++ภิกษุณีสาวแก้ผ้า ปฏาจาราผู้น่าสงสาร++
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
26 เมษายน 2024, 10:46:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ++ภิกษุณีสาวแก้ผ้า ปฏาจาราผู้น่าสงสาร++  (อ่าน 7349 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
08 กุมภาพันธ์ 2014, 12:30:AM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2014, 12:30:AM »
ชุมชนชุมชน



เชิญติดตาม เรื่องราว แสนเศร้าซึ้ง
กาลครั้งหนึ่ง พุทธองค์ ดำรงขันธ์
สาวัตถี เมืองใหญ่ ในครั้งนั้น
เชตวัน อาราม อร่ามเรือง

มีธิดาเศรษฐีที่เลอโฉม
ญาติประโลมรักษามาต่อเนื่อง
จนย่างเข้าวัยรุ่นมิขุ่นเคือง
หนุ่มทั้งเมืองหมายปองครองแก้วตา

พ่อหมั้นหมาย ชายเหมาะ เพราะหวงลูก
หวังใจปลูก เรือนหอ ไว้รอท่า
กำหนดฤกษ์ ดิถี วันวิวาห์
ปรารถนา หลานน้อย ไว้คอยชม

ฝ่ายลูกสาว คราวเคราะห์ จำเพาะรัก
แอบสมัคร คบชาย หมายสู่สม
อุปัฏฐาก ใกล้ชิด สนิทดม
เมื่อรักขม วางแผน พาแฟนไป

เป็นนางทาส ปลอมตัว กลัวถูกจับ
นัดชายรับ นอกเมือง เป็นเรื่องใหญ่
หนีตามกัน สุดเขต ประเทศไกล
ชีวิตใหม่ ลำบาก จากผลกรรม

อยู่ไม่นาน ตั้งท้อง ต้องทนทุกข์
ครรภ์แก่สุก ใกล้คลอด นางพรอดพร่ำ
เอ่ยวจี พี่จ๋า อย่าใจดำ
ขอกลับลำ คืนบ้าน วานสามี

ฝ่ายชายกลัว ต้องทัณฑ์ มิหันกลับ
หากถูกจับ โทษใหญ่ ไม่อาจหนี
นางแอบกลับ คนเดียว เปลี่ยวฤดี
ธรรมเนียมนี้ แต่ก่อน ต้องย้อนคืน

กลับมาคลอด ที่บ้าน ตำนานกล่าว
ธรรมเนียมชาวมคธสลดฝืน
นางซมซาน กลางป่า มาสะอื้น
แฟนวิ่งตื่น ตามทัน วันอำลา

คลอดกลางทางพอดีมิต้องกลับ
แฟนจึงรับ คืนเรือน เหมือนดังว่า
อยู่ไม่นาน นวลน้อง ท้องอีกครา
ปรารถนา คืนหลัง เหมือนดังเคย

หลบสามี อีกครั้ง เหมือนดังก่อน
ถึงช่วงตอน สลด ตามบทเผย
สามีตาม มาทัน พลันลงเอย
ดังฟ้าเย้ย ร้องลั่น กลั่นพิรุณ

มหาเมฆ แผดเปรี้ยง เสียงสะท้าน
เธอไหว้วาน สามี ที่เกื้อหนุน
ปวดท้องคลอด คล้ายบาป หาบเป็นทุน
วอนพ่อคุณ ช่วยทำ ที่กำบัง

สามีรีบ เข้าป่า หาตัดไม้
เจอพุ่มใหญ่ จอมปลวก สะดวกนั่ง
จึงรีบตัด ทันใด ไม่ระวัง
จนเผลอพลั้ง อดสู งูกัดตาย....

