ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[D]

คือเรื่องมีอยู่ว่า........

ยืมเงินนายดำมา.......500
ยืมเงินนายแดงมา.....500
รวม.....................1000

ซื้อของไป...............970
คงเหลือเงิน...............30

คืนนายดำไป.............10
คืนนายแดงไป...........10
อยู่ที่ตัวเอง................10

เพราะฉะนั้นเราเป็นหนี้นายดำ.....490
เป็นหนี้นายแดง......................490
รวม เป็นหนี้นายดำ กับ นายแดง..........980

อยู่ที่ตัวเอง...........................10
รวมเงิน.............980+10=990
อ้าว......แล้วเงินหายไปไหนอ่ะ......10 บาท

เด็กๆเขาถามมาอ่ะ  "ดิน"  ตอบเขาไม่ถูก

 

[ไพร พนาวัลย์]

จะไปรวมทำไมให้ยุ่งยาก
มีเงินมากใช้หนี้ก็ดีถม
คนละสี่ร้อยเก้าสิบบาทมิอาจ อม
มัวหลงลมเด็กนักเรียนเวียนหัวตาย

ลุงไพร
 

[muneenoi]

เงินมิได้หายไปไหน แต่อยู่ที่ "ดิน" นั่นแหละ 10 บาท...เพราะ

-ซื้อของไปหมด 970 (แต่ยังเหลือ 30 บาท)
-เท่ากับว่า ใน 970 บาทนั้น ดินติดหนี้นายดำ กับ นายแดงอยู่ คนละ 485 บาท โดย  970 หาร 2 = 485
-เมื่อคืนให้เขาไปอีกคนละ 10 บาท นายดำกะแดง ก็จะได้เงินคืนจากดิน คนละ 485 +10 = 495 บาท

-เหลืออีก 10 บาท ที่ตัว "ดิน" ก็คืนนายดำ กะนายแดงไปอีกคนละ 5 บาท......

-ทั้ง 2 คน ก็จะได้เงินคืนจากดินครบ คนละ 500 บาท .....

-เงินก็ไม่ได้หายไปไหน เว้นเสียจากดิน จะยักยอก แค่นั้นเอง55555... ......มุนีน้อย

[ดุลย์ ละมุน]

ยืมเงินนายดำมา.......500
ยืมเงินนายแดงมา.....500
รวม.....................1000

ซื้อของไป...............970 หาร 2 = 485
คงเหลือเงิน...............30

คืนนายดำไป.............10 + 485= 495
คืนนายแดงไป...........10 + 485= 495
อยู่ที่ตัวเอง................10 +990

***ลงตัวจ้า*** 555 เด็กมันยั่ว เฮ๊ย หลอก 555

มีเงินเขาเรียกน้อง
ถ้ามีทองเขาเรียกพี่
แต่ใจชายคนนี้
มีคนดีเพียงหนึ่งเดียว

***ทักทายคร้าบ***

[D]

เห้อ...ตาสว่างเสียที

ต่อไปนี้เลิกคบเด็กและ  เห็น แก่หน่อยหลอกๆๆๆๆๆๆๆจัง

รักคนแก่ดีกว่าเนอะ

ขอบคุณ..คุณลุงไพรฯ ท่านมุนีฯ และ ท่านดุลย์ ฯค่ะ

แน่ะแอบเข้าดูกันตรึมเล้ยยยยยย

[มังตรา]

ปัญหาคือ    เอาหนี้สิน ที่คงเหลือ 980บาท ไปรวมกับ ทรัพย์สินที่มี 10 บาท   มันรวมกันแบบนั้นไม่ได้ เพราะ  มันอยู่คนละด้านทางบัญชีน่ะ 
                                                                 

                                                                   บัญชีของละอองดิน
                         
                             
                                   ด้าน ทรัพย์สิน                                                                 ด้านหนี้สิน


เหตุการณ์ที่ 1  ยืมเงิน  1000 
                             
                              เงินสด 1000                                             หนี้สิน 1000  (500 +500 ยืมนายดำ กับนายแดง )


เหตุการณ์ที่ 2 ซื้อของ  970  เหลือเงิน  30
                   
                    สินค้า 970 และ เงินสด 30 ( รวมก็ 1000 )                    หนี้สิน 1000  (500 +500 ยืมนายดำ กับนายแดง )


