ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[toshare]

ก่อนจะไปต่อ ขออนุญาตเสนอ ครับ


@ เสียงร้อยกรอง ประเภทกลอน ท้ายวรรคใหั
วรรคแรกไซร้ เลี่ยงเสียง สามัญหนา
วรรคสองเสนาะ ไพเราะด้วย เสียงจัตวา
วรรคสามสี่ สรรหา เสียงสามัญ

@ คราเนื้อหา สาระ ประเด็นตรอง
เสียงวรรคสอง โทเอก เสกบ่พรั่น
วรรคสามสี่ เสียงตรี ก็เช่นนั้น
ปราชญ์ไป่ยั่น หยิบใช้ ไม่หลุดประเด็น

ตัวอย่าง

ถึงบางพลูคิดถึงคู่เมื่ออยู่ครอง (สามัญ)
เคยใส่ซองส่งให้ล้วนใบเหลือง (จัตวา)
ถึงบางพลัดเหมือนพี่พลัดมาขัดเคือง
ทั้งพลัดเมืองพลัดสมรมาร้อนรน

๏ โอ้ปางหลังครั้งสมเด็จพระบรมโกศ
มาผูกโบสถ์ก็ได้มาบูชาชื่น (โท)
ชมพระพิมพ์ริมผนังยังยั่งยืน
ทั้งแปดหมื่นสี่พันได้วันทา

๏ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต (เอก)
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร (ตรี)
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ

นิราศภูเขาทอง
=====

บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว   
สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา 
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา
ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต (ตรี)

พระอภัยมณี

[toshare]

        ข้าพเจ้า สร้างกลอนแปดเป็นกลบท บังคับเสียงวรรณยุกต์ครบ 5 เสียง ทุกวรรค จริงๆแล้วยากตรงที่ออกแบบผัง
ถึงวันนี้ยังไม่ได้ผังที่เป็นแบบแผนฉันทลักษณ์
        เหตุที่พยายามออกแบบผังนี้ เพราะเห็นว่า โคลงบังคับรูปวรรณยุกต์ ฉันท์บังค้บเสียงหนัก เบา
        หรือว่ากลอนควรบังคับเสียงวรรณยุกต์ ซึ่งอันที่ข้าพเจ้ายอมรับไปแล้วว่าท่านบรมครูสุนทรภู่ท่าน ออกแบบไว้ สมบูรณ์ดีแล้ว

"@free"

--------------

ยอมรับว่า ยังไม่ใคร่เข้าใจ แนวคิดของคุณ "@free" ครับ

แต่จะขอลองนำเสนอดูครับ
หากไม่ใช่ แจ้งด้วยครับ

พิจารณาการผันเสียง วรรณยุกต์ ของ อักษรสามหมู่

กา  ก๋า     กล้า     กล๊า   ก๋า
ซา  ส่า     ส้า/ซ่า  ซ้า    สา
     บุก/สิ  ครอบ   ลุ/รุก     

กลบท
กลอนทุกวรรค ทอถัก ห้าเสียง (ม ต ต ม อ ท จ)

@ กลอนพึง ถูกต้อง เสียงท้ายวรรค (ม ม อ ท จ ต ต)
จารถัก ร้องได้ เสนาะหู   (ม อ ต ท อ อ จ)
แต่งเน้น มุ่งหวัง เป็นแบบดู (อ ต ท จ ม อ ม)
ขอทุก ผู้รู้ โปรดแนะนำ(จ ต ท ต อ ต ม)

[toshare]

ไม่มีเซ็น ไม่มีไฮกุ
มีไฮกุ คือ ไม่มีไฮกุ
ข้าพเจ้าฝีกแต่งโคลงไฮกุด้วยจำนวนครั้งมากกว่าที่เคยฝึกคำประพันธ์ชนิดอื่น จึงรู้ว่า ฝึกไม่ได้ แต่งไม่ได้ด้วยการฝึก
อย่างที่เคยพูดว่า ฉันทลักษณ์ไฮกุมี สั้นๆ ง่ายๆ แต่มีข้อบังคับ แบบแผนมากมายทึ่กำหนดว่าโคลงทึ่แต่งออกมาไม่ใช่ ไฮกุ
โคลง กลอน ทุกชนิดในโลก ยึด จินตนาการแห่งอิสระภาพ ไม่ถูกบังคับยึดโยงรูปแบบใดๆ เป็นอิสระ กว้างไกลแห่งจักรวาล กว้างเท่าใจ
ไฮกุไม่ใช่เช้นนั้น โฮกุ ดำดิ่งลึกลงภายใน อันล้ำลึกไม่มีแม้คำว่าขอบเขต ไม่มีจุดที่สุด
ล้ำลึกแห่งความไม่มี ไม่มีเซ็นคือไม่มีไฮกุ ฝึกกันไม้ได้

