O ผู้หลงโลก..? O
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
20 เมษายน 2024, 05:59:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: O ผู้หลงโลก..? O  (อ่าน 1571 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
12 มีนาคม 2014, 08:10:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« เมื่อ: 12 มีนาคม 2014, 08:10:PM »
ชุมชนชุมชน

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

O รองเรืองเมลืองชุติพิจิตร
ก-ละ-พิศพิมานบน
โล่งลิบระยิบ, ทิพะสถล-
ดุจะหล่น..ละลิ่วรอ

O เจดีย์, พิถีวัตระประพฤติ
จิตะยึดและยกยอ
โมหันธ์ถวัลยะ ฤ พอ-
คณะขอจะอาจขืน ?

O บุญบาปและลาภขณะประนอม-
บทะย้อม ฤ อาจยืน-
หยัดจิตะคิดพิริยะฝืน-
ระอุตื่น ณ ในตน

O เห็นแต่จะแผ่วุฒิวิภาค
อติพากยะเพียบพล
กล่อมขวัญ, สวรรค์ก็อนุสน-
ธิพิกลพิการสอน

O บุญบาปกระหนาบพิษะกระหน่ำ
ก็ระส่ำระสายตอน
ชาติภพตระหลบอุระสะท้อน
ฤ จะผ่อนพลังหลง

O แว่วเสียงก็เพียงจะเยาะจะเย้ย-
มรรคะเอย..ฤ แอบองค์
ไป่ทอดตลอดระยะ, บ สง-
เคราะหะบงกะชาติบัว

O พรรณนาเหมาะสาวกะจะรู้
ธรรมะตู่..ก็เป็นตัว
โอภาสจะพาดภวะสลัว
ฤ เยาะยั่วและพร้อมหยัน ?

O ไตรรัตน์สมรรถพละ ฤ ฉุด
นยะพุทธะรัดพัน-
จิตสู่ประตูอริยะนั้น
ทะนุนันทิรูปนาม

O โดยภาษประกาศพระชินวร
ระบุสอนระบิลความ
ต้นกลางลุปลาย..วุฒิพิราม
ยุติทราม บ สืบสาย

O โอ หนอ ฤ พอจิตะขจัด
กิจะวัตระวุ่นวาย
ท่วงทีพจีนยะสยาย
บุญะถ่ายสิทั่วถึง

O กราบหมอบ ฤ ตอบมุหะจริต
มุประดิษฐะเพื่อดึง-
สายตาประดา..พิศะจะซึ้ง-
บทะซึ่งจะคอยสรรค์

O แบบบุญจะหนุนภพะประสาร-
วิญ(ะ)ญาณะค้ำยัน
ศรัทธาสถาปนะสวรร-
คะถวัลยะในทรวง

O บิดเบือนเขยื้อนมุสะสยาย
เกาะอุบายะบำบวง-
ศักดิ์สิทธิ์และฤทธิ์อุตริปวง
นิระห่วงจะเสียหาย

O บัวต่ำเพราะสัมผัสะกะตม
ฤ จะชม..ระลมชาย
สบทราบประภาพสุริยะฉาย-
รุจิบ่ายประโลมบัว ?

O โดยตรรกและหลักอริยะวาท
อธิชาติชมชัว
เพื่อตัดขจัดมุหะระรัว-
อัตะกลั้ว, ปลาตการณ์

O โดยตรรกและมรรคะปฏิบัติ
เหมาะ, สมรรถะดวงมาน
เงื่อนเหตุ..กิเลศ..สมะสมาน
จะทะยาน - ก็อาจยั้ง

O เดี๋ยวนี้..และที่ขณะระลึก
สติตรึกและตรองฟัง
โลกนี้..และที่ระยะจะหวัง
ทิฐิตั้งประคองตน

O เท่านี้..พิถีจิตะประพฤติ
เหมาะจะยึดและตามยล
เพียงใด..เพราะใจนะอนุสน-
ธิกะลมระลอกสาย

