่าฟุ้งจรุงขวัญ ฯ

O ธรรม..เกิดแต่เหตุต้น - - - ควรตรอง
เหตุส่งผลรับสนอง - - - แน่แท้
ความดับเหตุควรปอง - - - ปรับเปลี่ยน
ทางแห่งความดับแล้ - - - ผ่านแล้วทุกข์สลาย ฯ

O เขาว่า..ย่อมว่าได้ - - - ดังคิด
ยินสื่อสำรวมจิต - - - จากถ้อย
เหตุ/ผลสอบเบือนบิด - - - บอกเลศ นัยเฮย
รั้งเหนี่ยวใจสักน้อย - - - นั่นแล้พุทธวิถี ฯ

O ไกลพู้นแต่ก่อนสร้าง - - - สังขาร
ใครเล่ามีจักขุทวาร - - - วกย้อน
อภิญญาหกบรรสาร - - - เสียง-ภาพ หรือไร
ฤๅวิชช์สามเหลื่อมซ้อน - - - ภพพู้นจึงเผย ฯ

O พระผู้มีพระภาคเจ้า - - - จอมคน
พระสั่งสอนทุพพล - - - หยุดสร้าง
เหตุแห่งอัตตาตน - - - ตามตัด
กรรทบผลป่นมล้าง - - - ลบสิ้นเลือนสูญ ฯ

O สับสนจากสู่รู้ - - - รจนา
ไตรเพทพราหมณ์นำมา - - - แทรกซ้อน
ไม่แยกแยะศึกษา - - - ตรองอรรถ
เฝ้าท่องถกยกย้อน - - - เยี่ยงนั้นมันหลง ฯ

O สองกึ่งสหัสวรรษพ้น - - - พุทธกาล
แทรกส่วนอรรถาจารย์ - - - จาบจ้วง
ตู่ด้วยพละการณ์ - - - เองกล่าว
เมื่อขาดการทักท้วง - - - เท่าแย้มมิจฉาสมัย ฯ

O หากกรรมเก่าก่อเกื้อ - - - บงการ
เหตุอยู่ภพก่อนวาร - - - วิ่งแก้
สู่เหตุล่วงภพ-อฐาน - - - จักเกิด ได้นา
ฤๅชาติภพที่แท้ - - - แค่ห้วงอึดใจ ฯ

O ไม่มีตาทิพย์ให้ - - - เห็นกาล ก่อนเวย
ฟัง-อ่านคำจดจาร - - - จับอ้าง
กาลามสูตรหรือลาญ - - - เลือนลับ แล้วพ่อ
จึงเชื่อไม่คัดง้าง - - - แง่เนื้อความหมาย ฯ

O ต้นทุนอริยะคล้าย - - - คมคิด
ครวญใคร่"ความ"ตามติด - - - เหตุตั้ง
มองผลลัพท์เป็นทิศ - - - ตรวจสอบ
สุข-ทุกข์ทุกคราวครั้ง - - - หยุดได้ฉันใด ฯ

O ไกลห่างด้านก่อนพู้น - - - ฤๅพาน
ไกลห่างด้านหน้า-อฐาน - - - จักรู้
มีแต่ปัจจุบันทวาร - - - เวียนเสพ กามแฮ
กับหนึ่งวิญญาณผู้ - - - พ่าย-พ้นโลกวิสัย ฯ


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=09-2006&date=15&group=5&gblog=21

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุวรรณ, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 มกราคม 2019, 08:32:AM
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« ตอบ #6 เมื่อ: 06 มกราคม 2019, 08:32:AM »
ชุมชนชุมชน



O ถ้อยคำ..ที่ลำปางหลวง...O







O แรกเช้ามาลย์ช้อยกลีบ - - - ก้านรอ-
รับแดดอ่อนทอดทอ - - - กระทบไล้
เมื่อลมรื่นแอบออ- - - - โอบผ่าน
งามย่อมงามอยู่ได้ - - - แต่ด้วยใจเกษม ฯ

O มาลีอวลกลิ่นเชื้อ- - - - เชิญภมร
จนกระพือปีกสลอน - - - สลับสล้าง
หมายเสพรสเกสร - - - หวานสุด
เกินจะร่ำลาร้าง - - - รสน้ำหอม-หวาน ฯ

