"กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?"
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 เมษายน 2024, 09:57:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?"  (อ่าน 6626 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
24 กันยายน 2010, 12:19:AM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« เมื่อ: 24 กันยายน 2010, 12:19:AM »
ชุมชนชุมชน





"กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?"

(๑)

๐ ลุพุทธศักราชย้อนชาติภพ
กลิ่นคาวเลือดตลบศพนาย-ไพร่
ปีสองพันสามร้อยสอง..หมองอาลัย
ครั้งเกิดไฟสงครามลามอยุทธ์

๐ ปลายสมัยองค์ราชะเอกทัศน์
ครองสมบัติกรุงศรีฯที่ท้ายสุด
ศึกภายในนายเจ้าราวอกทรุด
ชนวนจุดเชื้อไฟไอสงคราม

๐ กิตติศัพท์อื้ออึงถึงพม่า
อลองพญาครองฉัตรรัฐอร่าม
ขยายอาณาประเทศล่าเขตคาม
ผงาดท่ามกลางศึกคึกไพร่พล

๐ จึงบัญชาเกณฑ์ทหารผู้ชาญรบ
หวังสยบกรุงศรีฯยามที่หม่น
วางแผนศึกปรึกษาเสนาตน
ส่งทัพหน้าเชี่ยวพหลกลยุทธ์

๐ สั่งมังระยุพราชมาดกล้าแกร่ง
เร่งจัดแจงนำทัพกับราชบุตร
นามมังฆ้องนรธาเก่งอาวุธ
จงรีบรุดเดินทัพโดยฉับพลัน

๐ เล็งมะริดตะนาวศรีที่ด่านแรก
ตีให้แหลกดั่งเนื้อเพื่อข่มขวัญ
สองนายทัพรวมพลล้นแปดพัน
ได้ฤกษ์ครันทัพหน้าก็ฝ่าเดิน

(๒)

๐ ฝ่ายม้าเร็วแจ้งสารข่าวการศึก
รีบผนึกส่งสารการแต่เนิ่น
พระผ่านฟ้าเอกทัศน์ตรัสประเมิน
ให้เร่งเชิญอำมาตย์ราชมนตรี

๐ แล้วบัญชารับสั่งเป็นการด่วน
ตั้งกระบวนสองทัพรับหน้าที่
เกณฑ์ไพร่พลห้าพันอันฤทธี
สองพระยานามนี้ที่โปรดปราน

๐ ให้ออกญายมราชชาติทแกล้ว
คุมทัพใหญ่จัดแถวแววตระหง่าน
พลกำลังสามพันขั้นปราการ
สกัดย่านคับขันเขาบรรทัด

๐ ตั้งเจ้าคุณรัตนาฯข้าเลี้ยงเก่า
คุมพลเล่าสองพันปันส่วนสัด
เป็นทัพหนุนบุ๋นคละสารพัด
ยามติดขัดช่วยณรงค์การสงคราม

๐ สำหรับกองทะลวงฟันผู้หาญศึก
เจนห้าวฮึกการรบภพสยาม
เชี่ยวชาญยุทธ์คงกะพันคนหวั่นนาม
พลรวมความสี่ร้อยสบถ้อยที

๐ กองวิเศษไชยชาญคนขานก้อง
พลอ่างทองกระเดื่องเรื่องศักดิ์ศรี
ชื่อนาม"กองอาทมาต"ชาติชาตรี
เกณฑ์กองนี้ไปทัพกับเจ้าคุณ

๐ ให้ท่าน"รองปลัดชู"ดูพลไพร่
อันเกรียงไกรกำกับอย่างทัพหนุน
ตามพระยารัตนาฯพาสมดุลย์
เรื่องบู๊บุ๋นวางแผนแทนโองการ

(๓)

๐ สองพระยาเดินทัพรับพม่า
ต่างยาตราดำเนินเพลินทุกย่าน
ทั้งเหล้ายาเสบียงเยี่ยงโอฬาร
สุขดั่งบ้านมิเหมือนเคลื่อนไปรบ

๐ การสอดส่องตรวจตราหาถี่ถ้วน
ผิดกระบวนพระยาฝ่าลืมกฎ
เหตุไม่ชินงานใหญ่ใช้ลาภยศ
จนกำหนดใกล้จุดยุทธ์ณรงค์

๐ ทั้งสองทัพแยกย้ายหมายที่มั่น
ทัพหลวงนั้นแผนผุดจุดประสงค์
หวังเดินทัพลัดเขาเพื่อเข้าตรง
สู่เขตดงแดนมะริดติดตะนาวฯ

