มีพบก็มีพราก ขณะจากสะท้านเห็น
วารอันตะวันเย็น บ่มิดับระงับใจ
เพื่อนเรียนก็เพียรทัก เพราะตระหนักประจักษ์ไหว
เคยเล่นบ่เข่นใคร เกาะโต๊ะไว้จะได้ดี
อารมณ์ระทมท้อ ก็จะรอบ่ขอหนี
เจอกัน ณ ปอตรี สดุดีพระอาจารย์
เวลาสิอาลัย ขณะใจบ่ใคร่หวาน
ก่อนจบจะพบพาน เพราะสมัครสมานใจ.
................................
มั่วให้อีกคนนะ
น้องลองไปศึกษาได้ที่ห้องแต่งกลอนตามฉันทลักษณ์ดูนะ แล้วลองแต่งดูนะ
คำครุ
ได้แก่คำที่ประสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก กา เช่น กา ตี งู กับคำที่ประสมด้วยสระเสียงสั้นหรือยาวก็ได้ที่มีตัวสะกด เช่น นก บิน จาก รัง นอน และคำที่ประสมด้วยสระ อำ ไอ ใอ เอา ซึ่งถึอว่าเป็นเสียงมีตัวสะกดคำลหุ
ได้แก่คำที่ประสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา เช่น จะ ติ มุ เตะ และคำที่ใช้พยัญชนะคำเดียว เช่น ก็ บ่ ณ ธ นอกจากนี้คำที่ประสมด้วย สระอำ บางทีก็อนุโลมให้เป็นคำลหุได้ เช่น ลำ
คำลหุ เวลาเขียนเป็นสัญลักษณ์ ใช้เครื่องหมายเหมือนสระอุ แทน
หมายเหตุ
คำครุ ลหุ แยกตามสีนะ พี่ก็ลองหัดแต่งดูเหมือนกันไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า หุหุ