หลังฝน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
28 เมษายน 2024, 03:46:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: หลังฝน  (อ่าน 6803 ครั้ง)
เทโพ
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 58
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2013, 12:09:PM »

เมื่อก่อนผมชอบมองรุ้งกินน้ำ มันสวยอินดี้พาดแบคกราวน์ฟ้าทุกครั้งเวลาฝนหยุด ผมชอบประโยค"ฟ้าหลังฝนจะสดใส" ผมว่ามันจริง..
อากงข้างบ้านผมก็ดูเหมือนจะชอบดูรุ้งเหมือนกัน เขาจะเอาเก้าอี้กลมๆออกมานั่งหน้าบ้านทุกครั้งที่ฝนหยุด คาบบุหรี่มวนหนึ่ง ดูรุ้งอยู่อย่างนั้นจนบุหรี่หมดมวนค่อยเข้าบ้าน.. ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้จักชื่ออากงคนนั้นเลย..รู้แค่ว่าแกหลงไหลในรุ้งเหมือนๆกับผม
ปีก่อนฝนก็หยุดตกอีกครั้ง ผมว่าฝนมันก็หยุดตกทุกครั้งหลังจากที่มันตก..ฝนหยุดตกเสมอ.. ผมออกมายืนมองฟ้าอย่างเดิม อากงก็ออกมานั่งตำแหน่งเดิม..
"ฟ้าสวยมากนะเวลามีรุ้ง" เป็นประโยคแรกที่ผมได้ยินจากปากอากงนั้น
"ครับ"ผมตอบ ยังคงมองฟ้าด้วยกันทั้งคู่ ..วันนี้อากงดูเหนื่อยล้าเหลือเกิน บุหรี่หมดมวนแล้ว แต่แกยังนั่งอยู่ยังคงมองรุ้งต่อไป
"ทำไมรุ้งต้องออกมาหลังฝนด้วย"อากงถามผม ผมแค่ยิ้ม ..ผมรู้ว่ารุ้งมันไม่มีจริง มันเกิดจากหยดน้ำในอากาศสะท้อนแสงหักเหจนแยกสีออกมาเป็นเจ็ดสีอย่างที่ไอแซคนิวตันเคยว่าไว้ แต่อากงคงไม่รู้จักนิวตันแน่ๆ  "ผมว่ามันมาจากฟ้านะ"ผมตอบแกไปง่ายๆ ..อากงมองผม มองอยู่นานเลย เป็นครั้งแรกที่แกถอนสายตาจากรุ้งมามองผมตรงๆ แกถอนใจก่อนจะกลับไปมองรุ้งอีก "อั้วะว่าโฟตอนของแสงกับการหักเห มันไม่ได้เกิดจากฟ้าหรอก" ผมงงไปเลย แกไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไรแกก็เริ่มพูดต่อ "หกสิบกว่าปีที่แล้วอั้วก็มานั่งแบบที่ลื้อนั่งนี่แหละ นั่งโง่ๆแบบนั้น ดูรุ้งเพราะคิดว่ามันมาจากฟ้า.. เด็กผู้หญิงคนหนึ่งบอกอัวะว่า มันเป็นการหักเหของแสง อั้วะไม่เชื่อ นั่งเถียงกันอยู่นานจนอีต้องเอาหนังสืออะไรต่ออะไรมาเปิดอธิบาย จนอั้วะเข้าใจ" อากงเริ่มฟินกับอดีตของแกแล้ว "อีจะมาดูรุ้งกะอั้วะทุกครั้ง ..รุ้งไม่ว่ามันจะเกิดจากอะไรมันก็ยังสวยอยู่วันยังค่ำ.. ฟ้าไม่เคยหยุดสวยเลย.. จนวันนึงอีบอกกับอั้วะว่า อีจะไปดูรุ้งใกล้ๆ.. อั้วะก็งงดิ ก็รุ้งมันไม่มีจริงนี่นา อีเป็นคนบอกอั้วะเอง ..แต่ยังไงอีก็ยังจะไปตามหารุ้งให้ได้ .... อีกสี่ห้าวันหลังจากนั้น มีคนเจอศพเด็กผู้หญิงที่ในป่าข้างชานเมือง....ไม่มีใครรู้ว่าอีเจอรุ้งรึเปล่า รู้แค่ว่าเด็กผู้หญิงตายเพราะโรคโลหิตจาง ..ยุคนั้นรักษาไม่หาย ....อีคงจะรู้ว่าตัวเองจะตายมั้ง...."อากงพูดจบแค่นั้น แล้วก็มองรุ้งต่อไป ผมรู้สึกว่าอากงคนนี้ไม่ได้เพ้อเจ้ออีกแล้ว ตามัวๆของแกเริ่มมีน้ำตา ....เราไม่พูดอะไรกันอีก ..รุ้งเริ่มหายไปแล้ว อากงก็เข้าบ้านไปแล้ว ผมรู้ว่าอากงมีเหตุผลของแก เหตุผลที่แกมามองรุ้งทุกครั้งตลอดหกสิบปี....
....ฝนหยุดตกอีกครั้ง ฝนมันก็หยุดตกทุกครั้งหลังจากที่มันตก..ฝนหยุดตกเสมอ.. ผมออกมายืนมองฟ้าอย่างเดิม แต่ครั้งนี้อากงไม่ได้ออกมาแล้ว แกหายไปหลายวันแล้ว ..มีคนบอกว่าเห็นแกเดินเข้าป่าไป ..เพื่อนบ้านคนหนึ่งไปแจ้งตำรวจ เช็คประวัติที่โรงพยาบาลถึงได้รู้ว่าแกเป็นมะเร็งและใกล้จะตายแล้ว.... ผมรู้สึกตกใจ ผมอยู่แถวบ้านแกแท้ๆ ยังไม่รู้เลย แกไม่เคยบอกใครเลย .. เชื่อไหมครับจนถึงวันนี้ยังไม่มีใครเจออากงนั้นอีกเลย ผมไม่รู้ว่าแกไปไหน แต่ผมรู้ว่าแกไปทำอะไร ..แกจะไปดูรุ้งใกล้ๆ ..ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีจริง แต่รุ้งก็ยังสวยอยู่วันยังค่ำ ยังน่าค้นหาอยู่ดี
....ตำรวจเจอกระดาษข้อความที่แกทิ้งไว้บนโต๊ะในบ้าน เขียนว่า"ถึงไอ้หนุ่มที่ดูรุ้ง อย่าปล่อยให้ความรู้มันมาทำลายรุ้งของเราได้.."
....ผมชอบประโยคที่ว่า "ฟ้าหลังฝนจะสดใส" ผมว่ามันจริง....

....เทโพ....

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ศรีเปรื่อง, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, พ.พิมพา, panthong.kh, รัตนาวดี, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s