กระต่ายหมายจันทร์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤษภาคม 2024, 04:11:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กระต่ายหมายจันทร์  (อ่าน 9681 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
30 พฤษภาคม 2012, 07:44:AM
น้ำค้างกลางจันทร์
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 37



« เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2012, 07:44:AM »
ชุมชนชุมชน





กระต่ายน้อย ชะแง้ แลแขเด่น
ยังคงเห็น แขพร่าง อยู่กลางหาว
เฝ้าชื่นชม มองแข แหย่หยอกดาว
ยังคงเฝ้า วันแข แลมองมา

กระต่ายน้อย คอยวัน จันทร์ฝากรัก
แล้วสลัก อักษร กลอนภาษา
ฝากคำรัก มั่นหมาย กระต่ายมา
กับดารา คืนฝนพรำ หรือค่ำแรม

จันทร์ยังเด่น ยังอยู่ ยังดูเห็น
แม้จะเป็น คืนฝนพรำ เมฆดำแต้ม
แม้เดือนดับ ฟ้าคล้ำ หรือค่ำแรม
จันทร์ยังแย้ม สว่างใส กลางใจจันทร์

กระต่ายน้อย คอยแลแม้ไกล ใจไม่ห่าง
จันทร์อยู่กลาง ดวงใจ แม้ในฝัน
กาลจะผ่าน วันจะเปลี่ยน หมุนเวียนวัน
จะรักจันทร์ เหมือนเก่า เท่าชีวา

แม้โสมเสี้ยว เกี่ยวฟ้า ตั้งตาจ้อง
ยังนั่งมอง จันทร์เสี้ยว เกี่ยวเวหา
รู้ทั้งรู้ ไม่อาจแข่ง แสงดารา
แต่รู้ว่า จันทร์ยังอยู่ คู่ราตรี

กี่ทิวา กี่ราตรี ไม่มีหวั่น
ยังมีจันทร์ แม้ถึงวัน จันทร์ห่างหนี
จันทร์จะอยู่ แม้เนิ่นนาน ผ่านกี่ปี
อยู่ตรงนี้ กลางใจฉัน แค่นั้นพอ

เพราะจันทร์อยู่ ตรงนี้ ที่จันทร์อยู่
ใช่ฟ้าหรู จันทร์อยู่ไหน รู้ไหมหนอ
อยู่กลางใจ กระต่าย ผู้หมายรอ
แม้ต้องทน แหงนคอ รออีกไกล

ความเป็นจริง จันทร์สูงเด่น เห็นเห็นอยู่
ได้แค่ดู จันทร์ลอย เกินสอยไหว
กระต่ายน้อย ได้เพียงฝัน ถึงจันทร์ไกล
แล้วสอนใจ สอนสั่ง นั่งมองเจียม....

******************
<a href="http://www.youtube.com/v/Rw0VKpGjmiA&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/Rw0VKpGjmiA&amp;rel=0&amp;fs=1</a>


ขออนุญาต...คนที่เคยต่อกลอนนี้ด้วยกัน
คืนนี้ก็ไม่ต่างกับคืนนั้น....
จันทร์ดวงเดิม หน้าต่างบานเดิม ความรู้สึกเดิม...เดิม

ต่างกันเพียง เราจำ...เขาลืม
คืนนี้...จึงต้องนั่งเขียนกลอนนี้ขึ้นมาใหม่....เพียงลำพัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, เปรียว, Music, รพีกาญจน์, อริญชย์, สุนันยา, panthong.kh, สะเลเต, บูรพาท่าพระจันทร์, D, Prapacarn ❀, ไม่รู้ใจ, ดุลย์ ละมุน, sunthornvit, รการตติ, peangrug

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

“หัวใจ”เหมือนผืนดินว่างเปล่า
หากไร้ปัญญาหากล้าพันธุ์ดี
ก็อย่าหาวัชพืช...ปลูกลงแปลง

ขอขอบคุณทุกแรงบันดาลใจ ภาพและเสียง จาก Internet
30 พฤษภาคม 2012, 08:32:AM
Music
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 754
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,682


