กระทู้ที่ตอบกลับ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
28 เมษายน 2024, 02:59:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2 3 4 5
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กระทู้ที่ตอบกลับ  (อ่าน 37020 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
28 มีนาคม 2013, 09:44:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 09:44:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: คำสัญญา
« ตอบ #2 เมื่อ: 02 มกราคม 2013, 11:26:am »

เข้าอ่านกลอน ย้อนหลัง ยังฝังจิต
จึงลิขิต จิตใฝ่ ใจอยากเผย
ถึงเรื่องราว คราวก่อน อ้อนอิงเคย
มิอาจลืม ได้เลย เอ่ยสุนทร

คือคนแรก แทรกผ่าน ในมานสาว
คราปวดร้าว กล่าวขาน จารออดอ้อน
เข้ามาซับ น้ำตา พาอาทร
จะมิจร จากลา สัญญาใจ

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ก็ปีกว่า
คำสัญญา มิพราก จากไปไหน
มีพี่ชาย ใกล้เคียง มิเลี่ยงไกล
จะรู้ไหม...ซึ้งนัก ยามทักทาย

"ดิน"


จากวันนั้น ถึงวันนี้ ก็ปีกว่า
คำสัญญา ที่ว่าไว้ ไม่ศูนย์หาย
ยังอยากเห็น อยากชิดใกล้ ได้ทักทาย
อยากชม้าย ชายตามอง จ้องตาเธอ

อย่าเป็นห่วง ทวงหา สัญญาใจ
ฉันจำไว้ ในดวงจิต คิดเสมอ
ยามหลับไหล ใจวิงวอน นอนละเมอ
ขอให้เจอ เธอในฝัน หวั่นอาวรณ์

มีโอกาส เมื่อไร จะไปหา
อยากเห็นหน้า เธอจริง มิ่งสมร
วาสนา จะมีไหม ใจร้าวรอน
กราบขอพร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัมฤทธิ์เทอญ

ชลนา  ทิชากร

<a href="http://www.youtube.com/v/YC9aQPFVk28&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/YC9aQPFVk28&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[/quote]

Re: :::::ล้างลานใจ...?
« ตอบ #13 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2013, 07:29:pm
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 21 สิงหาคม 2013, 01:27:pm





เพราะฉันนั้น มั่นแท้ แดเพียงหนึ่ง
สบมานซึ้ง ตรึงแน่ มิแปรไหน
แต่บังเอิญ เดินชน คนหลายใจ
เขาเปลี่ยนไป ให้หมอง ครองเรื่อยมา

หัวใจฉัน ลานทาง กว้างขวางรก
สกปรก หยากไย่ ช่างไร้ค่า
หากพี่ยัง ปรานี มีเมตตา
กะจะอ้อน จนกว่า ชีวาวาย



"ดิน"






พยายาม ล้างต่อไป แม้ไม่ออก
เอารักพอก ฟอกใจ ให้จางหาย
เติมรักหวาน ซ่านแด แผ่กระจาย
ไปละลาย หายขม ระทมทรวง

สกปรก แค่ไหน ไกลเกินฝัน
จะฝ่าฟัน ต่อไป ให้ลุล่วง
จะฟอกให้  สดใส ใหม่ทั้งดวง
ขอพุ่มพวง อย่าหวงเขา ไว้เศร้าเลย

ชลนา  ทิชากร


<a href="http://www.youtube.com/v/pxS56vZHmXQ&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/pxS56vZHmXQ&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

Re: ฝากไว้ให้ความรัก
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2013, 02:40:pm »

เธอ..ในวันเก่า
เคยแนบเนา เฝ้าฝัน วันสุขี
ช่างเสกสรร ปันร้อย ถ้อยวจี
ดวงฤดี ทวีเพิ่ม เคลิ้มตามไป

 ผิดสังเกตุ เหตุห่าง เจือจางลด
ทั้งถ้อยพจน์ หดหาย กลายไฉน
ก่อนเคยมี มิเหลือ แล้วเยื่อใย
จำต้องไกล ในเมื่อ เธอเบื่อคอย

ภาพย้ำเตือน เยือนยล ทุกหนแห่ง
ใจเธอแบ่ง แกว่งไกว ให้ยับย่อย
มิมั่นคง ลงหลัก สลักลอย
ถามเธอหน่อย..ตัดใจใช้ อะไรทอน...?

ตัดอย่างอื่น หมื่นพัน ก็บั่นสิ้น
ตัดดวงจินต์ นี้อนาถ ยากขาด,ถอน
ณ.วันนี้ ความหลัง ฝังอาวรณ์
ยามจะนอน หมอนยังชุ่ม อุ้มน้ำตา


"ดิน"


ฉัน.............ในวันเก่า
ยังแนบเนา เฝ้าฝัน รำพันหา
ยังรำพัน ปันคำ พร่ำวาจา
มิซ่างซา ราร้าง จางจากใจ

ถ้าสังเกต เจตนา ไม่ราลด
ยังหวานหยด จดจาร พร่ำขานไข
ร้อยลำนำ คำกลอน วอนลมไป
ยังห่วงใย ใฝ่คะนึง คิดถึงเธอ

ภาพก่อนเก่า เนาแนบ แอบอกฉัน
ทุกคืนวัน ฝันถึง ซึ้งเสมอ
ยังมั่นคง จงรัก ภักดิ์บำเรอ
นอนละเมอ เพ้อฝัน ใจรัญจวน

มิเคยปัด ตัดใจ ไกลเหินห่าง
รักไม่จาง ร้างรา อย่ากำสรวล
ยังมั่นคง หลงใหล ในเนื้อนวล
อย่าเพิ่งด่วน ครวญคร่ำ พร่ำน้ำตา

ชลนา  ทิชากร

Re: :::::จะหายไหมน้อ.....?
« ตอบ #10 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2013, 09:23:pm »

โอ๊ย.....ปวดหัว
เมื่อยเนื้อตัวไต่ตามลามยั้นขา
กระอักกระอ่วนพะอมพะอืด มืดมัวตา
หมดแรงล้าชาแขนแสนเบื่อจัง

กินแต่ยา ทาถูจนหูอื้อ
หลายหลากมื้อมิหาย คล้ายสิ้นหวัง
มักหงุดหงิดจิตหม่นบ่นเสียงดัง
เพ้อคลุ้มคลั่ง บ้างหลงคงอีกนาน

ช่างย้ายโยกโรคเวียนเปลี่ยนมาทัก
ยากเย็นนักรักษาหาสมาน
มันมิถูกหยูกยากับอาการ
ถ้าแต่งงาน แล้วจะคลาย...หายมั้ยน้อ...?


"ดิน"




โอ๊ยปวดใจ ใครจะเท่า ตัวเรานี่
ลูกตัวดี ทำป่วน กวนใจพ่อ 
ตัวแม่มัน ไม่เข้าใจ หรือไรหนอ
จะให้รอ ถึงไหน กวนใจจัง

ลูกตัวดี ขี้สงสัย ฤทัยหด
อารมณ์ลด หดไป ไม่สมหวัง
เมียก็นอน หันหลังให้ ไม่อินัง
แทบคลุ้มคลั่ง นอนบ่น ทนต่อไป

โอ๊ยปวดใจ ใครจะเท่า ตัวเราหนอ
เฝ้านอนรอ ลูกอ่อน นอนหลับใหล
จนรุ่งราง สว่างจ้า ฟ้าอำไพ
นอนปวดใจ ทั้งคืน ขื่นขมทรวง

ชลนา  ทิชากร

[/center]


เหงา...รอ....?
« เมื่อ: 14 มกราคม 2014, 05:06:pm » อ้างถึง
 

ดารกะปะปนบนฟ้าใส
ลอยล่องไหลว่ายวนทนว้าเหว่
ระยิบยับวับแวมแซมซวนเซ
ร่อนรอนเร่ร้างเลือนเหมือนห่างตา

งามเมลืองเหลืองนวลอวลเอิบอาบ
ซึ้งซ่านซาบฉาบฉายสู่ปลายหล้า
ศศิแสงรื่นรมย์สมอุรา
แสนเหว่ว้าข้ากับเดือนมิเหมือนกัน

จินต์ข้าหมางห่างหักคนรักหาย
เขาคือชายคนเดียวหมายเกี่ยวฝัน
ก่อนเคยเคียงเรียงถ้อยร้อยสัมพันธ์
ไยเหหันพลันหายไปลับลา

ก้อย

 
บ่นถึงใคร ไหนกัน พลันห่างหาย
แสงดาวฉาย รายล้อม ห้อมเวหา
นั่งหงอยเหงา เฝ้ามอง จองดารา
เอ่ยวาจา ว่าใคร คนไหนกัน

มองฟ้าคราม ยามนี้ ฤดีหม่น
สงสารคน บ่นเหงา เศร้าโศกศัลย์
นั่งเหม่อมอง จองดาว พราวร้อยพัน
อิจฉาจันทร์ ดั้นฟ้า นภาพราว

ยากปลอบใจ ใกล้ชิด  คิดเป็นเพื่อน
ชมดาวเดือน เกลื่อนฟ้า เวหาหาว
ชีชวนมอง จ้องจับ นับดวงดาว
ปลอบใจสาว คราวช้ำ ระกำทรวง

ชลนา  ทิชากร

Re: :::::ใช่ มั้ย น้อ......?
« ตอบ #2 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2014, 10:38:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2014, 08:19:am



อยากเป็นนก

เหมือนรพีคลี่ครอบขอบโค้งคุ้ง
เรืองเรียวรุ้งพุ่งฉายปรายสีสัน
รุ่งอรุณอุ่นตาวิลาวัณย์
ผลิผ่องพรรณฉันเฉิดเกิดประกาย

ไร้ขอบเขตขีดข่มพรมแดนขวาง
การเดินทางพรั่งพรูสู่จุดหมาย
เมื่อมานสองประจักษ์เข้าทักทาย
เพริศพริ้งพรายฉายฉานลงลานใจ

ผูกสมัครถักทอก่อรากฐาน
สองดวงมานสานจินต์สิ้นเงื่อนไข
ทุกเวลานาที ที่ผ่านไป
จิตห่วงใยใฝ่ภักดิ์ปักกลางทรวง

เพียรรบเร้าเฝ้าถามยามห่างหาย
ใจกระวายกายผันพลันห่วงหวง
เกินกักเก็บเหน็บยั้งทั้งแดดวง
ตกในบ่วง เกินสรรจำนรรจา

โลกชมพูฟูเฟื่องเรื่อเรืองสอง
วรรณะอ่องผ่องพรรณจิตหรรษา
งามฉันเฉิดเพริศพักตร์ลักขณา
เปล่งปลั่งหน้าตาชื่นระรื่นริน

จิตมีสุขทุกหนแม้ยลไหน
ถึงใกล้ไกลใจโบยโหยถวิล
ได้ครองครอบมอบภักดิ์ประจักษ์จินต์
ทั้งหมดสิ้นจึงเพรียก...เรียกว่า"รัก"

"ดิน"


รุ่งอรุณ กรุ่นฟ้า นะภาผ่อง
แสงสีทอง ส่องฟ้า ตาประจักษ์
สุริยา ฟ้าสาง อ้างว้างหนัก
ขาดคนรัก พักตร์ผ่อง หมองหม่นใจ

เสียงวิหก นกกา พากันร้อง
กู่เสียงก้อง ครองคู่ อยู่ชิดใกล้
อิจฉานก ผกผิน บินจากไป
เราห่างไกล ไร้คู่ อยู่เชยชม

เฝ้าแอบภักดิ์ รักใคร่ ใจหมองหม่น
รักหน้ามน คนไกล ใจขื่นขม
อยากเห็นนัก พักตร์น้อง ปองภิรมย์
แอบนิยม ชมชอบ มอบหัวใจ

พยายาม ตามรู้ ดูอักษร
ที่เธออ้อน กลอนกานท์ เฝ้าขานไข
เขียนตัดพ้อ ต่อกลอน อ้อนกับใคร
เศร้าทรวงใน ไห้สะอื้น ฝืนใจตรม

โลกสีม่วง ทรวงหม่น ทนเจ็บช้ำ
อ่านถ้อยคำ พร่ำเพ้อ เธอสุขสม
เขียนกระเซ้า เย้ายอก ออกอารมณ์
ต่างนิยม ชมชอบ มอบหัวใจ

คอยเฝ้าดู อยู่ห่างห่าง อย่างทราบซึ้ง
แอบคะนึง ถึงอยู่ รู้บ้างไหม
ถึงทุกข์ทน หม่นเศร้า เหงาทรวงใน
จะอย่างไร ใจภักดิ์ รักเพียงเธอ

ชลนา  ทิชากร


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...เป็ดน้ำ..., พี.พูนสุข, D, Shumbala, รพีกาญจน์, khuadkao, Thammada, ไพร พนาวัลย์, choy

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

28 มีนาคม 2013, 09:56:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #1 เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 09:56:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: คำสัญญา
« ตอบ #11 เมื่อ: 04 มกราคม 2013, 09:04:am »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 04 มกราคม 2013, 07:55:am


จากวันนั้น ถึงวันนี้ ไร้วี่แวว
หรือสิ้นแล้ว หนอรัก คงหักเหิน
เธอปล่อยปละ ระยะใจ ให้ไกลเกิน
ต้องเผชิญ เดินเดี่ยว เหี่ยวแห้งใจ
 
ทุกเรื่องราว ข่าวหาย คล้ายมิห่วง
มีคนควง ลวงเรา หลงเฝ้าใฝ่
คำสัญญา มาแปร แพ้คนใกล้
เธอหวั่นไหว ไม่คงที่ มีหลายคน

"ดิน"


ไม่เคยหวั่น ไม่เคยไหว ใจคงมั่น
ถึงปีเปลี่ยน เวียนผัน กี่พันหน
เธอคนเดียว เกี่ยวไว้ ในกมล
คูเหตุผล ของฉัน รำพันครวญ
 
ไปหาอ่าน สื่อสารไว้ ในบ้านกลอน
แม่งามงอน ค้อนใส่ ไม่แลหวน
ไม่เคยอ่าน ผ่านเลยไป ใจเรรวน
เศร้ากำสรวล ครวญหา สัญญาใจ

ชลนา  ทิชากร

<a href="http://www.youtube.com/v/7wvS86zIMaM&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/7wvS86zIMaM&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

Re: มาจากดิน
« ตอบ #2 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2013, 01:13:pm »

อรุณแจ้งเจิดจรัสประภัสสร
ทินกรต้อนรับจับผืนหล้า
ลมโบยโบกโยกไกวไพรพนา
สายธาราระรินธรณินดง

เกิดแต่ตม...บ่มปักฟูมฟักเฝ้า
ทั้งรากเหง้าใช่ยูงมิสูงส่ง
จับปูนากาไก่กินไผ่ตง
มิลุ่มหลงแสงใสไฟนีออน

ภาษาถิ่นดินแท้...เอ็ง,แก,ข้า
เติบโตมาฝ่าฝันวันล้าอ่อน
ทั้งสุขทุกข์คลุกเคล้าสาวดงดอน
แทบรานรอนร้อน,หนาวทางก้าวมา

บัวบางเบา...เฉาชัดหากตัดก้าน
มิอาจทานบานได้ในวันหน้า
อยู่กับเหง้าเฝ้ากอรอชะตา
กาลเวลาผันพรากไปจากบึง


"ดิน"

รุ่งทิวา เรื่อเรือง สีเหลืองอ่อน
หมู่ภร ถลา มาหึ่งหึ่ง
เฝ้าดมดอม ตอมบัว ทั่วทั้งบึง
บุญไม่ถึง จึงเศร้า เฝ้ามองบัว

