กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 พฤษภาคม 2024, 05:08:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
 41 
 เมื่อ: 01 มกราคม 2024, 06:04:PM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


…ส่งความสุขวันปีใหม่ 2567…

…บอกลามืด หม่นหมอง ของปีเก่า
เปิดรับเอา สดศรี วันปีใหม่
นิราพาธ นิราศทุกข์ สุขกายใจ
คิดสิ่งใด ให้สำเร็จ สมเจตจินต์

หวังเงินทอง เงินทองล้น ท่วมท้นบ้าน
หวังการงาน งานก้าวหน้า กว่าถวิล
แม้ศัตรู งูเงี้ยว เขี้ยวลากดิน
สยบสิ้น ด้วยฤทธา บารมี

ปลอดโรคภัย ทั้งปวง พ้นหน่วงหนัก
อุ่นไอรัก รายล้อม ห้อมสุขี
ดุจแสงจันทร์ ขจ่างฟ้า ยามราตรี
ผ่านร้าย-ดี สักว่าเห็น เช่นหนึ่งเดียว

…ขอส่งความปรารถนาดี
เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่
แด่…เพื่อนๆนักกลอนทั้งหลาย

ขอจงประสบแต่ความสุข สงบร่มเย็น
คิดหวังสิ่งใด ขอให้สมความปรารถนา
มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
มีกำลังใจที่เข้มแข็ง

และขอให้พลังแห่งการเริ่มต้นปีใหม่นี้
เป็นพลังบวกที่คอยเกื้อหนุนเป็นแรงกายแรงใจ
ของการเริ่มต้น เปลี่ยนแปลง
และสร้างสรรค์สิ่งดีๆในชีวิตครับ…

โซ…เซอะเซอ
1 มกราคม 2567



 42 
 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2023, 09:45:AM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


…อาจแค่เพียง…


…อาจแค่เพียง เสียงกลอน บั่นทอนเหงา
ปลอบทุเลา เพลาทุกข์ ล่วงรุกถี่
อาจแค่เพียง ร้อยร่ำ คำกวี
ไหวหวั่นข้าม ราตรี ที่ยาวนาน

อาจแค่เพียง ลิขิต ข่มคิดถึง
หน่วงคะนึง ดวงแด ฟุ้งแผ่ซ่าน
อาจแค่พบ พันเกี่ยว แม้เสี้ยวกาล
ปณิธาน ตรึงติด นิจนิรันดร์

หากซึ้งทรวง ดวงถวิล ยินทายทัก
โปรดไขคำตอบรัก ประจักษ์มั่น
ใฝ่เฝ้ารอ รอถาม ความสัมพันธ์
ว่ามีฉันบ้างไหม ในใจเธอ

หรือเพียงฉันคนเดียว คอยเหนี่ยวรั้ง
สุดกำลังแรงใจ ด้วยไผลเผลอ
ฝากบทเพลงเหงาเหงา อับเฉาละเมอ
กับเสียงกลอน ตราบพร่ำเพ้อ ว่า“เธอยัง”…

“…ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
อยู่ตรงนั้นเธอเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
ฝากเพลงนี้ให้ไปถามเธอดู
อยากจะรู้ในความเป็นไป

เธอยังคิดถึงฉันทุกนาทีรึเปล่า
เธอยังจำเรื่องเราในวันวานได้หรือไม่
เธอยังมีใจให้ฉันคนเดียว ยังรอฉันแค่คนเดียว
เธอยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม
ช่วยบอกให้รู้ที…“


[ “เธอยัง” : วง Potato
เนื้อร้อง/ทำนอง : ฟองเบียร์ (ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม) ]




โซ…เซอะเซอ
23 ธันวาคม 2566




 43 
 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2023, 06:53:AM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย toshare
@ ทุก ทิวา
และ ราตรี
ธรรม ทวี
ตลอดไป

@ สันติ สุข
ฤ ทุกข์ใด
พึง "ละ"ไซร้
สงบครัน

สว่างฉันท์ ๓

 44 
 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2023, 07:59:AM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย toshare
@ รักพระ
เหนือยิ่ง
สิ่งใด

@ สรรเสริญ
ด้วยเมตตา
รักรับใช้

@ เป็นแสงไสว
ส่องสว่าง
สรรพสิ่ง

@ เป็นเกลือ
เป็น ดินดียิ่ง
ด้วยศักดิ์ศรี ศรัทธา



Canto is a principal form of division in a long poem,
especially the epic.
The word comes from Italian,
meaning "song" or singing.