ขว้างไปยิ่งแรง-ยิ่งกลับมาเร็ว


« ตอบ #1 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2012, 08:32:AM »
ชุมชนชุมชน

น้อยใจแล้วด้วย

จะไม่ถามความนัยให้เธอเจ็บ
รู้ว่าเก็บความหมายที่อายเหนียม
ขอแค่เพียงเคียงจันทร์สัมพันธ์เรียม
จะแท้เทียมในใจก็ไม่แคร์

ชินหรือยังแข็งกร้าวแต่ร้าวลึก?
ฉันไม่นึกว่าสำคัญเห็นพันแผล
คงจะมีที่หมายชายตาแล
คนรังแกคนรักษาคงหาเจอ

ถึงวันนี้...คงพอรอพิสูจน์
ที่ดื่มดูดเคียงผสมมันขมเหรอ?
ฉันต่างหากอยากง้อว่ารอเธอ
จะปรนเปรอจนตาย...เช่นชายครวญ

 เคารพรัก





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, สุนันยา, สะเลเต, ดาว อาชาไนย, บูรพาท่าพระจันทร์, น้ำค้างกลางจันทร์, D, ไม่รู้ใจ, ดุลย์ ละมุน, เนิน จำราย, sunthornvit, รพีกาญจน์, peangrug, suriyawut

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

...อย่าคิดว่ายาก.แต่ทำได้../..ควรทำให้ได้.แม้มันจะยาก...
30 พฤษภาคม 2012, 09:10:AM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #2 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2012, 09:10:AM »
ชุมชนชุมชน


เพียงดอกหญ้าอย่างเราเขาไม่สน
รักจึงยอมพร้อมทนทุกข์ล้นเปี่ยม
เตือนหัวใจหลายครั้งยังไม่เจียม
มิอาจเปรียบเทียบเทียมเจียมตนไว้

เพราะกระต่ายหมายจันทร์อันเลอค่า
แค่ดอกหญ้าเคียงดินถิ่นอาศัย
มิเลอเลิศเพริศแพร้วแวววิไล
ถึงอยู่ใกล้กันนิด..ไม่คิดมอง

เธอชะเง้อเพ้อหาทุกคราค่ำ
คืนฝนพรำจำทนยืนหม่นหมอง
ใจเธอนั้นจันทร์งามตามครอบครอง
ดอกหญ้าต้อง!!!!...เตรียมใจรับพ่ายแพ้

ขอมองดูอยู่ไกลไกลในที่ฉัน
คืนเพ็ญจันทร์จ้องเธอชะเง้อแข
ชื่มชมเธอจากใจไม่ผันแปร
จันทร์คงแล...เหลี่ยวมาหาสักครั้ง

ขอแจมด้วยนะคะ...เคยต่อกับเพื่อนไว้
---สะเลเต---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, น้ำค้างกลางจันทร์, D, รพีกาญจน์, สุนันยา, Music, ไม่รู้ใจ, ดุลย์ ละมุน, เนิน จำราย, sunthornvit, รการตติ

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 พฤษภาคม 2012, 09:22:AM
น้ำค้างกลางจันทร์
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 37



« ตอบ #3 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2012, 09:22:AM »
ชุมชนชุมชน

น้อยใจแล้วด้วย

จะไม่ถามความนัยให้เธอเจ็บ
รู้ว่าเก็บความหมายที่อายเหนียม
ขอแค่เพียงเคียงจันทร์สัมพันธ์เรียม
จะแท้เทียมในใจก็ไม่แคร์

ชินหรือยังแข็งกร้าวแต่ร้าวลึก?
ฉันไม่นึกว่าสำคัญเห็นพันแผล
คงจะมีที่หมายชายตาแล
คนรังแกคนรักษาคงหาเจอ

ถึงวันนี้...คงพอรอพิสูจน์
ที่ดื่มดูดเคียงผสมมันขมเหรอ?
ฉันต่างหากอยากง้อว่ารอเธอ
จะปรนเปรอจนตาย...เช่นชายครวญ

 เคารพรัก








ถึงไม่ตอบก็รู้ว่าดูออก
เพราะหยิกหยอกตรงชัดดุจหมัดสวน
หากเป็นมวยคงแย่แพ้กระบวน
ต้องเซซวนล้มหงายพ่ายคามือ

