อาลัย...อนาคิน....แร้งดำเจ้าเวหา

   ๐งูเห่ากับชาวบ้าน๐
(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

“เราเมียผัวอาศัยอยู่ในป่า
มีไข่มาจากท้องห้าฟองไข่
เลื้อยหากินภักษาตามป่าไพร
แสนสุขใจยิ่งนักความรักเรา

แล้ววันหนึ่งมีมนุษย์มาขุดถาง
เขาจะสร้างบ้านแทนป่าแดนเก่า
เราเมียผัวเห็นแล้วใจแผ่วเบา
มองอย่างเศร้าอุราน้ำตาริน

ตอนข้าจะเลื้อยออกหนีนอกป่า
ต้องพลาดท่าอาดูรชีพสูญสิ้น
ถูกมนุษย์จับมาแล้วฆ่ากิน
แล้วยังหมิ่นตัดหัวข้าเสียบประจาน

ข้าเคียดแค้นมนุษย์ที่สุดบาป
จิตใจหยาบหนักหนาชอบประหาร
ข้าจึงได้ก่ออาถรรพ์ในวันวาน
เป็นวิญญาณงูตามปลิดชีวิตคืน!” ฯ

   อริญชย์
   ๑๘/๗/๒๕๕๕

*กรณีข่าวอาถรรพณ์งูเห่าเผือกตัวเมียมีไข่ห้าฟอง ถูกชาวบ้านจับฆ่าผัดเผ็ดกิน
และชาวบ้านที่กินเจออาถรรพณ์งูตามทวงชีวิตคืนจนเป็นข่าวครึกโครม (ทำให้หนังสือพิมพ์ขายดียิ่งขึ้น)

จากเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของนายยอด สุทธิโชค อายุ 37 ปี เสี่ยเจ้าของนากุ้ง

อยู่บ้านเลขที่ 260 หมู่ 3 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในเวลา 3 เดือน คนในครอบครัว 5 คน เสียชีวิตอย่างกะทันหันถึง 3 คน เริ่มจากนางจุฬารักษ์ สุทธิโชค อายุ 40 ปี ภรรยานายยอด เสียชีวิตด้วยโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน นายเอี่ยม สุทธิโชค อายุ 82 ปี พ่อของนายยอด เกิดอาการแน่นหน้าอกเสียชีวิต และเมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นายมนตรี สุทธิโชค อายุ 16 ปี ลูกชายคนโตของนายยอด ขี่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุตายไปอีกราย

ซึ่งคนทรงเจ้าชี้ว่าสาเหตุมาจากนายยอด กับญาติใช้ท่อนไม้ตีงูเห่าขนาดใหญ่ ผ่าท้องพบไข่ 5 ฟอง นำไปปรุงอาหารกินเมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมระบุว่างูดังกล่าวเป็นงูเจ้าที่มาทวงชีวิต แต่นายยอดกลับพูดจาท้าทาย หลังจากนั้นเพียง 2 อาทิตย์ นายยอดได้ขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถแท็กซี่ ทำให้นายยอดและ ด.ช.ธราเทพ สุทธิโชค อายุ 9 ขวบ ลูกคนเล็ก บาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะนายยอดยังนอนไม่รู้สึกตัวอยู่ที่ รพ.สมุทรปราการ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเหตุบังเอิญ หรือเป็นอาถรรพณ์งูเจ้าตามทวงชีวิตตามที่ญาติเชื่อนั้น

ความคืบหน้าอาการเสี่ยเคราะห์ร้าย เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 มี.ค.

ผู้สื่อข่าวเข้าเยี่ยมอาการนายยอด สุทธิโชค ที่นอนรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉินศัลยกรรมชาย อาคารศัลยกรรม รพ.สมุทรปราการ พบว่ายังไม่ได้สติ และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา โดย นพ.นิสิต ศรีสมบูรณ์ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมประสาท เจ้าของไข้ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลรับตัวผู้ป่วยเข้ามารักษาเมื่อเวลา 02.20 น. วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยผู้ป่วยมีอาการกะโหลกศีรษะแตกร้าว มีเลือดออกในสมอง จึงเร่งผ่าตัดรักษา แต่ผู้ป่วยมีอาการไม่ได้สติ ร่างกายยังตอบสนองและขยับได้บางส่วน พร้อมมีอาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ มีอาการปอดบวม ไม่สามารถหายใจเองได้ต้องใช้เครื่องช่วย ซึ่งแพทย์ได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด มีการเอกซเรย์ตรวจดูอาการทางสมองอย่างต่อเนื่อง และคงจะต้องดูอาการผู้ป่วย 3 เดือน หากไม่ดีขึ้นคาดว่ามีโอกาสที่จะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา

