หลังฝน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
19 เมษายน 2024, 07:01:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลังฝน  (อ่าน 6791 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
04 พฤศจิกายน 2013, 12:09:PM
เทโพ
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 58
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2013, 12:09:PM »
ชุมชนชุมชน

เมื่อก่อนผมชอบมองรุ้งกินน้ำ มันสวยอินดี้พาดแบคกราวน์ฟ้าทุกครั้งเวลาฝนหยุด ผมชอบประโยค"ฟ้าหลังฝนจะสดใส" ผมว่ามันจริง..
อากงข้างบ้านผมก็ดูเหมือนจะชอบดูรุ้งเหมือนกัน เขาจะเอาเก้าอี้กลมๆออกมานั่งหน้าบ้านทุกครั้งที่ฝนหยุด คาบบุหรี่มวนหนึ่ง ดูรุ้งอยู่อย่างนั้นจนบุหรี่หมดมวนค่อยเข้าบ้าน.. ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้จักชื่ออากงคนนั้นเลย..รู้แค่ว่าแกหลงไหลในรุ้งเหมือนๆกับผม
ปีก่อนฝนก็หยุดตกอีกครั้ง ผมว่าฝนมันก็หยุดตกทุกครั้งหลังจากที่มันตก..ฝนหยุดตกเสมอ.. ผมออกมายืนมองฟ้าอย่างเดิม อากงก็ออกมานั่งตำแหน่งเดิม..
"ฟ้าสวยมากนะเวลามีรุ้ง" เป็นประโยคแรกที่ผมได้ยินจากปากอากงนั้น
"ครับ"ผมตอบ ยังคงมองฟ้าด้วยกันทั้งคู่ ..วันนี้อากงดูเหนื่อยล้าเหลือเกิน บุหรี่หมดมวนแล้ว แต่แกยังนั่งอยู่ยังคงมองรุ้งต่อไป
"ทำไมรุ้งต้องออกมาหลังฝนด้วย"อากงถามผม ผมแค่ยิ้ม ..ผมรู้ว่ารุ้งมันไม่มีจริง มันเกิดจากหยดน้ำในอากาศสะท้อนแสงหักเหจนแยกสีออกมาเป็นเจ็ดสีอย่างที่ไอแซคนิวตันเคยว่าไว้ แต่อากงคงไม่รู้จักนิวตันแน่ๆ  "ผมว่ามันมาจากฟ้านะ"ผมตอบแกไปง่ายๆ ..อากงมองผม มองอยู่นานเลย เป็นครั้งแรกที่แกถอนสายตาจากรุ้งมามองผมตรงๆ แกถอนใจก่อนจะกลับไปมองรุ้งอีก "อั้วะว่าโฟตอนของแสงกับการหักเห มันไม่ได้เกิดจากฟ้าหรอก" ผมงงไปเลย แกไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไรแกก็เริ่มพูดต่อ "หกสิบกว่าปีที่แล้วอั้วก็มานั่งแบบที่ลื้อนั่งนี่แหละ นั่งโง่ๆแบบนั้น ดูรุ้งเพราะคิดว่ามันมาจากฟ้า.. เด็กผู้หญิงคนหนึ่งบอกอัวะว่า มันเป็นการหักเหของแสง อั้วะไม่เชื่อ นั่งเถียงกันอยู่นานจนอีต้องเอาหนังสืออะไรต่ออะไรมาเปิดอธิบาย จนอั้วะเข้าใจ" อากงเริ่มฟินกับอดีตของแกแล้ว "อีจะมาดูรุ้งกะอั้วะทุกครั้ง ..