มองบัวงาม ยามเช้า เอามาคิด
ทุกชีวิต คนเรา เคล้าดีชั่ว
ก่อกำเนิด เกิดมา อย่าเมามัว
จงทำตัว ให้ชุ่มฉ่ำ ด้วยกรรมดี

ดังดอกบัว ชำแรก แทรกโคลนตรม
ไม่โสมม จมปลัก ผลักวิถี
เป็นบัวงาม ผุดผาด ปราศราคี
รุ่งสุรีย์ คลีกลีบบาน ทานตะวัน

ดอกบัวงาม ด้วยน้ำหล่อ ไม่หอเฉา
หากคนเรา มีน้ำใจ ใสเฉิดฉัน
แจกเจือจาน ทานใจ ไหลแบ่งปัน
เหมือนบัวผัน ไม่เหี่ยวแห้ง แล้งน้ำตาย

จะเกิดมา จากดิน ถิ่นย่านไหน
ความจริงใจ กายวาจา อย่าแหนงหน่าย
สุจริต ยุติธรรม ประจำกาย
ฉันก็ชาย คนหนึ่ง ซึ้งใจเธอ

ชลนา  ทิชากร

น้ำตาคราหมอก เคยหยอกเย้า ตอน ช้วยต่อกลอนให้ทีใครเทพเข้ามาที (จากเด๊ก ป 4)
« เมื่อ: 02 ตุลาคม 2013, 01:29:am »

ยามพี่หนาวหนาวใจอุ่นไอหมอก

น้ำค้างหยอกยวนเย้าเค้าลมหวน

ใบไม้โปรยโรยร่วงห่วงรัญจวน

ยังคงหวนหยอกเย้าพี่เหงาใจ

อกหวั่นไหวหัวใจของชายหนุ่ม

แอบหลงลุ่มนวนน้องเสนห์หา

ลมพัดโชยนั้งเหงาเค้าน้ำตา

จ้องมองหามิเห็นน้องหมองฤทัย

หรือเจ้าห่างหายไปกับไอหมอก

ลมพัดหยอกเจ้าเลือนลางมาจางหาย

ไอหมอกจางน้ำค้างลงหน้าโปรยปลาย

พี่ สยาย คลายเหงา เศร้าอกตร,

เหนือเทพเมฆา

ยามพี่หนาว น้องก็หนาว คราวช้ำชอก
ละอองหมอก เย็นชื่น น้องขื่นขม
ไปไม้โปรย โรยร่วง ทรวงระทม
ยิ่งหนาวลม ตรมนัก รักมลาย

อยากจะได้ พี่ยา เป็นผ้าห่ม
กอดเกลียวกลม ห่มสาว หนาวจางหาย
น้ำค้างพรม ลมโชย ฝนโปรยปลาย
ไม่ระคาย กายน้อง ให้หมองตรม

ได้ผ้าห่ม อย่างพี่ นี้อุ่นนัก
อุ่นไอรัก ตักพี่ นี้เหมาะสม
ได้หนุนนอน ผ่อนหนัก รักระทม
อุ่นอารมณ์ ชมชื่น ทุกคืนวัน

ชลนา  ทิชากร

สีใดกัน
« เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2013, 06:16:pm »

สีใดกัน

@สีนี้หรือคือสีของใครกัน
เป็นแค่สีของฉันหรือใครอื่น
เคยสวยสดงดงามยามมะรืน
สีกลับคืนเจือจางจนบางเบา

@สีนี้หรือคือสีอะไรกัน
เคยรังสรรค์รุ่งเรืองไม่เปลืองเปล่า
น้ำเงินแดงและขาววาวเป็นเงา
สีของเราของคนทั้งแผ่นดิน

@วันนี้สีที่รู้ช่างดูซีด
เกินเขียนขีดรางเลือนเปื้อนจนสิ้น
ไร้ซึ่งจินตนาการบันดาลจินต์
ไม่ได้ยินเห็นคนจะสนใจ

@ความย่อยยับอีกครั้งจะฝังประเทศ
ก็เพราะเหตุต่างสีที่มีใหม่
แบ่งแยกและแตกต่างสร้างกันไป
กลายเป็นสีอะไรก็ไม่รู้

@สีนี้หรือคือสีของใครกัน
จะรอเสียงสวรรค์กระไรอยู่
หากหัวใจคนไทยไม่รับรู้
คงได้ดูตัวอย่างเหมือนต่างเมือง

@อย่ารอจนคุ้มคลั่งพังทั้งชาติ
ที่บังอาจยิ้มมุมปากยากคุยเขื่อง
แพ้ด้วยกันทั้งนั้นวันไฟเรือง
พุ่งเปลวเหลืองไหม้ยับดับพารา

*******************
ที่ทำงาน
พงศ์ภัณฑ์
๑๘/๑๑/๕๖

สีตระหนี่ สีอิจฉา บ้าอำนาจ
สีผูกขาด พวกพ้อง พี่น้องข้า
อย่าแบ่งปัน ผู้ใด ใครเทียวนา
จงรักษา เอาไว้ ในหมู่เรา

หลากหลายสี ขี้อิจฉา ตาร้อนฉี่
คอยตบตี หวงก้าง ช่างโง่เขลา
เหมือนกำเนิด เดรัจฉาน พาลมั่วเมา
ทั้งคอยเห่า คอยกัด ฟัดกันนัว

แย่งที่กัน หากิน จนสิ้นชาติ   
แย่งอำนาจ กันเป็นใหญ่ ใจต่ำชั่ว
แย่งคู่กัน สังวาส ไม่ขลาดกลัว
แย่งเขตรั้ว แดนดิน ถิ่นของกู

แย่งกันไป แย่งกันมา บ้าไม่สิ้น
ตายดับดิ้น ชีวา น่าอดสู   
กี่คนแล้ว คนเล่า เฝ้าตรองดู
สำนึกรู้ กันไหม ใจคนพาล

เก่งแต่ฆ่า กันเอง ไม่เกรงใคร
แน่จริงไป ลงใต้ ใครล้างผลาญ
ใครรุกล้ำ แดนดิน ถิ่นวงศ์วาน
เข้าประหาร ให้สิ้น แผ่นดินไทย   

อย่ามัวเห่า มัวกัด ฟัดกันเอง
ให้ร้องเอ๋ง อายเขา ไม่เอาไหน
เรามันเลือด เดียวกัน ผูกพันใจ
รักกันไว้ ดีกว่า เข่นฆ่ากัน

ชลนา  ทิชากร

Re: ^^^^^สิบสามค่ำ...เดือนสิบสอง....?
« ตอบ #22 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2013, 08:50:am »

ชลสินธุ์รินไหลสาดสายสั่ง
ล้นหลากหลั่งคลั่งเคลื่อนเลื่อนสู่ส่ง
แฉกช่องเชี่ยวเกรียวกราด วนวาดวง
หลั่นรอนลงทรงกับทรุด..ไร้จุดยืน

เดือนสิบสองล่องรี่ วารีลด
แสนสลดหดห่างไร้ทางฝืน
ไยรีบล่องเร็วล้ำสุดกล้ำกลืน
มิย้อนคืนเลยธาร...หรือการลา

เพลาขึ้น อืดอ่อย...ทยอยเพิ่ม
รับแรกเริ่มเติมตักจักหรรษา
พิลาสล้ำฉ่ำผลชลนา
ชุบชีวา ผาสุขปลุกกมล

ความรักฉันนั้นหรือ...คือสายน้ำ
แรกดื่มด่ำฉ่ำใสไร้เหตุผล
ค่อยกอบก่อต่อเติมจนเพิ่มล้น
น่าฉงน ปรนไปไม่ยืนนาน

ถึงคราหยุดสุดวิสัย...ห้ามได้หรือ
ยึดยั้งยื้อ เยี่ยงไรเมื่อไร้ฐาน
ของเหลวไหลไร้รอยแม้คอยต้าน
อยาก..ทัดทานปานใดจนใจจริง

นทีล่อง ท่องลงไม่คงที่
มิใยดีที่เคียงเคยเรียงสิง
กระทงน้อยลอยไว..ไร้ที่อิง
ฝากรักทิ้งลงทะเล..อย่าเขว...อีกนะใจ


"ดิน"

แว่วยินเสียง หัวใจ ใครสะอื้น
ยามดึกดื่น คืนเหงา เศร้าว้าเหว่
น้ำหลากไหล ใจเหงา เฝ้าลังเล
เพลงเรือเห่ กล่อมให้ ใครนิทรา

ท่ามกลางดาว พราวใส ในคืนเพ็ญ
รักหลีกเร้น หลบไป แห่งไหนหนา
หรือหลบซ่อน แอบไว้ ในเมฆา
รักร้างรา หลบไป อยู่ไหนจันทร์

ดาวสะพรั่ง รักร้าง  อ้างว้างจิต
ใจยังคิด ใฝ่เพ้อ ละเมอฝัน
รักจากไป ใจเหงา เศร้าจาบัลย์
ให้โศกศัลย์ เศร้านัก รักลำเค็ญ

ศศิธร พร่างพราย คล้ายเสียดสี
ชลธี เหงาใจ ใครจะเห็น
รักจากไป หมองใจไม่วายเว้น
กลางเดือนเพ็ญ เด่นฟ้า มากลับกลาย

คนรักจาก พรากไป หัวใจช้ำ
มองสายน้ำ งามเด่น แสงเพ็ญฉาย
แว่วยินเสียง ใครละเมอ เพ้อมากมาย
ฟังเสียงคล้าย ศศิธร อ้อนดารา

ปล่อยกระทง ลอยไป ให้พ้นผ่าน
อธิษฐาน วอนไหว้ ในใจว่า
ขอรักหวน ทวนกลับ อย่าลับลา
จงกลับมา บรรจบ พบกันเทอญ

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, D, Shumbala, รพีกาญจน์, khuadkao, Thammada, choy

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

28 มีนาคม 2013, 10:04:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #2 เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 10:04:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: .....เขียนไม่เป็นอ่ะ.....!?
« ตอบ #2 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2012, 05:04:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 17 ธันวาคม 2012, 04:23:pm


อยากจะอ้อน กลอนรัก สักสองบท
เฝ้าจารจด พจน์นาน  มานเริ่มกร่อย
ประสบการณ์ หวานตรึง ซึ้งมีน้อย
ช่างอ่อนด้อย ถ้อยคารม มิคมพอ

ยาก..มิน้อย นะนี่ วจีหวาน
จะขับขาน เยื่ยงไร ใจเริ่มฝ่อ
อยากเพิ่มเติม กลอนรัก หัดถักทอ
ใครรู้หนอ แนะบ้าง จ้างก็ยอม.

"ดิน"

ที่เขียนอยู่ ก็ดูหวาน ปานน้ำผึ้ง
อ่านแล้วซึ้ง ทรวงใน ใจหล่อหลอม
ช่างเรียงร้อย ถ่อยคำ นำมาย้อม
ส่งกลิ่นหอม ยวนยั่ว ทั่วทั้งใจ

ให้หลงใหล ได้ปลื้ม ลืมไม่ลง
ใจพะวง ห่วงหา พาหวั่นไหว
อยากเห็นหน้า คนงาม อร่ามวิไล
สวยปานใด จึงหวานหยด ทุกบทตอน

ชลนา  ทิชากร

หมาเห่า
« เมื่อ: 16 มกราคม 2014, 05:36:pm »

หมาเห่าเมื่อหมามันเห่าหอนวอนให้ตอบ
เราอย่าชอบหอนรับตอบกับหมา
จะเสื่อมศักดิ์เสียศรีถูกตีตรา
ว่าไปกัดกับหมาเสียค่าคน

จะเปลืองตัวเปลืองใจไปเปล่าเปล่า
จะหมองเศร้าหมดสุขทุกข์หน้าย่น
เพราะหมาเห่าเห่าตอบออกชอบกล
สุขเลอล้นถ้าจะไม่ใส่ใจมัน

Orion264(มือขวา)

หมามันเห่า ใบตองแห่ง แจ้งเหตุร้าย
ก็อย่าหมาย จริงจัง ฝังใจมั่น
สายลมพัด ใบตองแห่ง แกล้งหมามัน
หมาก็ดัน เห่าหอน หลอนลอกคน

ถ้าหมาเห่า ไม่กัด ชัดเจนอยู่
หมากัดดู ไม่เห่า เอาเหตุผล
ถ้าหมาเห่า ซึ่งหน้า อย่ากังวล
หมามันพ่น ความโง่ โชว์ลวดลาย

ชลนา  ทิชากร

เฮีย เหี่ย ....เฮี้ย เหีย
« เมื่อ: 17 มกราคม 2014, 01:43:pm »

เฮีย เหี่ย ....เฮี้ย เหีย

พวกผมผิดตรงไหนให้บอกหน่อย
คนจึงคอยก่นด่าว่าให้เสีย
หรือไปหนักส่วนไหนให้มาเคลีย
ถึงเป็นเหี้ยแต่ไม่พาลระรานคน

อยู่ดีดีดันมาด่าบ้าหรือเปล่า
ช่างโง่เง่าจริงแท้แม่หน้าย่น
ด่าอย่างอื่นนั้นหนอยังพอทน
นี่มาก่นด่าเหี้ยเสียอารมณ์

Orion264(มือขวา)

พรหมลิขิต คุ้ยเขี่ย ให้เหี้ยเกิด
เหี้ยกำเนิด มาตาม ความเหมาะสม
เหี้ยกับเหี้ย เจอกัน นั้นน่าชม
กอดเกลียวกลม สมสู่ คู่ผัวเมีย

เหี้ยกับเหี้ย บังเอิญ เผชิญหน้า
ตาต่อตา มองข่ม อารมณ์เสีย
เหี้ยกับเหี้ย ฝัดกัน พันนัวเนีย
มีหนึ่งเหี้ย แพ้ไป ไล่กระเจิง

ชลนา  ทิชากร

❦• แอบรักคนเขียนกลอนค๊า •❦
« เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 05:43:am »

❦• แอบรักคนเขียนกลอนค๊า •❦

❧ ❧ ❧ ❧ ❧
คอยจดจดจ้องจ้องร้องคิดถึง
บทกานท์ซึ้งตรึงจิตขอพิศเผย
หนึ่งโสมส่องต้องมนต์คนกลอนเลย
เจ้าทรามเชยชื่นชิดสนิททรวง
❧ ❧ ❧ ❧ ❧
สำนวนรักหนักอกไม่ยกออก
ดั่งมีหมอกหวามหวานละลานสรวง
ปกคลุมครอบรอบฤทัยไปทั้งดวง
ฤๅ หมอกลวงหมอกรักชักหนักใจ
❧ ❧ ❧ ❧ ❧
ค่ำคืนวันผันผ่านจารสื่อศิลป์
ถักกวินวอนเว้าเฝ้าหวั่นไหว
ราดรินรดจดห้วงแห่งดวงใจ
สาวดอยไกลหลงรักแนบนักกลอน
❧ ❧ ❧ ❧ ❧ ❧
รินวาทะคละคล้อยค่อยค่อยหวาน
ร่ายขับขานสานทอก่ออักษร
มิตรภาพอาบล้ำคำบังอร
ของามงอนฝากสร้อยร้อยถึงกัน
❧ ❧ ❧ ❧ ❧ ❧
มิคาดหวังจงใจให้ตอบถ้อย
แต่อย่างน้อยคิดถึงคะนึงฝัน
มิได้ชิดจิตใกล้ในทุกวัน
ขอแค่นั้นพร่ำเพ้อละเมอครวญ
❧ ❧ ❧ ❧ ❧ ❧
ก่อนหลับตาคืนนี้พี่คิดบ้าง
คนอ้างว้างเหงาใจรอใครหวน
คิดถึงกันสักคราอย่าเรรวน
ขอรบกวนก่อนนอนวอนคนดี
❧ ❧ ❧ ❧ ❧ ❧

ตรีประภัสร์

ฟังวะรี เธอพร่ำ รำพันมอบ
ว่าชื่นชอบ คนกลอน อักษรศรี
หนึ่งโสมส่อง ต้องมนต์ คนกวี
พจน์วจี ซาบซึ้ง ติดตรึงทรวง

สำนวนรัก ถักถ้อย ร้อยความฝัน
พร่ำรำพัน หวั่นไหว ให้หึงหวง
หลงเสน่ห์ เทใจ ให้ทั้งดวง
เหมือนติดบวง ห้วงรัก สุดหักใจ

ยามค่ำคืน ตื่นตา พาสุขสันต์
อ่านประพันธ์ ฝันเพ้อ ละเมอใฝ่
ต้องมนต์ตรา อาคม ตรมทรวงใน
สาวดอยไกล ต้องมนต์ คนเขียนกลอน

ใครหนอใคร ไหนกัน รำพันซึ้ง
ให้สาวหนึ่ง โสมส่องต้องใจอ่อน
อยากรู้จัก เขาจัง นั่งอ้อนวอน
ของามงอน เอื้อนเอ่ย เผยความใน

อิจฉาเขา เสียจัง นั่งเหงาหงอย
อุตสาห์ร้อย วจี นี้มอบให้
เธอไม่เห็น คุณค่า น่าน้อยใจ
สาวดอยไกล ไม่สน หมองหม่นทรวง

ก่อนหลับไหล ในคืนเหงา เศร้าโศกศัลย์
ขอหลับฝัน ถึงหนึ่งโสม โคมส่องสรวง
ร้อยกวี จากใจ ให้พุ่มพวง
ด้วยห่วงหวง คนดอยไกล จากใจจริง

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, D, Shumbala, รพีกาญจน์, khuadkao, Thammada, choy

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

28 มีนาคม 2013, 10:14:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #3 เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 10:14:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: ๐....รักอมตะ....๐
« ตอบ #1 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2012, 04:42:pm »

...หนึ่งบทเพลงอมตะ...

