| 27 กรกฎาคม 2021, 04:15:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #120 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2021, 04:15:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
|
| 30 กรกฎาคม 2021, 07:56:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #121 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2021, 07:56:PM » |
ชุมชน
|
ผองผินบินฟ่องฟ้า ถลาเเถลิง แถต่ำทำเชือนเชิง แช่มช้อน ภมรว่อนกระเจิง กระนจายจู่ สูเอย โรยกลิ่นรินมะลิซ้อน ซ่านซ้ำรำไร
เทิดไทยชูสู่ฟ้า สากล ชวนย่องเพลินเชิญยล เยี่ยมเหย้า ไปมาอย่าหายหน เหินห่าง รางรา เรือนหมู่เรียงเคียงเค้า คู่คล้ายสหายเสมอ
|
|
|
|
|
| 02 สิงหาคม 2021, 11:02:AM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #122 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2021, 11:02:AM » |
ชุมชน
|
[/colorเลอทรงองค์ผ่านฟ้า วรารัชช์...(วัฒน์) งามท่านการจริยวัตร ว่าไว้ งามเรืองเครื่องกษัตริย์ สูงส่ง องค์เอย พสกถิ่นอินทราไซร้ แซ่ซ้องฉลองเฉลิม
เสริมสัตย์จัดสื่อสร้าง ฟางไฟ ลุยย่ำยำเยงไย ยิ่งเย้ย สีดาฝ่าเปลวไป ปลอดเปล่า เผาเลย กมลใฝ่ใครหะเฮ้ย ห่อนห้ามทรามสมร
(ไม่พบคำทรามสมรอย่างเป็นทางการ แต่มีผู้ใช้อยู่บ้าง จึง่ลือกใช้คำนี้เพราะชอบมากกว่าคำ ทรามสงวน
|
|
|
|
|
| 07 สิงหาคม 2021, 03:03:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #123 เมื่อ: 07 สิงหาคม 2021, 03:03:PM » |
ชุมชน
|
บทความ "นวัตกรรมในโคลงของสุนทรภู่" ของ (ศาสตราจารย์ ดร.) ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต เป็นส่วนหนึ่งของผลการวิจัยเรื่อง “นิราศสุพรรณ: ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของสุนทรภู่ในการแต่งโคลงสี่สุภาพ”.....(ต่อ)
1.1.3 โคลงที่มีสัมผัสข้ามวรรค 1-4 บาท เมื่อศึกษาคําสัมผัสข้ามวรรคในโคลงของสุนทรภู่ ผู้วิจัยพบว่าสุนทรภู่ไม่ได้บังคับให้ใช้สัมผัสข้ามวรรคในการแต่งโคลงแบบสุนทรภู่ เพียงแต่สนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีเพื่อเพิ มเสียงไพเราะแก่โคลงที่แต่ง คือ ทําให้สัมผัสใน 3 แห่งที่ส่วนมากเป็นสัมผัสสระเด่นน้อยลง ผู้วิจัยพบว่าในการแต่งโคลงแต่ละบทนั้นสุนทรภู่นิยมใช้สัมผัสข้ามวรรคครบทั้ง 4 บาทมากที่สุด รองลงมาคือสัมผัสข้ามวรรค 3 บาท 2 บาท และ 1 บาทตามลําดับ คิดเป็นร้อยละ 77.71(359 บท) 18.18(84 บท) 3.68(17 บท) และ 0.43(2 บท)โดยลําดับ ในกรณีที มีสัมผัสข้ามวรรคเพียง 1 บาท สุนทรภู่เลือกใช้สัมผัสดังกล่าวเป็นสัมผัสพยัญชนะ และใช้อยู่ในบาท 1 หรือบาท 4 เท่านั น