 น้อยใจแล้วด้วย

"มุนีน้อย"

(จะเป็นอย่างไรต่อ โปรดติดตามตอนต่อไป พรุ่งนี้...คืนนี้พอก่อน ยาวไปกลัวคนอ่านตาลาย ขอบคุณที่อ่านนะจ๊ะ... ตบมือให้)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, ~ขลุ่ยกันแสง~, รพีกาญจน์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, ดาว อาชาไนย, ♥ กานต์ฑิตา ♥, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, D, ดอกกระเจียว, สมนึก นพ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
08 กุมภาพันธ์ 2014, 05:31:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2014, 05:31:AM »
ชุมชนชุมชน



 เฮ้อ....เซ็งเป็ด


...สงสารผู้ เป็นผัว มัววิ่งวุ่น
เป็นตัวทุ่น เรื่องราว ให้ยาวหลาย
ด้วยนิทาน มิจบ พบเขาตาย
เรื่องวุ่นวาย ทันตา คาราคาซัง...

...ให้ผู้อ่าน เช่นเรา เฝ้าตื่นเต้น
มิละเว้น ชงชา ดื่มครานั่ง
เพราะผู้เขียน แต่งความ น่าตามจัง
สาวจึงหวัง มารอ ตอนต่อไป...

...ชื่นชมจบ สองเรื่อง ไร้เคืองแล้ว
ไยซ้ำแนว คั่นตอน ต่อท่อนใหม่
ชอบหยุดยาม รุกเร้า เขย่าใจ
สาวอยู่ไกล แฟนคลับ เลิกหลับนอน... งอนแล้วด้วย

รัตนาวดี
 ฟิตจัด

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, panthong.kh, muneenoi, ชลนา ทิชากร, ดาว อาชาไนย, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, D, ดอกกระเจียว, สมนึก นพ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
08 กุมภาพันธ์ 2014, 12:00:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #2 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2014, 12:00:PM »
ชุมชนชุมชน

ต่อ...ตอนที่ ๒

( ความเดิมตอนที่แล้ว...
...สามีรีบ เข้าป่า หาตัดไม้
เจอพุ่มใหญ่ จอมปลวก สะดวกนั่ง
จึงรีบตัด ทันใด ไม่ระวัง
จนเผลอพลั้ง อดสู งูกัดตาย...)

เฝ้ามองทาง สามี มิเห็นกลับ
ต้องแบกรับ ทุกข์ใหญ่ ใจสลาย
จนคลอดบุตร สุดช้ำ ระกำกาย
สองลูกชาย ร้องลั่น เพราะหวั่นกลัว

นั่งคุกเข่า คร่อมลูก ปลูกไออุ่น
คล้ายสิ้นบุญ หนุนนำ เพราะกรรมชั่ว
มือทั้งสอง ยันพื้น ฝืนตามัว
เจ็บปวดทั่ว สกนธ์ ทนกล้ำกลืน

ร่างซีดเหลือง ดังเลือด มาเหือดแห้ง
อรุณแจ้ง แสงส่อง ทดลองฝืน
อุ้มลูกน้อย ตามพ่อ พอหยัดยืน
ต้องสะอื้น เจอร่าง ร้างวิญญาณ

แทบขาดใจ ได้พบ ศพของพี่
โอ้คนดี ตายจาก พรากถิ่นฐาน
ตายอนาถ เพราะเรา เศร้าดวงมาน
อกสะท้าน หวั่นไหว จำใจจร

อุ้มลูกน้อย เพิ่งคลอด กอดแนบอก
สองเท้ายก เหยียบย่าง อย่างเหนื่อยอ่อน
อีกมือจูงคนโต โอ้บังอร
เดินแรมรอน หยุดยั้ง ถึงฝั่งชล

อจิระวะดี นทีไหล
แม่น้ำใหญ่ ใจตรึก นึกสับสน
อุ้มตัวเล็ก ข้ามก่อน ย้อนเวียนวน
ห่วงอีกคน บนฝั่ง ให้ลังเล

มิอาจละ คนน้อง ที่ร้องจ้า
มิอาจลา คนโต โอ้ละเห่
เทียวไปมา สับสน จนโซเซ
จนตราบเวลานาน ผ่านพ้นไป

ขณะถึง เส้นทาง กลางลำห้วย
ถึงคราวซวย มีเอี่ยว เหยี่ยวตัวใหญ่
บินโฉบมา จากฟ้า นภาไกล
ทารกใหม่ ชิ้นเนื้อ เหยื่อชั้นดี...

