...วรรณกรรมช้ำรัก...
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
14 ตุลาคม 2024, 02:54:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ...วรรณกรรมช้ำรัก...  (อ่าน 4640 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
18 พฤษภาคม 2021, 09:06:AM
โซ...เซอะเซอ
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 368


« เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2021, 09:06:AM »
ชุมชนชุมชน



...วรรณกรรมช้ำรัก...




(๐) -อารัมภบท-
ร้อยเรียงบทวรรณกรรมชอกช้ำรัก
เร้นซ่อนวรรคอาวรณ์คำอ่อนหวาน
เหมือนจะฉุดรั้งฝันของวันวาน
ก่อนวัฏฏ์กาลคล้อยเคลื่อนเลื่อนลิบไกล


(๑) -หักห้ามใจ-
ครั้นจะหักห้ามจิตยิ่งคิดถึง
ข่มคะนึงรัญจวนกลับหวนใกล้
ยิ่งห่างเหิน ยิ่งห่วงหา ยิ่งอาลัย
ฝืนตัดใจยิ่งถลำดิ่งด่ำลึก


(๒) -ศึกภายใน-
ท่ามกลางหมอกมืดมนหนทางเปลี่ยว
อยากลดเลี้ยวไปตามความรู้สึก
ทว่าทักท้วงสะกิดจิตสำนึก
บั่นทอนคึกคะนองนั้นให้บรรเทา


(๓) -ตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด-
ตัดไม่ตายขายไม่ขาดในชาตินี้
มาตรแม้นมีขวากหนามความรักเก่า
อุปสรรคกั้นขวางระหว่างเรา
แต่ภาพเงาเย้าอวลอุ่นอย่างคุ้นเคย


Soul Searcher
Inspired to write 18/5/2021



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, พยัญเสมอ, Dildeewana

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 พฤษภาคม 2021, 07:41:AM
โซ...เซอะเซอ
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 368


« ตอบ #1 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2021, 07:41:AM »
ชุมชนชุมชน






(๔) -อรุณสาง-
อรุณสางสว่างแล้วแก้วใจจ๋า
ยามนิทราหลับฝันคืนวันเอ๋ย
คะนึงถึงก่อนเก่าเฝ้าชื่นเชย
เสมอเอยร่มเงาเคล้าคลอเคียง

(๕) -แต่ปางก่อน-
วาสนาจำรูญเพิ่มพูนผล
เสมือนมนต์ดลเพลงครื้นเครงเสียง
สดับฟังทำนองฆ้องประเดียง
ไห้เศร้าใจเพราะเพียง..เสนาะเกิน

(๖) - ความรักความผูกพันธ์ -
หมื่นทิวาราตรีแสนปีผ่าน
อสงไขยกัลป์กาลช่างนานเนิ่น
อันความรักรังอยู่คอยคู่เดิน
ต่างหลงเพลินช้ำบ้างมิต่างกัน

๗) -นิจนิรันดร์-
นิรันดรตอนจบคือนิทาน
แต่โบราณต่างเห็นเป็นเช่นนั้น
หากรักแท้ สงบ เป็นรางวัล
บทประพันธ์ร้อยเรียง..เพียงวังวน  

รอยทราบบนสายลม เจ้าค่ะ
มีใจบันดาลแรงในการเขียนเมื่อ ๒๙.๐๕.๒๕๖๔

***คัดมาจากเวป “อารมณ์กลอน”***




(๘) -รอยทรายกับสายลม-
ดุจรอยทรายยามสายลมประสมประเส
ย่อมถูกซัดซวนเซทั่วเวหน
เปรียบรักปลูกผูกมัด วัดใจคน
ฤาหยัดทนอยู่ต้านกาลเวลา

(๙) -รักในอุดมคติ-
เพียงปลดเปลื้องปรารมภ์อุดมคติ
ห้วงดำริบอกรักนี้ต้องดีกว่า
รักอื่นอื่นหมื่นแสน แม้นผ่านมา
มิสุขซึ้งอุรา เท่าครานี้

(๑๐) -สุขทางกาย-
ผู้ได้เสพสุขสมชิดชมชื่น
อาจเริงรื่นเย้ายวนนวลฉวี
เรื้องกำหนัดยืนนานผ่านกายี
แหนงหน่ายมีสบช่วงร่วงโรยรา