เหตุการณ์ที่ 3  เงินที่เหลือ 30 ใช้หนี้  ดำ แดง คนละ 10 บาท
                   
                     สินค้า 970  และ เงินสด 10 บาท ( เหลือจากใช้หนี้ )       หนี้สิน 980( 490 + 490 ก็ใช้หนี้เขาคนละ 10 บาท)


ฉะนั้น    จะเอาหนี้สิน 980 บาท ไปรวมกับด้านทรัพย์สิน เงินสด 10 บาท แล้วบอกเงินหาย  ทำไม่ได้ครับ เพราะ  มันอยู่คนละด้านทางบัญชี   

จริงๆแล้ว  เงินไม่ได้หายไปไหนเลย  แต่ ถ้าจะสงสัยต่อว่า ดั้งเดิมด้านทรัพย์สิน  มีมูลค่า 1000 บาท แล้ว เหลือ 980  บาทได้ไง  ก็จะตอบได้ว่า เงิน 20 บาท  ถูกเปลี่ยนไปอยู่ใน รายการบัญชีของ นายดำและนายแดง  ในด้านทรัพย์สิน เป็นได้เงินสดคนละ 10 บาทครับ เพราะ ได้รับการใช้หนี้มา   

ผิดถูกขอผู้รู้….. อภัยนะครับ   ก็อยากคิดร่วมสนุกน่ะ  เป็น กระทู้ที่น่าสนใจน่ะครับ

[แป้งน้ำ]

อยากเป็นเพื่อนกับดำและแดงบ้างจัง . .. ใจดีสุด ๆ อ่า

[ปู่ริน]

แสนดีใจ เห็นกลไก เกมกลโกง
เด็กผูกโยง คำถาม ตามซื้อขาย
มาหมกเม็ด แกล้งวกวน จนวุ่นวาย
หากถามปู่ คงตอบไม่ได้ อยางแน่นอน

เรียนคณิต สอนให้คิด หยิบยืมเพื่อน
มิเคยเตือน ห้ามปราม ยามสั่งสอน
สอนให้ยืม ลืมส่งคืน ตามขั้นตอน
บอกคนไทย ซื้อเงินผ่อน ..จนเคยชิน

ตอนคืนเงิน เพราะเหตุใด ไม่มีดอก
แถมยักยอก หลบหลีกหนี โกง..หนี้สิน
เพียงพอใจ ..ไม่กู้หนี้..เถิดน้องดิน
แย่งกันกิน..ดูดเลือดเนื้อ..ชาติเชื้อไทย.

                ริน ดอนบูรพา
                                    ๑๑ ก.พ.๕๗

[toshare]

เช่าบ้าน (ร่ายสุภาพ)

...สามคนชวนกันไป...............เช่าบ้านใกล้อาคาร-
ที่ทำงานไม่สาย....................อยู่สบายพอครบเดือน
สามส่วนเพื่อนฉับพลัน...........จ่ายเท่ากันรวมได้
สามสิบให้เด็กน้อย................เจ้าอย่าคอยเล่นอยู่
นำให้ผู้เจ้าของ.....................ท่านก็ตรองชื่นชม
สมควรจะลดหย่อน................ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา
เพียงเอายี่สิบห้า...................บอกเด็กหนานำกลับ
ห้าหน่วยนับให้ดี...................ช่วยทีคืนเจ้าของ
สองนั้นเขาจึ่งให้...................เด็กน้อยไว้กินขนม
ต่างสุขสมทุกผู้
..........................................จึงนำสู่คำถาม
คนทั้งสามจ่ายไป..................ใช่ไหมยี่สิบเจ็ด   
อีกจริงเท็จเด็กรับ..................สองเมื่อนับรวมเข้า
ยี่สิบเก้าพอดี........................แปลก ! ตอนที่เริ่มต้น
สามสิบแน่ – จงค้น................สืบให้ได้ความ

เป็นโจทย์แนวเดียวกัน นำเสนอหวังเพื่อให้เพื่อน ๆ แต่งเป็น ร้อยกรอง ตอบครับ
ขอบคุณครับ

[D]

 