การศึกษาสัมผัสข้ามวรรคในโคลงของสุนทรภู่ส่งผลให้ผู้วิจัยพบว่าสุนทรภู่แต่งโคลงสี สุภาพไว้ถึง 30 แบบ แบบที ชอบใช้มากที สุด คือ “สพพพ” หมายความว่าเป็นโคลงที มีสัมผัสข้ามวรรคชนิดสัมผัสสระในบาทแรก และเป็นสัมผัสพยัญชนะใน 3 บาท ที่เหลือ โคลงแบบ “สพพพ” นี มีมากถึง 231 บทซึ่งคิดเป็นร้อยละ 50
โคลงอีกแบบหนึ่งที่ชอบใช้รองลงมาคือ “พพพพ” มีในโคลง 100 บท คิดเป็นร้อยละ 21.65 ทั งยังพบว่าโคลงแบบ “สพพพ” และ “พพพพ” นี มีลักษณะการแต่งที เป็นระบบระเบียบมากจนสังเกตเห็นได้ชัดเจน อนึ่งตามที่มีผู้กล่าวว่าโคลงของสุนทรภู่มีสัมผัสในมากเกินไป ทําให้โคลงมีลีลาช้าและอืดอาดนั้น ผู้วิจัยมีความเห็นว่าขึ้นอยู่กับผู้อ่านว่าจะอ่านให้ช้าหรือเร็วเป็นสําคัญ สัมผัสในชนิดสัมผัสสระช่วยให้อ่านโคลงได้รื่นไหลมากยิ่งขึ้น ไม่ได้ทําให้อ่านช้าลงแต่อย่างใดหากอ่านโดย ไม่หยุดเมื่อสิ้นสุดวรรคหน้าในแต่ละบาท ดังที่ พ. ณ ประมวญมารค กล่าวว่าให้อ่านโคลงแบบข้ามสัมผัสนอกไปเสีย (พ.ณ ประมวญมารค, 2519: 237) หมายความว่าอ่านคําตลอดทั้งบาทให้ต่อเนื่องกันไป ทําให้โคลงมีลีลาแบบกลอน เช่น
บางปลาร้าปลาคล่ำน้ำ ลําคลอง คนเหล่าชาวประมงมอง มุ่งข้า สุ่มซ่อนช้อนชนางปอง ปิดเรือก เฝือกแฮ เหม็นเน่าคาวปลาร้า เรียดคุ้งคลุ้งโขลง
พ.ณประมวญมารคกล่าวชมสุนทรภู่ว่าแต่งโคลงได้ดี มีความแน่นพอดีทุกบท หากอ่านได้ตามที สุนทรภู่ตั้งใจแต่ง นิราศสุพรรณก็จะไพเราะไม่แพ้โคลงของกวีอื่น เช่นโคลงนิราศนรินทร์ของนายนรินทร์หรือนิราศลําน้ำน้อยของพระยาตรัง (เรื่องเดิม: หน้าเดิม)
ผู้เขียนมีความเห็นว่าการใช้สัมผัสสระแต่งโคลงอย่างเห็นเด่นชัดมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลางแล้ว เพียงแต่อาจไม่เป็นที นิยมแพร่หลายมากนัก เมื่อสุนทรภู่นํามาพัฒนาให้มีสัมผัสในเพิ่ มมากขึ้นในการแต่งโคลง ความไม่คุ้นเคยในการใช้สัมผัสสระแต่งโคลงในหมู่กวีส่วนใหญ่ ทําให้สุนทรภู่ถูกตําหนิ....(มีต่อ).. 1.2โคลงสี่สุภาพแบบสุนทรภู่ที่เป็ นโคลงกลบท ............