ความรู้สึกเมื่อจาก..ยิ่งอยากเจอ
เคยเคียงเธอยามดึก..รำลึกหวน
น้อยแต่หนึ่งพึงฝัน..อันรัญจวน
เธอมิควรด่วนลา..ไห้อาดูร

ด้วยหนึ่งเสี้ยวเกี่ยวขวัญ..อันพิสุทธิ์
มิอาจหยุดแล้วจบ..ลบเหลือศูนย์
ยิ่งไม่พบ..ไม่มี..ทวีคูณ
เธอเพิ่มพูนความสุข..ให้ทุกวัน

Music


ความรู้สึก นึกคิด ที่ผิดหวัง
ฉันมานั่ง พร่ำเพ้อ ละเมอฝัน
นั่งเขียนกลอน วอนเธอ เพ้อรำพัน
สุขทุกข์นั้น พร่ำบอก ออกจากใจ

ยามฉันทุกข์ เธอปอบ ขอบคุณครับ
ขอน้อมรับ ไมตรี ที่มีให้
ยามฉันสุข เธอสุขด้วย อำนวยไชย
ทุกวันไป เท่านี้ ก็ดีพอ

ชลนา  ทิชากร

<a href="http://www.youtube.com/v/1Yqv8zsVDGM&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/1Yqv8zsVDGM&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

Re: :::::แค่นาง...คว้า....?
« ตอบ #2 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2014, 11:48:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2014, 09:54:am


แค่หญิงหนึ่งไม่สกาวลูกชาวสวน
คงมิควรคู่เขาที่เฝ้าหมาย
ก้มหน้ามองน้องต่ำผิวคล้ำกาย
ยากหาชายเคียงข้องมิต้องตา

เก็บผักบุ้งนุ่งซิ่นกระถินจิ้ม
มิเคยลิ้มเคยใฝ่ในพิซซ่า
โดนัทเค้กสเต็ก-สตูหรูไปนา
แค่ปลาร้าตำส้มนิยมกัน

เขาปองสาวสูงศักดิ์รักนางฟ้า
ส่งสายตายลจ้องปองเคียงฝัน
เราแค่คนต่ำใต้ให้จาบัลย์
ต้องโศกศัลย์แค่นางคว้า...ชายพาเมิน

"ดิน"

หุ่นก็สวย รวยทรัพย์ นับเนืองนอง
แถมขาวผ่อง มองที่ไร ใจมันเขิน
เพราะดวงจิต คิดหนัก รักเหลือเกิน
อยากจะเดิน  ไปคุกเข่า เฝ้าบอกรัก

ชายหมายปอง ตรองคิด จิตลุ่มหลง
ให้พะวง หลงใหล ใจคิดหนัก
อยากจะบอก ออกจากปาก ยากยิ่งหนัก
เฝ้าหลงพักตร์ เนื้อนวล ป่วนปั่นใจ

ตรึกตรองจิต คิดไกล ไม่ดีกว่า
แม้นางฟ้า ยังอาย ชายหน้าไหน
จะไปเทียบ เทียมอยู่ คู่ไฉไล
เพราะว่าไม่ คู่ควร นวลอนงค์

ชลนา  ทิชากร

<a href="http://www.youtube.com/v/RQ1-3d5b-nY&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/RQ1-3d5b-nY&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

เรื่อยๆ
« เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 10:29:pm »

ค่ำคืนนี้มีดาววับวาวฟ้า
ส่องนภาแพรวพร่างอย่างเคยเห็น
ลมราตรีหวี่หวิวสยิวเย็น
หนาวน้ำค้างอย่างเค้นขุดฤทัย

มาไร้นวลแนบข้างเคว้งคว้างจิต
ขาดคู่คิดอุราพาหวั่นไหว
ยืนตากลมชมดาวเหน็บหนาวใจ
ผืนผ้าใบราตรีที่ห่มนอน

โอ้ลมหนาว...หนาวป่วนรัญจวนนัก
ขาดคนรักอิงซบประกบหมอน
ผ่าราตรีพิศวาสจะขาดรอน
อกสะท้อนไออุ่นไม่หนุนทรวง

วิงวอนดาวพราวเด่นเห็นประดับ
อย่าให้รักลาลับจนลิบล่วง
ดาวช่วยสื่อสายใยหยาดหยดยวง
นำพารักไปสู่ห้วงฤดีแด

Orion264(มือขวา)
    

ค่ำคืนนี้ เธอเหงา ฉันเศร้าหม่น
อยากเป็นคน คลอเคล้า เฝ้ามองแข
สัญญารัก ผูกพัน ไม่ผันแปร
เฝ้าชะแง้ แลจันทร์ กันสองเรา

เธอจะไม่ ไร้นวล ดังครวญพร่ำ
น้ำค้างพรำ กล้ำกลืน คืนฟ้าเศร้า
เหม่อมองดาว พราวตา ฟ้าสีเทา
ขาดคนเคล้า เคียงข้าง อ้างว้างใจ

เพราะมีฉัน โอบกาย ให้คลายหนาว
น้ำค้างพราว หนาวลม พรมพัดไหว
ยังมีฉัน เคียงข้าง ไม่ห่างไกล
เฝ้าห่วงใย ใกล้ชิต จิตผูกพัน

ไม่ต้องวอน อ้อนดาว พราวฟากฟ้า
ฉันจะมา เคียงอยู่ เป็นคู่ขวัญ
คอยหยอกเย้า เซ่าซี ชี้ชมจันทร์
ร่วมสร้างฝัน กลางฟ้า ยามราตรี

ขลนา  ทิชากร

<a href="http://www.youtube.com/v/cYwU-de_haU&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/cYwU-de_haU&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

Re: คิดถึง..คิดถึง..
« ตอบ #4 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2014, 09:41:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2014, 10:55:pm

เสียงใครกันบ่นหาว่าคิดถึง
อักษรซึ้งประหลาดมิอาจผ่าน
จึงต้องวกเวียนก่อมาต่อกานท์
คงมิหวานซ่านตรึงอย่าขึ้งงอน

โลกออนไลท์ทำฉันจนหวั่นไหว
สัมพันธ์ใจชายหนึ่งแอบซึ้งซ่อน
แต่เขาจากไกลลับมิกลับคอน
ลืมเคยอ้อนกลอนต่อรอเขาคืน

"ดิน"

เสียงฉันเอง บรรเลงกลอน อ้อนหาเธอ
อยากเจอะเจอ สักครั้ง หวังได้ชื่น
เป็นตัวแทน คนไกล ไม่หวนคืน
จะไปยืน หยอกล้อ เฝ้าต่อกลอน

โลกออนไลน์ ยิ่งไล้  ยิ่งใกล้ชิด
แนบสนิท ยิ่งนัก รักออดอ้อน
เขาจากไกล ช่างเขา เจ้างามงอน
ฉันจะออน ไลน์ใจ ไปหาเธอ

ชลนา  ทิชากร

"ไม่กล้าทัก"
« เมื่อ: 01 มีนาคม 2014, 07:02:pm »

บอกตรงตรงเลยหนาไม่กล้าทัก
ใช่เหหักห่างเหินเมินหน้าหนี
ด้วยไม่รู้เยื่อใยที่ใจมี
ยังเหลือที่ให้วางเช่นดั่งเคย-

หรือว่ามีใครแทรกให้แตกร้าว
เก็บเรื่องราวเราทิ้งจึงนิ่งเฉย
ไม่สนในรู้สึกสำนึกเลย
จะลงเอยขัดแย้งหรือแกล้งอำ

บอกมาเลยดีกว่าว่าลาแล้ว
ไม่เหลือแววหวานชื่นมันขื่นช้ำ
สัมพันธ์จบวันนี้ที่กระทำ
ไม่มีคำอธิบายก่อนไกลกัน

แล้วอย่าแสร้งแกล้งดีเหมือนปีก่อน
วางคำกลอนอ้อนซึ้งคะนึงฝัน
เมื่อเหตุผลดลถึงซึ่งผูกพัน
เธอไม่หวั่นฉันช้ำ....ก็ตามใจ...

"สุนันท์ยา"

ถ้าจะทัก เสียอย่าง บนทางรัก
ก็เชิญทัก เถิดหนา อย่าหวั่นไหว
ทักให้รับ ให้รู้ เพื่อดูใจ
คิดอะไร กันอยู่ อยากรู้จัง

ถ้าจะรัก เสียอย่าง จงวางใจ
กลัวทำไม่ นิยาม ความผิดหวัง
รักมีสุข โศกเศร้า เหงาประดัง
ไม่จีรัง ยั่งยืน อย่าฝืนเลย

ต้องเรียนรู้ ชีวิต ที่ผิดพลาด
เมื่อฉลาด ขึ้นบ้าง ก็วางเฉย
รักเคยหวาน ผ่านพ้น คนคุ้นเคย
จงสังเวย รักไป ให้เป็นทาน

อย่าเก็บมา ใส่ใจ ให้ขุ่นเคือง
จงปลดเปลื้อง ปล่อยไป ให้พ้นผ่าน
พบรักใหม่ สดใส ใจชื่นบาน
ยิ้มหวานหวาน ขานรับ ประทับใจ

ชลนา  ทิชากร

กลัวผิดพลั้งยั้งก่อนไม่อ้อนหา
รอเวลาช่วงตอนคราวอ่อนไหว
ให้ผ่านพ้นท้นท้อเหมือนก่อไฟ
ดับสิ้นไปจากบ่วงดวงฤดี

เพราะไม่รู้เล่ห์ร้ายปลายทางฝัน
เขาจะมั่นหรือไม่ หรือย้ายหนี
ความโอบเอื้อเหลือไหม?หรือไม่มี
ความปราณีครั้งเก่ายังเท่าเดิม

หรือว่าไม่มีเหลือไม่ไกลห่าง
ปล่อยละวางรักคล้อยมิคอยเสริม
ให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เต็มเติม
ไม่อาจเริ่มรักเราเหมือนเก่าเคย

หากแม้นยังใยดีปราณีมอบ
คงจะหอบรักย้อนมาอ้อนเผย
คอยทักถามตามติดชวนชิดเชย
มิผ่านเลยล่วงล้ำให้ช้ำทรวง..

"สุนันท์ยา"

เธอวางกลอน อ่อนหวาน ประสานเศร้า
ฉันก็เขา ปลอบไป ด้วยใจห่วง
ไม่เคยคิด กลับกลอก เพื่อหลอกลวง
ด้วยความหวง ห่วงใย จากใจจริง

เธอก็ฝัน ฉันก็ฝัน สัมพันธ์รัก
มอบใจภักดิ์ รักไป ไม่หลอกหญิง
ไม่ทะเล้น กลิ่งกลอก หลอกเหมือนลิง
ไม่ทอดทิ้ง จริงใจ ในฝันนะ

ความรักเธอ อยู่ในกลอน อักษรศรี
สิ้นกวี สิ้นรัก ประจักษ์จ้ะ
เราร่วมรัก ร่วมฝัน กันนะจ๊ะ
รักก็จะ ยั้งยืน ไม่ขื่นใจ

ฝากใจฝัน กันเถิด จะเกิดผล
ไม่ทุกข์ทน หม่นหมอง ต้องร้องไห้
ฉันกับเธอ เจอกัน ทุกวันไป
ยามหลับใหล ใจฉัน ฝันถึงเธอ

ชลนา  ทิชากร

ฟังวลีรินร้อยถ้อยสื่อสาร
เมื่อผ่านนานกาลเผยเคยเนอ
คำว่ารักภักดีที่เคยเจอ
ดั่งไผลเผลอพลั้งผิดที่จิตตน

คำรักมั่นวันนี้มีอักษร
ร้อยงานกลอนอ้อนฝันปันฝากผล
ที่เคยผ่านวันเศร้ารวดร้าวทน
ความสับสนเกิดก่อ มีท้อตาม

เราทักกันด้วยรสของพจน์ศิลป์
ไปดั่งจินตนาการที่หวานหวาม
ไม่มีหรอกโกรธขึงบึ้งตึงความ
รักงดงามสวยใสมีให้เธอ...