อ๋อย...
อย่าว่าแต่จะตอบเป็นร้อยกรองเลยค่ะ
คำตอบน้องยังไม่ทราบเลยอ่ะ
สงสัยเด็กๆดีใจกระโดดทำตังค์หล่นหายอ่ะ
*รอ....ท่าน อัจฉริยะ...ปรานี* มาตอบท่านพี่"ทูแชร์" ทีนะคะ 

ที่บ้านกลอนไทยเรามีคนเก่งหลายท่านค่ะต้องตอบได้แน่...เล้ย


 

[ไพร พนาวัลย์]

 


เจ้าของเอายี่สิบห้าเหลือห้าบาท   (๓๐-๕= ๒๕x๓=๗๕บาท)
เด็กฉลาดดีใจดั่งได้ส้ม(หล่น)
คืนเขาไปเก้าบาทไม่ขาดชม (๗๕+๙=๘๔บาท)
ได้กินหนมหกบาทไม่ขาดไม่เกิน (๘๔+๖=๙๐/๓=๓๐บาท)

ไพร พนาวัลย์
 

[มังตรา]

         โจทย์  คือ   มีคน สามคนร่วมเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน ค่าเช่า 30 บาท ต่อเดือน   ครบเดือน ให้เด็ก นำเงินไปจ่าย   คุณนายเจ้าของบ้าน ใจดี ลดค่าเช่าให้ 5 บาท   เหลือเดือนละ  25 บาท   เงิน 5 บาท ฝากเด็กคืนมาให้    แต่คนเช่ามี 3 คน  จึงเฉลี่ยคืน คนละ 1 บาท  ที่เหลือ 2 บาท ให้เด็กเป็นรางวัล

       
       ปัญหา  คือ  อัตราค่าเช่าเดิมรวมกันจ่าย  คือ  30 บาท  ได้ลดมา  3 บาท  เหลือจ่าย  27 บาท  แต่พอเอา  ไปบวกกับ เงิน 2 บาท ที่เด็กได้รับ ทำไม ไม่เท่ากับ 30 บาท ( สงสัยว่า เงินหาย 1 บาท )

        ก็ตอบว่า……. ถ้า  จะบวกให้ได้ 30 บาท  ต้องบวกตามเงื่อนไข   ดังสมการนี้      ( เงื่อนไขเงินไม่หายไปไหน ..555)

เหตุการณ์ที่ 1  คุณนายลดค่าเช่าให้   5 บาท
   
      เงินทั้งหมดที่จ่าย  30  บาท                =         จ่าย เงินค่าเช่า  25 บาท   +  เงินที่คุณนายให้คืนมา 5 บาท

เหตุการณ์ที่ 2   เอาเงิน  5 บาท ที่คุณนายลด มาแบ่งให้กลุ่มตัวเอง  3 บาท  ให้เด็ก 2 บาท
 
      เงินทั้งหมดที่จ่ายไป 30 บาท               =      จ่าย เงินค่าเช่า  25 บาท   +  เงินได้รับคืน  3 บาท + เงินให้เด็ก 2 บาท
     หรือ เขียนใหม่  เงินทั้งหมด  30  บาท      =   เงินจ่าย 27 บาท  ( จ่ายค่าเช่า 25 + ให้เด็ก 2 บาท )  + เงินได้รับคืน 3 บาท
 

สรุปว่า    ให้มองเงินที่เราจ่ายจริงๆ และ ยังคงอยู่กับเราจริงๆ  อย่ามองแค่ยอดหักเป็นตัวเลข จะทำให้สับสน   และ  เงิน  27 บาท  จะไปรวมกับเงิน  2 บาท ที่ให้เด็กไปไม่ได้ เพราะ  เงิน 2 บาท  เราเอารวมกับเงิน ค่าเช่า 25 บาท แล้ว ได้เท่ากับ เงิน 27 บาท เมื่อรวมกับเงินสดที่มีอยู่จริง ที่คุณนายคืนมา 3 บาท ก็จะเท่ากับ 30 บาทพอดีน่ะ   