มีบุรุษหนึ่งท่าน ไม่ใช่เซ็น คือมหาบุรุษพระพุทธเจ้า
ได้กล่าวไฮกุอันเป็น ที่สุด แห่งไฮกุ. ตลอดกาล

"เราหยุดแล้ว
ท่านสิ ยังไม่หยุด"

คิดแต่งไฮกุห่อสามชั้น ส่วนห่อจึงต้องพยายามแต่งให้เป็นไฮกุ ด้วย สังเกตได้ว่า ไม่รอด

  แห่งหนี่ง ผาดผ่าวร้อน
แห่งนั้น อาบรัก สายน้ำเย็น
แห่งไหน ไม่มีเธอ

เพลิงแผลงผลาญรุ่มรัอน
หลอมหล่อเหล็กแกนก้อน
จึ่งแจ้งแรงพลัง

เยือกเย็นเป็นปานธารถั่ง. หล่อเลี้ยงอยู่ยัง
ชีพด้วย ดินน้ำลมไฟ

"@free"
 
****************************

ไฮกุ (俳句, haiku) toshare

* ไฮกุ บทกวี 3 วรรค 17 คำ 5-7-5
และ ต้องมี สัญลักษณ์บ่งชี้ ฤดูกาล

==========================

Kobayashi Issa (小林一茶)
โคบายาชิ อิสซา
(๑๕ มิถุนายน ค.ศ.๑๗๖๓ - ๕ มกราคม ค.ศ.๑๘๒๘)
กวีญี่ปุ่นและพระในศาสนาพุทธ
นามปากกาว่า Issa (Cup-of-Tea)
เป็นหนึ่งในสี่ปรมาจารย์ไฮกุของญี่ปุ่น
(Basho, Issa, Buson และ Shiki)

- Wikipedia
- Poemhunter
- จุดประกายวรรณกรรม ๑, ๒

==========================

5 เมืองไทย มีกี่ ฤดู ?
7 สาม ร้อน ร้อนมาก ร้อนที่สุด
5 อืม คะแนน เท่าไรดี !!!

----------------------

5 ฤดูหนาว หายไปไหน ?
7 หิมะฝุ่น PM 2.5
5 หนาวเลย ใช่ไหมเพื่อน

**********************************

* เซนริว (川柳 senryu) มีลักษณะเช่นเดียวกับ ไฮกุ
คือ เป็นบทกวี 3 วรรค 17 คำ 5-7-5
เพียงแต่ เนื้อหาแต่งเป็นเรื่อง ทั่ว ๆ ไป หรือ เรื่องรอบ ๆ ตัว ก็ได้

toshare/share


Senryū (川柳) is a Japanese form of short poetry similar to haiku in construction: three lines with 17 morae
(or on, often translated as syllables, but see the article on onji for distinctions).
Senryū tend to be about human foibles while haiku tend to be about nature,
and senryū are often cynical or darkly humorous while haiku are more serious.

Like haiku, senryū originated as an opening part (hokku) of a larger Japanese poem called renga.[1]
Unlike haiku, senryū do not include a kireji (cutting word), and do not generally include a kigo, or season word.[2][3]

Wikipedia

============================

"คิดแต่งไฮกุห่อสามชั้น ส่วนห่อจึงต้องพยายามแต่งให้เป็นไฮกุ ด้วย"  @free 

ไม่ใคร่เข้าใจความประสงค์ ครับ แต่จะขอลองนำเสนอ ครับ

--------------------


เซนริว ห่อคลุมโคลงฉันท์

@ เพลิงกิเลส เผาผลาญตน
ใช่สิ้นหน จง ปัญญา สู้
ขจัดซึ่ง สิ"ตัวกู"