Famous poems that employ the canto division are
Luís de Camões' Os Lusíadas (10 cantos),
Lord Byron's Don Juan, Valmiki's Ramayana (500 cantos[1]),
Dante's The Divine Comedy (100 cantos[2]),
and Ezra Pound's The Cantos (120 cantos).

Wikipedia

 45 
 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2023, 07:54:AM 
เริ่มโดย toshare - กระทู้ล่าสุด โดย toshare


@ ค ล ค
ล ค ค
ค ล ค
ล ค ค

ขอขอบคุณ # 7511548*
ที่แนะนำ ชื่อฉันท์ ครับ
* คุณชำนาญ

@ เช้า สว่าง
กระจ่าง หน
เตือน สิตน
กระทำ งาม

@ เช้า ผลิ"ใหม่"
ไสว คาม
ใฝ่ มุถาม
สะบั้น "กู"






 46 
 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2023, 06:02:AM 
เริ่มโดย แป้งน้ำ - กระทู้ล่าสุด โดย แป้งน้ำ




.. . เคยได้ยินประโยคที่ว่า . ..
คนเราจะมีเวลา . .. ให้กับสิ่งสำคัญเสมอ
คนเราจะไม่ลืมความประทับใจที่เคยได้เจอ
มันจะเป็นความทรงจำที่สวยงามเสมอ . .. ไม่ว่านานเท่าไร

.. . ตัวฉันก็เป็นคนหนึ่งซึ่งเป็นแบบนั้น . ..
จึงวนเวียนอยู่ในที่ที่สำคัญ . .. ไม่จากไปไหน
เฝ้าดูคนเขียนฝันที่ผ่านแล้วผ่านไป
ด้วยหวังว่าสักวันคงพบกันใหม่ . .. อีกครา

.. . แต่ความจริงกลับไม่เป็นอย่างฝัน . ..
หลายชื่อนับพันวัน . .. ยังหายหน้า
รอจนดาวหางฮัลเล่ย์โคจรมาเยือนโลก . .. คุณก็คงจะยังไม่กลับมา
เพราะมีสิ่งอื่นน่าทำกว่า . . การกลับมา “บ้านกลอนไทย”

บ้านกลอนไทย . .. คงเป็นพื้นที่ที่ใคร-ใครก็ลืม
แม้แต่คนที่ฉันเคยปลื้ม . .. ก็ยังเงียบหาย
จนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจากเป็นหรือจากตาย
คำถามที่วนเวียนในหัวมากมาย . ..
คนที่จะทำให้หายสงสัยได้ . .. ก็มีเพียงแค่ “คุณ”~*




 47 
 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2023, 05:11:AM 
เริ่มโดย ไผ่เดียวดาย - กระทู้ล่าสุด โดย แป้งน้ำ


แหวนที่ไร้เจ้าสาว . . . ก็ยังเอาแหวนไปขายแลกเงินได้
หรือจะเก็บไว้รอรักครั้งใหม่ . .. รอคนที่เห็นคุณค่า
คุณค่าของมันมีแต่จะทวีเพิ่มราคา
แต่สาวที่ไร้เจ้าบ่าวนี่สิ . .. ชอกช้ำกว่า~
ใช้ทั้งชีวิตตามหา . .. ก็ยังไม่เจอ

ที่เห็นว่าเป็นโสด . . ไม่ใช่สมัครใจ
แต่เป็นเพราะยังไม่มีใคร .. . จริงจังเสมอ
ป้าข้างบ้านก็เผือกตลอดว่า “ทำไมยังไม่แต่งงานล่ะเธอ”
ถ้าหาหลัวมันง่ายเหมือนกับการสั่งยำสามเกลอ~
ฉันคงออเดอร์ผ่านแกร๊บฟูดมารัว-รัว~*

ซุบซิบนินทา






 48 
 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2023, 04:38:AM 
เริ่มโดย เฮยอิง - กระทู้ล่าสุด โดย แป้งน้ำ


สายลมยังพัดโบกทักทาย
เกลียวคลื่นยังซัดคืนผืนทราย . .. เสมอ-เสมอ
ดวงตะวันยังสลับกับดวงจันทร์ทำหน้าที่~
. .. ให้โลกใบนี้งามเลิศเลอ
เหมือนดวงใจฉันที่ไม่เคยไผลเผลอ .. . ลืมเธอเช่นกัน