๐ พ้นผ่านเขาบรรทัดป่าชัฎรก
ตื่นตะหนกทั้งสิ้นเมื่อยินข่าว
ทั้งสองเมืองย่อยยับพับเรื่องราว
พม่ากร้าวตีหักหนักเสียเมือง

๐ จึงสะดุดหยุดทัพปรับกลยุทธ์
รอหาจุดที่มั่นพลันเกิดเรื่อง
ทัพมังระห้าวหาญชาญรุ่งเรือง
พลครบเครื่องจู่โจมโหมเข้าตี

๐ ศึกรอบด้านกระหน่ำย่ำกลางทัพ
ยากต้านรับปรับพหลจึงป่นปี้
พม่าชาญไพรพฤกษ์ศึกได้ที
บดขยี้ทัพหลวงล่วงแตกยับ

๐ กองทัพหลวงปราชัยไปต่างทิศ
สูญชีวิตยุทธภัณฑ์นั้นเป็นตับ
ยิ่งตะวันเคลื่อนดวงลงล่วงลับ
ศพราวกับป่าช้าต่างหน้าเบือน

๐ ครั้งออกญายมราชประมาทพ่าย
ทัพหลวงแหลกเสียหายซากตายเกลื่อน
กำลังพลถูกบั่นขวัญสะเทือน
กลิ่นโลหิตคลุ้งเปื้อน-เถื่อน,แผ่นดิน

๐ มังมหานรธารุกล่าไล่
ยึดมะริดกุมไว้ได้หมดสิ้น
ด่านสิงขร,ตะนาวศรีที่ได้ยิน
กลายเป็นถิ่นพม่ายาตราทัพ

๐ ข่าวทัพหลวงอื้ออึงถึงทัพหนุน
ท่านเจ้าคุณรัตนาฯหน้าเหงื่อขับ
ไพร่พลมีสองพันยากยันรับ
รบคู่ปรับไพรีที่แปดพัน

๐ ใจทหารร่วงไปใกล้ตาตุ่ม
ไร้ควบคุมสดับข่าวคับขัน
แผนสกัดซุ่มตีปรี่ทันควัน
ลอบห้ำหั่นศัตรูผู้คุกคาม

๐ เฟ้นทหารไพร่กล้าขัดตาทัพ
ไล่ลำดับฝีมือลือสยาม
ไม่มีใครฝากชื่อระบือนาม
น่าเกรงขามเท่ากองของท่าน"ชู"

(มีต่อครับ)

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...สียะตรา.., รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

24 กันยายน 2010, 08:16:PM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 24 กันยายน 2010, 08:16:PM »
ชุมชนชุมชน





"กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?"

(๔)

๐ กองกำลังอาทมาตพิฆาตศึก
เชี่ยวชาญคึกชำนาญการต่อสู้
เวทคาถาคงกระพันรบพันตู
บนหลังม้าหรือหมู่รู้วางกล

๐ จึงสั่งรองปลัดชูผู้เหี้ยมหาญ
นำกำลังของท่านอันเข้มข้น
ทหารม้าสี่ร้อยทยอยคน
ทั้งดักปล้นลอบฆ่าพม่ามอญ

๐ ให้ท่านยกไปเถิดเปิดการรบ
เดินทัพพลบค่ำนี้เข้าตีก่อน
เราจะยกไปหนุนตะลุมบอน
เป็นการทอนกำลังหยั่งไพรี

๐ รองปลัดรับสารบงการศึก
สูดลมลึกเยี่ยงชาติราชสีห์
หัวใจเพชรห้าวหาญการราวี
ร่างกูนี้ขอสนองปกป้องเมือง

๐ พลวิเศษไชยชาญผู้หาญกล้า
ทั้งสี่ร้อยชีวากายาเขื่อง
ล้วนผิวคล้ำกรำศึกฝึกเนืองเนือง
เชี่ยวชาญเรื่องศาตราวิชามวย

๐ ต่างประจุอาคมเป่าพรมร่าง
พุทธคุณเสริมสร้างทางจิตช่วย
ผ้าประเจียดเสกย้ำฤทธิ์อำนวย
ปลุกตะกรุดพร้อมด้วยดาบอาคม

๐ ทุกชีวิตเข้าใจในการศึก
ต่างผนึกหลอมจิตคิดใคร่ข่ม
ข้าศึกมากกลางเถื่อนหลากเงื่อนปม
ต่างมิล้มความคิดปลิดไพรี

๐ ทั้งมีดสั้นดาบยาวลับวาววับ
เพื่อรอสับศัตรูสู้ไม่หนี
ปืน,ธนูคู่กายชายชาตรี
เตรียมเพื่อกรีธาพลผจญรบ

(๕)