@ ตื่นรู้ ณ ทุกกาล
ทุกสถาน เมตตารัก แบ่งปัน
"ระทม"พลัน  สุขหรรษา

@ สติปัญญา ธรรมประจักษ์
เมตตารัก แม้จัก กระผีกริ้น
ทุกข์ลดสิ้น หฤหรรษ์

@ ไป่ปล่อยเพลิงกิเลสให้ ... ผลาญตน
จง สติปัญญา ดล ............ ขจัดสิ้น
"ตัวกู" ตื่นรู้ สิหน ............ ธรรมเที่ยง
ปันแบ่ง แม้ กระผีกริ้น ....... ทุกผู้หรรษา

@ วีรธรรม นำใจ ใสสว่าง
กล้ามุสร้าง เส้นทาง ท้าผยอง
เพื่อ"ระทม" โอกาส สุข(ะ)ปอง
กาลสถาน เผื่อผอง ธรรมนิรันดร์

วีรธรรมฉันท์ ๘
ผัง : คลค คค คลค

[@free]

    ใช่แล้วครับ ท่านtoshareถูกต้อง ยอดเยี่ยมแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
ตรงตามจุดประสงค์ อยากหาร้อยกรองไทยมาเทียบชั้น ไฮกุ ที่ใครๆรับรองว่าเยี่ยม
โดยส่วนตัวผมคิดว่า โคลงสอง โคลงสามเรา ไม่แพ้

[@free]

       
--------------

ยอมรับว่า ยังไม่ใคร่เข้าใจ แนวคิดของคุณ "@free" ครับ

แต่จะขอลองนำเสนอดูครับ
หากไม่ใช่ แจ้งด้วยครับ

พิจารณาการผันเสียง วรรณยุกต์ ของ อักษรสามหมู่

กา  ก๋า     กล้า     กล๊า   ก๋า
ซา  ส่า     ส้า/ซ่า  ซ้า    สา
     บุก/สิ  ครอบ   ลุ/รุก     

กลบท
กลอนทุกวรรค ทอถัก ห้าเสียง (ม ต ต ม อ ท จ)

@ กลอนพึง ถูกต้อง เสียงท้ายวรรค (ม ม อ ท จ ต ต)
จารถัก ร้องได้ เสนาะหู   (ม อ ต ท อ อ จ)
แต่งเน้น มุ่งหวัง เป็นแบบดู (อ ต ท จ ม อ ม)
ขอทุก ผู้รู้ โปรดแนะนำ(จ ต ท ต อ ต ม)

แนวคิดคือ ผมคิดว่า กลอนแปดเหมือนกลอนพื้นบ้าน ทำนองเดียวหลายเนื้อ จึงคิดใส่เสียงวรรณยุกต์ เปรียบเหมือนใส่โน้ตเพิ่มเป็นทำนองเพลงครับ

[toshare]

กลอนห้า กลบท ทุกวรรค ห้าเสียง

@ ขานขับ พรพจน์ ก้อง (ม ต จ อ ท)
ธรรม แซ่ซ้อง จรัสไสว (ม ท ต อ จ)
สาน รักโอบเอื้อ อภัย (จ  ต อ ท ม)
กิเลสร้าย สลายสิ้นเทอญ (อ ต จ ท ม)

[toshare]

โดยส่วนตัวผมคิดว่า โคลงสอง โคลงสามเรา ไม่แพ้

"@free"

-------------------

เห็นด้วยครับ


โคลงสองสุภาพ

@ มั่นคง จงไป่ท้อ
ธรรม แน่! ประดุจล้อ
ลิ่วพ้นวังวน..กิเลสนา

@ ผลธรรม นำ"สงบ"ให้
เปล่าเปลี่ยว! สะบั้นสิ้นได้
ทุกข์มล้างห่างหาย



โคลงสามสุภาพ

@ แท้ ! ธรรม ต้อง ปฏิบัติ
แจ่มชัด ต่อทุกผู้
สติ มั่น ปัญญา สู้
กิเลสหล้ากิเลสตน

@ ผลธรรม สันติ สงบ
สยบกิเลส เหตุทุกข์ ได้
ธรรม แน่ ! รักรับใช้
ทุกผู้สุขนิรันดร์

[toshare]

โลกซ้องพระนาม องค์ภูมิพล

@ องค์ไท้ดั่ง พลังแผ่นดิน
ชุบชีวิน ผินสู่ฝัน
แบบอย่างเห็น เป็นอัศจรรย์
ราษฎร์มุพลัน สรรค์สืบตาม