รุ้งไม่ว่ามันจะเกิดจากอะไรมันก็ยังสวยอยู่วันยังค่ำ.. ฟ้าไม่เคยหยุดสวยเลย.. จนวันนึงอีบอกกับอั้วะว่า อีจะไปดูรุ้งใกล้ๆ.. อั้วะก็งงดิ ก็รุ้งมันไม่มีจริงนี่นา อีเป็นคนบอกอั้วะเอง ..แต่ยังไงอีก็ยังจะไปตามหารุ้งให้ได้ .... อีกสี่ห้าวันหลังจากนั้น มีคนเจอศพเด็กผู้หญิงที่ในป่าข้างชานเมือง....ไม่มีใครรู้ว่าอีเจอรุ้งรึเปล่า รู้แค่ว่าเด็กผู้หญิงตายเพราะโรคโลหิตจาง ..ยุคนั้นรักษาไม่หาย ....อีคงจะรู้ว่าตัวเองจะตายมั้ง...."อากงพูดจบแค่นั้น แล้วก็มองรุ้งต่อไป ผมรู้สึกว่าอากงคนนี้ไม่ได้เพ้อเจ้ออีกแล้ว ตามัวๆของแกเริ่มมีน้ำตา ....เราไม่พูดอะไรกันอีก ..รุ้งเริ่มหายไปแล้ว อากงก็เข้าบ้านไปแล้ว ผมรู้ว่าอากงมีเหตุผลของแก เหตุผลที่แกมามองรุ้งทุกครั้งตลอดหกสิบปี....
....ฝนหยุดตกอีกครั้ง ฝนมันก็หยุดตกทุกครั้งหลังจากที่มันตก..ฝนหยุดตกเสมอ.. ผมออกมายืนมองฟ้าอย่างเดิม แต่ครั้งนี้อากงไม่ได้ออกมาแล้ว แกหายไปหลายวันแล้ว ..มีคนบอกว่าเห็นแกเดินเข้าป่าไป ..เพื่อนบ้านคนหนึ่งไปแจ้งตำรวจ เช็คประวัติที่โรงพยาบาลถึงได้รู้ว่าแกเป็นมะเร็งและใกล้จะตายแล้ว.... ผมรู้สึกตกใจ ผมอยู่แถวบ้านแกแท้ๆ ยังไม่รู้เลย แกไม่เคยบอกใครเลย .. เชื่อไหมครับจนถึงวันนี้ยังไม่มีใครเจออากงนั้นอีกเลย ผมไม่รู้ว่าแกไปไหน แต่ผมรู้ว่าแกไปทำอะไร ..แกจะไปดูรุ้งใกล้ๆ ..ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีจริง แต่รุ้งก็ยังสวยอยู่วันยังค่ำ ยังน่าค้นหาอยู่ดี
....ตำรวจเจอกระดาษข้อความที่แกทิ้งไว้บนโต๊ะในบ้าน เขียนว่า"ถึงไอ้หนุ่มที่ดูรุ้ง อย่าปล่อยให้ความรู้มันมาทำลายรุ้งของเราได้.."
....ผมชอบประโยคที่ว่า "ฟ้าหลังฝนจะสดใส" ผมว่ามันจริง....