O อำไพโอภาสเรื้อง - - - รอยสูรย์
ยอโลกรับจำรูญ - - - แรกเช้า
ข่มหมองหม่นอาดูร - - - ดับมอด เชื้อแฮ
เหลือรื่นรมย์รุมเร้า - - - ร่วมคล้อยเคลื่อนสมัย ฯ

O ยามสายสุริยะแปล้ - - - ปลาบสรวง
พระธาตุลำปางหลวง - - - เหลื่อมสะท้อน
ถ้อยคำเทียบความบวง- - - - บอกทิพ เทพนา
ขอทุกคำ-ความย้อน - - - แทรกย้อมใจขวัญ ฯ

O กบมือกุมมาศน้อม - - - วันทนา
นิ่งนึกขอเมตตา - - - ช่วยแต้ม-
แต่งรสเล่ห์เสน่หา - - - ละห้อยห่วง
ให้ทุกคำคอยแย้ม - - - จิตย้อมแรงถวิล ฯ

ร่าย
O ศรีศรีไพจิตรลักษณ์ - - - รำไพพักตร์สืบขวัญ
จรรโลงฝันในอก - - - จนสุดยกสุดย้าย
แลสุดท้ายสุดถอน - - - ในทุกตอนสู่ตา
ล้ำบรรดาเคยเนา - - - จักพริ้มเพราเฉกเจ้า
รูปใฝ่เฝ้าคอยเห็น - - - อันเปรียบเป็นความหวัง
ต่อกำลังปรารถนา - - - เฝ้าโหยหาอกระรัว
จนหวาดกลัวรูปหาย - - - ตราบแม่ปรายเนตรสบ
บันดาลภพขึ้นตั้ง - - - สุดเหนี่ยวรั้งบีบเค้น
ทุกคาบกาลไป่เว้น - - - ว่างละห้อยครวญคะนึง
แม่นา





O หวังสามโลกรับรู้ - - - แรงถวิล
แต่อ-บายจ-รดดิน - - - ตราบฟ้า
แรงช่วงแห่งดวงทิน- - - - กรแผด เผาเฮย
ฤๅเทียบแรงไขว่คว้า - - - ฝากถ้อยอธิษฐาน ฯ

O กรประนมก้มกราบ - - - กอปรพร พระเอย
หวังช่วยอำนวยกลอน - - - กล่าวให้-
จับจิตจับใจอร - - - อวลแต่ ความนา
คำทุกคำกล่าวไว้ - - - อย่ารู้เลือนสลาย ฯ

O คงกรรมพาร่วมพ้อง - - - พบกัน
จึงภาษกรองรำพัน - - - แผ่ล้อม
ขวยเขินแต่โลมขวัญ - - - ฝากเลศ นัยแม่
ใจเมื่อหวามจึ่งน้อม - - - แนบเนื้อความเสนอ ฯ

O จำรูญจำรัสเบื้อง - - - บูรพา
เมื่อหัตถ์ทิพนำพา - - - พบพ้อง
โอนฤทธิ์แห่งอิฏฐา - - - ทอดบท
สัมผัสเนื้อความต้อง - - - แต่ละห้อยคอยเห็น ฯ

O รอคอยแต่ภพเบื้อง - - - บุพกาล
เริ่มเมื่อชีวาตม์ลาญ - - - ลับเจ้า
จำพรากสู่ทรมาน - - - มืดหม่น
ลอยช่วงวิญญาณเฝ้า - - - ฝ่าเวิ้งไฟสวรรค์ ฯ

O รูปเอยหวังอาจเอื้อม - - - โดยใจ
รอเถิดรอความใน- - - - อกฟ้อง
ขวากหนามมรรคาใด - - - มุ่งฝ่า
เช้าค่ำจักพร่ำพร้อง - - - ผ่านถ้อยถวิลถึง ฯ

O ล่องลอยผ่านฟากฟ้า - - - สู่ขวัญ
ผู้ผ่านรังสีพรรณ - - - พิลาสให้
คำนึงแต่วงจันทร์ - - - จางรูป
โอนอบอุ่นแอบไว้ - - - หว่างห้วงคะนึงหา ฯ