 เคารพรัก

"มุนีน้อย"

(โปรดรอตอนต่อไป ขอคั่นโฆษณาแป๊ป  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ(เยอะไป กลัวตาลาย)  ตบมือให้)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ดาว อาชาไนย, ♥ กานต์ฑิตา ♥, พี.พูนสุข, D, ดอกกระเจียว, สมนึก นพ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
08 กุมภาพันธ์ 2014, 08:18:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #3 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2014, 08:18:PM »
ชุมชนชุมชน

ต่อ...ตอนที่ ๓

เธอเห็นเหยี่ยว เฉี่ยวมา หวังคร่าบุตร
ตะโกนสุดเสียงเค้น ใจเต้นถี่
เหยี่ยวไม่ฟัง เสียงไล่ ใจอัปรีย์
โฉบบุตรหนี หายลับ ไปกับตา

ลูกอีกคน ฟังเสียง สำเนียงแน่
คิดว่าแม่ เรียกให้ เจ้าไปหา
โดดลงน้ำ ทันที มิรอช้า
ถูกพัดพา ลับหาย ตายอีกคน

สิ้นทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทางชีวิต
ลูกตายติด ตามกัน พลันสับสน
สามีตาย ตกอับ สัปดน
สุดจะทน หม่นหมอง ร้องคร่ำครวญ

ตัวคนเดียว ระหก อกสะท้าน
กลับมาบ้าน สาวัตถี ที่เคยหวน
หวังรับโทษ โขดขม ระทมตรวน
เพื่อทบทวน ชีวิต ที่ผิดไป

ระหว่างทาง พบชาย จึงทายทัก
ท่านรู้จัก เศรษฐี บ้านนี้ไหม
เขาขอร้อง อย่าถาม เลยทรามวัย
ขืนบอกให้ ไม่เหมาะ ขอแม่นาง

ทั้งเศรษฐีลูกชาย ตายเสียแล้ว
พร้อมเมียแก้ว สามศพ คนพบร่าง
ฝนตกหนัก เรือนทับ เหมือนจับวาง
กองฟอนสร้าง เผานั่น ควันยังมี

พอรู้ข่าวเท่านั้น เธอพลันทรุด
ผ้าถุงหลุด ไม่รู้ ดูบัดสี
สติขาด เป็นลม สมประดี
เป็นสตรี ผีบ้า เดินตาลอย


ไม่นุ่งผ้า เดินบ่น ระคนเพ้อ
ว่าลูกเธอ ตายลับ มิกลับถอย
ทั้งสามี พี่ชาย ตายเรียบร้อย
พ่อแม่กลอย ก็ลับ ดับชีวิน

ผู้คนเห็น ต่างด่า ว่าหญิงบ้า
ค้อนขว้างปา ไล่ส่ง ลงติฉิน
ด้วยเดชะ บุญผอง ของยุพิน
ให้เธอผิน บ่ายหน้า สู่อาราม

เที่ยวเดินดุ่ม ข้างวัด สะบัดหน้า
คนกันท่าเธอไว้ มิให้ข้าม
สู่เขตสงฆ์ดงธรรมจำต้องปราม
กลัวไม่งาม ห้ามสาว อย่าก้าวลง

พระสุคต จอมธรรม กำลังเทศน์
ธรรมวิเศษ โปรดสัตว์ ขจัดหลง
ได้เห็นเหตุ แต่ไกล พระทัยตรง
พระประสงค์ โปรดเจ้า ให้เข้ามา...

 ซึ้งจัง

"มุนีน้อย"

(จบตอน...โปรดรอตอน ๔  ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม  ตบมือให้)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥ กานต์ฑิตา ♥, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, D, ดอกกระเจียว, สมนึก นพ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
09 กุมภาพันธ์ 2014, 01:14:AM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #4 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 01:14:AM »
ชุมชนชุมชน

ต่อ...ตอนที่ ๔ (อวสาน)

ทรงเล็งเห็น บุญนาง เคยสร้างสม
บุญเพาะบ่ม แสนกัปป์ เกินนับค่า
ครั้งปทุมุตตระศาสดา
ปรารถนาตำแหน่งแห่งเถรี