จริงอย่างว่าชินชาแต่ว่าเจ็บ
เหมือนเป็นเหน็บเจ็บหายจะคลายหรือ
อาจไม่ถึงหม่นหมางครางฮืฮ..ฮือ
แต่ยังครือคลอเบ้าเศร้าจางจาง

ถึงวันนี้ปล่อยวางทางความคิด
ไม่มีจิตไขว่สูงดูหงส์หาง
ปล่อยหงส์สวยบินไกลไปตามทาง
นกกระยางแค่ทวงถามความทรงจำ
********************

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, D, รพีกาญจน์, สุนันยา, Music, สะเลเต, ไม่รู้ใจ, ดุลย์ ละมุน, sunthornvit, รการตติ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

“หัวใจ”เหมือนผืนดินว่างเปล่า
หากไร้ปัญญาหากล้าพันธุ์ดี
ก็อย่าหาวัชพืช...ปลูกลงแปลง

ขอขอบคุณทุกแรงบันดาลใจ ภาพและเสียง จาก Internet
30 พฤษภาคม 2012, 10:05:AM
บูรพาท่าพระจันทร์
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 848
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,717


ผู้นิยม..ชมรส..บทกานท์กลอน./


« ตอบ #4 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2012, 10:05:AM »
ชุมชนชุมชน


เพียงดอกหญ้าอย่างเราเขาไม่สน
รักจึงยอมพร้อมทนทุกข์ล้นเปี่ยม
เตือนหัวใจหลายครั้งยังไม่เจียม
มิอาจเปรียบเทียบเทียมเจียมตนไว้

เพราะกระต่ายหมายจันทร์อันเลอค่า
แค่ดอกหญ้าเคียงดินถิ่นอาศัย
มิเลอเลิศเพริศแพร้วแวววิไล
ถึงอยู่ใกล้กันนิด..ไม่คิดมอง

เธอชะเง้อเพ้อหาทุกคราค่ำ
คืนฝนพรำจำทนยืนหม่นหมอง
ใจเธอนั้นจันทร์งามตามครอบครอง
ดอกหญ้าต้อง!!!!...เตรียมใจรับพ่ายแพ้

ขอมองดูอยู่ไกลไกลในที่ฉัน
คืนเพ็ญจันทร์จ้องเธอชะเง้อแข
ชื่มชมเธอจากใจไม่ผันแปร
จันทร์คงแล...เหลี่ยวมาหาสักครั้ง

ขอแจมด้วยนะคะ...เคยต่อกับเพื่อนไว้
---สะเลเต---


ลาตายดีกว่าตู

โอ้อกเอยเคยช้ำยังพร่ำหา
มินำพาว่ากมลแต่หนหลัง
รักมลายกลายเร้นกลับเป็นชัง
เคยวาดหวังพังพินาศสวาทวาย

รู้ทั้งรู้อยู่เต็มจิตนิจจาเอ๋ย
หากปล่อยเลยเฉยนิ่งยิ่งใจหาย
แม้นรสรักจักหมดอดเสียดาย
เคยเคียงกายชายอยู่ยังรู้จำ

เปรียบกระต่ายหมายจองเพื่อปองแข
ชะเง้อแลชะแง้รอลออขำ
เหมือนคร่ำครวญชวนสดับขับลำนำ
ร่วมเริงร่ายส่ายระบำครั้งปรัมปรา

ใจเอยใจไยปลื้มมิลืมหลง
ฤารักคงยงยืนชื่นหนักหนา
คงเวรกรรมซ้ำทรามติดตามมา
เจตนาพร่าผลาญให้รานรอน...