ศกุนตลา ชมท่ารำ ครู คมคาย กลิ่นภักดี
ใช่แต่จะมีกำเนิดสูงส่งและมีความงามล้ำเลิศที่กล่าวถึงไปแล้วเท่านั้น ในด้านอุปนิสัยนางศกุนตลาก็ถือว่าเป็น “สตรีผู้เด็ดขาด” รวมถึงฉลาดในการเจรจาซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของนางกษัตริย์ กล่าวคือ เมื่อท้าวทุษยันต์ไม่มีทีท่าว่าจะระลึกได้ว่านางเป็นใคร นางก็กล้าบริภาษพระองค์กลางท้องพระโรงและตัดสินใจจากไปโดยไม่ร่ำไรขอร้อง
ท้าวทุษยันต์ -รศ.ดร.ศุภช้ย จันทรสุวรรณ ครูนาฏศิลป์ขั้นเทพ นางศกุนตลา (แต่งเครื่องนางกษัตริย์) - ผศ.คมคาย กลิ่นภักดี นุ่มนวลที่สุด นุ่มจนนิ่มครับครู คลิปนี้เพราะต้องการเห็นครูรำ คุ้มสุดคุ้ม
เสริมสัตย์จัดสื่อสร้าง ฟางไฟ ลุยย่ำยำเยงไย ยิ่งเย้ย สีดาฝ่าเปลวไป ปลอดเปล่า เผาเลย กมลใฝ่ใครหะเฮ้ย ห่อนห้ามทรามสมร
แต่งโคลงสี่สุภาพ เพื่อ ฝึกฉันทลักษณ์
จรจากมากปริ่มปลื้ม ลืมรือ รักเริ่มเดิมหมายมือ มั่นเชม้น รักรอก่อเทิดถือ ทัศน์เที่ยง เพียงพ่อ รักซ่อนวอนวายเว้น ว่าไว้ไยผยอง…. (วอนคือ ส่อ, รน)
สองสม้ครรักใคร่ครั้ง ยังเยาว์ ครองป่าพนาเขตเขา คู่คุ้น คนเคยเอ่ยลืมเรา ละเลี่ยง ละเลย เคราะห์แค่นแหวนเตือนกระตุ้น แต่ต้องสองตา
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
| 10 สิงหาคม 2021, 01:38:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #124 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2021, 01:38:PM » |
ชุมชน
|
อาศิรพระแม่เจ้า เพราเพริศ เฉลิมเปรื่องเรืองประเสริฐ แซ่ซ้อง ยงจริงยิ่งยศเลิศ เลอร่ำ คำแล พระก่อพระเกียรติก้อง กว่ากว้างทางสกล
ชนสมชมชื่นร้อง กรองกราน ถวายช่วยอวยเคึยงขาน คู่ข้าง กรณีกี่กองการ เกิดก่อ ลออเอย สึบคู่ชูศาตร์สร้าง สื่อสิ้นศิลป์สวย
(....ต่อ) บทความ "นวัตกรรมในโคลงของสุนทรภู่" ของ (ศาสตราจารย์ ดร.) ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต เป็นส่วนหนึ่งของผลการวิจัยเรื่อง “นิราศสุพรรณ: ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของสุนทรภู่ในการแต่งโคลงสี่สุภาพ”........
นวัตกรรมในโคลงของสุนทรภู่ 1.2 โคลงสี่สุภาพแบบสุนทรภู่ที่เป็ นโคลงกลบท