@ ศาสตร์ศิลป์ไท้ ใช้โดยธรรม
""พอเพียง"นำ คำโลกถาม
แจ้งประจักษ์ผล ชนสกลคาม
จึ่งซ้องพระนาม องค์ภูมิพล

โลกก้องพระนาม องค์ภูมิพล




*** โคลง กาพย์ กลอน นำไปใส่
ทำนองเพลงสากล
ก็ไพเราะดี ครับ

[toshare]

ด้วยว่า คุณ "@free"  มีแนวคิดแปลก ๆ ที่น่าสนใจ
จึงใคร่ขออนุญาต สืบค้นที่นำเสนอไว้แต่แรก ๆ

มีประเด็นน่าสนใจ ดังนี้ครับ

------------------------

ฝึกก้าวเร่งค่าศิลป์ถวิลตน
.....
ศิษย์รู้ครูสอนไว้   
"บ้านกลอนไทย"ประสิทธิ์ผล
ครูเคร่งเก่งหลายคน
ศิษย์ครู"เพรา"เข้าเรียนฟรี

ศิษย์มีครูอยู่นี้     เกรงไย
เรียนที่เว็บกลอนไทย     จึ่งรู้
มากมายท่านขานไข     ครูเก่ง
ศิษย์หนึ่งพึงเพียรสู้     อยู่เฝ้าเพรางาย   
.....
ไหว้ครูนะครับ เนี่ย

กาพย์ยานี๑๑ แต่งล้อวรรคโคลง๔สุภาพ เป็น กาพย์ห่อโคลง
ขณะนี้ เพิ่งรู้ว่าต้องแต่งล้อกันวรรคต่อวรรค และแต่งกาพย์ขี้นก่อนโคลง
.....
กระทู้นี้ ตั้งขึ้นเพื่อฝึกเขียนกลอนให้ถูกต้องตามฉันทลักษ์ ดำเนินเรื่องโดยมีแกนเรื่อง คือ นาฏยศิลป์ หรือ สังคีตศิลป์
ในฐานะลูกศิษย์ ย่อมผิดพลาดบ้าง มิใช่วิชาการ หรืออ้างอิงได้ ผิด ถูก ควรพิจารณาประกอบโดย คำท้วงติง แก้ไขจากผู้รู้ท่านอื่น

 "@free"
23 เมษายน 2020

เพิ่มเติม   มีผู้จัดให้ กาพย์เห่เรือ อยู่ในประเภทกาพย์ห่อโคลง
โดยแต่งโคลงสี่สุภาพขึ้นก่อน ตามด้วยกาพย์ยานี11

---------------------------

 
***  ประเด็นที่ จะขอเสนอ "พูดคุยกัน" คือ การแต่ง "ตามฉันทลักษณ์" ครับ
คือ ได้นำเสนอ ร้อยกรอง ถัดไปนี้ ใน Pantip

ธรรมชาติพิสุทธิ์ (กาพย์ห่อโคลง) toshare (https://pantip.com/topic/34440330)

โคลงสี่สุภาพ

.…ธรรมชาติพิสุทธิ์_ล้ำ…...…...…วจีสรรค์
สุริยะดาราจันทร์…………...…...….แจ่มฟ้า
พืชสัตว์หลากพงศ์พันธุ์…......……งามเด่น
นำจิตเจิดจรัสจ้า…………....…...…ผ่องแผ้วในธรรม

กาพย์ยานี ๑๑

….สุดคำสุดเอื้อนเอ่ย………........สุดเฉลยอัศจรรย์
ธรรมชาติพิสุทธิ์ครัน………........จิตแจ่มพลันธรรมสู่ใจ

....สัตว์โลก โศกตรอมตรม..........ทุกข์ระทม น้ำมือใคร
ผู้ใด ก่อกรรมไว้......................โลกหมองไหม้ ทุกวารวัน

....เหตุขาด รักเมตตา...............ใช่ดินฟ้า แกล้งเดียดฉันท์
โลภหลง โกรธเกลียดกัน.............นำโทษทัณฑ์ พาบรรลัย

....รักตน รักผู้อื่น....................ชีพแช่มชื่น จิตแจ่มใส
รักสัตว์ รักพืชไพร.....................ห้วยภูไศล รักดูแล

....มั่นธรรม ชีพสัมมา.................เป็นมรรคา ฝ่ากระแส
โลกีย์ มิข้องแล้........................ผุดผ่องแท้ ทั้งกายใจ

