ความจริง...อันเป็นนิรันดร์(ตอน ตัวตน...คน)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
16 เมษายน 2024, 01:38:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความจริง...อันเป็นนิรันดร์(ตอน ตัวตน...คน)  (อ่าน 4271 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
28 สิงหาคม 2008, 07:45:PM
tna
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 141
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 788



« เมื่อ: 28 สิงหาคม 2008, 07:45:PM »
ชุมชนชุมชน



ตัวตน...คน
------------
รู้อะไร ไม่สู้ รู้ตัวตน
ความเป็นคน อยู่ที่ใด ใคร่ไถ่ถาม
ควาทเป็นคน หมายใด ถ้อยนัยความ
เขาวัดความ เป็นคนไว้ อย่างไรกัน

วัดด้วยชาติ ตระกูล อันสูงค่า
หรือเงินตรา มากมาย คล้ายดั่งฝัน
หรือความดี เลวชั่ว ทั่วอนันต์
หรือขีดชั้น การศึกษา ที่ว่ามี

จะใช้กฏ เกณฑ์ใด คงหมายยาก
คงลำบาก จะกำหนด กฏเกณฑ์นี้
ความเป็นคน อยู่ในตน หนฤดี
ใครช่วยชี้ ว่าตรงไหน คล้ายตัวตน

มีเพียงหนึ่ง เม็ดทราย พุทธเกษตร
ที่เป็นเหตุ ชี้ทาง สว่างหน
ให้มนุษย์ นั้นหมาย รู้ตัวตน
หายสับสน ความเป็นคน อยู่หนใด

ความเป็นคน หาได้ มีในโลก
อุปโหลก ขึ้นมา น่าหลงไหล
พากันแบ่ง ชนชั้น วรรณะไกล
หลงลืมไป ว่าคนหมาย ไร้ตัวตน

หากจะหมาย ตัวตน คนให้ได้
กำหนดไว้ เป็นนิยาม ความสับสน
ไม่สามารถ กำหนดได้ เป็นตัวตน
คงไม่พ้น เปรียบเทียบหมาย คล้ายจำนรรจ์

อันเม็ดทราย เกลื่อนมากมาย ในแหล่งหล้า
เพี่ยงหนึ่งเม็ด กลายมา เปล่งสีสรร
กลายเป็นเพชร เม็ดงาม ดั่งตะวัน
พุทธเกษตร เม็ดนั้น นั่นแหละคน

เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เวลา..คลาไคล้  วารี...รี่ไหล   ชีวี..เวียนว่าย  รำพัน...ฝันไป  อาลัย....เวลา
28 สิงหาคม 2008, 10:26:PM
มั่น แซลี้
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 136
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,124


กินเพื่ออยู่ แต่อยู่เพื่อน้องหมวย


« ตอบ #1 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2008, 10:26:PM »
ชุมชนชุมชน

ระยะทางพิสูจน์รถ
ความทรหดพิสูจน์คน
เกิดเป็นคนนั้นต้องอดทน
พิสูจน์ตนให้ผู้อื่นเห็นผลงาน
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 สิงหาคม 2008, 07:19:AM
tna
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 141
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 788



« ตอบ #2 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2008, 07:19:AM »
ชุมชนชุมชน



แค่เศษซากเดน
----------------
อันตัวตน คนหมาย คล้ายซากเน่า
เศษมูลเถ้า ที่มอดไหม้ กลายเป็นผง
เมื่อถึงวัน ละไป ในตัวตน
เศษซากพ้น คนรัก คนภักดี

มีแต่คน เกลียดกลัว ทั่วแหล่งหล้า
แม้ซากพา โศกเศร้า เคล้าวิถี
แห่งความหวง ห่วงหา อาวรมี
แต่ฤดี ไม่มีซาก กากเดนคน

มีแต่จิต ที่กระหวั่น สรรหาเสพ
กับมูลเหตุ ที่เกิดใน ใจมากล้น
กลับอดีต ที่หวนพับ มาเยี่ยมยล
มีกี่คน ที่จะสน คนซากเดน

เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน
 
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เวลา..คลาไคล้  วารี...รี่ไหล   ชีวี..เวียนว่าย  รำพัน...ฝันไป  อาลัย....เวลา
19 ตุลาคม 2008, 06:11:PM
tna
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 141
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 788



« ตอบ #3 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2008, 06:11:PM »
ชุมชนชุมชน



พินิจมอง
-------
สุริยัน พลันสาย เมื่อปลายแสง
แผดสำแดง ฤทธิ์ธา มหาศาล
ให้ความมืด หมดหายไปในกาล
เสพสำราญ สว่างใส ในนภา

ไม่ทันไร เสพไป ไม่ทันจบ
ก็ถูกลบ ออกไป ไกลหนักหนา
ความมืดครึ้ม ก็เข้าเลื่อน เยือนอีกครา
กลางเวหา ก็มัวพล่า น่าพรั่นพรึง

เพราะดวงใจ ดูไป คล้ายนภา
สว่างจ้า แล้วมืดมา ร่วมมัดขึง
ร้อยเรียงสับ ขยับไป ให้ตราตรึง
เป็นเกลียวขึง รวมไว้ ในใจเดียว

กลายเป็นจิต วิบัติ กาลเกิดก่อ
พบชาติรอ ให้จุติ ไม่เฉลียว
จิตกระหวั่น ขันธ์ทั้งห้า กลับมาเชียว
เผลอแป๊บเดียว ทะยานอยาก กำซาบใจ