1.2.1 สุนทรภู่สร้างลักษณะใหม่ให้แก่โคลงกลบทที่มีมาแต่เดิม สุนทรภู่กล่าวชื่อโคลงกลบทที่ ตนเองแต่งไว้ในโคลงบทสุดท้ายของนิราศสุพรรณว่ามี 6 ชื่อ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าโคลงกลบทแต่ละชื่อมีในโคลงบทใดบ้างในนิราศสุพรรณ ผู้วิจัยพบว่าทั้ง 6 ชื่อนี้ล้วนเป็นโคลงกลบทเดียวชนิดใดชนิดหนึ่ง ได้แก่ นาคบริพันธ์ กบเต้น สรล้วน (ซึ่งก็คืออักษรล้วน มีทั้งชนิดที 1 ซึ่งเล่นคําที มีเสียงพยัญชนะเดียวกันตลอดบาท และชนิดที2ซึ่งเล่นคําทีมีเสียงพยัญชนะเดียวกันในคํา 3 คําที วางไว้ติดกัน) อักษรสาม สกัด แคร่ และซ้อนดอก อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยพบว่าสุนทรภู่แต่งกลบทอีก 4 ชื่อโดยไม่ได้ระบุชื่อไว้ ได้แก่ โคลงกลบทอักษรสลับ ตะเข็บไต่ขอน บุษบงแย้มผกา และงูกระหวัดหาง อนึ่ง ตามที ผู้วิจัยตั้งข้อสังเกตว่าโคลง “พพพพ” และ “สพพพ” ของสุนทรภู่มีวิธีการแต่งที เป็นระบบระเบียบมากแบบเดียวกับลักษณะการแต่งกลบท จึงน่าจะจัดโคลงทั้ง 2 ชนิดนี ไว้ในกลุ่มโคลงกลบทได้ด้วย ผู้วิจัยขอเรียกชื่ อโคลง “พพพพ” ว่ากลบทงูกระหวัดหางชนิดที 2 โดยเรียกกลบทงูกระหวัดหางแบบเดิมว่างูกระหวัดหางชนิดที 1 และเรียกชื อโคลง “สพพพ” ว่ากลบทงูตวัดหางเพราะเล่นทั้งเสียงสัมผัสสระและพยัญชนะ ขณะที่กลบทงูกระหวัดหางเล่นแต่เสียงสัมผัสพยัญชนะเท่านั น งูกระหวัดหางชนิดที 1 เล่นเสียงพยัญชนะทั้งที่ เป็นคําระหว่างวรรคและระหว่างบาท ส่วนงูกระหวัดหางชนิดที 2 เล่นแต่คําที มีเสียงสัมผัสพยัญชนะระหว่างวรรคในบาทเดียวกันเท่านั้น
ดังตัวอย่างงูกระหวัดหางชนิดที่1 ๏ ดงมเกลือเหลือดกล้ำ ดําเหลือ เล่หม่อมย้อมมเกลือเจือ กแจะให้ ใจหม่อมย่อมเหมือนมเกลือ กลิ่นร่ำ ดําเอย ดําเทือกเปลือกแก่นไสร้ ซิ่นต้นผลดํา
งูกระหวัดหางชนิดที่2
คนขี่ตีต้อนเร่ง รันควาย ถอนถีบกีบกอมตกาย โก่งโก้ เหนื่อยนักชักเชือกหงาย แหงนเบิ่ง เบือนแฮ คนหวดปวดป่วนโอ้ สอึกเต้นเผ่นโผน
ในโคลงกลบทงูกระหวัดหางชนิดที 1 ข้างต้นมีข้อบังคับการแต่ง คือ เล่นเสียงพยัญชนะเดียวกันทั้งในบาทและข้ามบาท บาทแรกเล่นเสียงพยัญชนะในคํา “ดกลํ า-ดําเหลือ” และเล่นเสียงพยัญชนะระหว่างบาทแรกกับบาทสองในคําว่า “เหลือ-เล่” ในบาทสองเล่นเสียงพยัญชนะในคํา “เจือ-(ก)แจะ” และเล่นเสียงพยัญชนะระหว่างบาทสองกับบาทสามในคํา “(ก)แจะ-ใจ” ในบาทสามเล่นเสียงพยัญชนะในคํา “(ม)เกลือ-กลิ่น” และเล่นเสียงพยัญชนะระหว่างบาทสามกับบาทสี่ ในคํา “ดํา-ดํา” ในบาทสี เล่นเสียงพยัญชนะในคํา “ไสร้-ซิ่น”
ในโคลงกลบทงูกระหวัดหางชนิดที 2 แต่งง่ายขึ้น คือ เล่นแต่เสียงพยัญชนะข้ามวรรคในบาทเดียวกันเท่านั้น ได้แก่ เร่ง-รัน (ต) กาย-โก่ง หงาย-แหงน โอ้-(ส) อึก