9 10
ถูกใจให้พอยต์
 
สมาชิกหมายเลข 891755
14 กรกฎาคม 2557 เวลา 09:52 น.
กุลมิตรา ถูกใจ, ท่องทะยานโดยอิสระ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1457132 ถูกใจ, kinkan00 ซึ้ง, Lavendel ถูกใจ,
สมาชิกหมายเลข 1461745 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1092825 ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 1539328 ซึ้ง, nana_tjj ซึ้ง, ป้ามล ซึ้ง

[toshare]

ต่อมา ได้นำเสนอ อีกครั้ง (บางส่วน) https://pantip.com/topic/34440330

ธรรมชาติพิสุทธิ์ (กาพย์ห่อโคลง) toshare

.…ธรรมชาติพิสุทธิ์_ล้ำ….....…วจีสรรค์
สุริยะดาราจันทร์…………....…..แจ่มฟ้า
พืชสัตว์หลากพงศ์พันธุ์…....….งามเด่น
นำจิตเจิดจรัสจ้า…………......…ผ่องแผ้วในธรรม

….สุดคำสุดเอื้อนเอ่ย……........สุดเฉลยอัศจรรย์
ธรรมชาติพิสุทธิ์ครัน………......จิตแจ่มพลันธรรมสู่ใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2558 เวลา 06:35 น.
1 5
ถูกใจให้พอยต์
 
สมาชิกหมายเลข 2734277
14 พฤศจิกายน 2558 เวลา 06:34 น.
คุณป้ามหาเสน่ห์ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1117543 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 868666 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1731181 ถูกใจ, ชลภูมิ ถูกใจ

[@free]

     
   
     

เอนเคียงเอียงคู่ข้าง     นางนอน


ยามย่ำอรุณแลงรอน     ล่วงแล้ว


เต็มตาตื่นเมียงหมอน     มองมั่น หมายนอ


คลออย่าคลาดคลาแคล้ว     เคร่งคล้อยคอยนาง    



สวัสดีนทีใส     คิรีใหญทะเลกว้าง


คะเนใจมิใช่ห่าง     เพราะเคียงจิตรสุมิตรา



น้อยน้อยพอต่อแต้มแกมแสงสี     นิดนิดมีข่ายขั้นเพียงหรรษา


ร้อนร้อนรนกล่นกล้ำล้ำเวลา    ลดลดวากว่ากว้างวัดกลางใจ



ฟ้าฟ้าครามอร่ามหล้าโลกาผอง     น้ำน้ำนองขุ่นข้นเวียนวนไหล


ฟ้าฟ้าทองส่องสิ้นล้วนดินไทย     น้ำน้ำใจกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงกลกาม


ทุกทุกข์วางห่างห้วนชวนหันหาย      ทุกทุกข์คลายเกลี่ยกลุ้มไกลขุมขาม 

รักรักษ์กรุณอุ่นอ้อมน้อมในาม     รักรักษ์ตามแต่ตั้งยั้งยืนนาน

[@free]

   

      ถิ่นไทยดินดำน้ำใสฟ้าสวย มีอยู่จริง


นายนรินทรธิเบศร์ (อิน)
อยุธยายศล่มแล้วลอยสวรรค์     ลงฤๅ
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร-            เจิดหล้า
บุญเพรงพระหากสรรค์               ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟ้า่                           ฝึกฟื้นใจเมือง

โคลงห้าพัฒนา จิตร ภูมิศักดิ์
กรุงเทพฯคลุ้ง                          คาวหืน
ควันกามกลืน                           กลบไหม้
คาวกลางคืน                             คลุมทาบ
เมืองร้องไห้                              เหือดขวัญ

น้ำฟ้าฟาด                               ฟองหาว
คือกามฉาว                               ชุ่มฟ้า
กลิ่นสาบสาว                            กำซาบ
กามย้อมหล้า                            แหล่งสยาม

เพลงยะวาใหม่
     
     
        โคลงแปดสุภาพ
ข้าพฯแต่งโคลงแปดเป็นสองทาง คือ ทางโคลงและทางกลอน เริ่มจากการต่อกลอนเปล่าในกระทู้ของ "แป้งน้ำ" ดูว่ากลอนเปล่านั้นวางผังเหมือนเป็นได้โคลงแปด จึงแปลงเป็นโคลงแปดทางกลอน
และยังคิดว่ายังต้องแต่งรักษาทางโคลงไว้ด้วย