ผู้เป็นเลิศทางวินัยฤทัยตั้ง
เป็นพลัง สร้างเหตุ วิเศษศรี
อธิการ สานต่อ ก่อความดี
ตราบวันนี้ มีทาง กระจ่างธรรม

คงถึงวัน สิ้นบาป ที่ทาบติด
เปลี่ยนชีวิต นางใหม่ ให้หายช้ำ
พอมาใกล้ พุทธองค์ ทรงเอ่ยคำ
ดังฝนพรำ ฉ่ำรด ช่วยปลดปลง

"ภคินิ ดูก่อนบังอรหญิง
ขอเธอนิ่ง สติคืน ฝืนความหลง"
ด้วยเดชะ สูงสุด พุทธองค์
สติตรง กลับคืน นางยืนอาย

จึงนั่งลง ตรงนั้น พลันสะอื้น
มีคนยื่นผ้าให้ ด้วยใจหมาย
นางคลุมผ้า พอชิด ปกปิดกาย
ได้ถวาย บังคม บรมครู

ขอพระพุทธที่พึ่ง รำพึงว่า
ลูกโศกา เกินทน กมลสู
ขอพึ่งพิง พระธรรม สยัมภู
เปลื้องหดหู่ เถิดหนอ ทรมาน

พระสุคต ปลอบขวัญ จำนรรจ์ว่า
อันน้ำตา รินไหล ในสงสาร
มากกว่าน้ำ ในสมุทร สุดคาดการณ์
สัตว์วิ่งพล่าน เกิดตาย หลายกัปป์กัลป์

เธอพบผู้ชี้ทางสว่างแล้ว
จงตามแนว คำสอน สังวรมั่น
อย่าประมาท มัวเมา เฝ้าจาบัล
ความตายนั้น ธรรมดา เรื่องสาธารณ์

ปิยะชนทั้งหลาย ที่หมายรัก
ถึงคราวจัก ต้องตาย วายสังขาร
มิอาจเป็น ที่พึ่ง เมื่อถึงกาล
มัจจุมาร ย่อมพราก ให้จากกัน

แต่เมธี มีศีล ไว้ปีนป่าย
จุดมุ่งหมาย นิพพาน สำราญนั่น
ย่อมหมดจด วิเศษ เขตอนันต์
ยามดับขันธ์ สู่ทิพย์ พระนิพพาน

หลังได้ฟัง อนมัต ที่ตรัสเล่า
นางบรรเทา เบาหลง ในสงสาร
คลายความหมองครองจินต์กินดวงมาน
บรรลุผ่าน โสดาบัน ในทันใด

ขอบวชเป็น ภิกษุณี มีเป้าหมาย
มอบใจกาย พรหมจรรย์ อันผ่องใส
เหลือประวัติ ขื่นขม ระทมใจ
ผู้คนได้ ศึกษา ด้วยอาวรณ์

 ซึ้งจัง

"มุนีน้อย"

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน เชิญร่วมติชมได้ตามสบาย (แค่ท่านอ่านจบเราก็พอใจยิ่งแล้ว  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ) แต่หากจะร่วมแจมหรือ
แสดงความเห็นก็จักดียิ่ง  เพราะปฏาจารา เธอน่าสงสารจริงๆ ผู้แต่ง แต่งไปด้วย สงสารเธอไปด้วย
แต่งเอง ซึ้งเอง55 (หวังว่า คงมิใช่โรคจิต  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ)

เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, D, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ดอกกระเจียว, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
09 กุมภาพันธ์ 2014, 04:54:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #5 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 04:54:AM »
ชุมชนชุมชน



 อายจัง


...ความซึ้งบังเกิดในใจผู้อ่าน
ขอบคุณผู้ แต่งกานท์ นิทานนี้
ได้เพลิดเพลิน เกินค่า เวลามี
สาระดี ปลาบปลื้ม ลืมไม่ลง...