หากได้ใช้ นิโรธนะ มากำหนด
จิตหมดจด ด้วยปัญญา พาสดใส
ก่อนจะถึง พึงผ่านศีล สมาธิไป
ขั้นตอนไซร้ เป็นลำดับ ขยับทำ

นี่จึ่งหมาย สว่างใจ คลายความมืด
เหือดแห้งจืด อวิชชา ไม่มาซ้ำ
จิตก็เบ่ง บานด้วยแสง แห่งพระธรรม
ปัญญานำ ความโง่หาย กลายเป็นจริง

หากมองใคร ในหัวใจ ให้เกิดก่อ
ความดีหนอ มองไป ให้ถวิล
ความชั่วช้า โง่เง่า อย่าประวิง
มองในสิ่ง ที่ดีงาม สำราญใจ

แต่ถ้าเป็น ตัวเราเอง เพ่งพินิจ
ในดวงจิต อกุศล ปนบ้างไหม
เพราะจะเป็น เหตุให้ผิด สนิทใจ
ลุ่มหลงไป ในตัณหา อุปาทาน

นี่คือถ้อย ร้อยความ คำถามแก้
สุดเที่ยงแท้ ในความหมาย ได้ขับขาน
หากลองนึก ตรึกตรองดู จะรู้ความ
สุขสำราญ ในดวงจิต พินิจมอง

เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เวลา..คลาไคล้  วารี...รี่ไหล   ชีวี..เวียนว่าย  รำพัน...ฝันไป  อาลัย....เวลา
20 ตุลาคม 2008, 01:10:PM
คนรักษ์ถิ่น
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 32
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 173


ยังไม่สิ้น..กลิ่นกลอน


« ตอบ #4 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2008, 01:10:PM »
ชุมชนชุมชน

   
      อันความจริง เป็นนิรัต์ นั้นได้แจ้ง

หายเคลือบแคลง ..สิ่งประสงค์ ที่สงสัย

ความจริงแล้ว..การเปลี่ยนแปลง ..ที่ผันไป

ใช่หยุดได้ ..ใช่เป็นสิ่ง อันนิรันดิ์

  ตั้งแต่ดิน ถึงฟ้า นภากาศ

ช่างอนาถ ผันแปล ทุกสิ่งสรร

อันมนุษย์ ก็ เกิด-ตาย อยู่ทุกวัน

     เมื่อตายนั้นก็หายไป  ไม่รู้ความ

เมื่อดับสูญย์ จากไป  แค่ไม่เห็น

แม้จะเป็นเวียนว่าย ในสงสาร

ยังไม่ใช่ ความจริง  นิรันดิ์กาล

ใครช่วย วานสอนสั่ง..ยังค้างใจ



ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คนที่ไม่มีฝัน ..คือคนที่ตายไปแล้ว
20 ตุลาคม 2008, 03:37:PM
tna
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 141
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 788



« ตอบ #5 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2008, 03:37:PM »
ชุมชนชุมชน

   
      อันความจริง เป็นนิรัต์ นั้นได้แจ้ง

หายเคลือบแคลง ..สิ่งประสงค์ ที่สงสัย

ความจริงแล้ว..การเปลี่ยนแปลง ..ที่ผันไป

ใช่หยุดได้ ..ใช่เป็นสิ่ง อันนิรันดิ์

  ตั้งแต่ดิน ถึงฟ้า นภากาศ

ช่างอนาถ ผันแปล ทุกสิ่งสรร

อันมนุษย์ ก็ เกิด-ตาย อยู่ทุกวัน

     เมื่อตายนั้นก็หายไป  ไม่รู้ความ

เมื่อดับสูญย์ จากไป  แค่ไม่เห็น

แม้จะเป็นเวียนว่าย ในสงสาร

ยังไม่ใช่ ความจริง  นิรันดิ์กาล

ใครช่วย วานสอนสั่ง..ยังค้างใจ





เกิดแล้วดับ ดับแล้วเกิด
----------------
แต่ก่อนเก่า เล่าอ้า ทางสามแพร่ง
เกิดแล้วดับ ชัดแจ้ง แจงใจขึง
ดับแล้วเกิด ยังไม่แจ้ง แจงคำนึง
อีกยังดึง ดับแล้วดับ ขยับตาม

เมื่อมีเหตุ ย่อมมิผล พุทธองค์กล่าว
กรรมสังเวช เป็นดั่งเงา เฝ้าหาบหาม
เป็นดั่งนา ท้องดิน ถิ่นงดงาม
เสพสำราญ พืชพรรณ ธัญญามี

วิญญาณนั้น มั่นหมาย คล้ายเมล็ด
ที่พร้อมเสร็จ โปรยหว่าน บนลานนี้
ส่วนตัณหา ดั่งยางเหนียว เคี่ยวชีวี
พืชพันธ์มี เจริญได้ พรายชีวัน

หากยังมี สามสิ่ง อิงแนบข้าง
ไม่ลาร้าง หลายภพชาติ วาดใฝ่ฝัน
อวิชชา ยังกั้นขวาง ทางชีวัน
สัญโญชน์พัน ตันหาเริ่ม เติมชาติไป

วิบากกรรม ก่อเกิด กำเนิดแล้ว
ภพชาติแน่ว ไม่มีแล้ว ปรากฏไหน
พุทธองค์ ทรงถามผล อานนท์ไว้
เป็นความนัย ไขแจ้ง แสดงความ

เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เวลา..คลาไคล้  วารี...รี่ไหล   ชีวี..เวียนว่าย  รำพัน...ฝันไป  อาลัย....เวลา
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s