21 มิถุนายน 2013, 04:00:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2013, 04:00:PM » |
ชุมชน
|
....รถหนึ่ง เทียมม้าคู่.............ดูราคา แจ้งไว้ ใช้เงิน หกหมื่นห้า.................แต่ละม้า แจกแจง แพงกว่ารถ ห้าเท่า .....................................จึ่งขอเข้า คำถาม ตามตำรา “ประถมสี่”..............ควรที่ ม้าหนึ่งนั้น มีค่า ตามกรอบกั้น.................มากน้อย เท่าใด ...แน่นา
|
|
|
|
21 มิถุนายน 2013, 05:42:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2013, 05:42:PM » |
ชุมชน
|
* เย็นไย ฝนตกซู่ จู่จู่ลง กระหน่ำเมือง เคืองใคร ในชนบท ฝนหมด ให้แห้งแล้ง แกล้งซ้ำ ช้ำทุกข์ท่วม ครานี้อ่วม อนาถแท้ มุ่งมั่น ปัญญาแก้ ไป่แพ้ชะตากรรม
|
|
|
|
24 มิถุนายน 2013, 09:40:AM |
toshare
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2013, 09:40:AM » |
ชุมชน
|
แฮะ ๆ จากตอบ #42 เป็นต้นมา เพื่อน ๆ ช่วยแต่งตอบหน่อยสิครับ รอจนหาวแล้วหาวอีก
นี่ก็เป็น ปัญหาเก่าเก็บนะ 555
....ขอลองถามเพื่อนบ้าง........ได้ไหม พระพุทธองค์ตรัสกระไร..........ใคร่รู้ ธรรมท้ายสุดอันใด...............คือหลัก ปฏิบัติเป็นมรรคสู้................หลุดพ้นบ่วงกรรม
|
|
|
|
24 มิถุนายน 2013, 11:06:AM |
กรกช
Special Class LV4 นักกลอนรอบรู้กวี
คะแนนกลอนของผู้นี้ 130
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 277
แม้มิเคยพบหน้า เชื่อเถอะว่า ที่นี่มีรัก
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2013, 11:06:AM » |
ชุมชน
|
ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ (ขออนุญาตนำเสนอซ้ำครับ) Twenty Thousand Leagues under the Seas
...."ใต้ทะเล" ลึกล้ำ..................เท่าใด...แน่เฮย "สองหมื่นโยชน์" อย่างไร............จึ่งอ้าง ทะลุโลกเลยไป.......................ฤ เปล่า ฝันท่าน Jules Verne สร้าง........ผิดเพี้ยนฤๅไฉน
#๒๑๒
-๐- หนึ่งโยชน์คือ มาตรวัด ระยะไทย สี่ร้อยเส้น แบ่งไป ให้ถี่ถ้วน หนึ่งเส้นแบ่ง ยี่สิบ วาครบควร หนึ่งวาชวน เทียบสากล สองเมตรตรง -๐- สรุปความ คูณค่า มาทั้งหมด หนึ่งโยชน์จด สากล ผลประสงค์ แปลสิบหก กิโลเมตร เขตบรรจง สองหมื่นโยชน์ ก็คง เกินโลกไป -๐- เพราะเทียบเท่า สามแสน สองหมื่นจัด กิโลเมตร ที่วัด นั้นผิดได้ ด้วยโลกเรา รัศมี หกพันไกล ทะลุไซร้ ไม่เกิน หมื่นสามจริง -๐- ส่วน "ฌูล แวร์น" ผู้แต่ง ชาวฝรั่งเศส ระยะเขต เรียก"ลีค" แตกต่างยิ่ง ลีคของเขา สี่กิโล เมตรอ้างอิง แปดหมื่นดิ่ง กิโลไป ยังไกลเกิน -๐- หนังสือเขา ใช่กล่าว ทะลุโลก เรากลับโยก คำมาใช้ ให้ขัดเขิน ระยะทาง กลางทะเล ที่เผชิญ ไม่ใช่เพลิน ทะลุเล่น เห็นแล้วปลง -๐- นี่แหละหนา ตีความ ตามความคิด ถูกหรือผิด รอเฉลย เลยมาส่ง ถ้าไม่ถาม อากู๋ ก็ยังงง ติดขัดตรง ไม่รู้โลก ลึกเท่าไร -๐- เลยจับทาง คำตอบ จากระยะ เห็นจะจะ ว่าผิด ที่ตรงไหน ไม่ฟังศัพท์ จับกระเดียด เฉียดคอไป สติตั้ง ระวังใจ ใช้ตีความ -๐-