O เพียงนั้น..จะบันดละสมา-
ธิสภาวะในกาย
เงียบงาม ณ ยาม วตะระบาย
สุขะศานติซ่านซ้อน

O ปลงเปลื้องละเมืองก-บิ-ล-พัสดุ์
พระ-เลาะลัดพเนจร
ป่นเหตุกิเลศ..ประทุษะถอน-
ทุขะรอนปลาตร้าง

O กิ่งโพธิ์เพราะโผ..วตะระลอก-
ระดะหยอก-ก็ไกว..กาง
ไหวสั่นกระนั้น..เฉพาะจะขวาง-
และมล้างพลังลม

O คือใจพิจัยธรรมะสภาพ
ระบุทราบกะอารมณ์
รู้ครวญชนวนทุขะระทม
พิษะถมกระทบถึง

O ที่ไหน..ไสวเพราะพลุลุแล่น-
รุจิแสนยะตราตรึง
ที่นั้น..จะฝันสุญะระรึง
ขณะหนึ่ง บ พึงหมาย

O ที่ไหน..พิสัยชนะสมา-
คมะวาระวุ่นวาย
ที่สุด..วิมุติภวะจะหมาย-
เฉพาะขายกะหมู่เขลา !

O แว่วดัง..ก็สังคิตะประดิษฐ์
นิรมิตะมอมเมา-
จิตหลง..มุสงเคราะหะและเร้า-
สติเฝ้าประโลมฝัน

O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
พิเราะคีตะล้อมพัน-
ต้นธาตุ..พระชาติพระอรหันต์
ละสวรรคะรับเสียง !

O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
เสนาะคีตะคล้อยเคียง-
ต้นธรรม..เหมาะสัมผัสะเจรียง-
พฤติเบี่ยงประโคมบุญ !

O ซอสี..ก็สีปะเหลาะประโลม
ทะนุโสมนัส, จุน-
เจือวัตรวิบัติกระแดะและหนุน-
ธนะ-ทุน..นะคือ..ธรรม !

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2010&date=07&group=41&gblog=10
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 มีนาคม 2014, 06:19:AM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #1 เมื่อ: 14 มีนาคม 2014, 06:19:AM »
ชุมชนชุมชน

O นามธรรม - หลอน...! O


O อารามอร่ามเรื้อง......องค์พระ
กรรมพิธีวาทะ.............ท่วมท้น
สนทนาวิสาสะ.............เสนาะอยู่ พ่อเอย
ตาบอดคลำช้างด้น......ดุ่มหน้าสาธยาย ฯ

O เสียงบาลีเจื้อยแจ้ว..ยังแว่วอยู่-
กล่อมใจผู้หลงโลก..ทอนโศก-สลาย
ไพเราะความนัยคำท่านรำบาย-
เพื่อปัดป่ายทุกข์ร้อนให้ผ่อนแรง

O โอภาสแห่งดวงวันในชั้นฟ้า
ฤๅ-ช่วงกว่าธรรมพากย์..ท่านฝากแฝง
เมื่อแววตารื้นน้ำ..คล้ายสำแดง-
ความซาบซึ้งเติมแต่ง..ลงแฝงรอย ?

O ทองอร่ามองค์พระ..ราวจะเตือน-
ความเลอะเลือนแห่งธรรม..ผ่านคำ-ถ้อย
ดูเถิด..แววตากระพริบ..นั้น-ปริบปรอย-
คล้ายเลื่อนลอยว่างเปล่า..คล้ายเข้าใจ

O กลางโบสถ์หม่นมืดครึ้ม..เสียงงึมงำ-
ก็ถูกคำคอยฉุด..เกินหยุดไหว
เอ่ยเสียงตามเสียงอยู่..เหมือนรู้นัย-
ธรรมนั้น..เอาโลมไล้..หัวใจตน

O ครั้งเมื่อท่านละทิ้ง..ทุกสิ่งนั่น
พรากฐานันดรศักดิ์จนหักป่น
ย่อมเพื่อความอัตคัด..ในบัดดล
ใช่เพื่อขวนขวายสร้างแต่อย่างใด !