....เทโพ....

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ศรีเปรื่อง, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, พ.พิมพา, panthong.kh, รัตนาวดี, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 พฤศจิกายน 2013, 01:54:PM
เทโพ
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 58
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« ตอบ #1 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2013, 01:54:PM »
ชุมชนชุมชน

กระบี่ของเขารวดเร็วที่สุดในแผ่นดิน ไม่มีใครไม่รู้จักจอมเทพกระบี่ดำ จอมยุทธอันดับสามแห่งยุทธจักร ที่เรียกกระบี่ดำเพราะไม่มีใครเห็นกระบี่ของเขาชัดเจนมาก่อน มันรวดเร็วดุจเป็นเงาสีดำ.. วันนี้เขานั่งในร้านสุราชิงเทียน เพื่อรออะไรสักอย่าง.... มีคนกล่าวว่าอันดับที่สองนั้นตายแล้ว เนื่องจากธาตุไฟเข้าแทรก ใครที่มีฝีมือสูงส่งปานนั้นย่อมตายใต้เงื้อมมือตัวเอง ดังนั้นวิชาฝีมือของกระบี่ดำ ถือเป็นฝีมือขั้นสุดท้ายไร้ผู้ต่อต้าน ..คำถามคืออันดับหนึ่งเล่า? เหตุใดจึงสามารถดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่มีอันตราย แต่ไม่มีผู้ใดรู้ได้ มิมีผู้ใดถาม นั่นเพราะอันดับหนึ่งนามว่า"กระบี่ไม่พ่าย"นี้ ไม่ปรากฏตัวมาก่อน เขาจะมาในเวลาที่ควรมาเท่านั้น ผู้คนเพียงรู้ว่ากระบี่ของเขาไม่เคยพลาดเป้า รู้เพียงว่าเขาไม่เคยแพ้ผู้ใด มีคนเคยเห็นกระบี่อันดับหนึ่งไม่มากนัก จอมเทพกระบี่ดำก็ยังไม่เคยเห็นเขา ..และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เขาต้องติดประกาศทั่วแผ่นดิน ท้าประลองกับอันดับหนึ่ง นัดที่ร้านสุราชิงเทียน ประลองดูว่าใครกันแน่ที่สมควรได้รับฉายา"อันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน"กันแน่
..วันนี้ร้านสุรามีผู้คนมากมาย มีเถ้าแก่ร้าน เสี่ยวเอ้อ พ่อค้ามานั่งรินสุราที่กลางร้าน ขอทานขี้เมามานั่งที่มุมร้าน มีกลุ่มเด็กหนุ่มประลองสุรากัน..
นักเลงคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะของเทพกระบี่ดำ "เจ้าคือใครกัน นี่คือที่ประจำของข้า จงลุกออกไปในบัดดล" กล่าวจบก็ชักดาบหัวตัดเล่มหนึ่งออกมา ..เทพกระบี่ดำกระทั่งมองยังไม่เหลือบแล กล่าวว่า"เจ้าต่างหากที่ต้องลุกออกไป.." เพิ่งกล่าวจบดาบหัวตัดนั้นก็หักสะบั้นไปแล้ว! นักเลงนั้นไม่ทราบแน่ชัดว่านี่คือกลอันใดยิ่งโกรธแค้น มันกล่าวว่า"เจ้านักมายากล สามหาวนัก ดูสิว่ามีดของข้ารวดเร็วปานใด" ว่าแล้วก็ล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ หยิบมีดออกมา คิดจะสังหารนักมายากลนี้ในดาบเดียว ..แต่มือยังไม่ทันล้วงเข้าไป ที่คอหอยของมันก็ปรากฎรอยแผลกระบี่สายหนึ่ง สายตาเหลือกถลน ..จวบจนตายมันยังไม่รู้เลยว่าที่แท้ตายด้วยสาเหตุใด ทุกคนในร้านตอนนี้ ต่างไม่เชื่อสายตา มีเลือดติดอยู่ที่ด้ามฝักกระบี่สีดำนี้ชัดๆ แต่กลับมองไม่เห็นคมกระบี่แม้แต่น้อย ..จอมเทพกระบี่ดำรวดเร็วสมชื่อจริงๆ..