 
"สุนันท์ยา

สำเนียงรัก ถักร้อย ถ้อยสื่อสาร
ลิขิตผ่าน บทกลอน อ้อนเสนอ
แสนซาบซึ้ง ตรึงใจ คราได้เจอ
ฟังแล้วเผลอ ใจลอย เคลิ้มคล้อยตาม

สำเนียงรัก งดงาม อร่ามสวย
มอบมาด้วย ดวงใจ ที่ไหวหวาม
อดีตช้ำ กล้ำกลืน ฝืนทุกยาม
ถูกมองข้าม เลือนหาย สลายไป

ต่างทักทาย ด้วยรส บทกวี
คลอดนตรี พลิ้วผ่าน หวานสดใส
เป็นสำเนียง เสียงบอก ออกจากใจ
มอบรักไว้ ให้ประจักษ์ ว่ารักเธอ

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, Shumbala, รพีกาญจน์, khuadkao, Thammada, choy

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

28 มีนาคม 2013, 10:23:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #4 เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 10:23:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: ~@ ยังคงรัก @~
« ตอบ #15 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2012, 05:05:am »


ปลายฟากฟ้าฝั่งนี้..มีรักมั่น
ผูกสัมพันธ์ผันพ่วงเพราะหวงแหน
ไม่อยากให้ใจเจ้าชู้มาดูแคลน
รักด้วยแก่นของใจ..ให้คนดี

รักพี่นั้นงันงง..น้องสงสัย
รักอย่างไรไม่ปองจับจองที่
หรือเป็นแค่โลเลให้เสรี
เอ่ยวจีเพ้อพร่ำ..เหือดน้ำใจ

แม้อึดอัดขัดข้อง..น้องลาก่อน
เกินจะอ้อนซ้ำซ้ำ..ช้ำ !รู้ไหม?
จะเจียมตัวเจียมตน..ประสาคนไกล
น้องคงแค่ ”คนไม่ใช่”..พี่ไม่แคร์

แซม

ปลายฟากฟ้า ฝั่งโนน ไกลโพ้นนัก
แต่มีรัก ปักใจ ไว้แน่วแน่
รักคงมั่น รักเธอนั้น ไม่ผันแปร
รักจริงแท้ แน่นอนนัก ฉันรักเธอ

ปลายฟากฟ้า ฝั่งโนน ไกลโพ้นยิ่ง
มีรักจริง ยิ่งใหญ่ ให้เสมอ
ถึงตัวไกล ใจใกล้ ใฝ่ปรนเปรอ
รักบำเรอ เสมอมั่น นิรันดร

ปลายฟากฟ้า ฝั่งโนน ไกลโพนจัง
รักฉันยัง ดำรงอยู่ คู่สมร
จะเนินนาน ปานไหน ใจอาวรณ์
รักงามงอน คนดี นี้ทุกวัน

ชลนา  ทิชากร

<a href="http://www.youtube.com/v/-o0g6HDjPDQ&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/-o0g6HDjPDQ&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

Re: "เพราะเหตุใด?"
« ตอบ #1 เมื่อ: 06 มีนาคม 2014, 10:16:pm »


ไอละมุนอุ่นรักสลักฝัน
เคยบอกกันมั่นนักมิผลักใส
แม้นเวลาผ่านล่วงเฝ้าห่วงใย
นานแค่ไหนใจพร้อมนำน้อมเคียง

คำที่เผยเอ่ยอ้างเส้นทางนี้
โอ้คนดีลืมไฉนจึงไร้เสียง
สิ้นความหมายคลายลับดับสำเนียง
ที่ร้อยเรียงเพียงหนึ่งพึงมอบมา

สร้อยอักษรก่อนเคยเผยคำอ้อน
ใยสั่นคลอนอ่อนไหวไม่ห่วงหา
ปรารถนาเกี่ยวคล้องยามต้องตา
หรือลืมแล้วสัญญา..เคยสาบาน

จึงไม่เหลือสิ่งใดคาใจค้าง
ปลดปล่อยวางคว้างคล้อยล่องลอยผ่าน
ที่รินร่ายกลายขมตรมร้าวราน
รสรักหวานพาลชืดจืดจางลง

เฝ้าคิดครวญทวนความถามหาเหตุ
เพราะอาเพศใดหนอก่อประสงค์
ให้ต้องเจ็บเกินเก็บซ่อนผ่อนปลิดปลง
ความมั่นคงหลงเลือนไม่เหมือนเดิม

เฝ้าถักทอรอขวัญในวันชื่น
เธอกลับยื่นรอยช้ำระกำเสริม
เปรียบน้ำใจแห้งหมดไม่รดเติม
สิ้นใยเสริมรักเศร้าสิ้นเงาเธอ...

“สุนันท์ยา”

แสงจันทร์นวล ชวนมอง ส่องฟ้าใส
หริ่งเรไร ร่ำร้อง ฉันมองเหม่อ
นกจับคอน นอนเหงา เฝ้าละเมอ
เสียงใครเพ้อ คอยคู่ อยู่เดียวดาย

ฟังเธอพร่ำ ช้ำทรวง ทวงสัญญา
เอ่ยวาจา ว่ารัก ปักใจหมาย
จะรักกัน มั่นอยู่ ไม่รู้คลาย
สิ้นสลาย หายลับ ไม่กลับคืน

คอยอักษร กลอนกานท์ ผ่านเลยหาย
เขาแหนงหน่าย หรือไร ให้ขมขื่น
เสียงเธอเพ้อ เธอพร้ำ ช้ำกล้ำกลืน
แผ่วสะอื้น เบาเบา เศร้าใจจัง

หริ่งเรไร ระงม ลมพัดผ่าน
แสนสงสาร ยิ่งนัก รักผิดหวัง
เธอคร่ำครวญ ทวนความ ยามได้ฟัง
ทุกข์ประดัง โถมทับ จับหัวใจ

เผยวจี  รินคำ รำพันผ่าน
ปลอบนงคราญ ผ่ากลม พรมพัดไหว
รักมีสุข โศกเศร้า เคล้ากันไป
จงเผื่อไว้ ผิดหวัง ยั้งอุรา

คิดรักใคร อย่าหวัง จะยั่งยืน
รักมีขื่น มีหวาน ซ่านเสน่หา
รักมีขม ตรมเศร้า เคล้าน้ำตา
โอ้กานดา อย่าเหงา เศร้านักเลย

ชลนา  ทิชากร

Re: ใบไม้พลัดต้น
« ตอบ #1 เมื่อ: 21 มีนาคม 2014, 01:57:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 21 มีนาคม 2014, 01:57:pm

ชลสินธุ์รินใสไหลเรื่อยล่อง
โค้งคุ้งคลองนองเนืองเมลืองค่า
พาดผันผ่านกาลกัลป์วันเวลา
นับคณาผาสุขทุกวานวัน

ชินกับคลองหมองนวลสาวสวนส้ม
สุขอารมณ์เพียงเพ้อละเมอฝัน
ยามดึกดื่นคืนค่อนนอนมองจัทร์
ก็สุขสันต์หรรษาคนป่าดอย

ช่วงเวลาพาเปลี่ยนหมุนเวียนผัน
ชีวิตหันเหห่างใช่วางปล่อย
เคยฟ้ากว้างสร้างฝันดาว,จันทร์ลอย
กลับต้องหงอยในตึกรู้สึกตน

เปลี่ยนดาวเดือนเถื่อนไพรอยู่ไฟสี
หลากล้นหนีปัญหาพาฉงน
คิดสร้างตัวฐานะคละระคน
จึงจำด้นฝ่าไป...ใจเหมือนเดิม

"ดิน"


ชลสินธุ์ รินไหล ไม่คอยท่า
กาลเวลา หมุนเวียน เปลี่ยนแปลงเพิ่ม
มีทั้งลด หดไป ไม่เหมือนเดิม
มีทั้งเสริม เติมต่อ ตามพอใจ

เคยอยู่นา ป่าดอน นอนกระต็อบ
ให้นึกชอบ ตึกหรู คู่เมืองใหญ่
ขายที่นา ป่าดง หลงแสงไฟ
ศิวิไลซ์ ปัญหา บรรดามี

หลงสุขกาย สบายตัว มัวสนุก
ใจเป็นทุกข์ ร้อนเร่า เศร้าหมองศรี
ค่าครองชีพ บีบรัด มัดชีวี
ใจร้อนฉี่ ดิ้นรน ให้พ้นตาย

มองดวงไฟ แทนดาว พราวเวหา
นาฬิกา ปลุกก่อน นอนตื่นสาย
เข้าห้องน้ำ ชำระ สะสางกาย
รีบสะพาย กระเป๋า เข้าทำงาน

ชลนา  ทิชากร

Re: ใบไม้พลัดต้น
« ตอบ #8 เมื่อ: 23 มีนาคม 2014, 10:24:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 23 มีนาคม 2014, 08:43:pm

ความว้าเหว่เปปนระคนเหงา
ทุกค่ำเช้าปล่อยจินต์ให้ผินผ่าน
ช่างเวิ้งว้างฤดีราตรีกาล
ปลอบดวงมานลำพังวาดหวังไกล

แหงนหน้ามองดาวเดือนจิตเฝื่อนพร่า
น้ำตาบ่าเอ่อท้นล้นรินไหล
ทาบฉาบปรางพลางทดรดรินใจ
สะกดกลั่นกลั้นไว้ให้อดทน

สักวันหนึ่งถึงฝันอย่าหวั่นไหว
ก้าวต่อไปใจแกร่งทุกแห่งหน
หน้ายิ้มรื่นกลืนกล้ำช้ำกมล
หาสักคน คนรู้ใจไปบ้านเรา

"ดิน"


จงปล่อยวาง จิตใจ ให้หลุดพ้น
ตนพึ่งตน พ้นเหงา เศร้าหมองศรี
อยู่กับลม หายใจ พ้นไพรี
ทั้งโลกนี้ โลกไหน ใจชื่นบาน

อยู่กับลม หายใจ ไม่มีเศร้า
หายใจเข้า ก็รู้ ดูลมผ่าน
หายใจออก ก็รู้ ดูเหตุการณ์
ตอนทำงาน ก็รู้ ดูที่ใจ

อิริยาบถ สี่ มีเดินยืน
ยามค่ำคืน นั่งนอน ก่อนหลับใหล
หายใจเข้า หายใจออก บอกความใน
หลับตอนไหน เขาหรืออก บอกฉันที

ชลนา  ทิชากร


รำลึก...ลา
« เมื่อ: 23 มีนาคม 2014, 03:57:pm »

รำลึก..ลา

รำพันฟันฝ่าเข้าป่ากว้าง
น้ำค้างเย้าหยอกรับหมอกเย้า
ชื่นฝนหล่นฟ้าเวลาเช้า
คัดเค้าอิดเอื้อนเคลื่อนดอกย้อย

ไม่เด็ดได้ดมฉมชื่นนัก
จำหลักไว้ในดวงใจด้อย
หลากหลายมาลาเก็บมาร้อย
เหลือน้อยช่อหนึ่งไว้ตรึงจำ

ประทับรับขานเพียงพรานด้อย
เร่งถอยผันผายเกินกรายกล้ำ
รอบานงามพร้อมได้หอมซ้ำ
สุขล้ำเลิศเลอเสมอใด

กักกลิ่นชื่นหอมกับอ้อมอก
กอดกกสุขสันต์กับฝันใฝ่
ก่อเกิดกำลังกับหวังไว้
กล้ำกลืนความในกับภวังค์

เนิน จำราย

แว่วรำลึก อำลา เข้าป่ากว้าง
ให้อ้างว้าง รำพึง ถึงความหลัง
เนินจำราย ลาไกล เศร้าใจจัง
แต่ก็ยัง ชั่งใจ ในบทกลอน

เธอคงลา พงไพร ดอกไม้ป่า
ที่ไม่กล้า เด็ดดม ชมเกสร
หรือเกรงใจ แมลงภู หมู่ภมร
ที่บินจร ดมดอม ตอมผกา

กลัวจะคล้ำ ช้ำหมอง ของสงวน
กลิ่นอบอวล ยวนใจ ยังไม่กล้า
ได้แต่มอง เมียงชม้าย ด้วยสายตา
เดินอำลา จากไป ใจหวังชม

หวังเพียงชม กลิ่นชื่น ระรื่นหอม
มารวมหลอม กลิ่นเคล้า เขาผสม
หลากบุบผา เรียงราย กลางสายลม
ยามสูดดม ระรื่น ชื่นฉ่ำทรวง

ชลนา  ทิชากร

@..ฉันยินดี..@
« เมื่อ: 27 มีนาคม 2014, 08:19:pm »

นั่งคนเดียว เปลี่ยวจิต คิดยิ่งเศร้า
นั่งกอดเข่า เจ่าจุก ทุกข์เรียกหา
นั่งเหม่อมอง จ้องดาว พราวนภา
นั่งก้มหน้า ตาแดง ใช่แกล้งลวง

ม่านหน้าต่าง บางเบา เรามองเห็น
ชมพูเด่น ด่างดำ คล้ำเป็นช่วง
แดดโลมไล้ ใกล้ขาด มันบาดทรวง
รักเลยล่วง ลับเลือน เหมือนจืดจาง

ลมพัดแผ่ว แว่วเสียง สำเนียงคล้อย
เพลงคนคอย ลอยล่อง แสนหมองหมาง
เคล้าตนตรี ปี่ขลุ่ย กรุยตามทาง
ใจน้องนาง ว้างเวิ้ง เปิดเปิงไป

กาลเวลา กัดกร่อน นอนช้ำชอก
เกินจะบอก ออกปาก ยากเพียงไหน
สะกดกลั้น กลิ้งเกลือก เลือกทางใด
คงสิ้นไร้ รักร่วม อ่วมเหมือนเดิม

จึงไม่คิด หาใคร ให้เจ็บปวด
ถึงจะชวด ชายไป ไม่ส่งเสริม
เถอะขออยู่ ไม่สน คนซ้ำเติม
ฤทัยเริ่ม คุ้นชิน ฉันยินดี

พันทอง

นั่งโดเดี่ยว เดียวดาย อยู่ชายทุ่ง
นั่งมองรุ้ง พุ่งงาม อร่ามสี
นั่งเหม่อมอง ท้องฟ้า ยามราตรี
นั่งตรงนี้ ที่น้อง ชวนมองดาว

คิดถึงม่าน บ้านช่อง ห้องงามหรู
ม่านชมพู ดูเด่น เห็นหน้าสาว
เดือนโลมไล้ ใบหน้า ฟ้าสกาว
ดาราพราว วาววับ จับหัวใจ

ลมพัดแผ่ว แนวไผ่ ไหวโอนเอน
คืนเดือนเพ็ญ เด่นดาว พราวสดใส
แว่วเสียงน้อง ร้องพร่ำ ร่ำพิไล
รักลาไกล ไห้หวน ครวญรำพัน

กาลเวลา พาให้ พี่ไกลน้อง
ที่หมายปอง ครองอยู่ เป็นคู่ขวัญ
คิดถึงน้อง หมองเศร้า เฝ้ามองจันทร์
ใจโศกศัลย์ หวั่นน้อง ร้องเพลงรอ

จึงไม่คิด ผิดคำ พร่ำสัญญา
จะกลับมา หาน้อง จองเรือนหอ
ไม่ลวงหลอก หยอกเย้า เฝ้าพะนอ
เคล้าเคลียคลอ ขอมั่น ฉันยินดี

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, Shumbala, รพีกาญจน์, khuadkao, Thammada, รัตนาวดี, choy

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

28 มีนาคม 2013, 10:34:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #5 เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 10:34:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: .......... อยากจะรักสักครั้ง .........
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2012, 08:36:pm »


....อยากจะรัก สักครั้ง ความหวังใหม่
เพราะเห็นใคร เขาชื่น รื่นสุขสันต์
ด้วยประจักษ์ รักปลุก สุขใจพลัน
บอกดวงใจ ให้ฝัน รั้นหาดู...

...อยากจะชื่น รื่นรมย์ เพราะสมรัก
โลกคงจัก เป็นใจ ให้คว้าอยู่
มองทุกที่ สีเห็น เป็นชมพู
สร้างโลกสวย เพราะรู้ รักคู่ใจ...

...สั่งใจลอง ปองหา มาอีกครั้ง
หวังเธอจัง เลยจิต แอบคิดใฝ่
ดวงใจจ๋า ป่านนี้ อยูที่ใด
รับรู้ไว้ เถิดหนา ว่าใครคอย...

...อยากมีรัก ที่สวย ช่วยสุขให้
เพราะฤทัย แอบหวัง สั่งรอบ่อย
ด้วยความเหงา เฝ้าฝัน หวั่นเลื่อนลอย
ยามมองเมฆ เคลื่อนคล้อย แล้วปล่อยจินต์...

...อยากจะมี เหมือนใจ ใครที่คลั่ง
อยากรู้หยั่ง ถึงยาม ความรักดิ้น
อยากสัมผัส จัดใฝ่ ให้ชีวิน
ว่าถวิล เน้นสร้าง รักอย่างไร...

...อยากมีรัก สักครั้ง ตั้งใจยิ่ง
คล้ายทุกสิ่ง เหมือนฝัน อันสดใส
ที่ว่างเปล่า ไร้เธอ แค่เพ้อไป
มองทางไหน ยังเห็น เป็นสี...(เทา)...