๐ กำลังพลคนม้าฝ่าความมืด
แสงจันทร์ชืดดาวพรายลับหายหลบ
เคลื่อนจากกุยบุรีไม่มีคบ
ร่างกลืนกลบพฤกษ์ไพรในค่ำคืน

๐ เร่งขับม้าตามทิศที่จิตหมาย
เลียบหาดทรายสายลมพรมด้วยคลื่น
ธงแม่กองสะบัดพัดกลมกลืน
สติตื่นเกาะเกี่ยวทุกเสี้ยวกาล

๐ หยุดพักม้ายามสามติดตามข่าว
หาดหว้าขาวดาษดื่นคลื่นทหาร
ทัพมังระตั้งรอบริวาร
กองเสบียงขนผ่านบ้านตะนาวฯ

๐ จึงสบช่องวางแผนแสนอาจหาญ
หลอมกำลังเตรียมการสะท้านด้าว
ทหารม้าทั่วถ้วนล้วนดาบวาว
จู่โจมกร้าวกลางทัพลุยสับนาย

๐ อาศัยแรงม้าศึกผนึกรบ
ชั้นเชิงดาบสยบกลบความพ่าย
เร่งเข้าตีเช้าตรู่จู่โจมกาย
เล็งเป้าหมายแม่ทัพดับชีพมัน

๐ หวังเปิดศึกดีร้ายใช้หลอกล่อ
ทัพเจ้าคุณหนุนหนอต่อเข้าบั่น
ตีตลบนอกในใคร่พร้อมกัน
การศึกนั้นอาจจบเราพบชัย

๐ จบกลศึกปลัดชูผู้เจนจบ
ต่างทวนทบรอบด้านด้วยการใหญ่
พอหายเหนื่อยขึ้นม้ามุ่งหน้าไป
อ่าวหว้าขาวยามอุทัยเริ่มไขลำ

(มีต่อครับ)

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...สียะตรา..

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

25 กันยายน 2010, 11:39:PM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 กันยายน 2010, 11:39:PM »
ชุมชนชุมชน





"กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?"

(๖)

๐ กองหัวใจพระกาฬเลือกผ่านเถื่อน
ทยอยเคลื่อนกองม้าตั้งหน้าย่ำ-
ลัดเลาะป่าทากายป้ายสีดำ
สงบคำทะมึนกลืนหมู่พฤกษ์

๐ พักกองม้าแต่ไกลใคร่หลบซุ่ม
รอขยุ้มไพรีขยี้ศึก
เปิบข้าวแห้งจากไถ้หัวใจคึก
ต่างผนึกดวงจิตพิชิตชัย

๐ สังเกตทัพข้าศึกเป็นปึกแผ่น
จึงวางแผนโจมตีที่ซุ้มใหญ่
เล็งจากเนินหาจุดสะดุดใจ
ฉวยความไวเจาะเข้าเป้าตรงกลาง

๐ เพลาเช้าแสงอรุณกระตุ้นสาด
มวลอากาศหมอกอิงเพิ่งทิ้งสาง
ศัตรูยังหลับใหลไฟรบจาง
โอกาสข้างเรานี้ปรี่ลงมือ

๐ วางตำแหน่งตัวหลักกองหัก-ปล้น
หน้า,ซ้าย,ขวา,หลังล้นคนเชื่อถือ
คอยสกัดศัตรูสู้รุกฮือ
ป้องกองหน้าเพื่อยื้อคือฆ่านาย

๐ ส่วนพลสักห้าสิบหยิบปืนตั้ง
คอยระวังเล็งเป้าตัวเข้าข่าย
เด็ดชีพมันพลปืนยื่นความตาย
เหล่าธนูซ่อนกายหมายซุ่มยิง

๐ เสร็จแล้วช่วยตีแทรกเปิดแหวกช่อง
เพื่อนำร่องกองม้าลุยฝ่าวิ่ง
ยามปลิดหัวเสร็จกิจสัมฤทธิ์จริง
เพื่อฝากทิ้งอัปยศบทแพ้ภัย

๐ พลชาวอาทมาตชาติพยัคฆ์
ความจงรักภักดีที่เห็นได้
ต่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมันผู้ใด
สร้างจัญไรรุกล้ำทำอาจอง

๐ เข้ายื้อยุดปฐพีที่กูเกิด
ก็ลองเถิดดาบกูรู้จะบ่ง
จะฟันมันให้ยับดับชีพลง
ที่ทะนงหยามหลู่พระภูบาล

๐ ลมหายใจสะท้อนไฟร้อนสุม
ยื่นมือกุมกันไว้เหงื่อไคลซ่าน
เราจะฝ่านรกศกตำนาน
เพื่อลูกหลานจารึกศึกของเรา

(มีต่อครับ)

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...สียะตรา..

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s