ด้วยเหตุนี้ โคลงกลบทที่ สุนทรภู่แต่งจึงมีรวมทั้งสิ้น 11 ชนิด เป็นโคลงกลบทที่มีมาแต่เดิม 9 ชนิด ได้แก่ นาคบริพันธ์ กบเต้น อักษรล้วน (ทั้งชนิดที่ 1 และชนิดที 2) อักษรสาม สกัดแคร่ อักษรสลับ ตะเข็บไต่ขอน บุษบงแย้มผกา งูกระหวัดหาง (ทั งชนิดที 1 และชนิดที 2) โคลงกลบททั ง 9 ชนิดนี้ ล้วนมีข้อบังคับพิเศษแบบโคลงสุนทรภู่อยู่ด้วย คือ มีสัมผัสใน 3 แห่งในโคลงบทเดียวกัน ดังปรากฏในตัวอักษรดําเข้ม ในที นี ผู้วิจัยขอยกตัวอย่างกลบทอักษรล้วนชนิดที 1 และชนิดที 2 ดังนี้ โคลงกลบทอักษรล้วนชนิดที 1 เล่นคําที มีเสียงพยัญชนะเดียวกันตลอดทั้งบาท พบในโคลงบทที 142 286 ส่วนโคลงกลบทอักษรล้วนชนิดที่ 2 เล่นคําที มีเสียงพยัญชนะเดียวกันเพียง 3 คําที อยู่เรียงต่อกัน ดังนี้
อักษรล้วนชนิดที่ 1 ๏ เขาเฃียวโขดคุ่มขึ้น เคียงเคียง ร่มรื่นรุกขรังเรียง เรียบร้อย โหมหัดหิ่งหายเหียง หันหาด แฮ่วแฮ ยางใหญ่ยอดยื่นย้อย โยกโย้โยนเยน
อักษรล้วนชนิดที่ 2
๏ จําร้างห่างน้องนึก น่าสวน สองฝ่ายชายหญิงยวน ยั่วเย้า หวังชายฝ่ายหญิงชวน ชื่นเช่น เหนเอย กลเช่นเล่นซักเสร้า เสพเพื่อน เฟือนเกษม ..........(ยังมีต่อ)...
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
| 18 สิงหาคม 2021, 03:48:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #125 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2021, 03:48:PM » |
ชุมชน
|
อวยเอยเคยโอ่อ้าง อันใด ยศเยี่ยงเพียงภูวไนย หน่อเจ้า ลือคำล่ำหลงใหล ลืมทั่ว มัวเฮย "แพง""เพิ่อน"เหมือนรักเร้า ร่ำพ้อ "ลอ"พญา
ราตรีมีฝ่ายฟ้อน กรกราย เพฺ็ญผ่องสองหญิงชาย ชื่นชู้ แขนเรียวเกี่ยวแพนผาย เผยเพื่อเผือรา แคนเป่าเขาเรียนรู้ ร่วมร้องครองครัน
จันทรจรกระจ่างฟ้า ตราคราว นวลเนื่องเรืองดวงดาว สะพรั่งพร้อม เชิงชุุมหนุ่มชวนสาว สมเสน่่ห์ สนองเอย คืนค่ำนำจันทร์น้อม กระหน่ำโน้มโลมใจ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
| 26 สิงหาคม 2021, 05:42:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #126 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2021, 05:42:PM » |
ชุมชน
|
จงรักจึงคนึงจิตคิดถึงพ่อ ก้าวตามต่อเพราะพระองค์ทรงสถิต จึงจงรักภักดีชั่วชีวิต ก้าวตามติดรอยพระบาทราชดำเนิน
|
|
|
|
|
| 18 กันยายน 2021, 08:02:AM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #127 เมื่อ: 18 กันยายน 2021, 08:02:AM » |
ชุมชน
|
.ต่อ) บทความ "นวัตกรรมในโคลงของสุนทรภู่" ของ (ศาสตราจารย์ ดร.) ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต เป็นส่วนหนึ่งของผลการวิจัยเรื่อง “นิราศสุพรรณ: ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของสุนทรภู่ในการแต่งโคลงสี่สุภาพ”........