รัตนาวดี


อยากจะรัก สักครั้ง ยังจำได้
เธอไฉไล สวยกว่าใคร ใจหมองเศร้า
ได้แต่รัก เธอข้างเดียว เปลี่ยวใจเรา
หลงคอยเฝ้า รอเธออยู่ แต่ผู้เดียว

อยากจะรัก สักครั้ง หวังใจว่า
วาสนา ของเรา ไม่เฉาเหี่ยว
คงจะมี สักครั้ง ดังคมเคียว
ที่ได้เกี่ยว หัวใจ เธอไว้ครอง

อยากจะรัก สักครั้ง ยังหวังอยู่
ยอดพธู คงเห็นใจ ในเราสอง
ให้โอกาส พี่สักครั้ง ที่หวังปอง
ขอเพียงน้อง ให้สมหวัง สักครั้งเทอญ

ชลนา  ทิชากร

<a href="http://www.youtube.com/v/NT8vdcGvJlw&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/NT8vdcGvJlw&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

คิดฮอดคู่รักกลอน
« เมื่อ: 06 เมษายน 2014, 12:18:pm »

ดอกเอ๋ยดอกกันเกรา 
ช่อเฉลาข้อยคอยเจ้าเข้าเมษาฯ
ตั้งตาแลเช้ายันเย็นไม่เห็นมา
หรือเลยลาเลือนลับลืมกลับแล้ว

เคยดื่มด่ำร่ำหอมสุขกล่อมจิต
ชุบชีวิตหม่นหมองให้ผ่องแผ้ว
เสือติดกรงหลงทิศนกติดแร้ว
ใช่เจื้อยแจ้วยอมรับหนอว่าพอกัน

คู่เอยคู่รักกลอน
ซึ้งออนซอนหายห่างเส้นทางฝัน
สัมผัสวรรคอักษรแต่ก่อนนั้น
เวียนนับวันประสงค์มั่นคงนัก

จรดจิ้มพิมพ์แป้นยากแสนฝืน
ที่เคยลื่่นเจ่าจุกตะกุกตะกัก
ตั้งสมองตรองดูอยู่หลายพัก
จึงจำหลักเรียงร้อยผูกถ้อยรอ

เนิน จำราย

ดอกเอ๋ย ดอกรัก ปักใจเฉา
ช่อเฉลา เย้าลม พรมพัดล่อ
โอนช่อไหว ไกวแกวง แรงลมล้อ
สวยลออ ช่องาม อร่ามตา

ดอกสีขาว น้าวใจ ให้ชวนมอง
ขาวนวลผ่อง ต้องใจ ให้มองหา
ยามรักซอน ซ้อนรัก หนักอุรา
อนิจจา รักฉัน ผันแปรไป

คู่เอ๋ย คู่รัก ของนักกลอน
เคยออดอ้อน กลอนกานท์ เพร่ำขานไข
บัดนี้เหงา เศร้าหม่น คนรักไกล
เปลี่ยนว็บใหม่  ใช้บอร์ด ยอดคำคม

จรดจิ้มพิมพ์ ยิ้มแหย แพ้พ่ายรัก
ต้องอกหัก รักคุด สุดขื่นขม
คู่รักเก่า  เข้าบอร์ดอื่น ชื่นอกตรม
หมดอารมณ์ จมเศร้า เฝ้าบอร์ดรอ

ชลนา  ทิชากร

Re: คิดฮอดคู่รักกลอน
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 เมษายน 2014, 04:27:pm »

ชลเอ๋ยชลนัยน์   
อรทัยซำ้เติมพี่เพิ่มหนอ
คนเจ็บช้ำซ้ำหนักยังดักคอ
แกล้งหยอกล้อหักเหให้เรรวน

เถอะไปไหนไม่ไกลหรอกใจนี้ 
ยังจู้จี้ถามทักประจักษ์หวน
เยือนเพื่อนบ้านเผื่อแจกแลกสำนวน
นกนางนวลรักรังดังเก่าเอย

เนิน จำราย

นกนางนวล ซวนเซ ทะเลกว้าง
ปีกเจ้าบาง กางบิน ถิ่นไหนเอ่ย
เจ้าอกหัก รักเหงา เศร้าจังเลย
มาเฉลย เผยบอก ออกจากใจ

นางนวลเอย เคยช้ำ ระกำเศร้า
ไปบ้านเขา เศร้าคลาย สลายไหม
หรือเจอคู่ ชู้รัก ปักทรวงใน
เจอคนใหม่ ใสปิ้ง ทิ้งบ้านกลอน

หากวันไหน ใจตรม ระทมเศร้า
กลับบ้านเรา เศร้าคลาย ถูกถ่ายถอน
มาหนุนตัก ยักย้าย เอนกายนอน
จะออดอ้อน ป้อนยา รักษาใจ

ชลนา  ทิชากร

~* กลางคืน *~
« เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 01:02:am »


~* กลางคืน *~

" ช่วงขณะหนึ่งนั้น ฉันมองฟ้า
ความมืดของนภา พาหวั่นไหว
เงียบค่ำคืน กลืนคืนค่ำ ย้ำดวงใจ
เหตุไฉน? ใยเล่า.. เฝ้าคะนึง

ความสับสนปนเป คะเนหา
คำพูดเก่า เนาว์มา ว่าคิดถึง
ประโยคเศร้า เล่าซ้ำ คำตราตรึง
เพียงวูบหนึง พึงใจ ฤๅใกล้กัน

ระยะห่าง ระยะไกล อย่างไรหนอ
คนรอท้อ ยังรอคอย ยังคอยฝัน
แม้อยากหมุน หมุนช่วงกาล ผ่านเร็วพลัน
คงไร้วัน วันได้พบ ได้สบตา

-
---
-

ณ ตรงนี้ ที่นี่ ยังมีฉัน
ไร้แสงจันทร์ ไร้ฝันใจ แม้ใฝ่หา
ศิโรราบ ภาพทรงจำ ย้ำคำลา
ยืนมองฟ้า ฟ้ามืดมน คนหม่นใจ "



Design with love



ณ ที่เก่า ที่เธอเหงา เฝ้ารอฉัน
ไร้แสงจันทร์ มีดาว พราวสดใส
ยังคิดถึง เธอนัก รักห่วงใย
สงสารใจ เธอจัง นั่งหม่นทรวง

ทุกขณะ หายใจ ให้คิดถึง
ใจคะนึง ซึ้งนัก รักเป็นห่วง
อยู่คนเดียว เปลี่ยวใจ ไกลพุ่มพวง
เห็นดาวร่วง วูบดับ ลับหายไป

คำพูดเก่า เล่าใหม่ ไม่เคยลืม
ยังปลาบปลื้ม เป็นห่วง ทรวงหมองไหม้
แต่เสียดาย เหลือล้น หนทางไกล
ยังห่วงใย ยิ่งนัก รักกานดา

ระยะทาง ห่างแค่ไหน ใจยังชิด
ยังเฝ้าคิด ถึงเธอ เพ้อห่วงหา
ศิโรราบ กราบเกล้า เหล่าเทวา
บอกเธอว่า คนไกล ไม่ลืมเธอ

ชลนา  ทิชากร


<a href="http://www.youtube.com/v/IZyam8kJOa4&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/IZyam8kJOa4&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

Re: :::::เด็กปั๊ม.....?
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2014, 10:14:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 07 พฤษภาคม 2014, 09:40:am

<a href="http://www.youtube.com/v/lBtvKYC_frY&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/lBtvKYC_frY&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ด้วยความจนข้นแค้นแสนสาหัส
อัตคัดเงินทองกองทรัพย์สิน
อยู่กับความทุกข์หม่นจนชาชิน
ต้องทำกินดิ้นรนบนทางเดิน

ตั้งแต่เช้ายันค่ำกรำเค็มเหงื่อ
เมื่อยล้าเหลือลำบากยากกล่าวเกริ่น
ทนบุกบั่นฟันฝ่ากล้าเผชิญ
กายล้าเกินมิท้อบริการ

อยากจะมีภัสดาไว้หาเลี้ยง
เฝ้ามองเมียงจ๊ะจ๋ายิ้มตาหวาน
ทั้งหนุ่มหล่อพ่อหม้ายวัยหย่อนยาน
ฐานะงานบ้านเฮียเมียคงมี

หลากหลายผู้ดูดื่นหมื่นพันเที่ยว
เพียงแค่เหลียวมาเกริ่นก็เมินหนี
อยากคบชายสักคนหม่นฤดี
ท้อเหลือที่ไผสิแลแค่..เด็กปั๊ม..!?

'ดิน"




ด้วยความจน หม่นไหม้ ใจละเหี่ย
อยากมีเมีย เสียที ฤดีช้ำ
เพราะความจน หม่นหมอง ต้องเก็บงำ
ฝากประจำ ทำมา หาเงินทอง

ตั้งแต่เช้า เฝ้าคิดถึง ซึ้งใจมาก
อยากเอ่ยปาก ฝากรัก แม่พักตร์ผ่อง
เป็นเด็กปั้ม กำหัวจ่าย  ส่ายตามอง
อยากจับจอง ห้องใจ ไว้ครอบครอง

ขี่ขับปอ มอเตอร์ไซ ใช่รถเก๋ง
เธอไม่เล็ง เพ่งตา  มามองจ้อง
เรามันจน หม่นช้ำ น้ำตานอง
เธอเลือกมอง จองเบ๋น เห็นกับตา

หลากหายใจ ใครเล่า เขาจะสน
เราคนจน หม่นไหม คนไร้ค่า
ใครไหนเล่า เขาจะมอง จ้องแลมา
มอเตอร์ไซ ไร้ราคา ไม่น่ามอง

ชลนา   ทิชากร



Re: :::::เด็กปั๊ม.....?
« ตอบ #12 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2014, 10:05:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 13 พฤษภาคม 2014, 06:29:am


ชายชราท่าทีจะขี้เหนียว
ขับรถเลี้ยวเสียงคุ้นรุ่นกระป๋อง
มาที่ปั๊มประจำชำเลืองมอง
ทำฉันข้องใจนักชักยังไง

ทำเหมือนเดิมเติมน้ำมันวันสิบบาท ..?
น่าอนาถจริงหนอพ่องามไส้
ชอบนั่งแขวะนั่งบ่นคนอะไร
มาทางไหนไปทางนั้นเดี๊ยะยันโครม

"ดิน"




ชายชรา หน้าแหย สาวแห่ไล่
เขาหมั่นไส้ ไม่เจียมจิต คิดหักโหม
แม่เสือสาว ก้าวเท้าชัน แล้วยันโรคม
แล้วถาโถม โน้มเข่า เข้าปลายคาง

สมน้ำหน้า สาใจ ไหมไอ้แก่
เขาไม่แล แห่ไล่ ไปให้ห่าง
แก่แถมจน หม่นหมอง ต้องปล่อยวาง
อย่าไปขวาง ทางเท้า เรามันจน

ชลนา  ทิชากร




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, รพีกาญจน์, khuadkao, Thammada, รัตนาวดี, choy, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

29 มีนาคม 2013, 11:42:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #6 เมื่อ: 29 มีนาคม 2013, 11:42:PM »
ชุมชนชุมชน

   
บอกรัก
« เมื่อ: 04 ตุลาคม 2012, 09:07:pm »

บอก รักคน ชอบ
ต้อง รอบคอบ นะ
บอก ว่ารัก นะ
ไม่ ได้โก  หก
ถ้า เราโก   หก
ขอ ให้สอบ ตก
ให้ มันอก หัก
ตก ท่อตาย เลย

bond15199

บอกรักใคร ไม่ได้ ขายหน้าดิน   
เขาไม่ยิน ความรัก หนักใจเอ่ย
ถึงพูดไป ไม่มองมา ท่าเฉยเมย
เราก็เคย ช้ำมา มันน่าอาย   

เคยบอก รักเขา   เขาได้ยิน
ละอองดิน เขายัง หันหลังหน่าย 
เขาไม่รัก ไม่ชอบ มอบใจกาย 
หมดความหมาย อายเขา เศร้าเหงาทรวง

 บอกรักใคร ให้อายฟ้า ขายหน้าดิน
โฉมยุพิน เขาไม่รัก ปักใจห่วง
บอกทำไม่ อายฝูงชน คนทั้งปวง
ท่ารักลวง อย่าไปรัก ให้นักใจ

ชลนา  ทิชากร

<a href="http://www.youtube.com/v/fpEFxLjGajw&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/fpEFxLjGajw&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

:::::..ฝากข้อความ..........?
« เมื่อ: 16 มีนาคม 2014, 07:57:am »


แม้....ไม่มีเวลามาเขียนแต่...ใจก็ยังวนเวียนอยู่ที่เธอ....?

"ดิน"




คิดถึงใคร กันน้อง ละอองจ๋า
คิดถึงป๋า รพี ที่อยู่เหนือ
หรือคิดถึง นาวี ที่อยู่เรือ
คิดถึงเผื่อ แผ่ไป ถึงใครกัน

คิดถึง ดาวอาชา มาไกลห่าง
นอนอ้างว้าง หงอยเหงา เศร้าโศกศัลย์
เพราะคิดถึง บูรพา ท่าพระจันทร์
หรือนอนฝัน ถึงคนไกล ไผ่เดียวดาย

หรืคิดถึง ลุงไพร ต้องไกลห่าง
นอนอ้างว้าง เพ้อฝัน ถึงจันทร์ฉาย
หรือคิดถึง นงเยาว์ ชื่อเพรางาย
หรือว่าหมาย ถึงใคร คนไหนกัน

หรือหมายถึง ทุกคน บนเรือนชาน
ที่ร่วมบ้าน กลอนไทย ใจสุขสันต์
หรือคิดถึง คนใด ใจผูกพัน
คิดถึงฉัน บ้างไหม ใจนงราม

ชลนา  ทิชากร


<a href="http://www.youtube.com/v/JOb9Wd1Lnh0&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/JOb9Wd1Lnh0&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

Re: :::::..ฝากข้อความ..........?
« ตอบ #5 เมื่อ: 17 มีนาคม 2014, 10:08:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 17 มีนาคม 2014, 02:56:pm


***คิดมีใครนึกถึงใจน้องบ้าง***

คิดถึงเธอทุกวันจนตันอก
นั่งสะทกหวั่นไหวเกินใจห้าม
กว่าหมดวันผันผ่านทุกกาลยาม
จิตไหวหวามลามเร้าเฝ้าอาทร

ห่วงยิ่งนักรักห่างเกรงพร่างพร้อย
เวลาน้อยพลอยคิดจิตลอยร่อน
ฝากข้อความตามห่วงทรวงสะท้อน
แทนบทกลอนต่อกันทุกวันมี

อย่าเชือนแชแปรอื่นให้ขื่นจิต
สาวใดชิดจงเปิ่นให้เดินหนี
อย่าหลงรูปรสร้อยถ้อยพาที
ฝากข้อความบทนี้เตือนพี่"ชลฯ"


"ดิน"




คิดถึงเธอ ยิ่งนัก รักผูกพัน
มองตะวัน ลับไป ใจหมองหม่น
เหม่อมองดาว พราวตา ฟ้าเบื้องบน
คิดถึงคน อยู่ไกล ใจห่วงเธอ

ห่วงแสนห่วง ดวงดาว พราวเวหา
ฝากวาจา จากใจ ไปเสนอ
แสนคิดถึง ยิ่งนัก รักจากเจอ
รักเสมอ เพ้อรำพัน ฝันทุกครา

ไม่เคยเลย แชเชือน บิดเบือนจิต
สาวใดชิด ปิดกั้น ไม่สรรค์หา
ตะวันลับ ดับสนิท ยามนิทรา
นอนหลับตา รำพัน ฝันถึงดิน

