@..อาสาฬหบูชา ปฐมบทอริยสงฆ์..@
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
16 เมษายน 2024, 08:39:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: @..อาสาฬหบูชา ปฐมบทอริยสงฆ์..@  (อ่าน 865 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
22 กรกฎาคม 2013, 08:17:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2013, 08:17:PM »
ชุมชนชุมชน

อาสาฬหบูชา มารำลึก
น้อมสำนึก สังฆคุณ บุญดิถี
ถึงอัฏฐา มาสะ วันพระดี
ปุณณมี ชี้บ่ง ตรงเดือนเพ็ญ

ย้อนเวลา พาสู่ ฤดูผ่าน
พุทธกาล นานมา พาไปเห็น
พรรษาแรก แจกธรรม นำประเด็น
ก่อนมาเป็น วันนี้ มีที่มา

หลังพระพุทธ อุบัติ ตรัสรู้
เล็งญาณดู ผู้รับ เทศนา
พบปัญจวัคคีย์ ฤาษีห้า
อุปการ์ คราก่อน ตอนตรากตรำ

พอเสวย วิมุตติ จนผุดผ่อง
ตามครรลอง องค์พุทธ วิสุทธิ์ล้ำ
ลาต้นโพธิ์ ประจักษ์ พบหลักธรรม
มุ่งลำนำ ตามทาง กลางพงพี

สิบเอ็ดวัน ผันผ่าน สำราญจิต
พระทรงติดตามถึง ซึ่งฤาษี
ณ อิสิปะตะนะฯ พนาลี
ต่างทำที มีหยิ่ง มิจริงใจ

เรียกพระพุทธ สุดหยาม "อาวุโส"
ที่ท่านโผล่ มาตาม ถามไฉน
ท่านคลายเพียร เปลี่ยนทาง ช่างกระไร
กลับมาใหม่ ใคร่บอก อย่าหลอกกัน

พุทธองค์ ทรงเล่า เราบรรลุ
ธรรมเอกอุ ปรุโปร่ง โยงสวรรค์
สยัมภู รู้แจ้ง แหล่งอนันต์
อรหันต์ วันนี้ ที่เรามา

คำเช่นนี้ ที่เอ่ย มิเคยบอก
มิใช่หลอก กลอกกลิ้ง สิ่งมุสา
มิควรคิด ผิดหวัง ตั้งวาจา
ต่างมองหน้า พานิ่ง เห็นจริงตาม

พอวันรุ่ง สิบห้าค่ำ ย่ำดิถี
เรียกโยคี ทั้งห้า มาไต่ถาม
เริ่มปฐมเทศนา สง่างาม
ระบือนาม ธรรมจักรฯ วางหลักธรรม

เทศน์กัณฑ์แรก แปลกจัง คนฟังน้อย
ห้าคนคอย พลอยรับ สดับพร่ำ
แต่ผลเกิด เลิศลอย เกินถ้อยคำ
ขอเอ่ยนำ ย้ำต่อ ถ่อจรรโลง

ธรรมจักรฯ หลักใหญ่ ใจความว่า
มีมรรคา สองอย่าง ทางสุดโต่ง
หย่อนเกินไป ใจต่ำ ทำตัวโล่ง
มิอาจโยง ถึงธรรม ที่บำเพ็ญ

ทางที่สอง ตึงเกิน ประเมินเหตุ
ย่อมก่อเขต มัวหมอง ต้องทุกข์เข็ญ
เกิดอัตตะกิลาฯ พาลำเค็ญ
สองทางเป็น เช่นหลุม อย่าสุ่มเดิน

แล้วตรัสทาง ที่สาม งามสง่า
คือมรรคา แปดอย่าง อย่าห่างเหิน
มัชฌิมาฯ ค่าล้ำ ทางจำเริญ
ควรดำเนิน สายกลาง อย่างพอดี

เรื่องที่สาม นามว่า อริยสัจ
พระเทศน์ตรัส ลงท้าย หมายบ่งชี้
ตรัสเรื่องทุกข์ พร้อมเหตุ เลศอัปรีย์
มรรควิธี นิโรธ โทษดับเย็น

ยอดคำเทศน์ เด็ดขาด สิ้นชาติภพ
งามบรรจบ เบื้องต้น ให้คนเห็น
มัชเฌกัลฯ ท่ามกลาง วางประเด็น
สุดท้ายเป็น ปริโยฯ ธัมโมงาม

พอเทศน์จบ พบท่าน โกณฑัญญะ
ถึงธรรมะ ละโทษ สังโยชน์สาม
โสดาบัน ทันใด ใจน้อมตาม
สังฆรัตน์ อร่าม ท่ามพนม

รัตนตรัย ได้ครบ บรรจบสาม
สังโฆนาม องค์แรก แจกปฐม
"อัญญาสิ วะตะ โภฯ" พุทโธชม
เป็นบรม อุทาน พยานคำ

ขอบวชพลัน ทันที ที่บรรลุ
ด้วยเอหิภิกขุอุปสัมฯ (ปทา)
เอตทัคค์ รัตตัญญู เป็นผู้นำ
เผยแผ่ธรรม นิพพาน กาลต่อมา

อีกสี่ท่าน มั่นใจ ในองค์พุทธ
พบวิมุตติ อีกวัน ใจหรรษา
ฟังพระสูตร กล่าวชัด อนัตตา (อนัตตลักขณสูตร)
วันแรมห้า อรหันต์ กันทุกองค์

เหล่าชาวพุทธ สุดดี ได้ที่พึ่ง
จิตซาบซึ้ง ถึงธรรม จำเพาะสงฆ์
ช่วยจรรโลง โยงศาสน์ อาจยืนยง
จนดำรง คงมั่น สองพันปี

ครบวาระ อีกครา อาสาฬหะ
อย่าเลยละ ปฏิบัติ ใจขัดสี
น้อมไตรรัตน์ ชัดแจ้ง แข่งทำดี
ขอมุนี โมทนา มาด้วยคน

เกิดมาพบ พุทธศาสน์ อย่าคลาดแคล้ว
ได้พบแนว หนทาง อย่างเหตุผล
กำจัดทุกข์ ตัณหา พาร้อนรน
พบสุขล้น บนมรรค ตามหลักธรรม

อันศาสน์อื่น หมื่นแสน แม้นต่างหาก
อาจดีมาก ถึงสวรรค์ เพียงขั้นต่ำ
แม้นถึงพรหม อมตะ หวังประจำ
แต่หลักคำ พร่ำสอน ยังคลอนแคลน

ไร้วิธี ชี้ชัด ตัดกิเลส
อยู่ในเขต โลกีย์ วิสัยแน่น
หวังเทวะ ป้องปัด ศรัทธาแทน
กิเลสแล่น ยังอยู่ เป็นคู่บุญ

ที่กล่าวมา อย่าหา ว่าทะลุ
มิระบุ ศาสน์ใด ให้เคืองขุ่น
มิรังเกียจ เหยียดหยาม ประณามคุณ
เพียงหวังหนุน ชาวพุทธ รุดทำดี

เขียนซะยาว กล่าวอ้อน ก่อนลาจาก
ขอบคุณมาก หากอ่าน มิผ่านหนี
มิได้หวัง สิ่งใด จากไมตรี
เพียงน้องพี่ พบธรรม กำลังใจ

"มุนีน้อย"

 ส่งจูบจ้ะ

(สอดแทรกพุทธประวัติ และหลักธรรมด้วย เลยยาวเฟื้อย
ท่านใดอ่าน แสดงว่า เข้าทางเรา อิ อิ.... ตบมือให้)

 เคารพรัก






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, เพรางาย

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s