...แต่งได้ยอด เยี่ยมนัก ทุกวรรคถ้อย
ยามอ่านบ่อย มิเบื่อ เหลือกว่าหลง
อ่านทบทวน ชวนจิต คิดแล้วปลง
สุดท้ายส่ง เห็นค่า พาสุขเอย... ตบมือให้

รัตนาวดี
 ส่งจูบจ้ะ ชอบใจๆ

 เคารพรัก ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ สาวน้อยหัวเราะ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ศรีเปรื่อง, D, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, muneenoi, ดอกกระเจียว, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ, yaguza

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
09 กุมภาพันธ์ 2014, 05:52:AM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #6 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 05:52:AM »
ชุมชนชุมชน

ด้วยเป็นผู้ห่างสงฆ์...องคเจ้า
ของมึนเมา...วางแนบ...แอบเขนย
สุขนิยม...ปรือปรน...เสียจนเคย
ฟังพระเผย...เทศนา...ก็หาอิน

ครั้งพอได้...เสพกวี...มุนีน้อย
จิตกลับลอยตามกลอน...อักษรศิลป์
เสียดายแต่อ่อนด้อย...ถ้อยกวิน
ร่วมร้อยริน ฤ มิสู้...ขอดูแทน

ศรีเปรื่อง
๙ ก.พ. ๒๕๕๗


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, muneenoi, panthong.kh, ดอกกระเจียว, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ, yaguza

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 กุมภาพันธ์ 2014, 09:24:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #7 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 09:24:AM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
เสพแต่เบียร์ เชียร์แขก แยกไม่ออก
อันไหนหลอก ไหนลวง พอควงแขน
เป็นหลงลืม ทุกอย่าง ดูครางแคลน
เมาแล้วแสน วุ่นวาย น่าหน่ายจัง

อันรั้วบ้าน ติดวัด มิหัดเข้า
ส่วนร้านเหล้า ไกลแสน แล่นไปนั่ง
สืบเสาะหา ซอกไหน ไม่มีตังค์
แปะโป้งยัง ต้องไป ใช่ไหมคุณ
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดอกกระเจียว, D, muneenoi, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ, yaguza

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 กุมภาพันธ์ 2014, 09:44:AM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #8 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 09:44:AM »
ชุมชนชุมชน

จบนิทานชาดกอย่าโศกเศร้า
หันมาฟังเรื่องเล่าอันแสนวุ่น
ถึงเรื่องราวแต่นานของมหารุญ
แกมีบูญหมอทำนายทายชะตา

ครั้นเติบใหญ่อายุสิบสามปี
พ่อแม่แสนยินดีเป็นหนักหนา
ส่งเข้าวััดบวชเรียนพระธรรมมา
จบบาลีเป็นมหาในอาราม

อยู่ต่อมาเกิดปิ๊งสาวชาวข้างวัด
เธอมาคอยปรนนิบัติแบกหาบหาม
เทียวซื้อชา-กาแฟ ก๋วยเตี๋ยวชาม
มหารุญหลงสาวงามสุดห้ามใจ

สาวจึงว่าสึกเถิดเณรมหา
แล้วค่อยมาแต่งกันถ้าเณรไหว
หนุ่มมหาหน้าแดงเรื่องอะไร
ฉันทั้งดำทั้งใหญ่ไหวแน่นอน

ต่อมามหารุญก็ลักสึก
พระทั้งวัดเห็นพิลึกหมายังหอน
จึงทราบว่าสาวลวงเณรหมูตอน
เทียวตามหาจนว่อนไปพบตัว

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, muneenoi, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ, yaguza

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 กุมภาพันธ์ 2014, 10:17:AM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #9 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 10:17:AM »
ชุมชนชุมชน

กล่าวถึงเณรมหาผู้ชะตาตก
รุ่มหลงคำโกหกแทบเสียหัว
ไปหาสาวนาม"โจไห่เม่ย"ใจเมามัว
เผชิญโลกอย่างหวาดกลัวระแวงใจ

บวชมาแล้วเจ็ดปีมีสตังค์แสนห้า
หวังไว้ว่าจะแต่งสาวเพราะสู้ไหว
ไปเช่าบ้านอยู่ที่นาคำไฮ
แล้วเทียวมาเทียวไปหาสาวโจ