ชลนา  ทิชากร



Re: :::::..ฝากข้อความ..........?
« ตอบ #11 เมื่อ: 29 มีนาคม 2014, 09:58:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 29 มีนาคม 2014, 02:33:pm


สาวบ้านสวนครวญหาแสนว้าเหว่
จึงขับเห่บทกลอนวอนถวิล
ห่วงกันอยู่หรือไม่ใคร่ยลยิน
ในดวงจินต์เปลี่ยนไหมมีใครยัง

ฝากข้อความถามไถ่ไว้หน้าบอร์ด
แซมเสียบสอดด้วยรักสลักฝัง
ต้นไมตรีติดตรึงคิดถึงจัง
แล้ว*สตังค์ที่ยืมไปเมื่อไหร่คืน 
"ดิน"




หนุ่มบ้านนา ว้าเหว่ เที่ยวเร่ร่อน
ตอบบทกลอน หล่อนไป ไม่เป็นอื่น
ยังรักเธอ เพ้อรำพัน ฝันทุกคืน
ห่วงทรามชื่น ยืนยัน มั่นทรวงใน

ส่งข้อความ ตามตอบ ขอบใจนัก
ด้วยเพราะรัก ปักจิต อยากชิดใกล้
แต่ยังจน หม่นหมอง ต้องทำใจ
จะใช้ให้ ใส่ขัน วันแต่งงาน

ชลนา  ทิชากร



Re: :::::..ฝากข้อความ..........?
« ตอบ #12 เมื่อ: 30 มีนาคม 2014, 09:27:am »


ตอบข้อความกลับไปปลื้มใจนัก
มาเจอรักตอนแก่แดซึ้งซ่าน
สุขใจยิ่งจริงหนอรอมานาน
ยิ้มหน้าบานอ่านถ้อยที่ลอยลม

นั่งสานฝันวันหวานวิมานเลิศ
คงพริ้งเพริศนักหนาอุราสม
พร้อมเงินต้นดอกเบี้ยมาเคลียร์จม
ผ่องภิรมย์เช้ายันค่ำเลิกทำงาน
"ดิน"




ตอบบทกลอน ย้อนกลับ ไปรับขวัญ
ความรักนั้น สดใส แม้วัยพ่าน
ถึงร่างกาย เหี่ยวพัง หนังหย่อนยาน
ใจยังหวาน สดใส ใจดวงเดิม

อันความฝัน มีไว้ ให้ใจหวัง
เปี่ยมพลัง เต็มร้อย คอยส่งเสริม
จะหอบเงิน พร้อมดอก งอกต่อเติม
ช่วยกันเริ่ม สานฝัน วันหยุดงาน

ชลนา  ทิชากร



Re: :::::..ฝากข้อความ..........?
« ตอบ #14 เมื่อ: 21 เมษายน 2014, 06:53:am »


ฝากข้อความถามไถ่ส่งไปถึง
มีบ้างไหมนิดหนึ่งซึ้งสงสาร
สาวบ้านสวนครวญท้อทรมาน
สิ้นสงกรานต์ผ่านไปไร้วี่แวว

อยู่กับเงาเหงาหงอยคอยเคียงข้าง
ยังอ้างว้างเหมือนเดิมใจเริ่มแผ่ว
"ชลนา"มากลายไม่ตรงแนว
ปล่อยรอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ
"ดิน"




ขอตอบต่อ ข้อความ ที่ถามถึง
ให้ซาบซึ้ง ตรึงใจ กระไรหนอ
สาวบ้านสวน นวลน้อง ที่ต้องรอ
อย่าตัดพ้อ รอหน่อย นะกลอยใจ

อยู่กับเงา เหงาใจ เป็นไงบ้าง
สงสารนาง  ห่างรัก ชักหวั่นไหว
ชลนา หน้าเศร้า เหงาทรวงใน
อยากเขาไป ใกล้นัก รักเหลือเกิน

ชลนา  ทิชากร



Re: :::::..ฝากข้อความ..........?
« ตอบ #19 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2014, 09:50:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 21 มิถุนายน 2014, 11:13:am


[
img]http://image.free.in.th/v/2013/ii/140621111408.jpg[/img]



คิดถึงเธอ เหม่อมอง อยากร้องไห้
โธ่ดวงใจ ไกลกัน ฉันคิดถึง
เธอเป็นสุข ทุกข์ไหม  ใฝ่คะนึง
รักตราตรึง ซึ้งทรวง ห่วงไม่วาย

คิดถึงเธอ เหม่อไป ใจฉันโศก
โลกทั้งโลก โศกศัลย์  หวั่นไม่หาย
เธอคงเหงา เศร้าหม่น ทนเดียวดาย
หรือข้างกาย ชายอื่น คอยชื่นชม

วันเดือนปี ที่เวียน เปลี่ยนผันไป
อยู่หนใด ไกลกัน ฉันขื่นขม
กลัวเธอหมาย ชายอื่น ชื่นภิรมย์
ทุกข์ระทม ตรมใจ ไม่เว้นวัน

คิดถึงเธอ เหม่อมอง อยากร้องไห้
นอนหลับใหล ใจเพ้อ ละเมอฝัน
คิดถึงเธอ เพ้อถึง จึงรำพัน
คิดถึงฉัน บ้างไหม หนอใจเธอ

ชลนา  ทิชากร




Re: :::::..ฝากข้อความ..........?
« ตอบ #23 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2014, 11:10:am »
อ้างจาก: ชลนา ทิชากร ที่ 21 มิถุนายน 2014, 09:50:pm


อ่านบทกลอนอ้อนออดจนปอดแฟ่บ
ฉันย่องแอบมาดูอยู่เสมอ
มีบางวันร้างไร้ที่ไม่เจอ
แต่มิเผลอแสนปลื้มลืมมิลง

แม้ห่างหายไปบ้างใช่ห่างจิต
เฝ้าครุ่นคิดบิดเบือนเหมือนคนหลง
นั่งทำงานหวั่นใจไม่มั่นคง
บอกตามตรงนั่งครี่...ยังมีเธอ


"ดิน"




อ่านบทกลอน อ่อนหวาน ที่ขานตอบ
ฉันขอขอบ ใจนัก รักไม่เผลอ
แอบเมียงมอง จ้องหา มาไม่เจอ
ฟังแล้วเฮอ อยากไป อยู่ใกล้กัน

ฉันก็ยุ่ง นุงนัง  นั่งทำงาน
เธออยู่บ้าน นั่งขี้ ยังมีฉัน
ฉันคะนึง ถึงเธอ เพ้อทุกวัน
ใจมุ่งมั่น ยืนฉี่ ยังมีเธอ

ชลนา  ทิชากร


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : khuadkao, รพีกาญจน์, Thammada

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

30 มีนาคม 2013, 12:01:AM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #7 เมื่อ: 30 มีนาคม 2013, 12:01:AM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: บอกรัก
« ตอบ #5 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2012, 07:11:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 04 ตุลาคม 2012, 10:55:pm

ยลคำแว่ว แผ่วท้อ ตัดพ้อหา
“ชลนา”หรือนี่ ที่เพ้อใฝ่
น้องคนจอง มองดู เคียงคู่ใจ
ทั้งหลังไมค์ หน้าบอร์ด ตลอดวัน

คนมันสวย ช่วยมิได้ ทำไงล่ะ(แหวะ)
อย่าเคืองนะ เป้าหมาย ชายในฝัน
ต้องหล่อรวย เศรษฐีทอง กองอนันต์
ที่สำคัญ ใกล้ม่อง(ตาย) น่ะต้องการ

"ดิน"

แม่พี่ ที่เห็น ไม่ได้เป็นนายก
มรดก ของพี่ กี่พันล้าน
รวมเพื่อนพ้อง เผ่าพงษ์ทั้งวงศ์วาร
หาประมาณ ค่านี้ ไม่มีเลย

ทุ้งกุลา มาเลเซีย อินเดียนแดง
ทั้งเวอร์แบงค์ อะไรไร ไม่เฉลย
ยะลา ปัตตานี นี้ไม่เคย
มาชมเชย เป็นของพี่ นี้สักครั้ง

แล้วจะเอา อะไร มาให้น้อง
แม่เนื้อทอง ละอองดิน ยุพินหวัง
ในกระเป๋า ของพี่ ไม่มีตังค์
จึงต้องนั่ง หมองเศร้า เจ้าไม่มอง

ชลนา  ทิชากร


Re: :::::..ฝากข้อความ..........?
« ตอบ #29 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2014, 03:20:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 24 มิถุนายน 2014, 12:22:pm


กระบิดกระบวนทวนความตอบงามหลาย
กระสับกระส่ายใจฉันหวั่นกลัวเก้อ
กระอึกกระอักยักยึกนึกจนเบลอ
ปั้นจิ้มปั้นเจ๋อเธอจ๋าอย่าหวั่นใด

จะรักจะหลงคงมั่นสัญญาแน่
มิเปลี่ยนมิแปรผละหนีมีชายไหน
จะจดจะจำคำพี่ที่มอบไว้
ครึ้มอกครึ้มใจจะยืนฉี่พี่คอยดู๊   
"ดิน"




กระผลุบกระโผล่ โชว์ซิ พี่อยากเห็น
กระซ่านกระเซ็น เหม็นฉี่ แม่อีหนู
กระอักกระอ่วน  ป่วนจิต ยามพิศดู
อู้หูอู้ฮู พูใหญ่ ถูกใจจัง

กระวนกระวาย หมายใจ ได้เชยชม
ระทวยระทม ตรมจิต กลัวผิดหวัง
กระดานกระดก อกหัก รักภินท์พัง
พะว้าพะวัง นั่งคลำ ดอกจำปี

ชลนา  ทิชากร



~* กลางคืน *~
« เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 01:02:am »


~* กลางคืน *~

" ช่วงขณะหนึ่งนั้น ฉันมองฟ้า
ความมืดของนภา พาหวั่นไหว
เงียบค่ำคืน กลืนคืนค่ำ ย้ำดวงใจ
เหตุไฉน? ใยเล่า.. เฝ้าคะนึง

ความสับสนปนเป คะเนหา
คำพูดเก่า เนาว์มา ว่าคิดถึง
ประโยคเศร้า เล่าซ้ำ คำตราตรึง
เพียงวูบหนึง พึงใจ ฤๅใกล้กัน

ระยะห่าง ระยะไกล อย่างไรหนอ
คนรอท้อ ยังรอคอย ยังคอยฝัน
แม้อยากหมุน หมุนช่วงกาล ผ่านเร็วพลัน
คงไร้วัน วันได้พบ ได้สบตา

-
---
-

ณ ตรงนี้ ที่นี่ ยังมีฉัน
ไร้แสงจันทร์ ไร้ฝันใจ แม้ใฝ่หา
ศิโรราบ ภาพทรงจำ ย้ำคำลา
ยืนมองฟ้า ฟ้ามืดมน คนหม่นใจ "


 
Design with love”



ณ ที่เก่า ที่เธอเหงา เฝ้ารอฉัน
ไร้แสงจันทร์ มีดาว พราวสดใส
ยังคิดถึง เธอนัก รักห่วงใย
สงสารใจ เธอจัง นั่งหม่นทรวง

ทุกขณะ หายใจ ให้คิดถึง
ใจคะนึง ซึ้งนัก รักเป็นห่วง
อยู่คนเดียว เปลี่ยวใจ ไกลพุ่มพวง
เห็นดาวร่วง วูบดับ ลับหายไป

คำพูดเก่า เล่าใหม่ ไม่เคยลืม
ยังปลาบปลื้ม เป็นห่วง ทรวงหมองไหม้
แต่เสียดาย เหลือล้น หนทางไกล
ยังห่วงใย ยิ่งนัก รักกานดา

ระยะทาง ห่างแค่ไหน ใจยังชิด
ยังเฝ้าคิด ถึงเธอ เพ้อห่วงหา
ศิโรราบ กราบเกล้า เหล่าเทวา
บอกเธอว่า คนไกล ไม่ลืมเธอ

ชลนา  ทิชากร



Re: :::::เด็กปั๊ม.....?
« ตอบ #20 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2014, 05:37:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 15 พฤษภาคม 2014, 03:55:pm


แค่ลองใจหน่อยเดียวทำเกรี้ยวกราด
ไยตวาดกลับมาน่าฉงน
หรือเธอมีสาวใดไว้เปรอปรน
ทำไม่สนซะงั้นหันหลังลา

มิค่อยคิดห่วงแคร์ดั่งแต่ก่อน
สาวคงอ้อนอิงอกกกใหม่กว่า
ทำหุนหันตะแบงแสร้งระอา
มัวปั๊มเด็กสิท่า อ้างว่าจน


"ดิน"




เธอตบหัว ลูบหลัง ยังมาบด
ฉันเหม็นตด เธอจัง นั่งฉงน
เธอรังเกียจ เดียดฉันท์ หยันคนจน
ฉันไม่สน ใจฟัง อย่ารั้งเลย

ห่วงยังห่วง หวงแหน แสนจะรัก
จะจมปลัก รักไป ทำไมเอ่ย
เธอเกิดมา รวยล้น จนไม่เคย
ขอทรามเชย พบคนดี มีเงินทอง

ชลนา  ทิชากร



Re: เขียน..ถาวรธิรา
« ตอบ #2 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2014, 09:22:pm »


สาวบ้านสวนป่วนใจคราใกล้ค่ำ
หรีดหริ่งร่ำร้องร่ายในทิวสน
ลมพัดลิ่วปลิวทั่วใบบัววน
ใครสักคนข้างเราคงเข้าที

เปิดสมัครรักครองปองฝันใฝ่
มิสวยใสอ้วนล่ำตัวดำปี๋
ชายใดโสดโปรดนิดคิดปรานี
สาวชัยศรีใจท้อรอดูแล
"ดิน"



สาวชาวสวน ครวญใคร่ ใจร่ำหา
กลางพนา ฟ้าพราว ดาวสดใส
หริ่งจับคู่ จู๋จี๋ จี้ดวงใจ
เย้ยสาวให้  ใคร่ครวญ ถึงนวลปราง

นวลปรางใส ใครนอ รอชมชื่น
ยามดึกดื่น ฝืนใจ ใครเคียงข้าง
เหม่อมองดาว พราวใส ใจเลือนราง
จนฟ้าสาง กลางพนา หว้าเหว่ใจ

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : khuadkao, รพีกาญจน์, Shumbala, Thammada, D

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

30 มีนาคม 2013, 12:09:AM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #8 เมื่อ: 30 มีนาคม 2013, 12:09:AM »
ชุมชนชุมชน


   
Re: @..ธุรกิจรัก..@
« ตอบ #1 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2012, 07:32:pm »

สักคนหนึ่ง เหลือไหม ในบ้านนี้
หนาวกายี ปีใหม่ ไร้คนอ้อน
ขาดคนเคียง เรียงข้าง มาวางกลอน
บางสุนทร วอนไป ไร้คนแล

อยากมีใคร สักคน คอยบ่นหา
ก่อนนิทรา พาชม ภิรมย์แข
มีบ้างไหม ใครรับ ประดับแด
มอบรักแท้ แก่ฉัน มิปันใจ

ธุรกิจ ประดิษฐ์รัก มาทักถาม
หากมองข้าม ความรัก หักเฉไฉ
ปีใหม่แล้ว แคล้วคลาด พลาดผิดไป
จะหาใหม่ ชายชรา หน้าตาดี

"ดิน"

ลุงนี่ไง ชายชรา หน้าตาหล่อ
จะมาขอ เคียงข้าง ไม่ห่างหนี
พาชมดาว พราวฟ้า ยามราตรี
ชมวารี  ลี่ไหล ใต้แสงจันทร์

เคยลงทุน ธุรกิจ ติดต่อรัก
เซเสียหลัก ธุรกิจ ผิดแปรผัน
ต้องขาดทุน ปี้ป่น จนทุกวัน
บนทางฝัน ปีผ่าน เนินนานมา

ยังหวาดหวาด ขยาดนัก  รักทำพิษ
ธุรกิจ รักล่ม จมต่อหน้า
ถ้ามีเธอ มาเคียงข้าง ไม่ห่างตา
ลุงคิดว่า ธุรกิจ คงติดลม

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : khuadkao, รพีกาญจน์, Thammada

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

30 มีนาคม 2013, 12:17:AM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #9 เมื่อ: 30 มีนาคม 2013, 12:17:AM »
ชุมชนชุมชน


   
*****ใครกันนะ*****
« เมื่อ: 22 มีนาคม 2013, 09:35:am »

ทุกทิวา ราตรี มีแต่เขา
คอยหยอกเย้า เคล้าอ้อน อาทรถาม
จะหนาวร้อน วอนเว้า เฝ้าติดตาม
น้ำใจงาม ยามทุกข์ ปลอบปลุกกัน

ไปแห่งหน ตำบลใด ไม่ยี่หละ
มิเคยผละ ละไกล ใจคงมั่น
เขามิเคย เอ่ยขอ ข้อผูกพัน
มิแปรปัน หันปอง มองสาวใด

ซึ้งอุรา ชาตรี ที่รักแท้
คนนี้แน่ แดฉัน เฝ้าฝันใฝ่
ขอมอบเขา ทั้งตัว และหัวใจ
แค่คิดไป ใครกันนะ จะโชคดี.?

