คืนฟ้าหม่นคนหมองนั่งมองฟ้า
ทอดสายตาไปไกลไร้จุดหมาย
หัวใจเหงาเปล่าเปลี่ยวอยู่เดียวดาย
คล้ายแพ้พ่ายบางอย่างอ้างว้างใจ
ยังจำภาพคนดีทุกทีท่า
ซึ้งคุณค่าไมตรีที่มีให้
อยากจะรับเก็บแอบแนบทรวงใน
ก็ทำได้เพียงแต่แค่ขอบคุณ
ทั้งทั้งที่ในใจนั้นไหวหวั่น
เคยผูกพันช่วยเหลือคอยเกื้อหนุน
ได้ซึมซับความอาทรอ่อนละมุน
พอเริ่มคุ้นก็จำจักต้องหักใจ
เพราะฉันเป็น คนว้าเหว่ ร่อนเร่นัก
มิอาจพักใจลงที่ตรงไหน
เหมือนดังคนโดดเดี่ยวท่องเที่ยวไป
ชีวิตไร้จุดหมายตราบวายปราณ
ขอเป็นผู้ที่ผ่านมาพานพบ
ได้ประสบธารน้ำชื่นฉ่ำหวาน
แล้วก็ต้องจากไกลไปตามกาล
มิอาจหาญหยุดอยู่เพื่อผู้ใด
อยากให้ฟ้าสีหม่นของคนหมอง
เปลี่ยนเป็นฟ้าสีทองงามผ่องใส
ลบความเศร้าหมองหม่น...ก็จนใจ
ฉันทำได้แค่ "ฝัน" เท่านั้นเอง.............
ชังทำไม ใจเอ๋ย อย่าเลยลับ
ลับแล้วกลับ มาใหม่ เหมือนใจหวัง
หวังฤดี ที่ถวิล ไม่ภินท์พัง
พังจนแม้ ความหลัง ยังลางเลือน
เลือนลาลับ กลับจิต มาคิดถึง
ถึงที่ขึ้ง เพียงใด ใครจะเหมือน
เหมือนเมื่อเป็น เช่นมิตร ไม่บิดเบือน
เบือนแล้วเตือน ความหลัง ครั้งชื่นชม
ชมว่าซื่อ ถือรัก ภักดีมั่น
มั่นกลับผัน ไยคืน ให้ขื่นขม
ขมกว่าขม ขื่นใด คือใจตรม
ตรมถูกถม ทับทุกข์ ทุกคืนวัน
วันแสนหวาน ผ่านชื่น ไม่คืนกลับ
กลับร้างลับ เลือนไกล เกินไหวหวั่น
หวั่นคมคด ลดเลี้ยว เกลียวสัมพันธ์
พันคนนั้น ซื่อมี สักกี่คน