สาวก็อ้อนอยากได้นั่นอยากได้นี่
ฝ่ายเณมหาเรานี้ก็ให้แบบโส
ทั้งสร้อยทอง สร้อยเงิน ชุดโก้ๆ
ลิปสติกเป็นโหลๆแป้งสิบลัง

คบกันสามเดือนตังง์ร่อยหรอ
มหารุญนั้นชักท้อเป็นกระหัง
แล้้ววิมานวาดไว้รึมิพัง
แต่ก็สูปิดบังสาวขวัญใจ

พาไปกินหูฉลามละหมื่น
มหายังยิ้มชื่นมื่นตรูยังไหว
ไปล่องแก่งล่องแพก็พาไป
พาไปเที่ยวเชียงใหม่มิได้ตัว

เพราะความโง่ของมหานิจจาเอ๋ย
อีกทั้งไม่รู้เลยการของผัว
สาวให้ท่าเท่าไหร่มิต้องตัว
"โจไห่เม่ย"ชักไม่ชัวร์ตีตัวไกล

(โปรดติดตามตอนต่อไป)


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, muneenoi, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 กุมภาพันธ์ 2014, 11:07:AM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #10 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 11:07:AM »
ชุมชนชุมชน

กล่าวถึง เจ้าอาวาส แลญาติมิตร
เฝ้าตามติดข่าวคราวอย่างหวั่นไหว
ถึงเณรมหาและการหายตัวไป
ลงประกาศหวิทยุกันไว้มิรู้ความ

ฝ่ายมหาเมื่อตังค์หมดต้องอดอยาก
สาวโจพาไปฝากทำงานแบกหาม
เก็บเงินมานะพยายาม
หวังได้คนงามสมดั่งใจ

วันหนึ่งมหาต้องผงะ
เหมือนเณรอยากเตะพระโอ้ไฉน
เมื่อไปหาสาวโจที่บ้านไกล
พอเปิดประตูเข้าไปต้องตะลึง

พบสาวกำลังละเลงเพลงสวาท
กับคู่ขาสุดฉกาจให้หวงหึง
สองดารา เอ-วี ตกเตียงตึง
เพราะทะลึ่งทำการมิลงกลอน

สาวโจว่ามาร่วมวงกันก็ได้
ฝ่ายไอ้หนุ่มก็ตอบใช่มิหลอกหลอน
ภาพที่เห็นพามหาให้ร้าวรอน
บอกขอลาขอจากจรทำไม่เป็น

กลับมาอยู่ห้องเช่าเศร้าใจจิต
ให้หวนคิดกับภาพที่พบเห็น
คนแก้ผ้าสองคนให้ลำเค็ญ
อยากจะเตะกระเด็นให้ตกเตียง

คิดถึงวัด คิดถึงบาตรและปิ่นโต
ตัวเรานี้เหมือนคนโง่สึกมาเสี่ยง-
อันตรายความลำบากลำพังเพียง
แล้วส่งเสียงร่ำไห้เสียง โฮๆ

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 กุมภาพันธ์ 2014, 06:47:PM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #11 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 06:47:PM »
ชุมชนชุมชน


 
ตบมือให้ ตบมือให้  ตบมือให้  ตบมือให้


 น้อยใจแถมบ่น...รออ่านเรื่อง ติดตาม ความว้าวุ่น
ไยพ่อคุณ หายหน้า ไม่มาโผล่
รัตน์รออ่าน นานแล้ว แห้วเริ่มโต 
น่าโมโห เลยหนอ พ่อดอกกระเจียว...  งอนแล้วด้วย ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

รัตนาวดี
 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, muneenoi, สมนึก นพ, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, ดอกกระเจียว

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
10 กุมภาพันธ์ 2014, 11:55:AM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #12 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 11:55:AM »
ชุมชนชุมชน

ต่อมามหารุณก็หนีหน้า
ตัดขาดการคบหาเพราะแสนโง่
ฝ่ายสาวเจ้านามว่า"เม่ยไห่โจ"
ยอมรับว่าเคยมีผัวแล้วเป็นโหลแต่ปิดบัง