"ดิน"

ทุกทิวา ราตรี พี่โชคร้าย
ต้องแพ้พ่าย ม่ายรัก หักป่นปี้
ยามหนาวร้อน วอนน้อง ประคองที
โปรดปาณี พี่สักหน นะคนงาม

ทุกตำบล หนใด จะไปด้วย
จะไปช่วย ด้วยใจ ให้แบกห้าม
เต็มใจช่วย ด้วยสมัคร รักนงราม
ทุกโมงยาม ตามห่วง ด้วยดวงใจ

ส่งแรงใจ ไปช่วย ด้วยห่วงหา
ปรารถนา หากัน ใจฝันใฝ่ 
เธอก็ฝัน ฉันก็ฝัน ทุกวันไป   
รักอยู่ใน ใจฉัน นิรันดร

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : khuadkao, รพีกาญจน์, Shumbala, Thammada, choy

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

01 เมษายน 2013, 09:47:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #10 เมื่อ: 01 เมษายน 2013, 09:47:PM »
ชุมชนชุมชน


   
Re: @..กุหลาบ..@
« ตอบ #6 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2012, 08:00:pm »

กุหลาบแดง ที่มอบ รีบตอบรัก
ขอฟูมฟัก ปักไว้ ไม่มีหน่าย
วันคืนเวียน หมุนไป ใจมิวาย
ยังมั่นหมาย ชายอยู่ เป็นคู่ครอง

แม้ยากจน เงินทอง มองเรื่องเล็ก
ถ้าสเปค ตรงกัน พลันอย่าหมอง
กว่าจะได้ ร่วมเรียง เคียงใจปอง
น้ำตานอง อาบแก้ม แต้มสองปราง

แม้จะนาน เพียงใด ใจยังคิด
ขอใช้สิทธิ์ ขีดฤทัย ใสสว่าง
ไม่เคยหลอก ลวงใคร ให้หลงทาง
รักร่วมสร้าง ทางฝัน อย่าหวั่นใด

แม้นถ้ารัก ดำรงค์ คงไม่แคล้ว
ถึงเรือแจว เมื่อพาย ต้องหมายได้
อยู่ร่วมหอ ร่วมห้อง คล้องฤทัย
ตราบสิ้นลม หายใจ ไม่จากเธอ

พันทอง

กุหลาบหรู ชมพูเด่น เป็นกลีบซ้อน
ทุกขั้นตอน ซ้อนทับ ซับคุณค่า
กุหลาบซ้อน อ่อนหวาน กาลเวลา
ตรึงตา ตรึงใจ ให้ผูกพัน

ด้วยหัวใจ ไมตรี ที่มอบให้
จากดวงใจ สู่ดวงใจ ได้ชื่นฉ่ำ
มอบกุหลาบ ช่อน้อย แทนถ่อยคำ
รักเธออย่าง ลึกล้ำ ย้ำจากใจ

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...เป็ดน้ำ..., รัตนาวดี, รพีกาญจน์, Thammada, choy, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

01 เมษายน 2013, 10:23:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #11 เมื่อ: 01 เมษายน 2013, 10:23:PM »
ชุมชนชุมชน


   
Re: ~@ ยากยิ่งนัก @~
« ตอบ #5 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2012, 08:52:pm »

ให้ฟันฝ่า ผ่ามันนั้นคือหมาย
ให้ฟันฝ่า หาปลายป้ายเสนอ
ให้ฟันฝ่า หาฝัน นั้นให้เจอ
ให้ฟันฝ่า อย่าเผลอเพียงเพ้อครวญ

มีใครบ้าง ไม่อยากฝากรักหลง
มีใครบ้าง ไม่ตรงบ่งสงวน
มีใครบ้าง ไม่จองสนองนวล
มีใครบ้าง ไม่หวนมาชวนชม

เมื่อหนึ่งนาง ต่างตอบมอบรักหวาน
เมื่อหนึ่งนาง ต่างขานสานสุขสม
เมื่อหนึ่งนาง วางสนองครองภิรมย์
เมื่อหนึ่งนาง สร้างอุดมบ่มรักจอง

จึงหวังมี ที่หมายปลายรักฝัน
จึงหวังมี สักวันนั้นสนอง
จึงหวังมี หนึ่งนั้น คือ “พันทอง”
จึงหวังมี เพียงน้อง..ให้จองใจ..

"บ้านริมโขง"


ยากยิ่งนัก ถ้าจะรัก ใครสักคน
เขาไม่สน ไม่รับรัก จักหมองไหม้
กลับมานอน ระกำ ซ้ำทรวงใน
แล้วปล่อยให้ เราอยู่ คู่กับเงา

ยากยิ่งนัก รักนี้ ที่สมหวัง
จนกระทั้ง ป่านนี้ ไม่มีเขา
เจ็บระกำ ซ้ำเหลือทน จนซึมเซา
รักสองเรา ที่เขาบอก มันหลอกลวง

ยากยิ่งนัก รักเธอ หลงเผลอไผล
เผลอปล่อยใจ ลอยไกล ในแดนสรวง
วาดวิมาน รักไว้  ในทั้งปวง
จึงต้องร่วง เจ็บอก เหมือนตกตาล

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, Shumbala, Thammada, choy

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

01 เมษายน 2013, 10:31:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #12 เมื่อ: 01 เมษายน 2013, 10:31:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: ~@ ยากยิ่งนัก @~
« ตอบ #7 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2012, 07:18:pm »

ปล่อยเวลาล่วงผ่านมานานเนิ่น
วัยมันเกินจะฝันถึงวันหวาน
กว่าจะได้ร่วมเรียงคงเหนียงยาน
สุดสงสารพี่เราคงเฉาตาย

หากผิดหวังโศกามาหาณัช
จะช่วยจัดให้พี่ถึงที่หมาย
อยากให้พี่สุขสันต์ยามบั้นปลาย
(หัวใจวายขึ้นมาอย่าว่ากัน)

-ณัช-

ตายบนอก ดีกว่า ตกน้ำตาย
ไม่เสียดาย หรอกณัชชา อย่ากระนั้น
เรามาร่วม เคียงครอง คล้องสัมพันธ์
เดินสู่ฝัน อันรำไร ไว้จดจำ

ให้พีตาย บนเรือนร่าง อันว่างเปล่า
ดีกว่าเฉา เดียวดาย ตายในน้ำ
ตายบนบก อกใจ ได้ชื่นฉ่ำ
กลัวจะคว่ำ คะมำงาย ตายทั้งเป็น

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, D, Shumbala, Thammada, รัตนาวดี, choy

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

02 เมษายน 2013, 09:45:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #13 เมื่อ: 02 เมษายน 2013, 09:45:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: เมาตาลาย ตายคาเหล้า
« ตอบ #1 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2012, 05:02:pm »

ดื่มน้ำเมา ผิดศิล สิ้นสติ
สมาธิ ตั้งมั่น ก็พลันหาย
ตีหัวหมา ด่าแม่ แย่จริงนาย
อยากระบาย กลายกลุ้ม กลับรุมเร้า

ดื่มน้ำเมา วางวาย ตายผ่อนส่ง
ต่อสายตรง เพียวเพียว เปลี่ยวใจเฉา
มีเงินทอง ไม่เหลือ เชื่อหูเบา
เลี้ยงเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ ใจใหญ่เกิน

เงินเดือนออก ควักจ่าย สบายไหม
ลูกเมียไม่ เคยสน ทนนานเนิ่น
เหล้าเข้าปาก ลืมสิ้น กินจนเพลิน
เช้าก็เดิน เป๋ปัด อัฐไม่มี
พันทอง

พี่ดื่มเหล้า เมามาย เพราะพ่ายรัก
อยากจะพักใจลง ตรงเธอนี้   
ขอเธอไปรด เมตตา และปราณี
รับใจที่  พังเพ เซเป๋ เมา

ถ้าเธอรับ ใจดวงนี้ พี่จะไม่
เที่ยวเถร ไถล ไปดื่มเหล้า
พี่จะอยู่ กับน้อง ครองคู่เคล้า
พะเน้า พะนอ คลอแนบกาย

เงินเดือนออก เท่าไร้ ยกให้หมด
พี่จะงด ดื่มเหล้า เมาห่างหาย
หลงเมารัก เมาเธอ เพ้อไม่วาย
ถ้าขาดเธอ ต้องล้มหงาย ตายลงแดง

ชลนา  ทิชากร


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : MASAPAER, รัตนาวดี, Shumbala, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, Thammada, choy

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

02 เมษายน 2013, 10:16:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #14 เมื่อ: 02 เมษายน 2013, 10:16:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: ^^^^^ต้นหญ้า...กาช้ำ^^^^^
« ตอบ #4 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2012, 09:23:pm »

รู้ศักดิ์ต่ำ ซ้ำจน ทนหม่นหมาง
ยอมพ่ายทาง ร้างเงา เราเกินใฝ่
รักมากจริง ยิ่งล้ำ ทำฉันใด
จำฝืนใจ ให้เธอ เจอคู่เคียง

เธอนั้นสูง เสียดฟ้า มีค่าสม
คู่ภิรมย์ ชมฉัน นั้นเกินเสี่ยง
วาสนา มีน้อย ด้อยดินเพียง
จำต้องเลี่ยง หน้ากลับ ซับน้ำตา

ช้ำสุดช้ำ ช้ำจิต หมดสิทธิ์ฝัน
เธอกับฉัน นั้นจาก พรากดีกว่า
อย่ายืดเยื้อ เรื้อรัง ขังชีวา
ขอนำพา ตัวฉัน หันจากไกล

"ดิน"
หลงรักใคร ไหนเล่า เจ้าหน้ามล
มาเพ้อบ่น ครวญคร่ำ พร่ำไฉน
จะรักใคร ก็รัก ปักดวงใจ
เขาอยู่ไกล อยู่กับใคร ไม่สำคัญ

รู้ว่าเรา รักเขา เท่านั้นพอ
หรือจะต่อ เติมรัก ถักใจฝัน
คอยอุดหนุน จุลเจือ เอื้อสัมพันธ์
ถ้าเขานั้น เสียหลัก รักเรรวน

อย่าโกรธเกลียด ทับถม สมน้ำหน้า
ซับน้ำตา ถ้าเขา เศร้ากำสรวล
นี่คือรัก จริงแท้ แม่เนื้อนวล
อย่าเพิ่งด่วน จากเขา จงเข้าใจ

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, Thammada, รัตนาวดี, choy

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

02 เมษายน 2013, 10:32:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #15 เมื่อ: 02 เมษายน 2013, 10:32:PM »
ชุมชนชุมชน

   
ข้างๆ หัวใจ
« เมื่อ: 17 มกราคม 2013, 11:14:pm »

อาจหนึ่งวันที่ฉันมีความหมาย
ยอมตรอมตายซึ่งทิ้งกายไว้เสมอ
อาจมีไว้แค่เพียงเธอเหนื่อยใจยามเฝ้าดู
ไม่เคยรู้ว่าเธอเก็บไว้ดูยามวุ้นใจ
อาจเป็นสิทธ์ที่ฉันได้เฝ้ามอง
ไม่ใช่สองแค่ไม่ได้ครองให้มีหมาย
อาจจะผิดคิดกระทำให้เธอสุขอยู่มิวาย
ผลสุดท้ายคงไม่ได้เธอไว้ให้เชยชม

Rallow

อย่าถ่อมตัว กลัวรัก พักเฉยอยู่
รักต้องบู้ สู้เพื่อรัก จักสุขสม
หลงรักใคร บอกออกไป ได้เชยชม
อภิรมย์ สมใจรัก ภักดิ์ผูกพัน

สิทธิ์หัวใจ ใครใคร ก็ใฝ่รัก
แน่นอนนัก รักเขา เฝ้าใฝ่ฝัน
หวังเชยชม สมใจ ในสักวัน
รักต้องหมั่น ขยัน พันผูกใจ

ชลนา  ทิชากร



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, Thammada, choy

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

02 เมษายน 2013, 10:51:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #16 เมื่อ: 02 เมษายน 2013, 10:51:PM »
ชุมชนชุมชน

   
/////////... แค่มี.../////////
« เมื่อ: 04 มีนาคม 2013, 11:32:am »

แค่ดอกหญ้า ค่าไร้ ไม่ควรคู่
แจกันหรู ใบงาม เขาหยามหมิ่น
มิอาจทำ ช้ำหมอง ต้องราคิน
คนติฉิน นินทา มิค่าควร

ขอแค่มี เธอเคียง เพียงในฝัน
ดินอย่างฉัน ชั้นต่ำ ช้ำเจ็บป่วน
เธอนั้นสูง ยูงหงส์ จงทบทวน
แม้ร่ำหวน ครวญคร่ำ ขอทำใจ

จำจากฝัน วันนี้ ลาพี่ก่อน
ล้าแรงอ่อน นอนผวา น้ำตาไหล
ชีวิตผิด ครรลอง ต้องขอไกล
พบกันใหม่ หากว่า ชาติหน้ามี

"ดิน"

แค่ดอกหญ้า ว่าไป ไม่ควรคู่
แจกันหรู บูชาองค์ พระทรงศรี
ทั้งดอกดิน ถวิลฟ้า ไร้ราคี
สถิตที่ วิถี่ธรรม นำพ้นภัย

เธอที่รัก ปักใจ อยู่ในฝัน
ดวงใจฉัน มั่นคง อย่าสงสัย
จะดอกดิน ถิ่นเมืองฟ้า นภาลัย
ดวงฤทัย นัยใจฉัน นั้นรักเธอ

อย่าเพิ่งลี้ หนีหน้า ลาจากฝัน
สงสารฉัน มั่นนัก รักเสมอ
แม้จากไป ใจเหงา เฝ้าละเมอ
ถ้าไม่เจอ เธอในฝัน หวั่นชีพวาย

ชลนา  ทิชากร

http://www.youtube.com/watch?v=K5PVeij-fno#noexternalembed

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Thammada, Shumbala, ไพร พนาวัลย์, choy

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

02 เมษายน 2013, 11:22:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #17 เมื่อ: 02 เมษายน 2013, 11:22:PM »
ชุมชนชุมชน


   
Re: /////////... แค่มี.../////////
« ตอบ #5 เมื่อ: 04 มีนาคม 2013, 09:46:pm »