1.2.2 สุนทรภู่สร้างโคลงกลบทชนิดใหม่ 1 สร้างโคลงกลบทชนิดใหม่ที่เป็นกลบทเดี่ยว ในจํานวนโคลงกลบท 11 ชนิดทีสุนทรภู่แต่งในนิราศสุพรรณ มีโคลงกลบทเดียวทีสุนทรภู่คิดสร้างสรรค์ขึนใหม่ 2 ชนิด ได้แก่ กลบทซ้อนดอก และงูตวัดหาง นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีนักวิชาการคนใดค้นพบว่ากลบทซ้อนดอกของสุนทรภู่มีลักษณะการแต่งเป็นเช่นใดและมีในโคลงบทใดบ้าง นักวิชาการหลายคน เช่น พ.ณ ประมวญมารค (2510: 178) คิดว่ากลบทซ้อนดอกคือกลบทก้านต่อดอก ซึงไม่ถูกต้อง ผู้วิจัยพบว่ากลบทซ้อนดอกมีอยู่ 11 บทในนิราศสุพรรณ ได้แก่ บทที 38 49 98 160 166 274 288 291 387 412 และ 426 และมีลักษณะการแต่งต่างจากกลบทก้านต่อดอกอย่างเด่นชัด ดัง เช่นโคลงกลบทก้านต่อดอกที่คัดมาจากโคลงดั้นปฏิสังขรณ์ วัดพระเชตุพนฯ ซึงเป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระ ปรมานุชิตชิโนรส ดังนี
ก้านต่อดอกของกรมปรมาฯ
หอรฆังทรงสร้างใหม่ เหมือนเรือน ในอุดรลานเถลอง หลั่นนั้น การประดับสรรพสรรพ์เหมือน มีที่ เพรงพ่อ สถานสถิตนอกชั้นหั้น แห่งกระแพง
กลบทซ้อนดอกของสุนทรภู่ ข้างคลองสองฝังเฟือย เฟือยแขม คาแฝกแซกเซียดแซม ซับซ้อน ในพุ่มกุ่มกกแกม กอย่า รย้าแฮ นกหกวกเวียรหว้อน วิงเต้นเผ่นโผน …..(ยังมีต่อ)
…...สุดยอด...อยากมากลองแต่ง….
คืนค่ำนำจันทร์น้อม กระหน่ำโน้มโลมใจ …….
บัวใบบังพรั่งพร้อย ลอย(ละ)ลาน ไหลเลื่อนเหมือนวันวาร เหว่ว้า ยางใยใช่พบพาน เพียงเผื่อน เลือนเลย นัยหนึ่งุถึงเชือนช้า เช่นช้ำคำครวญ ชวนชูดูฝ่ายฟ้อน ลครโขน ศิลป์ส่งคงอวยโอน เอ่ยอ้าง เรียนรำคร่ำโชกโชน ชาญเชึ่ยว เจียวเฮย แปรเปลี่ยนเวียนเสรืมสร้าง สิ่งสร้อยพลอยเพลิน
คำ "ฝ่ายฟ้อน" "ลคร" พบบ่อยในคำกลอนรุ่นเก่า น่าใช้ได้ ไม่ผิด เพียงแต่ปัจจุบันไม่นิยม
|
|
|
|
|
| 21 กันยายน 2021, 09:39:AM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #128 เมื่อ: 21 กันยายน 2021, 09:39:AM » |
ชุมชน
|
เยินยอลออแช่มช้อย ชายหมาย เหมือนเม่าเผาตัวตาย ต่างอ้าง พลางพลีนี่หลากหลาย เหลือเชื่อ เฟือเอย หลงเล่ห์เห ราร้าง ร่ายคล้ายวายปราณ
เฉิดฉานเริดร่านร้อน แรงแสง แปรเปลี่ยนเลียนปรับแปลง (ว่าง)..เปล่าเค้า หลับไหลไพล่คลางแคลง ครวญป่วน รัญจวนเฮย ฝันใฝ่ในจันทร์เจ้า จ่างค้างกลางนภา
|
|
|
|
|
| 03 ตุลาคม 2021, 11:49:AM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #129 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2021, 11:49:AM » |
ชุมชน
|
ฝันใฝ่ในจันทร์เจ้า จ่างค้างกลางนภา……
1.โคลงกลบทผสม อักษรล้วนแบบที่ 2 ซ้อนดอก กับงูกระหวัดหางชนิด พพพพ.
พญายังหวังว่าไว้ วังวน ผันผ่านกาลกามกล ก่อเกื้อ เชิดชิงยิ่งยามยล ยึดแย่ง แสวงเฮย สานส่งนงแนบเนื้อ นิ่มน้องสองสม
2.โคลงกลบทผสม อักษรสลับ สกัดแคร่ กับงูกระหวัดหางชนิด พพพพ.