และ ประโยคที่ว่า " อัตราค่าเช่าเดิมรวมกันจ่าย  คือ  30 บาท  ได้ลดมา  3 บาท  เหลือจ่าย  27 บาท  " ประโยคนี้ไม่ผิดน่ะครับ แต่ไม่ถูกทั้งหมด   ถ้าจะให้ถูกทั้งหมด ต้องบอกว่า  เงิน 30 บาท ที่จ่ายไปแล้ว เมื่อเรานำเงิน 3 บาท ที่ได้รับคืนไปหัก.....   เงิน 3 บาทนี้  เป็นการหักทางบัญชี   และ เงิน 3 บาทนี้ มิได้หายไป  ยังคงอยู่เป็นตัวเงินสดจริงๆ 3 บาท  และ เมื่อนำมารวมกับเงิน 27 บาท ก็จะเท่ากับเงิน 30 บาทพอดี   .......ครับ  

ผิดถูกขออภัยนะครับ  และ  ขอโทษที่ไม่ได้ตอบเป็นกลอน ครับ………….

[toshare]

กามนิต, ๗ มิ.ย.๕๕

 หวานหวานหมูหวานหวาน   ท่านถามเป็นร่ายมา    ข้าพเจ้าขอตอบร่าย

ปัญหาง่ายอย่างนี้    ขอชี้ให้เห็นเหตุ    ท่านซ่อนเลศน์บวกผิด   ไปคิดเงินที่ให้

เด็กน้อยไว้นั่นแหละ  จึงแยกแยะไม่ถูก   ขอผูกร่ายคำตอบ   ทางที่ชอบวางไว้
 
ได้พอเป็นเห็นเค้า  ได้แก่เจ้าของบ้าน  ตามการณ์ยี่สิบห้า    คืนมาห้าใช่ไหม
 
แบ่งไปเด็กสองจึง    เหลือสามถึงสามสหาย   รายการนี้จึงจบ
 
สามสิบครบดังเก่า    เล่าความแจงแจกชี้    พึงเบิกบานฉะนี้   อย่าได้กังวล  แลนา ฯ

[toshare]

ลองดู คำอธิบาย นี้พอไหวไหมครับ

แรก ๆ ระบบเศรษฐกิจ เสมือนอยู่นิ่ง ๆ

มีคน ๓ คน "ใช้"เงินออกมา คนละ ๑๐ รวม ๓๐
มีคน"รับ" ๒ คน คือ ๒๕ กับ ๕

ต่อมา คน"รับ" กลายเป็นคน"รับ" ๕ คน คือ ๒๕ ๒ ๑ ๑ ๑
(๕ กระจายต่อเป็น ๒ + ๑ + ๑ + ๑)

สรุป ฉากแรก มีเงินออกมาใช้ ๓๐ แล้วมีคนรับไป ๒๕ ๒ ๑ ๑ ๑
(สังเกต "ใช้ไป" ต้องเท่ากับ "รับเข้า" เสมอ)


ฉากสอง
คนที่รับ  ๑ ๑ ๑ ก็คือ ได้คืนไป คนละ ๑ ๑ ๑ แต่ได้ใช้ไป ๑๐ ๑๐ ๑๐
ดังนั้น ใช้จริงคือ ๙ ๙ ๙ หรือ

เศรษฐกิจมีเงิน "ใช้" เข้าระบบจริงเพียง ๒๗ (๙ x ๓)
แล้วมีคน "รับ" ไปจริงคือ  ๒๕ + ๒

ดังนั้น จึง "ผิด" เมื่อเอา (๒๕ + ๒) ไปรวมกับ ๒ อีกครั้ง เป็น ๒๙
ทำให้เงิน ๒ นำมา "คิดคำนวณซ้ำ" อีกครั้ง

ทางเศรษฐศาสตร์ และ บัญชี เน้นเสมอให้ "ระวัง" ประเด็นนี้

ดู Double counting (accounting) หรือ Double counting (fallacy)
From Wikipedia

และนี่เป็นที่มาการใช้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value added tax)
ดู Value added From Wikipedia


โจทย์เข้าทำงาน หรือสอบแข่งขัน นำมาใช้บ่อย ๆ เพียงเปลี่ยน รูปโจทย์ และ ตัวเลข เท่านั้น สมควรที่จะนำเรื่องนี้ไป แนะนำ กันต่อ ๆ ไปครับ

ขอบคุณครับ