เวลาผ่านไปไม่นาน เด็กชายคนหนึ่งถือกระบี่หยกเข้ามาในร้าน มองดูซากศพของนักเลงนั้นด้วยความสยดสยอง ..อันดับหนึ่งแห่งแผ่นดินต้องไม่ใช่เด็ก.. "ท่านคือเทพกระบี่ดำ?" เด็กน้อยดูพรั่นพรึงนัก แต่ในมือยังกำกระบี่หยกเล่มหนึ่งไว้แน่น เทพกระบี่ดำเห็น และยิ้ม "ใช่ เราเอง" เขาจำกระบี่หยกได้และรู้ว่าเด็กน้อยสามหาวนี้จะมาเพื่อทวงตราหยกประจำตระกูลคืน "เด็กเอย เมื่อวานนี้เราสังหารอาจารย์เจ้า ชิงตราหยกมา ก็ถือว่ายุติธรรมแล้วมิใช่หรือ ..ผู้อ่อนแอต้องพ่ายแพ้.." เขายิ้ม แน่ใจว่าเด็กน้อยนี้มิใช่อันดับหนึ่งแน่นอน ..เด็กชายยังคงไม่ไป ยังคงยืนถือกระบี่หยกอยู่นาน หลั่งเหงื่อเย็นเยียบ ..อีกไม่นานอันดับหนึ่งจะมาถึง เด็กน้อยนี้จะรบกวนสมาธิเขาไม่น้อย เขาจำเป็นต้องสังหารทิ้งเสีย คิดดังนั้น มือก็เลื่อนไปจับด้ามกระบี่ ...."ช้าก่อน!" เสียงหนึ่งดังมาจากซอกหนึ่งของร้าน ..เทพกระบี่ดำหันไปตามเสียง เห็นขอทานคนนั้นนั่งอยู่ ขอทานซอมซ่อเพิ่งเห็นการฆ่าอันรวดเร็วที่สุด เขาไม่อยากเห็นเด็กน้อยนี้ตายใต้มืออัมหิตนี้.."หากจะทำร้ายเด็กน้อยท่านคงต้องฆ่าเราก่อน" ขอทานพูดจบก็ยกสุราดื่มต่อจนหมด ท่าทีเฉื่อยชาเหมือนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เทพกระบี่ดำคงต้องฆ่าขอทานนี้ด้วย "ได้" เขากล่าวสั้นๆ เดินเข้าไปหาชายขอทาน มือกำด้ามกระบี่ ....วินาทีอันรวดเร็ว กระบี่ของเขาคืนฝักแล้ว รวดเร็วดุจเดิม สง่าดุจเดิม ทว่าครานี้ไม่มีรอยเลือด..มีเพียงตัวกระบี่สีดำขาดสะบั้นอยู่บนพื้น ....ขอทานยังคงนั่งอยู่อย่างเดิม ผู้ที่ตกใจตลึงลานกลับเป็นจอมเทพอันดับสามแห่งแผ่นดิน ...."เจ้า..เจ้า".... เขาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ขอทานนี้กลับเป็นคนทำกระบี่ของเขาหัก....ขอทานยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น..เพียงกล่าวว่า "เด็กเอย เจ้ากลับไป นี่ตราตระกูลเจ้า.." ขอทานกล่าวแล้วโยนตราหยกให้เด็กน้อย เด็กรับไว้ด้วยความยินดี รีบวิ่งกลับบ้าน ทิ้งให้เทพกระบี่ดำนิ่งอึ้งอยู่กับที่ ร่างสั่นเทาแล้ว.."เจ้าคือกระบี่ไม่พ่ายอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน"....  ฝีมือฟันกระบี่ดำหักสะบั้น และยังชิงตราในอกเสื้อของอันดับสามไปได้ มีเพียงอันดับหนึ่ง กระบี่ไม่พ่าย เท่านั้น.. "เจ้าใช้สิ่งใดฟันกระบี่ข้าหัก"เขาหวาดกลัวยิ่งนัก ..ขอทานนั้นยิ้มตอบว่า "ใช้จอกเหล้า"....เทพกระบี่ดำฟังจบ ก็สะบัดหน้าจากไป ไม่หันกลับมาอีก..ไม่จำเป็นต้องประลองก็รู้ผลแล้ว ..เขาเร้นกายจากไป..นับแต่นั้นไม่มีผู้ใดเห็นจอมเทพกระบี่ดำอีกเลย บ้างว่าเขาธาตุไฟเข้าแทรก ตายไปแล้ว บ้างว่าเขาเป็นบ้า....
....เย็นวันนั้นเถ้าแก่ร้านชิงเทียนคนถามขอทานนั้นว่า เหตุใดท่านไม่ธาตุไฟเข้าแทรกเล่า ..อันดับหนึ่งตอบเพียงว่า "ผู้ที่ธาตุไฟแทรกนั้น ล้วนฝึกกระบี่เพื่อเกียรติของตนเอง.... กระบี่ไม่ใช่พิษ..เกียรติยศต่างหากเป็นพิษ"....
มีคนกล่าวว่า กระบี่อันดับหนึ่งไม่พลาดเป้ามาก่อน ....เป้าหมายของอันดับหนึ่งเพียงช่วยชีวิตคน ....นี่กระมังที่ทำให้เขามีพลังพอที่จะไม่พ่ายแพ้ต่อผู้ใด.....