คมคราวคาวใคร่แค้น ครวญคม เกล้าเกี่ยวเกลียวแกนกลม แก่เกล้า ต่างใจไต่จมตม จิตต่าง จางเฮย สามร่างสางรอยเส้า ร่ำเศร้าเราสาม
3.ตั้งใจจะแต่งกลบท ตะเข็บไต่ขอน ผสม งูกระหวัดหาง พอเริ่มจะลงมือ ยอมแพ้พลัน จะพูดว่า ผมรู้ไม่จริง ก็ไม่ปฏิเสธ ไม่รู้ว่าจะแต่งอย่างไรให้ลงฉันทลักษณ์โคลงสี่ ในความเห็น เริ่มจาก จำนวนคำ ทั้งสล้บคำลหุ ครุ วางสัมผัส ทั้งบังคับ เอก โท ยาก ตำแหน่งเคลื่อน ถ้าจะต้องแต่งออกมาให้ได้ คงไม่ได้โคลงสี่ พญาผานองค้างไว้ก่อน
|
|
|
|
|
| 10 ตุลาคม 2021, 03:55:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #130 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2021, 03:55:PM » |
ชุมชน
|
ยามเยือนยังฝั่งน้ำ ลำโขง ชมชื่นยืนหยัดโยง เยี่ยมเหย้า โครมครืนคลื่นคลาโคลง เคลงเคลื่อน เลือนฤๆ คุณค่าควรคิดเค้า ค่อนคุ้นเคยคำ
ลำโขงไหลขุ่นล้น คนคอย รานเจื่อนเลือนใจลอย ร่ำร้อง ฝากครวญฝ่าครืนฝอย ฟากฝั่ง ฟังรา เคยร่ำคำรักน้อง แน่นั้นนิรันดร์รือ
|
|
|
|
|
| 16 ตุลาคม 2021, 07:52:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #131 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2021, 07:52:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
|
| 06 พฤศจิกายน 2021, 09:07:AM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #132 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2021, 09:07:AM » |
ชุมชน
|
ญาติยาเยือนเพื่อนพ้อง พรรค์สรร จิตจ่อจารวารวัน ว่าช้า หันเหินห่างพลางพลัน พลอยพล่อย ผลอยนเอ มิตรใหม่มวลควรค้า คู่ผู้เคียงผอง
ญาติยายิ่งมิ่งเหมือนเพื่อนพึ่งพิง จิตจ่อจรืงเนินนานสานเสริมสอง ญาติยาหยันหันห่างร้างรับรอง จิตจ่่อจ้องหมู่มิตรคิดคู่ควร
ชวนเฉิดฉายร่ายร้อน รมย์สม ทอดท่าทำขำคม ค่อนอ้อน เจียมจิตจ่อมตรอมตรม ตราอย่า ลาเลย เพียงพี่พอยอย้อน เยี่ยงเพี้ยงยุติพอ
ชวนเฉิดฉายร่ายคมรมย์ระบำ เจียมจิตจำเอียงอายชายอ้อนขอ ชวนเฉิดฉานหวานแหววแล้วพึงรอ เจียมจิตจ่อเพียงนุชหยุดที่เธอ
|
|
|
|
|
| 12 พฤศจิกายน 2021, 10:25:AM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #133 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2021, 10:25:AM » |
ชุมชน
|
เลอเลิศลอยอ่อยเอื้อน เอมเกษม ควรคู่คงหงส์เหม. โห่โอ้ เอวองค์เอ่ยเปรยเปรม ปรายฝ่าย ชายเฮย ยังยั่วยลกลโก้ ก่อนย้อนกวนยวน
เลอเลิศลักษณ์อัครอรรถสัตย์เกษมเสียง คงคู่เคียงแข่งแขแห่เหินหวน เลอเลิศล้ำขำคมชายชมชวน คงคู่ควรฝันใฝ่ใคร่ครอบครอง
สองสมสาร่าร้อน เริงเพลิง เด็ดเดี่ยวแดแลเหลิง หลู่ผู้ ผิดผันพ่ายชายเชิง ชังคั่ง เคียดเฮย นางหนึ่งนุชสุดสู้ สู่ชู้สองชาย
สองสมสานการกามลามโลมหลั่ง เด็ดเดี่ยวดังเชิดชวนมวลหมู่หมาย สองสมสื่อยื้อแย่งแก่งกีดแกาย เด็ดเดี่ยวดายนามนั้นว่า"วันทอง"
|
|
|
|
|