 เคารพรัก

บูรพาท่าพระจันทร์
[/i][/font][/size][/color]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, น้ำค้างกลางจันทร์, สะเลเต, ไม่รู้ใจ, ดุลย์ ละมุน, เนิน จำราย, สุนันยา, sunthornvit, รการตติ, อริญชย์, D

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
30 พฤษภาคม 2012, 10:10:AM
น้ำค้างกลางจันทร์
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 37



« ตอบ #5 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2012, 10:10:AM »
ชุมชนชุมชน


เพียงดอกหญ้าอย่างเราเขาไม่สน
รักจึงยอมพร้อมทนทุกข์ล้นเปี่ยม
เตือนหัวใจหลายครั้งยังไม่เจียม
มิอาจเปรียบเทียบเทียมเจียมตนไว้

เพราะกระต่ายหมายจันทร์อันเลอค่า
แค่ดอกหญ้าเคียงดินถิ่นอาศัย
มิเลอเลิศเพริศแพร้วแวววิไล
ถึงอยู่ใกล้กันนิด..ไม่คิดมอง

เธอชะเง้อเพ้อหาทุกคราค่ำ
คืนฝนพรำจำทนยืนหม่นหมอง
ใจเธอนั้นจันทร์งามตามครอบครอง
ดอกหญ้าต้อง!!!!...เตรียมใจรับพ่ายแพ้

ขอมองดูอยู่ไกลไกลในที่ฉัน
คืนเพ็ญจันทร์จ้องเธอชะเง้อแข
ชื่มชมเธอจากใจไม่ผันแปร
จันทร์คงแล...เหลี่ยวมาหาสักครั้ง

ขอแจมด้วยนะคะ...เคยต่อกับเพื่อนไว้
---สะเลเต---



คำอวยพรน้อมรับแต่กลับสาย
จันทร์เจ้าหายฝากใจให้เขาขัง
ซ้ำยังมีเมฆคล้อยมาย้อยบัง
เหนื่อยใจจังชังฟ้าชะตาตัว

เพราะไม่เจียมไม่จำจึงช้ำหนัก
ใผ่สูงนักมองจันทร์น่าขันหัว
เปรียบอึ่งอ่างจองหองลำพองตัว
จนเมามัวใบ้บ้าน่าอายใจ

มัวชะแง้แลฟ้าจนหน้าตั้ง
เมื่อผิดหวังก้มดิ้นกับดินไหม
มัวแต่วิ่งไขว่คว้าหาคนไกล
จนมองไปไกลพ้นคนใกล้ตา

ถึงวันนี้หมดสิทธิ์คิดเรียกร้อง
จะจับจองเจ้าใจใครแล้วหนา
หากวันนั้นไม่เห็นดินสิ้นราคา
คงจะมี ดอกหญ้าแช่ “แจกันใจ”
********************

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, สะเลเต, ไม่รู้ใจ, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, sunthornvit, รการตติ, อริญชย์, D

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

“หัวใจ”เหมือนผืนดินว่างเปล่า
หากไร้ปัญญาหากล้าพันธุ์ดี
ก็อย่าหาวัชพืช...ปลูกลงแปลง

ขอขอบคุณทุกแรงบันดาลใจ ภาพและเสียง จาก Internet
30 พฤษภาคม 2012, 10:21:AM
Music
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 754
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,682


ขว้างไปยิ่งแรง-ยิ่งกลับมาเร็ว


« ตอบ #6 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2012, 10:21:AM »
ชุมชนชุมชน

ถึงไม่ตอบก็รู้ว่าดูออก
เพราะหยิกหยอกตรงชัดดุจหมัดสวน
หากเป็นมวยคงแย่แพ้กระบวน
ต้องเซซวนล้มหงายพ่ายคามือ

จริงอย่างว่าชินชาแต่ว่าเจ็บ
เหมือนเป็นเหน็บเจ็บหายจะคลายหรือ
อาจไม่ถึงหม่นหมางครางฮืฮ..ฮือ
แต่ยังครือคลอเบ้าเศร้าจางจาง

ถึงวันนี้ปล่อยวางทางความคิด
ไม่มีจิตไขว่สูงดูหงส์หาง
ปล่อยหงส์สวยบินไกลไปตามทาง
นกกระยางแค่ทวงถามความทรงจำ
*****คุณน้ำค้างกลางจันทร์*****

น้อยใจแล้วด้วย
ความทรงจำสีจางจาง..ในบางช่วง
มันขื่นคล้ำดำม่วงจนน่าขำ
ให้ยอมรับด้วยไหมว่าใจดำ
เมื่อกระต่ายเจ้ากรรมชอบอำพราง