(๑๑) -รักไร้รูป-
หากแม้นไร้เรือนรูปจูบสัมผัส
พึงมนัสส่งเสียงถ้อยเดียงสา
ผ่านร้อยร่ำคำถวิลจินตนา
เปล่งมนตรารักขานตราบนานยิน




Soul Searcher
Inspired to write 29/5/2021


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, เนิน จำราย, Dildeewana, ไผ่เดียวดาย

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 มิถุนายน 2021, 09:41:AM
โซ...เซอะเซอ
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 368


« ตอบ #2 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2021, 09:41:AM »
ชุมชนชุมชน



(๑๒)  -คำ รั ก ห ว า น-
ถ่อยคำหวานหวานรับจับใจซึ้ง
ห้วงคำนึงปล่อยกาลแม้นผ่านผิน
ดำรงจิตคิดเห็น..เป็นอาจิน
คล้ายถวิลภิรมย์ให้สมรัก

(๑๓) - สื่ อ ง า น ศิ ล ป์ -
สื่อภาษางานศิลป์เสพจินต์พ้อง
บทร้อยกรองวรรณกรรมชอกช้ำหนัก
ความรู้สึกปลดปลงลงสักพัก
คงเหนื่อยนัก มิสม..สู้ข่มคลาย

(๑๔ ) - ป ล่ อ ย ค ว า ม เ ศ ร้ า -
ปลดปล่อยความรู้สึก..ส่วนลึกเศร้า
ปลดปล่อยจิตใจเบา...จวนสลาย
ปลดปล่อยเจตจำนง..คงมิวาย
เสื่อมมลายจริงแท้..แค่ระแวง

(๑๕) - ดำ เ นิ น ท ร า ย -
รุ้งรวีเจ็ดสีเสมอสรรค์
รุ้งลาวัลย์เกิดดับพยับแสง
รุ้งบงกชบทเรียนราคาแพง
รุ้งเรือนทรายเหือดแห้ง..ซวนเซซัด

(๑๖)  - ยั ง อ่ อ น หั ด -
วรรณกรรมบทสอน..อย่าอ่อนไหว
เอ๋ย..ดวงใจไร้เข้มแข็ง..ยั ง อ่ อ น หั ด
เหตุนิยามความทุกข์ ลมเพ..ลมพัด
จงเข้าใจ จำชัด... ชอกช้ำนี้



♡ ร อ ย ท ร า ย บ น ส า ย ล ม ♡
           ๐๖.๖.๖๔  :  ๖.๕๖



(๑๗) -คำหอม-

คำหอมเจ้า ยังอวล ยวนใจชิด
ถึงตะขิดตะขวงปน ระคนคลี่-
สวยสะถ้อย ละมุน สุนทรีย์ 
เหมือนฉุดชี้ ชวนหอม ลิ้มดอมดม

(๑๘) -หลากกลิ่นสุคนธ์-
หลายสุคนธรสรื่น ชื่นนาสา
แม้นเปรียบเฟ้น วาจา คว้าเหมาะสม
หอมกุหลาบ หอมเฟื่องฟ้า ชบาชม
เลือกนิยม ประเจกรส บทประพันธ์

(๑๙) -เสพศิลป์-
ผู้เสพศิลป์ จินตนา คราเรียงร้อย
จำต้องน้อม จิตคล้อย ถ้อยงามสรรค์
ฟุ้งประดิษฐ์ วาบไหว ใส่จำนรรจ์
พึงดำรง สติมั่น เท่าทันรู้

(๒๐) -สุดท้าย ปล่อยวาง-
เพราะสุดท้าย ปลายทาง ทุกอย่างนั่น
ฤ เป็นดัง เสกปั้น ครั้งฝันอยู่
ย่อมเสื่อมสิ้น ทั้งผอง ไตร่ตรองดู
ดั่งวิทู ร่ายร้อย…แล้วปล่อยวาง




Soul Searcher
Inspired to write 13/6/2021


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, เนิน จำราย, Dildeewana, ไผ่เดียวดาย

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s