O มองดูเถิดรอยทาง..ท่านย่างเหยียบ
แล้วลองเปรียบเทียบย่าง..ทุกย่างให้-
เห็นถึงความล้าเลื่อน..บิดเบือนไป-
จากแนวทางวางไว้..ของนัยพุทธ

O โอ นั่นยอดช่อฟ้า..เฟื้อยฝ่าสวรรค์
จากมิจฉาเผ่าพันธุ์ช่วยกันฉุด
กระเบื้องแดงเขียวห่ม..ด้วยสมมุติ
ต้านแสงวันดวงพิสุทธิ์..เพื่อหยุดร้อน

O ร้อนโอภาสดวงวัน..แห่งวันนี้
จากรังสีทอดสู่ไม่รู้ผ่อน
ลมรื่นเย็นวาดวี..ผ้าจีวร-
ฤๅ-อาจย้อนผ่านรื่นล้อมผืนใจ ?

O โอ รอยยิ้มแย้มอยู่..ท่านผู้ขอ-
เหมือนอยู่รอวัตถุธรรม..ชี้นำให้-
ยกขึ้นประดับประดา..เพื่อว่าใคร-
มองเห็นแล้วแจ่มใสแก่นัยน์ตา

O ครั้งเมื่อท่านละทิ้งทุกสิ่งนั่น
พรากฐานันดรศักดิ์อันหนักค่า
ก็เพื่อล่มภพชาติ..จึงยาตรา-
เข้าห้ำหั่นอัตตา..ให้ล้าตัว

O หากตรงหน้าเห็นหมู่..ท่านผู้ขอ-
เหมือนอยู่รอป่ายแต้ม..รอยแย้มหัว
ให้ตัวตนทั้งนั้น..คอยสั่นรัว-
เข้าเกลือกกลั้วสภาพธรรม..อยู่ค่ำเช้า

O ใช่แน่หรือ..พรหมจรรย์ทางบั่นทอน-
ความอาดูรเร่าร้อน..ทุกข์ก่อนเก่า
เห็นแม่ปูเดินส่าย..ดูคล้ายเมา-
หะการณ์แห่งรูปเงา..ทุกก้าวเดิน

O ทิวแถวท่านผู้ขอ..เคลื่อน..รอ..หยุด
แบกนัยพุทธสาธก..อยู่งกเงิ่น
วิญญาณพราหมณ์เคลือบคำ..ก็จำเริญ-
ขึ้นหยอกเอินปรารถนาในอารมณ์

O จึงเห็นความเลอะเลือน..นั้นเกลื่อนแวว-
ตาบ้องแบ๊วสำหรับ..เพื่อขับข่ม-
สัมมาการณ์สุจริตให้ติดตม-
กลางห้วงหล่มถ้อยคำ..ธารน้ำลาย

O เหนี่ยวสวรรค์..ดึงนรก..ขึ้นปกป้อง-
ตรรกะของเดียรถีย์..เป็นที่หมาย
จึงล่มล้าง..โลกพิสัยที่ในกาย-
แล้วเวียนว่ายวงวัฏฏ์..ในบัดดล

O มืดจริงหนอ..ในวันที่พันแสง-
แม้นผ่านแรงร้อนช่วงโลมห้วงหน
ยังไม่อาจผ่านต้อง..ตาของคน-
ที่มืดมัวหมองหม่น..คลุมบนแวว

O โอ คล้ายเสียงในหัว..ค่อยรัวดัง
เหมือนระฆังกังวานเสียงหวานแว่ว
พร้อมโอภาสพันแสง..แต้มแต่งแนว-
ล้อมทิวแถวผู้ขอ..อย่างรอรี !

O แว่ว-คล้ายเสียงสั่นรัว..ใจตัวเอง
ชวนพิศเพ่งเปล่งปลั่งแสงรังสี
ผู้ห่มจีวรเหลือง..ท่านเยื้องลี-
ลาศฝ่าความเป็นมี..สู่ที่ใด ?
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s