มหารุณจำลาทั้งห้องเช่า
ห้องโทรมๆเก่าๆอย่างสิ้นหวัง
ลาจากงานแสนรันทดทั้งหมดตังค์
และไม่ยอมกลับหลังคืนวัดวา

สุดท้ายก็ไปเก็บผักบุ้งขาย
กำละบาทแทบตาลายแสวงหา
ก็ขายดิยขายดีเทน้ำเทท่า
เช่าบ้านอยู่บ้านลุงมาผัวป้ามี

ขณะธุระกิจผักบุ้งเริ่มรุ่งโรจน์
ก็ถูกชาวตลาดเกรี้ยวโกรธแล้วขับหนี
เพราะผักบุ้งปลอมปนสาร ดี-ดี-ที
คนกินแล้วถ่ายขี้กันทั้งเมือง

ต่อมามหารุณถูกขับไล่
ก็จำดั้นด้นหนีไกลเพราะราวเรื่อง
ย้ายไปอยู่อีกไกลถึงสามเมือง
หนีความขัดเคืองของชาวชน

แสวงหาการงานเกือบเดือนจนถังแตก
ชีวิตสลายแหลกลงอีกหน
ค้างค่าเช่าค่าไฟจำใจทน
ควักสตังค์คว้าค้นแทบหมดตัว

....

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, muneenoi

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 กุมภาพันธ์ 2014, 12:14:PM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #13 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 12:14:PM »
ชุมชนชุมชน

สุดท้ายเหลือสตังค์อยู่ห้าสิบ
ของตามร้านจะจับหยิบก็ส่ายหัว
อีกค่าข้าว-ยาปวดหาย ละลายตัว
ชีวิตเริ่มไม่ชัวร์ใกล้เอวัง

สุดท้ายแล้วห้าสิบบาทนั้นไปซื้อปี๊บ
เขาขายใบละยี่สิบจึงสมหวัง
อีกสิบบาทซื้อไม้คานได้งานดัง
หาบน้ำตามเขาสั่งส่งบ้านเรือน

หาบหนึ่งสามบาทหาบยันค่ำ
เก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำงานมีเกลื่อน
ตั้งแต่หาบน้ำได้เกือบแปดเดือน
เภทภัยมิมาเยือนเลยสักครา

จนวันหนึ่งเกิดเป็นไข้อีสุกอีใส
เงินที่เก็บไว้เสียจ่ายค่ารักษา
เกือบสองเดือนอีสุอีใสจึงโรยรา
ก็กลับไปหาบน้ำตามประสาการหากิน

คว้าได้ปี๊บคู่ชีพขึ้นมาหาบ
เหมือนดั่งบาปแสร้งเสให้สูญสิ้น
ไม้คานหักปี๊บหลุดกระแทกตอเสียงได้ยิน
"โผล๊ะ"ก้นทะลุออกปลิ้นทั้งสองพลัน

ตังค์ก็หมดปี๊บก็พังอนิจังอนิจจา
มหารุณร้องอีกคราคิดหวนหัน
กลับสำนักเก่าก่อนคืนพงศ์พันธ์
เดินเกือบร้อยกิโลฯยี่สิบวันจึงถึงเมือง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, muneenoi

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

11 กุมภาพันธ์ 2014, 05:38:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #14 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014, 05:38:AM »
ชุมชนชุมชน




 ชอบใจๆ

...ไม่แนบคำ ว่า"จบ" แล้วหลบต่อ
คงจะรอ น้องหมวย ช่วยเอาเรื่อง
อย่าเพิ่งจบ นะพี่ เดี๋ยวมีเคือง  น้อยใจแถมบ่น
มหารุณ เข้าเมือง คางเหลือง ใช่มั้ยคะ?..  อะไรวะ...งง ว่ะ ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

รัตนาวดี
 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ดอกกระเจียว, muneenoi, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
11 กุมภาพันธ์ 2014, 10:31:AM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #15 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014, 10:31:AM »
ชุมชนชุมชน

ตอนอวสาน...