จันทร์ไม่ใช่ผู้เดียวที่เลี้ยวลด
เพียงประชด..เผชิญความเมินหมาง
เมื่อหมอกเมฆความเหงาสีเทาจาง
มากั้นกลาง..ทิฐิ..ก็ผลิบาน

รักหรือเปล่า?ตอบมาแม้ว่า.."ใช่"
อย่ารอให้ถึงขั้น..วันประหาร
นกกระเรียนเพียรท้อ...ทรมาน
เปรียบว่าปานสิ้นใจเมื่อไกลกัน

ทิ้งภาพความทรงจำ...ที่ดำด่าง
อยู่ระหว่างวาดซ้ำให้ช้ำขวัญ
เลือกถนอมภาพจางในบางวัน
ยิ่งผูกพัน...คร่ำครวญ..เจ็บจวนตาย

<a href="http://www.youtube.com/v/EIj3bnuLDeE&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/EIj3bnuLDeE&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, น้ำค้างกลางจันทร์, สะเลเต, ไม่รู้ใจ, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, sunthornvit, รพีกาญจน์, รการตติ, อริญชย์, D

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

...อย่าคิดว่ายาก.แต่ทำได้../..ควรทำให้ได้.แม้มันจะยาก...
30 พฤษภาคม 2012, 12:18:PM
น้ำค้างกลางจันทร์
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 37



« ตอบ #7 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2012, 12:18:PM »
ชุมชนชุมชน

เพราะอยากเก็บความทรงจำมาย้ำสุข
แม้มีทุกข์ปนแซมแจมถวาย
แต่ในยามเปล่าเปลี่ยวอยู่เดียวดาย
ก็ผ่อนคลายเมื่อระลึกนึกถึงมัน

จึงเก็บสิ่งดีๆที่ตกหล่น
มารวมคนจนผลึกลึกในฝัน
เก็บถนอมภาพบ้างในบางวัน
เก็บภาพนั้นมาให้ใจคำนึง

ในบางคราคล้ายคลาไม่ลาจาก
ลมจากปากยังละมุนอบอุ่นถึง
ความห่วงหวงห่วงหาจึงตราตรึง
ยามคนึงจึงเหมือนไม่เคลื่อนลา

จึงยิ้มได้แม้น้ำตาพร่าสองแก้ม
จึงยังแต้มความสุขในทุกขา
แม้ครวญคร่ำร่ำบ้างในบางครา
แต่รู้ว่าที่แท้....แค่...ความทรงจำ

**************************
<a href="http://www.youtube.com/v/cspXDPJwkX0&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/cspXDPJwkX0&amp;rel=0&amp;fs=1</a>


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ  ยิ้มให้จ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, รการตติ, รพีกาญจน์, อริญชย์, Music, D, บูรพาท่าพระจันทร์, สะเลเต, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

“หัวใจ”เหมือนผืนดินว่างเปล่า
หากไร้ปัญญาหากล้าพันธุ์ดี
ก็อย่าหาวัชพืช...ปลูกลงแปลง

ขอขอบคุณทุกแรงบันดาลใจ ภาพและเสียง จาก Internet
30 พฤษภาคม 2012, 12:28:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #8 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2012, 12:28:PM »
ชุมชนชุมชน



เคยได้ฟัง ผู้เฒ่า ท่านเล่าว่า
กระต่ายหมายจันทรา คราเฉิดฉาย
หวังชมโฉม จันทร์เจ้า พราวพริ้มพราย
จึงพากาย  เยี่ยมเย้า กระเซ้าจันทร์

แต่หาเป็น เช่นกระต่าย ที่หมายจ้อง
ทุกสิ่งมอง ปองเห็น ดังเช่นฝัน
ความว่างเปล่า หลุมบ่อ ก่อรวมกัน
บนพื้นผิว ผกผัน ให้หวั่นใจ

หลงรูปเพียง ผิวเผิน เพลินสนอง
จึงหม่นหมอง ร้องร่ำ ช้ำหวั่นไหว
โอ้จันทรา สวยผ่อง เมื่อมองไกล
หากแต่เห็น เนื้อใน ร่ำไห้ครวญ

