O เชิญขวัญ .. O
O วาบวามแววปลั่งช่วงในดวงตา
คล้ายดั่งว่า .. รอพร้อมการกล่อมขวัญ
ผุด .. เผย .. ขึ้นปักปลูกความผูกพัน
จดรอบฝัน .. จำนง .. เป็นวงเดียว
O ตราบจนเมื่อ .. สองแขนหนุนแทนหมอน
นัยออดอ้อนแฝงฝาก-ยังกรากเชี่ยว
ดั่งเยื่อใยยืดยาว .. เริ่มสาวเกลียว
ล้อมรัดเหนี่ยวบีบเค้นอยู่เช่นนั้น !
O ภาพ- ขัดเขิน เบือนหน้า .. สายตาหลบ
ย่อมบรรจบ-ตา, ใจ .. จนไหวสั่น
เพ่งรูปหน้า .. แก้มเนื้อ-กลับเรื่อพลัน-
ที่รูปฝัน .. พาดช่วงในดวงตา
O งามรูปองค์อิริยา .. เบื้องหน้านี้
เหมือนคอยเพรียกใยดี รับทีท่า
สื่อจริตรำบาย .. ล้อมสายตา-
ร่วมแตะตื่นรมยา .. เริ่มท่าที
O ในช่วงยาม-สบตอบ .. เหลือบ .. ลอบ .. เหลียว
ราวคล้อง .. เหนี่ยว .. อารมณ์ - เกินข่ม .. หนี
กับชั่วเบือนสบนิ่ง .. เหมือนยิ่งมี-
รื่นรมย์ที่ลามล่วง .. ถมห้วงใจ
O เยี่ยงเกสรสร้อยสุมาลย์ละลานกลิ่น
ภู่ผึ้งบินโผผ่าน .. ฤๅต้านไหว ?
ย่อมเพียงรสหอมหวาน .. เคียงก้านใบ-
รอการไต่ตฤปน้อม .. หวานหอมนั้น !
O กาแฟรสหอมกรุ่น .. ยังอุ่นอยู่
ชั่วเลศชู้เผยให้ .. ความไหวหวั่น-
เผลอโชนแวววาบสู่ ให้รู้กัน-
ว่า - ความสั่นในอก .. เกินยกพ้น
O ขณะความอ่อนหวาน นั้นปานว่า-
เพรียกห่วงหาจากทรวงให้ร่วงหล่น-
คอย-รูปนามจู่ล้อม .. อย่างยอมตน-
อย่างไม่คิดดิ้นรน .. ให้พ้นมือ !
O ชั่วกาแฟรวยริน .. อวลกลิ่นผ่าน
คือ .. ชั่วหวานล้อมกัก .. อาจหักหรือ ?
ก็เมื่อสิ่งที่เห็น .. ที่เป็น – คือ-
งาม-ยุดยื้ออาวรณ์ .. เกินผ่อนแล้ว
O ฤๅ-หัตถ์พรหมจับวางลงขวางไว้
สอบว่า-ห้วงจิตใจ .. เคยไหวแผ่ว-
หลังต้องรูปโจมจับ .. จะพรับแวว-
รับรองความผ่องแผ้ว .. ฤๅ-แล้วเลือน ?
O บัดนี้คงรับรู้ .. ว่าผู้ใด
ต้องอาลัยรำบายลงป่ายเปื้อน
ทั้งสำทับลงจิต .. คอยติดเตือน-
การเหลือบ .. เบือน .. ชม้อยชม้ายแห่งสายตา
O บัดนี้คงรับรู้ .. ว่าผู้ใด-
พร้อมหัวใจเฝ้าคอยละห้อยหา
ทุกช่วงลมโหมเห่กาลเวลา
แววในตาจะเห่โหม .. อยู่โครมครืน !
O ในความเงียบ, ความงามค่อยลามล้อม
เพรียกใจห้อมแหนรับทั้งหลับตื่น
เมื่อเหน็บหนาวลมร่ำ .. ฝ่าค่ำคืน
งามย่อมขืนเข้าขับให้อับจน
O เมื่อความเงียบ .. ยอมงามเข้าลามล่วง
ถ้วนเหน็บหนาวในทรวงย่อมร่วงป่น
ตราบเมื่องามลามล้อม .. ให้ยอมตน
จักฝ่าพ้นงดงาม .. เอายามใด ?
O ท่ามกลางห้วงคำนึง .. หวานซึ้งนั้น
แวววาบสั่นในยาม .. ยังวามไหว
วางรูปตรึงสัญญาเกินฝ่าไป-
พ้นอาลัย .. หน่วงเหนี่ยว .. แม้เสี้ยวยาม
O ใช่ไหมว่า .. ต้องคิดรับผิดชอบ-
การ-หลบ, ลอบเหลือบ, ชม้อย .. เหมือนคอยล่าม-
รัด .. อารมณ์แห่งชาย .. วุ่นวายตาม-
แวววับวามสั่นช่วง .. ในดวงตา !
O ใช่ไหมที่ .. ต้องคิดรับผิดชอบ-
การสบตอบหวานซึ้งอยู่ซึ่งหน้า
การข่มยิ้มแสร้งเมินขัดเขินอา-
รมณ์ .. ให้ชายเสน่หาในอาการ
O วาบวามแววปลั่งช่วงในดวงตา
พร้อมแก้มหน้าเนียนเนื้อแดงเรื่อ .. ซ่าน
แปลว่า .. ตาสบกันเมื่อวันวาน
จดสงสารทุกวง .. เป็นวงเดียว !
O นับคาบเพื่อทวงสิทธิ์รับผิดชอบ
แต่-ตาสบ, หลบ, ตอบ คอยลอบเหลียว
จนสายใยแฝงเร้นฟั่นเป็นเกลียว-
ยอมแล้ว-ใจถูกเหนี่ยว .. ด้วยเรียวมือ !
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2012&date=25&group=11&gblog=413add complete
by klonthaiclub fb