ไม่ว่านานแค่ไหนฉันก็ยังอยู่ตรงนี้
เพียงเธอหวนกลับมานะคนดี . .. ก็จะเจอฉัน
ได้ไหม? ขอให้เราเป็นที่พึ่งสุดท้ายของกันและกัน
จะอยู่ในฐานะอะไรก็ได้ทั้งนั้น~
.. . ขอแค่ยังมีกันและกัน . .. ก็พอ~*

แหะๆ .. . ไม่ได้เล่นเฟสบุคนานจนลืมรหัสผ่านอ่ะค่ะ
นี่ถ้าลืมรหัสบ้านกลอนหรือบ้านกลอนปิดไปก็คงหายสาปสูญไปจากชีวิตเฮยอิงเลยแหละ
TikTok, Ig ก็ไม่ได้เล่น ทำงาน กลับบ้าน ดูแมะ ดูโหนย้อนหลัง วนไปแบบนี้ทุกวัน
ขอบคุณนะคะที่ยังนึกถึงกันเสมอ ~*

 อายจัง

 49 
 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2023, 03:38:AM 
เริ่มโดย hort39 - กระทู้ล่าสุด โดย แป้งน้ำ



วันคืนที่ ผ่านไป พาใจเศร้า
ยังไร้เงา คนดี ที่เป็นเพื่อน
คนที่เคย บอกว่า จะมาเยือน
หลายปีเดือน เคลื่อนคล้อย รอคอยเธอ

คนคนนั้น เคยเวียน เขียนกลอนทัก
และสอนฉันทลักษณ์ ให้เสมอ
เคยคิดว่า อย่างไร คงได้เจอ
ก็รอเก้อ เคว้งคว้าง ข้างบ้านกลอน

โลกออนไลน์ ตอนนี้ มีหลายช่อง
เลยเลิกส่อง เว็บไซด์ ไม่เหมือนก่อน
คงลืมคน คอยไว้ ไม่อาทร
แม้เว้าวอน ให้กลับ ก็ลับตา.





 50 
 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2023, 06:21:PM 
เริ่มโดย @free - กระทู้ล่าสุด โดย @free
     

     ส่วนที่1 กล่าว
บุษบา   

       


      แต่งกลอนกลบทครั้งแรก เรียนจาก ครู “คอนพูทน”
           กบเต้นสามตอน

กล่อมไพร
๏ แรมทางร่างถ้อยร้อยถัก
โชยลมชมลักษณ์ชักหลง
บัวจางบางจันทร์บรรจง
เสกขานสานคง..ส่งคำ


๏ ชื่นห่มชมห่อช่อเหิน
เพียงชิดพิศเชิญเพลินฉ่ำ
พลอยรินพิณเร่งเพลงรำ
คืนพราวคราวพร่ำ..ค่ำไพร


๏ มืดล่องมองลานม่านเลื่อน
รอยหมายรายเหมือนเรือนไหม
อุ่นจันทร์อันจรอ้อนใจ
ชุ่มเน้นเช่นใน..ใช่นี้


๏ วาดฟ้าว่าฟ้อนวอนฝัน
กรุ่นน้อมกล่อมนั่นกลั่นนี่
แขดวงควงดลคนดี
ศิลป์ช้อยสร้อยชี้..ศรีชม


๏ กลางไพรไกลเพื่อนเกลื่อนพร่าง
เพลินสรรพลันสร้างพลางสม
เชิญครวญชวนคลายฉายคม
ผ่องเถิดเพริศถม..พรหมทัก


๏ จารพจน์จรดเพียงเจรียงผอง
ขัดสานขานซ้องครองศักดิ์
หยาดนิ่มยิ้มนวลยวนนัก
โปรดรินปิ่นรักษ์..ปักเรียง ๚ะ๛
                 คอนพูทน


เมื่อรักมักร่ามาร่าย
เชิงยักชักย้ายชายหยิง
เริงอ้อนร่อนอ้างร่างอิง
ช่างยวนชวนยิ่งชิงเย้า

สุดร้างสร่างรินสิ้นรัก
เมินสิ้นหมิ่นศักดิ์มักเศร้า
เสียรอยสร้อยร้องสองเรา
มัวท่องหมองเท่าเมาๆทาง
                             @free