O สุดรอคอยค่อยแย้ม - - - เยือนตา
งามรูปงามลักขณา - - - นุชเจ้า
ลอยรูปทุกอัสสา- - - - สะช่วง แม่เอย
จิตย่อมถูกรุมเร้า - - - สุดรู้ขัดขืน ฯ

O ใจเอยต่อแต่นี้ - - - นับนาน
พิมพ์หนึ่งจักเบ่งบาน - - - บีบเค้น
ชะลอรูปลงผลาญ - - - เผาอก
จนสุดทางลอบเร้น - - - ล่วงพ้นพิสมัย ฯ

O ข้ามโค้งฟ้าฝากถ้อย - - - ถวิลถึง
ผ่านรูปพยางค์รำพึง - - - พจน์ไว้
เนตรสบอักษรตรึง- - - - ความติด จิตนา
หวานจักหวานมาให้ - - - ห่วงละห้อยคอยเห็น ฯ

O จำหลักในจิตล้วน - - - อาวรณ์
จักเหนี่ยวดึงถอดถอน - - - ยากแท้
ดั่งนทีสิทันดร - - - ดึงร่าง
ลอยล่วงห้วงวัฏฏ์แม้ - - - มอดม้วยยังหมาย ฯ

O งามเอยงามพักตร์พริ้ง - - - พรายตา
สบเนตร, เลศนัยพา - - - เพ่ง-รู้
เหลือบ-สบ, หลบ-เส-คา - - - รูปอยู่
อกหนึ่ง, อาวรณ์ชู้ - - - ตื่น-รู้อภิรมย์ ฯ

O รื่นรมย์กำเริบคล้อย - - - รอยคำ
แต่รสพจนารถสัม- - - - ผัสพร้อง
ธีระอภิวากย์บำ- - - - รุงรูป
รูปที่ใจร่ำร้อง - - - รบเร้ารอคอย ฯ

O แม้นห่างอย่าห่วงน้อย - - - คำนึง
เพียงรูปพอตอกตรึง - - - ติดย้ำ
ผ่อนเพียงแผ่วรำพึง - - - พร่ำคู่ ใจเอย
แผ่วพร่ำอยู่ซ้อนซ้ำ - - - ตรู่เช้าตราบคืน ฯ

O โอนฤทธิ์ออรูปให้ - - - ถวิลเห็น
อกดั่งหยาดฝนเย็น - - - หยดแต้ม
แต่ภาคอำไพเพ็ญ - - - เผยออก
ใจยิ่งมาลย์แยกแย้ม - - - กลีบแย้มรอฝน ฯ

O ฤๅทิพหนุนส่งให้ - - - เห็นงาม
ย่อมจักสมพยายาม - - - เยี่ยงนั้น
ตรึงอกแต่สบทราม - - - สวาดิรูป แก้วเนอ
จักหลบเลี่ยงดื้อรั้น - - - ดั่งไร้แรงขืน ฯ

O รุมรุมห้วงอกล้วน - - - อาลัย
แต่ลับภาคปราศัย - - - สืบถ้อย
ลำดับที่ความนัย - - - เนาอยู่
เฉกลำดับความร้อย - - - รับรู้เถิดสมร ฯ

O คงสุดทางซ่อนแล้ว - - - รอยใจ
จักเก็บกดอย่างไร - - - ยากรั้ง
แต่เนตรบ่งเยื่อใย - - - ระยับผ่าน
ผ่าวผ่านกี่คราวครั้ง - - - ทุกครั้งย่อมเผย ฯ

O แรงสุดดินสมุทรฟ้า - - - รวมกัน
ยังมิอาจพรากขวัญ - - - จากแก้ว
เมื่อใจหนึ่งผูกพัน - - - เพียงหนึ่ง
อาจพรากให้คลาดแคล้ว - - - แต่ม้วยมรณัง

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2011&date=14&group=5&gblog=58&fbclid=IwAR3Y4aDsZ6P30XYUaJYafh6qtyHx4F4GdViwZDBwa2H5KuA3sPCtgz2iHlk

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s