คงเป็นอุทาหรณ์ วอนบอกเล่า
จากผู้เฒ่า เตือนไว้ ให้คิดหวน
งามรูปโฉม หรือจิตใจ ให้ทบทวน
ทุกสิ่งล้วน ประจักษ์ได้ เมื่อไตร่ตรอง

เหมือนใบหน้า ผ่องพรรณ อันงามงด
แต่ดวงใจ เคี้ยวคด รันทดหมอง
มิได้งาม ตามค่า  หน้าชวนมอง
มิใช่ทอง  ยองใย เช่นใจตน

แต่อีกหนึ่ง ยากค้นงาม ตามใบหน้า
เทียวเสาะหา  พาจ้อง มองสับสน
แต่ใจอาจ งามวิไล ชวนให้ยล
คือข้อเปรียบ เทียบผล คนโบราณ....

“สุนันยา”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รการตติ, น้ำค้างกลางจันทร์, รพีกาญจน์, อริญชย์, Music, D, บูรพาท่าพระจันทร์, สะเลเต, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
31 พฤษภาคม 2012, 11:54:AM
น้ำค้างกลางจันทร์
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 37



« ตอบ #9 เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2012, 11:54:AM »
ชุมชนชุมชน


เคยได้ฟัง ผู้เฒ่า ท่านเล่าว่า
กระต่ายหมายจันทรา คราเฉิดฉาย
หวังชมโฉม จันทร์เจ้า พราวพริ้มพราย
จึงพากาย  เยี่ยมเย้า กระเซ้าจันทร์

แต่หาเป็น เช่นกระต่าย ที่หมายจ้อง
ทุกสิ่งมอง ปองเห็น ดังเช่นฝัน
ความว่างเปล่า หลุมบ่อ ก่อรวมกัน
บนพื้นผิว ผกผัน ให้หวั่นใจ

หลงรูปเพียง ผิวเผิน เพลินสนอง
จึงหม่นหมอง ร้องร่ำ ช้ำหวั่นไหว
โอ้จันทรา สวยผ่อง เมื่อมองไกล
หากแต่เห็น เนื้อใน ร่ำไห้ครวญ

คงเป็นอุทาหรณ์ วอนบอกเล่า
จากผู้เฒ่า เตือนไว้ ให้คิดหวน
งามรูปโฉม หรือจิตใจ ให้ทบทวน
ทุกสิ่งล้วน ประจักษ์ได้ เมื่อไตร่ตรอง

เหมือนใบหน้า ผ่องพรรณ อันงามงด
แต่ดวงใจ เคี้ยวคด รันทดหมอง
มิได้งาม ตามค่า  หน้าชวนมอง
มิใช่ทอง  ยองใย เช่นใจตน

แต่อีกหนึ่ง ยากค้นงาม ตามใบหน้า
เทียวเสาะหา  พาจ้อง มองสับสน
แต่ใจอาจ งามวิไล ชวนให้ยล
คือข้อเปรียบ เทียบผล คนโบราณ....
“สุนันยา”
คล้ายมะเดื่อสุกใสที่ใครว่า
มองด้วยตาหวานลิ้นกินคงหวาน
ดูข้างในเฟะฟอนหนอนไชทาน
อนุมานเปรียบปรายไว้คล้ายกัน

ธรรมชาติของคนไม่พ้นผิด
ด้วยไม่คิดตามคำธรรมรังสรรค์
อย่าเชื่อตาจ้องจับในฉับพลัน
เพราะสิ่งนั้นอาจไม่เป็นเช่นตามอง

ใช้สัมผัสไม่ครบเลยจบเจ็บ
สัมผัสเก็บฉาบฉวยเลยซวยหมอง
หลงตะกั่วชุบชั่งเหมือนดั่งทอง
เหมือนหลงปองหน้าใสคนใจดำ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดุลย์ ละมุน, Music, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

“หัวใจ”เหมือนผืนดินว่างเปล่า
หากไร้ปัญญาหากล้าพันธุ์ดี
ก็อย่าหาวัชพืช...ปลูกลงแปลง

ขอขอบคุณทุกแรงบันดาลใจ ภาพและเสียง จาก Internet
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s