          กลอนแปดสัมผัสพัฒนา
                             
               กลอนวันนี้ยากมาก ยากจริง เขียนแลัวติด ติดแล้วแก้ แก้วแล้วรื้อเขียนใหม่ อยู่หลายวัน ยากระดับเดียวกับ คิดแล้วติดขัดกลอนแปดสัมผัสรอบแรก จนต้องเลิกเขียนกลอนไปหลายปี เกือบเลิกไปตลอดชีวิต
          การแก้ไขแปดสัมผัสครั้งแรก ใช้คำคู่สร้อยจากกลบทสร้อยคู่สักคราญ เพื่อต้องการคำสร้อย มาส่งสัมผัสกันแทน ตำหรือวลีที่เป็นสามพยางค์ แต่ว่าผมสลับคู่คำสร้อยวางไว้ต้นวรรคโดย คำสร้อยคู่หนึ่งอยู่ที่วรรค1กับวรรค3  อีกคู่หนึ่งอยู่ที่วรรค2 กับวรรค4
กลายเป็นการส่งสัมผัสข้ามวรรค แบบวรรคเว้นวรรค ซึ่งพูดได้ว่า ไม่มีผังสัมผัสแบบนี้ ในฉันทลักษณ์กลอนใดๆ
จึงจะต้องพัฒนา ให้คำแปดสัมผัส ครบอยู่ในวรรคเดียวกันทุกวรรค
และพบว่ากลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ ไม่สามารถนำมาแต่งเป็นแปดสัมผัสได้

นึกถึงกลบทกบเต้น เพราะครู คอนพูทน บอกว่า ยังมีกบเต้นที่เป็นสามพยางคฺ์.
นึกอยู่ว่าจะนำมาใช้กับกลอนแปดสัมผัส

       

ค้นหาดูจนพบ
            กลบทกบเต้นสลักเพชร   คำ/ประพันธ์ในตำรากลบทiศิริวิบุลกิตติ์


             ใจรำคิดจิตรรำคาญจ้านแรงแค้น                                           โศกอกเหน้าเศร้าอกแน่นแสนอางขนาง                                  เจ็บทรวงร้อนจรทรวงรักจักทรงร้าง                                               สุดใจหมางส่างจิตรหมายสายจวนมรณ์
               
ใจแรกหากจากรักหวนจวนร่ำหา                                               รักใจถ้าราใจถึงรึงใจถอน                                          สุดจะแรงแสงจะรั้งสั่งจักรอน                                               กำม์มาทอนก่อนมากแท้แก้มือแทน……

เป็นกลอนเก้า มีข้อน่าสังเกตุว่า ส่งสัมผัสระหว่างวรรคโดย คำสุดท้ายของวรรคแรก ส่งสัมผัสไปได้ทั้งคำทีสามหรือคำที่หกของวรรคหลัง

อย่างไรก็ตาม คิดว่านำมาแปลง เป็นสร้อยสลับคู่สะคราญแปดสัมผัสได้ ด้วยการตัดคำในทุกวรรคพเหลือแปดคำ และ เพื่อไม่ให้ดูรกสัมผัส ควรตัดสัมผัสลงหนึ่งตำแหน่งทึ่ตำที่หกกับคำที่เจ็ด หรือไม่ตัดก็ ”ตามใจ”





ส่วนที่2 กลอน



    ......มาเมื่อตอนโสดไซร้เมียไม่มี....


               
     กบเต้นสามตอน

ไพรสงบพลบสงัดผลัดสงวน   ครูทบครบถ้วนครวญถี่
วารเร่เวลาวารี   หวังแพรวแววพลีกวีไพร

กบเต้นสลักเพชร

คำบาทกลค้นบทกานท์ขานแบบก่อ   เริ่มแตกหน่อรอเติบเนียนเรียนแต่ไหน   
ขีดใช้เวียนเขียนช่องวงคงชื่อไว้   คนผู้ไทย(เชื้อ)ไขภูธรคอนพูทน

กบเต้นสร้อยสลับคู่แปดสัมผัส

สายลมหนาวสาวและหนุ่มเกรงกรุ่น     รักมักวุ่นรุนเหมือนวัยสับสน
สายลมหนอส่อลาแนวผ่านพ้น     รักมักวนรนเมื่อวันจากจร

เตือนเรื่องจริงติงรู้จรรจ์กลกานท์    คิดเพื่อสมานชานเพียงเสมือนสื่อสอน 
เตือนเรื่องจำตำราแจงเกลากลอน   คิดเพื่อสมรค่อนเพื่อหมายคอยเคียง
 
ลมหนาวแปรแลนางแปลงหันหวล     แผกสำนวนผวนสำเนาหลบเลี่ยง
ลมหนาวปรวนรวนหนอเปลี่ยนเมินเมียง    แผกสำเนียงเพียงเสียนางครางครวญ



             [cenemo_79[/center]

หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s