   
     
...รักรักษ์ตามแต่ตั้งยั้งยืนนาน

โคลงแปด ทางโคลง
วานวาดเขียนเรียนรู้ค่า     นครารินทร์
แดนดั่งโดยโบยโบกบิน    บ่อนบ้าน
ปถพีค่าสุธาสิน                  ทรัพย์แม่ แลเฮย
อยากอยู่ยงลงหลักล้าน    แหล่งเหย้าเรือนไทย

ภุชงคประยาตฉันท์๑๒
สดรับฟังเถอะสังเขป    สิกรุงเทพนครใหญ
พิบัติเหตุทุเภทภัย         วิรัติสิ้น ธ.ยินดี
ดิเรกสมอุดมศักดิ์          เฉลิมหลักผงาดศรี
ชลาหนุนพิรุณรี่             นทีในหทัยองค์

โคลงแปดทางกลอน
ลงหลักเสาเหย้าอยู่       ภูพงพนา
เนาหนึ่งลงชลชลา         ลำลุ่มน้ำ
สวยสูงท่ามครามนภา    เพียงอร่ามแฮ
ธารเท่านานอารย์ย้ำ      อยู่ยั้งเฮย

ประดังถ้อยชะรอยถาม     ประหนึ่งกามวะหวิวเหวย
อวิชชามิน่าเลย                 เฮอะหมอกมัวสลัวตา
อดีตวารมิผ่านพ้น              เพราะเผ่าชนจะรักษา
พิสูจน์กรรมพระธรรมา      เหอะน้ำดีน่ะมีจรืง   


   ข้าพฯเพิ่งรู้เมื่อเขียนคำกลอนนี้เอง สดๆร้อนไปว่า ภาวะวิสัยที่สวยงามมีคุณค่า ยังคงถูกสร้างออกมาอย่างต่อเนื่องโดยธรรมชาติไม่หยุดยั้ง
แต่ถูกมนุษย์เราสร้างม่านกำแพงมลพิษปกคลุม ห่อหุ้ม บังตาไว้
น่าเสียดาย ของมันมีอยู่ เรากลับ ไม่ได้ใช้

เลือกเอา ทำลายสิ่งหนึ่ง ได้สิ่งหนึ่ง

[@free]

             รัฐ  การ  ล่มสลาย





         


         


    ขอพรพุทธิคุณ        ขอบุญพุทธิธรรม
    ขอกรรมบังเกิดผล  ขอกุศลบังเกิดทาน
                  สร้างบ้านให้คนจน

   ขอบตาทนผ่าวร้อน     ดังหลั่งลงอกย้อน
                           ต่อน้ำตกใน     

           ใดโดยดินถิ่นนี้             มีมา
           พงศ์เผ่าไหนพัฒนา     เนิ่นนั้น
          วันวายพ่ายเพลา        สลายล่วง ลงเฮย
           ยังเผ่าพงศ์ชนชั้น      ชื่อไว้ไทยสยาม
           
           ประวัติชี้วิถีเวสน์     ประสิทธิ์เขตประกาศนาม
           หะไม่รบสงบงาม     เหอะต้องการก็บ้านเรา

           รักท้องฟ้าอ่าโอ้ครามโขขำ     รักท้องน้ำเอื่อยเอื้อเฟือขุนเขา
            รักท้องคุ้งบุ่งบ้านสถานเรือนเรา     ย้ำพื้นเท้าแข่นแข้นหวงแดนดิน     

[@free]

       
         

  .  อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ชีวิตเจร็ญรุ่งเรือง
     
              
     ในสมัยสุโขทัย คำว่า "ขุน" หมายถึงเจ้าเมืองหรือผู้ปกครองแคว้น แบ่งเป็นสองสายคือ ขุนมาร และ ขุนธรรม
แต่ในสมัยอยุธยา "ขุน" กลายเป็นยศขุนนางในลำดับรอง

ขุนในสมัยสุโขทัยเป็นสองสายหลัก ระบบพ่อลูกคือพ่อขุน ระบบขุนธรรมคือธรรมราชา
     

         
     อาณาจักรสุโขทัย" 346 ปีแห่งความรุ่งเรือง
        การปกครองซึ่งยึดหลักธรรมโดย "ธรรมราชา"

       
                
         
         