ขณะที่ นพ.มานิต หงสวนิตกุล ผอ.รพ.สมุทรปราการ กล่าวว่า

หลังผ่าตัดครั้งแรกคนไข้ยังไม่รู้สึกตัว และมีอาการเกร็งที่แขนทั้งสองข้าง ศัลยแพทย์ทางสมองได้รีบผ่าตัดสมองฉุกเฉินรอบสอง เพื่อหยุดเลือดที่ไหลในสมอง และดูดเอาก้อนเลือดออก พบว่าเนื้อสมองมีความบอบช้ำมาก หลังผ่าตัดอาการเกร็งหายไป ผู้ป่วยสามารถขยับร่างกายได้แต่ยังไม่รู้สึกตัว ซึ่งแพทย์ไม่ได้ตรวจหาสารพิษในร่างกาย เพราะผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุ ส่วนการรับประทานงู มักจะรับประทานเนื้อ ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่มีพิษ เพราะพิษงูอยู่ที่ต่อมใต้เขี้ยว การนำไปปรุงอาหารจะต้องมีการถอดเขี้ยว และตัดต่อมพิษออกไปอยู่แล้ว แต่หากมีการรับประทานพิษเข้าไป จะมีระยะพิษตกค้างอยู่ที่ราว 3-6 ชม. หลังจากรับประทาน สามารถตรวจหาพิษได้จากการนำน้ำในกระเพาะอาหารเข้ากระบวนการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์

ต่อข้อถามถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนายเอี่ยม สุทธิโชค และนางจุฬารักษ์ สุทธิโชค บิดาและภรรยาของนายยอด

หลังจากรับประทานงูเห่าเข้าไปได้ราว 1-2 วัน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเกิดจากพิษงู ผอ.รพ.สมุทรปราการ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลที่รับตัวไว้รักษาก่อนเสียชีวิต ว่าเกิดจากอะไร มีโรคประจำตัวก่อนหน้านี้หรือไม่ และผลสรุปการเสียชีวิตคืออะไร อย่างไร ก็ตาม สำหรับเรื่องของการรับประทานงูเห่าท้องแก่เข้าไป และมีการเสียชีวิตในเวลาต่อมา ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจและได้รับความสนใจของประชาชน ทำให้มีการกล่าวขานถึงเรื่องของความอาถรรพณ์ แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องมีวิจารณญาณในการรับทราบหรือรับฟังข่าวสาร

ที่วัดสาขลา หมู่ 3 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

สถานที่ฌาปนกิจศพนายเอี่ยม สุทธิโชค พ่อเสี่ยนากุ้ง ที่ลือว่าเป็นเหยื่ออาถรรพณ์งูเจ้าที่ เมื่อตอนสายวันเดียวกัน พระป้อม กิตตภัทโท ลูกชายนายเอี่ยมและญาติ ได้ทำบุญเก็บเถ้าอัฐินายเอี่ยมนำกลับมาไว้ที่บ้านพระป้อม ตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านของนายยอด เสี่ยนากุ้ง เมื่อมาถึงนางทองหล่อ สุทธิโชค อายุ 58 ปี ภรรยาพระป้อม ได้นำธูป 9 ดอก มาจุดบอกเจ้าที่ซึ่งย้ายมาจากบ้านนายยอด และบริเวณที่ตั้งศาลเจ้าที่เดิม ท่ามกลางญาติที่ยังพูดคุยถึงเหตุอาถรรพณ์ที่เกิดกับครอบครัวนายยอด

จากนั้นพระป้อมเปิดเผยว่า ญาติๆผวาไม่กล้าเข้าไปที่บ้านใหม่ของนายยอด เกรงจะเกิดอันตราย ต้องปิดบ้านทิ้งไว้เฉยๆ

ส่วนคนที่ร่วมกินเนื้องูประมาณ 10 คน ทยอยเข้ามาจุดธูปขอขมาตั้งแต่วันที่นายยอด ประสบอุบัติเหตุ และญาติที่อยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ได้เตือนว่าถ้าเป็นไปได้ให้ย้ายบ้านไปปลูกที่ใหม่ พร้อมกันนี้ญาติๆยังได้นัดมาทำบุญกลางแจ้งที่บ้านนายยอดเร็วๆนี้สำหรับสาเหตุที่เป็นชนวนอาถรรพณ์นั้น ร่างทรงบอกว่ามาจากการที่ฆ่างูนำมาตัดหัวผ่าท้อง แล้วยังนำหัวงูไปเสียบไม้ปักไว้หน้าบ้านที่ปลูกใหม่ ถือเป็นการกระทำที่อุตริ ไม่มีใครเขาทำกัน ทำให้เจ้าที่โกรธมากตามมาเอาชีวิต ขณะที่ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเอาไปตีเป็นหวยเลข 501, 532, 50 และ 51 สำหรับ ด.ช.ธราเทพ สุทธิโชค ลูกคนเล็กของนายยอด หมอให้ไปตรวจในวันที่ 5 เม.ย.นี้ แต่เงินที่ขายกุ้งและหอยแครง นำไปรักษานายยอดกับลูกหมดไปแล้ว 120,000 บาท จึงจำเป็นต้องไปกู้เงินมา 20,000 บาท เตรียมนำไปเป็นค่ารักษาที่ รพ.กรุงเทพพระประแดง จึงอยากให้ตำรวจติดตามตัวคนขับรถแท็กซี่คู่กรณี มาตกลงเรื่องค่ารักษาพยาบาลนายยอดกับลูก เพราะจนถึงบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดีเลย

http://board.palungjit.com/f12/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9C%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%875%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A23%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA-121181.html

	ผู้เขียน	หัวข้อ: อาลัย...อนาคิน....แร้งดำเจ้าเวหา (อ่าน 4217 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้