..เทโพ..

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤศจิกายน 2013, 09:09:AM
เทโพ
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 58
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« ตอบ #2 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2013, 09:09:AM »
ชุมชนชุมชน

ชายหนุ่มคนหนึ่งออกเดินทางตามหาดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลก เป็นดอกไม่ที่ไม่มีวันเหี่ยวเฉาโรยรา
..
เขาเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับดอกไม้นี้มา แต่ไม่เคยได้ยินว่าใครจะหามันเจอสักคน
..
มันน่าจะปลูกอยู่บนเขาสูงชันลูกนั้น
ไม่เคยมีใครไปถึงเลย
ไม่มีใครกล้าไปเลย
เหตุเพราะมันมีมังกรร้ายเฝ้าอยู่ที่ตีนเขาไม่ให้ใครขึ้นไป
..
แต่เขาต้องขึ้นไป
เขาต้องเอามันไปให้กับคนที่เขารัก
เขาจะต้องทำให้ได้
เขาเตรียมการนานเป็นปี
หาอาวุธทุกอย่าง
ฝึกการต่อสู้
เรียนรู้ภาษามังกร
เรียนการไต่เขา
....จนที่สุด
เขาก็พร้อม
..
เขาเริ่มออกเดินทางในอาทิตย์ที่แล้ว
และเพิ่งกลับมาในวันนี้
พร้อมกับดอกไม้ดอกงามในมือ
หนึ่งดอก
....
ทว่าสภาพของเขาร่อแร่ปางตาย
....
เขาคงมีชีวิตได้คงอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง
ทุกคนในหมู่บ้านรีบมามุงรอบตัวเขา
....
....
รวมทั้งเธอคนนั้น
คนที่เขารัก
....
เขายื่นดอกไม้ให้เธอ
..
เธอก็เริ่มร้องไห้
"เจ้าไม่น่าทำถึงขนาดนี้..
ทำไม....
..มันคุ้มแล้วหรือที่จะต้องมาตายด้วยดอกไม้ดอกเดียว...."
ชายปางตายหันมาและยิ้มให้
เขารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดเพื่อตอบคำถาม
..
"..คุ้มสิ ..มันคุ้มมากๆเลย...."
แล้วเขาก็สิ้นใจ....
....
....
....
เวลาผ่านไปนาน
....เวลามักผ่านไปเสมอ
....
ดอกไม้ก็เฉาตายเสียแล้ว
..
มันไม่ได้งดงามเป็นอมตะดังเช่นตำนานว่าไว้
..
ชาวบ้านหลายคนเล่าเรื่องราวของชายโง่เขลาที่ตายเพราะดอกไม้ดอกเดียว
....
มีเพียงเธอ..
มีเพียงเธอที่รู้ว่าดอกไม้ดอกนั้นไม่เคยตายเลย....
และชายที่เธอรักก็ไม่ได้โง่เขลา
....
ที่เป็นอมตะนั้นไม่ใช่ดอกไม้....
แต่ความรักของชายหนุ่มต่างหาก ที่ไม่เคยตายเลย....
....
มีเพียงเธอที่รู้ดี....
....

..เทโพ..

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ปู่ริน, panthong.kh, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s