ยี่สิบวันนั้นน้ำไม่ยอมอาบ
ผมหยิกเหยิงไคลคราบจนคางเหลือง
ตอนแรกเดินต่อมาคลานจะเข้าเมือง
หิวโซไม่รู้เรื่องถึงวัดวา

ยี่สิบวันอาศัยยอดกระถิน
ลูกมะกอกพุทรากินยามแรงล้า
ประทังชีวิตเพราะหมดตังค์อนิจา
สุดท้ายก็ถึงวัดวาหาอาจารย์

อาจารย์นั้นหรือแกชื่อหลวงตาจันทร์
เก่งเวทมนตร์ระดับขั้นจตุมาพรช้างสาน
เห็นมหาก็ให้คิดว่าพวกขอทาน
ถูกผีเข้าซมซานมากุฎี

แกก็คว้าขันลงมนตร์ไม่รีรอ
สาดพรวดเลยหนอเพื่อไล่ผี
ฝ่ายมหาผู้มอมแมมร้องทันที
ฟังคล้ายๆกับเสียงผีมันโอดครวญ

หลวงตาจันทร์ก็เสกมนตร์ลงคาถา
ตักน้ำใส่อีกขันมาอย่างเสสรวล
พลางว่าอ้ายผีร้ายไยเรรวน
ไม่รีบขึ้นรถด่วนแล้วจากลา

ว่าแล้วก็สาดพรวดไปอีกหน
แต่หยาดน้ำขลังกว่าน้ำมนตร์โดนมหา
ชะล้างความมอมแมมให้หลวงตา
แกจำได้ถึงเค้าหน้าว่าคือใคร

...
.

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

11 กุมภาพันธ์ 2014, 10:58:AM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #16 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014, 10:58:AM »
ชุมชนชุมชน

...
พลางว่ามหารุญแล้ววางขัน
นี่มันอะไรกันให้สงสัย
มหาหิวเหนื่อยล้าแต่แข็งใจ
เล่าเรื่องทุกอย่างให้หลวงตาฟัง

หลวงตาก็ไปเรียกพระ-เณรทั้งโยมญาติ
มาฟังเรื่องอันแสนอนาถแต่หนหลัง
ญาติพี่น้องทั้งร้องไห้ทั้งนั่งฟัง
รองน้ำตาได้เป็นถังเพราะหลายคน

มหาว่าจะกลับมาอยู่วัด
บวชเป็นเณรตามถนัดกันอีกหน
จะอยู่กับหลวงตาเพื่อเรียนมนตร์
และจะอยู่ไปจนตราบเข้าเมรุนา

หลวงตาฟังให้ซึ้งใจในลูกศิษย์
(จึงว่า)ที่เกิดระกำแก่ชีวิตนั้นเพราะตัญหา
อันเจ้านี้ก็คนดีมีปัญญา
แต่เหตุไฉนไยเสียท่าจนตังค์หมด

"จึงสอนว่าเจ้าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลพันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเท่าหนึ่งในน้ำใจคน"

มหาฟังก็เกิดให้ถึงแก่นธรรม
โศกเศร้าซึ้งร่ำเรื่องอีกหน
ถึงชะตากว่าสองปีที่ผจญ
กราบหลวงตาว่าเพราะตนโง่สิ้นดี

ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา
เหมือนเรื่องราวของมหาของเรานี้
ก็กลับบวชกลับเข้าวัดสร้างความดี
รักษาศีลร่วมพระชีตลอดมา


จบ............


ขอได้รับความขอบคุณจากกระผม เจียวน้อย ทหารจอมเก๊ก ยิ้มให้จ้ะ ยิ้มหน้าใส ขำแบบกระแดะหน่อยๆ ขำขี้แตกขี้แตน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

11 กุมภาพันธ์ 2014, 03:50:PM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #17 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014, 03:50:PM »
ชุมชนชุมชน



 ตบมือให้ ตบมือให้ ตบมือให้


...ติดใจอ่าน นิทานดี มีตอนจบ
ปลื้มต้องปรบ มือให้ ชอบใจพี่
แต่งกลอนร่าย หมายปลุก สุขเปรมปรีย์
น่าชื่มชม ยินดี มีรางวัลค่ะ...

รัตนาวดี
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, muneenoi, ไพร พนาวัลย์, ดอกกระเจียว

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s