| 30 พฤศจิกายน 2021, 07:45:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #134 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2021, 07:45:PM » |
ชุมชน
|
รักเร้น จารใจเจียม ค่ำคืนควร รสรัก วารวาย รอรัก หนึ่งน้องนาง
มิหมองหมางห่างห้าม เหินแห่งเหตุเขตข้าม หนุ่มน้อย"ซูซอ" รอฤๆ
ค่ำคืนฝืนฝันหยันย่อ หาหดทดท้อ "งวยบ๊วย"สวยสาค่าควร
แรงรักรุ่มหนุ่มนางสร้างกระแส วันปราณแปรเป็นไปมิไห้หวน แรงรักเร้าเย้ายิ่งชิงยั่วยวน วันปราณปรวนวางวายตายตามกัน
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
| 19 ธันวาคม 2021, 07:43:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #135 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2021, 07:43:PM » |
ชุมชน
|
แรมจิต แรมใจ ไม่พบคำแปล แต่ไพเราะคำไพเราะความ จิรนันท์ พิตรปรีขา ยังเคยใช้คำ "เรือนรัก แรมใจ"
โคลงไฮกุ โคลงสองสุภาพ กาพย์ฉบัง16 กลอนสร้อยสลับคู่สคราญ ขั้น ทดลอง ไม่บอกว่าทำอะไร
จันทร์นวลเสมือนขวัญ ค่ำคืนเดือนดับขวัญสลาย ขอขวัญสถิตใจ
จันทร์จรัสเรืองเฟื่องฟ้า จันทร์แจ่มเจิดเลิศหล้า ร่มเกล้าองค์พรหม อินทร์เอย
ชายชาติกราดเกรี้ยวเขี้ยวคม พงศ์ภักดิ์ศักดิ์สม ส่งสเด็จเสวยสวรรค์
ขอขวัญป้องสมองมนุษย์ที่สุดคิด คืนแรมจิตร้าวใจให้โศกศัลย์ ขอขวัญปกอกเอื้อเกื้อชีวัน คืนแรมจันทร์แสงสว่างสกาวกลางใจ
|
|
|
|
|
| 25 ธันวาคม 2021, 07:33:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #136 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2021, 07:33:PM » |
ชุมชน
|
ทางไกล แท้คดเคึ้ยว เดินตามกัน มีคนสวนทาง เงาจันทร์ พรรณผกาเฮย
ในทางเทียวเกี่ยวข้อง แยกหนึ่งพึงถูกต้อง ใช่ซ้ายฤๅขวา
กีดแก่งแซงซ้ำนำหน้า ห่างหายทายท้า ราวลาดพาดพกาสุธาหวาน
ใต้เงาจันทร์ฝันไปไกลสุดจิต เยาวมิตรทั่วพสุธามหาศาล ใต้เงาจิตพิศฟ้าร่าสำราญ เยาวมาลย์หลงหายที่ปลายทาง
|
|
|
|
|
| 18 มกราคม 2022, 03:34:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #137 เมื่อ: 18 มกราคม 2022, 03:34:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
|
| 27 มกราคม 2022, 02:50:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #138 เมื่อ: 27 มกราคม 2022, 02:50:PM » |
ชุมชน
|
สมรัก สมัครฝัน รอรัก คืนน้ำผึ้ง พระจันทร์ เหลียวมองสนองรัก
ชวนเชยชิดคู่ข้าง กามก่อเกิดเสริมสาัาง เร่าร้อนวิวาห์
หอห้องรองเรืองเฟื่องฟ้่า แจ่มจันทร์เลิศหล้า วาทแหววหวาน จานใจจัง รองเรือง = งามสุกใส
ทุกคราเคยเงยหน้าตาประสบ เธอหันหลบหันข้างช่างสิ้นหวัง ทุกคราคอยอ่อยอวยว่าสวยจัง เธอหันหลังแค่เกือบไม่เหลือบแล
|
|
|
|
|
| 02 กุมภาพันธ์ 2022, 12:52:PM |
|
@free
|
 |
« ตอบ #139 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2022, 12:52:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
|
|