ขอฝันใฝ่ ในฝัน เท่านั้นหรือ
สุดยั้งยื้อ ซื้อคิด ซึ้งจิตหลาย
ล่วงเพลา ลาเร้น มิเห็นกาย
ดูแหนงหน่าย บ่ายบิด มิคิดเจอ

ขอเบอร์โทร โถมิให้ แถมไล่ส่ง
หากรักหลง คงมั่น หวั่นกลัวเก้อ
บอกว่ารัก นักเหลือ เบื่อจริงเออ
เกรงว่าเธอ เพ้อพร่ำ มิซ้ำคน

"ดิน"

ขอฝันใฝ่ ในฝัน เท่านั้นใช่
คิดเท่าไร ไม่คู่ควร ทวนหลายหน
เธอร่ำรวย สวยโสภา แม่หน้ามน
ฉันมันจน ทนเจียม เสงี่ยมตัว

ไม่อยากไป ใกล้เธอ กลัวเผลอรัก
ไม่พบพักตร์ รักหน้ามน จนปวดหัว
วันใดเจอ เธอฉัน หวั่นใจกลัว
คงหมองมัว กลัวอกหัก รักข้างเดียว

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, รัตนาวดี, Shumbala, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, choy, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

02 เมษายน 2013, 11:31:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #18 เมื่อ: 02 เมษายน 2013, 11:31:PM »
ชุมชนชุมชน

   
Re: /////////... แค่มี.../////////
« ตอบ #6 เมื่อ: 05 มีนาคม 2013, 07:23:am »

มีร้อยเจต เหตุปัด อ้างขัดข้อง
เลิกหมายจอง คล้องกัน สัมพันธ์เกี่ยว
รักลมลวง ทรวงร้าว ข้าวคอยเคียว
โทรมซีดเซียว เรียวรวง ร่วงโรยรา

ขอตัดไฟ ต้นลม ยอมตรมจิต
คนหมดสิทธิ์ ผิดพบ หลบหนีหน้า
จากนี้คง ปลงซะ หนอชะตา
อนิจจา ชาตะ มะมีแฟน

"ดิน"

มีร้อยเจต เหตุใด ต้องไปจาก
เพียงแค่อยาก ฝากรักไว้ ให้แนบแน่น 
ในซอกใจ ซอกใด ไว้ทดแทน
เมื่อถูกแฟน แสนดี เข้าหนีไกล

จะได้อยู่ ดูแล แก้ความเหงา
ยามแฟนเก่า เขาจาก พรากไปไหน
จะคอยอยู่ ดูแล แผลหัวใจ
แล้วทำไม่ ต้องไล่ส่ง งงจริงจริง

ชลนา  ทิชากร


   
Re: /////////... แค่มี.../////////
« ตอบ #16 เมื่อ: 06 มีนาคม 2013, 05:15:pm »

เก็บหัวใจ ใส่โหล ผูกโบว์ขาว
เขียนเกริ่นกล่าว ข่าวช้ำ ระกำยิ่ง
ปิดประกาศ คาดไว้ มิไหวติง
แพ้ทุกสิ่ง กริ่งเกรง มิเก่งพอ

แค่เคยมี ฤดีช้ำ ถลำขื่น
สุดตันตื้น กลืนกล้ำ ระกำหนอ
มิเปิดโหล โชว์ใจ ให้ใครคลอ
มานทดท้อ รอแท้ แค่ความตาย


"ดิน"

เก็บหัวใจ ไว้ให้ดี นะที่รัก
ด้วยใจภักดิ์ รักนี้ มีความหมาย
ถ้าชีพนี้ มีหวัง ยังไม่ตาย
จะขวนขวาย ว่ายฝ่า ไปหาเธอ

มรสุม รุมเร้า เข้ากางกั้น
ด้วยใจมั่น ฟันฝ่า มาเสมอ
ถ้าหลุดรอด ปลอดภัย คงได้เจอ
จะเสนอ เผยอหน้า มาให้ชม

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, Shumbala, รพีกาญจน์, choy, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

03 เมษายน 2013, 09:24:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #19 เมื่อ: 03 เมษายน 2013, 09:24:PM »
ชุมชนชุมชน

   
คนไกล ที่ไร้ค่า
« เมื่อ: 21 สิงหาคม 2012, 02:01:pm »

 
ต่อให้ทำงานมีเงินก็เสียแฟน
 เพราะห่างแหนกันไกลใจไม่ถึง
 สู้ไม่ไหวกับคนไกล้เธอ เธอคงลืม
 คงไม่ซึ่งเท่ากับเขา เราคนไกล

 เจ็บแรกก็ต้องทน
 เจ็บสองก็หมดหวัง
 เจ็บสามใจแทบพัง
 เจ็บไม่จำ ใครจะยำรายต่อไป เชิญครับ

๑๑ติดลม๑๑

เหตุเพราะรัก คนไกล ใจต้องเจ็บ
ได้แต่เก็บ ความช้ำ กรรมเราก่อ
นั่งเหม่อมอง ทองฟ้า น้ำตาคลอ
ได้แต่พ้อ บ่นเพ้อ เธอลืมคำ

จักไม่โกธร โทษหา ว่าเธอผิด
ฉันเองคิด ผิดไป ใจถลำ
เรื่องอดีต ความหลัง หวังเพียงจำ
ว่าเธอทำ ให้ฉันหลง ได้ลงคอ

ชลนา ทิชากร


   
Re: รู้...เราต่างกัน
« ตอบ #1 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2013, 09:28:pm »

น้อยใจแล้วด้วย
ตั้งกระทู้รู้เสมอไร้เธอแน่
ฉันก็แค่บ้านนอกออกฝืดฝ่าน
มิหยดย้อยช้อยชดพจน์มาน
ไม่ซาบซ่านซึ้งทรวงถึงห้วงจินต์

นอนคือนอนกินคือกินไร้ศิลป์ศัพท์
มิจ้องจับกระเดียดเกลียดฐานถิ่น
เชิญเธอเถอะระบือชื่อยลยิน
ฉันชาวดินเธอชาวฟ้า...ค่าต่างกัน งอนแล้วด้วย

 
ลาตายดีกว่าตู เคารพรัก

ก้อย



ตั้งกระทู้  รู้เลย เอ่ยถึงใคร
ไม่เป็นไร ไงเธอ ก็เจอฉัน
ไม่มีเขา เศร้าไป ทำไมกัน
อย่าโศกศัลย์ หวั่นใจ ไปเลยเธอ

เธอคือใคร ใจฉันรู้ ดูเธอออก
อย่ามาหลอก บอกให้ ไม่ไผลเผลอ
ฉันก็รู้ อยู่แก่ใจ ไม่เผลอเรอ
ถึงไม่เจอ รู้น่า ว่าเป็นใคร

ชลนา  ทิชากร



   
Re: :::::ล้างลานใจ...?
« ตอบ #3 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2013, 12:01:am »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 20 สิงหาคม 2013, 04:36:pm


แสนช้ำชอก ยอกลึก นึกย้อนหลัง
ทุกคราครั้ง ยังปลาบ ขอสาปส่ง
ชาตินี้หนอ พอรัก ขอหักปลง
มิรักหลง คงมาน ล้างลานใจ

มิถลำ นำรัก เข้าพักผ่าน
ทรวงร้าวราน นานครอง หมองหม่นไหม้
เจ็บจนหนำ คำรัก ขอผลักไกล
กรวดน้ำให้ ไสผลัก รักขอลา

"ดิน"



พยายาม ล้างใจ เธอให้ออก
เธอช้ำชอก จากใคร ที่ไหนหนา
ล้างเท่าไหร่ ไม่ออก ชอกอุรา
เขายังคา ค้างใจ ไม่คลายจาง

จนปัญญา ฉันแล้ว แก้วใจจ๋า
ส่งใจมา ปลอบใจ ไม่เคยห่าง
เธอยังรัก ปักใจ ไม่เว้นวาง
ฉันหมดทาง รักษา เยียวยาใจ

ชลนา  ทิชากร



Re: • • • ❀ วกวน..จนวางวาย ❀ • • •
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2013, 10:47:pm »


หมุนคว้างหมุนหล่นร่วงควงใบหมุน
ท่ามแดดอุ่น..อุ่นไอ ไยยังหนาว
พลิ้วยอดไผ่..ไผ่พลิ้ว ปลิวร่วงกราว
หนาวยังหนาว..เหน็บในหัวใจตน

ใบไผ่พลิ้วปลิวหายกลางสายหมอก
ธารระลอกวิบไหวพาใจหม่น
พร่างสายลมแผ่วเบาเหงาเกินทน
ใบไผ่วนหล่นหาย..คล้ายสั่งลา

ฟ้าแต้มสีชมพู..ฟ้าดูสวย
ไยจึงช่วยซ่อนเล่ห์เสน่หา
หรือฟ้าแอบเป็นใจให้รักมา
แล้วไยฟ้าตัดเยื่อใยให้คนตรม

ใบไผ่หมุนหล่นร่วงควงใบหมุน
แก้มอุ่นอุ่น..ของใครหัวใจขม
อุ่นน้ำตารินไหลใครระทม
ท่ามสายลม ใบคว้าง..ไผ่ร้างกอ

~ ประภาคาร ~




ท่ามสายลม พรมพลิ้ว ปลิวใบไม้
เห็นกอไผ่ ไหวส่าย สายลมล้อ
ไผ่ไหวโยน โอนไกว ไผ่เสียดกอ
คล้ายเสียงซอ กอไผ่ ไหวบรรเลง

ไผ่บรรเลง เพลงเศร้า เหงาขื่นขม
กอระทม ตรมใจ ใครข่มเหง
ไผ่อกหัก รักช้ำ ฮัมเสียงเพลง
ดังวังเวง เร่งเร้า เศร้าใจนัก

เจ้าสายลม พรมพลิ้ว ปลิวใบไผ่
จากกอไป ไผ่ช้ำ ระกำหนัก
ต้องโดเดียว เปลี่ยวใจ ใบร้างรัก
ไผ่อกหัก รักหน่าย สายลมพา

ธารลอยไหล ใบพลิ้ว ริ้วตามน้ำ
ไผ่ระกำ ช้ำเศร้า เฝ้าห่วงหา
ใบไผ่พลิ้ว ปลิวไป ไม่หวนมา
สายธารา บ่าไหล ไผ่ระทม

ชลนา  ทิชากร



Re: • • • ❀ วกวน..จนวางวาย ❀ • • •
« ตอบ #8 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2013, 06:54:pm »
อ้างจาก: Prapacarn ❀ ที่ 18 ตุลาคม 2013, 12:56:pm

สายลมพลิ้วปลิวไหวพาไผ่หวิว
ใบไผ่ปลิวหมุนวนหล่นทับถม
ดั่งรักแรกแทรกทรวงตกห้วงตรม
ไยรักขมปร่าเฝื่อนเหมือนรักลวง

คีตกานต์ผ่านฝันวันนี้เหงา
แผ่วพลิ้วเบา..จางจาง อย่างห่วงหวง
ร่ายบรรเลงลำนำเพลงบำบวง
สู่แดนสรวงวอนฟ้า..โปรดปรานี

มธุรสหวานแว่วยินแผ่วหวาน
จำเรียงผ่านถึงใคร..ได้ไหมนี่
โอนเอนไหวกล่อมกมลฝากคนดี
ค่ำคืนนี้ อย่าปล่อยให้..ไผ่ระทม

แซมค่ะ

ดอกไผ่บาน ต้านลม พรมพัดผ่าน
รักเคยหวาน นานวัน พลันขื่นขม
สัญญาณไผ่ ไหวบาน มานระทม
ไผ่ต้องล้ม จมหาย ตายทั้งกอ

ชายในฝัน จันทร์กับเมฆ เฉกเช่นนั้น
เอื้อมสอยจันทร์ วันไหน จะได้หนอ
ชายที่หวัง นั่งเจ่า เฝ้าคอยรอ
อย่าเพิ่งท้อ รอหน่อย คอยต่อไป

ดอกไผ่บาน พยานรัก ตะนักบาง
จงปล่อยวาง ช่างมัน อย่าหวั่นไหว
มีเกิดดับ รับรู้ อยู่ที่ใจ
ทุกข์ภัยใด ไม่นาน มารพ่ายแพ้

ดอกไผ่สวย ด้วยรัก ถักทอไว้
เบิกบานใจ ในรัก ประจักษ์แน่
นานเพียงไหน ใจมั่น ไม่ผันแปร
รอรักแท่ แด่ฝัน วันไผ่บาน

ชลนา  ทิชากร

Re: • • • ❀ วกวน..จนวางวาย ❀ • • •
« ตอบ #13 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2013, 10:28:pm »
อ้างจาก: Prapacarn ❀ ที่ 19 ตุลาคม 2013, 02:05:pm

รอวันนี้..วันที่ พี่เผยรัก
ใคร่ประจักษ์ จริงแน่หรือแค่..หวาน
ฝากผืนฟ้าให้เห็นเป็นพยาน
ถ้อยขับขานจากใคร..อ้อนให้รอ

อีกนานไหม..ไผ่จ๋า อย่าเมินเฉย
แม้นที่เอ่ย จริงใจ รีบไปขอ
พี่กับน้องครองคู่อยู่เคลียคลอ
น้องจะรอข้างกอไผ่..ใต้เงาจันทร์

แซมค่ะ

รักจริงแท้ แน่ใจ ไม่ต้องเผย
อย่าห่วงเลย เอยไป ใช่แค่หวาน
เอ่ยวาจา ฟ้าเห็น เป็นพยาน
ถ่อยขับขาน ผ่านฟ้า ต้อหน้าจันทร์

ไม่เนินนาน ปานใด ถ้าใจรัก
ผูกสมัคร ปักใจ ในจอมขวัญ
ถึงตัวไกล ใจอยู่ เคียงคู่กัน
เนินนานวัน  ฝันใฝ่ ใจจะรอ

ชลนา  ทิชากร

Re: ......เธอคือ.......?
« ตอบ #2 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2013, 11:28:am »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 15 ตุลาคม 2013, 10:16:am

คือสายลม พรมเบา บรรเทาร้อน
คือแดดอ่อน ละไม ให้สุขขี
คือร่มเงา เข้าพึ่ง ซึ่งพงพี
คือนที ที่เอื้อ เจือจุนมา

ถ้อยละมุน คุ้นเพียง แค่เสียงผ่าน
ซึมซาบซ่าน หวานตรึง คะนึงหา
มีอาทร ร้อนหนาว ทุกคราวครา
ยลวาจา จริงใจ ใช่..คือเธอ

เป็นพี่ชาย ได้ไหม ใครว่าเปล่า..?
แทนความเหงา เข้าคลาน ผ่านเสมอ
ที่แล้วมา ล้าใจ ไม่เคยเจอ
ใช่ว่าเผลอ หรือพลั้ง แต่ตั้งใจ
"ดิน"

เป็นอะไร ได้ทุกอย่าง บนทางฝัน
เธอเสกสรร ให้ฉันเป็น เช่นอย่างไหน
ฉันจะเป็น เช่นอย่างนั้น ในทันใด
เป็นดังใจ ใฝ่ฝัน นั้นแด่เธอ

เป็นสายลม พรมพัด สะบัดร้อน
เป็นดังหมอน นอนหนุน อุ่นเสมอ
เป็นร่มใจ ให้พัก รักบำเรอ
คอยเสนอ ตอบสนอง เมื่อต้องการ

เป็นพี่ชาย หมายแม้น แทนความเหงา
พร้อมจะเข้า เนาแอบ แนบประสาร
เธอกับเขา เนาแอบ แนบเจือจาน
ช่วยสมาน หว่านล้อม ยอมสัมพันธ์

ชลนา  ทิชากร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, Thammada, choy

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

หน้า: [1] 2 3 4 5
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s