        

   คืออินทร์องค์ทรงราช เป็นพรหมนารถทรงธรรม์ อัศจรรย์กษัตริย์ไทย ไม้มากรากยึดคลุม ไม้กลุ่มพุ่มใบบัง
           วังชลฝนหล่นฟ้า ชนทั่วคามลามหล้า ต่างน้ำตาคลอ

         ยอยศเรืองร่วงล้ำ        นำกาล
         ขุนพ่อขุนธรรมสาน     สื่อสร้าง
         สุขสันต์อย่างสงบศานต์  สมสง่างามเอย
         อิงเอ่ยอารยะอ้าง         โอ่โอ้อวดอา
       

 อรุณเรืองก็เฟื่องฝัน     เหอะหวังว้นสิห่วงหา
         อรุณรุ่งก็มุ่งมา             อรุณลับมิกลับกลาย
         สุโขขัณฑ์สวรรค์เวศ  ประจักษ์เจตน์มิเหือดหาย
        พิทักษ์เทศผิว์เภทพ่าย  คุลีเพียงจะเสี่ยงมัน

         รักล้อมรั้วตัวตนก่นใกล้ขอม
         รักรั้วล้อมตนตูขู่แค่ขัน
          รู้รักนี้ผีเผาถ่มเถ้ากัน
           รู้รักนั้นหาเห็นกริพเพ่นรือ
     

[@free]

         

                ศรีสิทธิ์ประชาชาติ ศรีศาสน์ประชาชน
                           พูลผลมหาประชารัฐ
พูนสมบัติพิพัฒมงคล สกลกิจพาณิช
          ชนะสิบทิศสลายพ่ายแล้ ยลเยี่ยงอยุธยายงแท้ ล่มแล้วลอยสวรรค์

           สมบัติบรรพ์บ่งเบื้อง     เมืองแมน
           ขนบก่อกฏกำหนดแกน  กิ่งก้าน
           พอเพียงแผ่พงแพน       พงศ์เผ่า เฮาเหย
          บุญฝ่าบาทปกบ้าน          บ่อนเบื้องบารมี
           
          ละแวกบ้านระรานถิ่น     ยุแยกดินณ กรุงศรี
           เหอะยิ่งยศมิหมดดี        กะคนผู้จะกู้เมือง 
           หะเกิดมาทิวาต่าง      เถอะร่วมทางระบือเลื่อง
           ลุว้นตายจะย้ายเยื้อง   ละจันทราทิวาเดียว

          แพ้ชนะพร้อมยอมยอพอเพรียงไฉน
         แพ้พร้อมไซร้ยอยังเพราะพลั้งเสียว
         ชนะนั้นน้อมลอมพลันฉะนั้นเชียว
         ชนะรับเลี้ยวรอราประชาชน 

[@free]

                   https://youtu.be/0Xc7MyC-aTo?si=MV8g14-IY1n0gyid
           
                           แด่ประชาชนผู้ต้องการความหวัง
           
       เกียรติปรากฏเป็นศักดิ์ ยศประจักษ์เป็นศรี ข่มไพรีกวาดหวั่น ปลุกขวัญเพิ่มพูนพลัง ความหวังประชาชน

        คนไทยไปต่อสู้   รบเริ่มรับเรียนรู้
        พ่ายแพ้เพราะภัย   เภทนอ

        ชัยกลางสมรเก่งกล้า     ปรากฏ
        ชูชื่อลือเกียรติยศ          อยู่ยั้ง
        ศักดิ์ศรีนี่กำหนด            นับหนึ่ง นำนอ
        กรรมก่อรุกรานตั้ง          แต่ต้นตามสนอง
       
       ประกาศเขตประเทศตน     ประชาชนสิครอบครอง
       ก็คือหวังพลังผอง     สงบรักษ์เพราะศักดิ์ศรี
       วจีพูดพิสูจน์สิทธิ์      ประสานมิตรสิเสรี
         อดีตนั้น ฌ วันนี้       แหละถิ่นเถิดหะเกิดตาย

           ฟ้าล้นฟ้าคาคนบื้อบ่นเหลือ     น้ำล้นเนื้อจางใจให้ห่วงหลาย
รักล้นฟ้าคลาไคลไม่ห่างกาย     ร้กคุ้มคล้ายมนมาน "บ้านแห่งใจ"



       จบ ปลูกบ้านให้คนจน