รัศมีของโลก ประมาณ ๖,๓๗๘ กิโลเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ราวๆ ๑๒,๗๕๖ กิโลเมตร
มาตราวัดระยะทางของไทย ๑๒ นิ้ว เป็น ๑ คืบ ๒ คืบ เป็น ๑ ศอก ๔ ศอก เป็น ๑ วา ๒๐ วา เป็น ๑ เส้น ๔๐๐ เส้น เป็น ๑ โยชน์
เทียบมาตราสากล ๑ วา เท่ากับ ๒ เมตร ๑ เส้น เท่ากับ ๔๐ เมตร ๑ โยชน์ เท่ากับ ๑๖ กิโลเมตร
มาตราวัดระยะทางของฝรั่งเศส ที่ ฌูล แวร์น ใช้อ้างอิง ๑ ลีค เท่ากับ ๔ กิโลเมตร
Twenty Thousand Leagues under the Seas ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์
ไม่มีคำว่า deep หรือ ลึก สักแห่งเลยนะ
|
|
|
|
24 มิถุนายน 2013, 11:21:AM |
เอ๊พ
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2013, 11:21:AM » |
ชุมชน
|
แฮะ ๆ จากตอบ #42 เป็นต้นมา เพื่อน ๆ ช่วยแต่งตอบหน่อยสิครับ รอจนหาวแล้วหาวอีก
นี่ก็เป็น ปัญหาเก่าเก็บนะ 555
....ขอลองถามเพื่อนบ้าง........ได้ไหม พระพุทธองค์ตรัสกระไร..........ใคร่รู้ ธรรมท้ายสุดอันใด...............คือหลัก ปฏิบัติเป็นมรรคสู้................หลุดพ้นบ่วงกรรม
พุทธองค์ตรัสหนทางมีแปดหน กุศโลยลเป็นวิถีอุปถัมภ์ หลักคือ'อริยะสัจสี่'ที่กลืนกล้ำ จบทุกข์ขนาบจำเริ่มจากสัมมา...
หลักพุทธปทีปคือ'อริยะสัจจ์' ทุกข์สมุทนิโรธลัดหนทางหา มรรคาแปดเป็นมูลบทปฏิปทา จบวิธีฆ่าทุกข์หลุดวงจร
หวังว่าคุณทูแชร์ คงหยุดหาว
|
|
|
|
24 มิถุนายน 2013, 11:26:AM |
กรกช
Special Class LV4 นักกลอนรอบรู้กวี
คะแนนกลอนของผู้นี้ 130
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 277
แม้มิเคยพบหน้า เชื่อเถอะว่า ที่นี่มีรัก
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2013, 11:26:AM » |
ชุมชน
|
....ใช้ "คอมพ์(Computer)" อยู่อยู่ให้...................พิศวง "(Please) change records" ปรากฏตรง...............ต่อหน้า บัดเดี๋ยว "Record changes (please)" ขึ้นคง.........รอกด...แป้นเฮย แปลต่างอย่างไร - ข้าฯ......................................อยากให้แจงมา
#๒๑๓
-๐-๐-๐- มองหาหมายชี้ "อัศ- เจรีย์" บอกไม่หมดควรมี ต่อท้าย คอมพ์ถามก่อนกดซี คำตอบ ฤๅเปลี่ยนใจมิย้าย โยกโย้เหลือเกิน -๐-๐-๐- เชิญเลือกกดได้ท่าน แบบใด กดเลือกตอบลงไป แน่แล้ว ยังถามอีกตอบไหว เอานะ จริงจริง "NO" "YES" โอมพระแก้ว ผิดนี้สิทธิ์สลาย -๐-๐-๐-
ขอตอบแค่ ๒ ข้อนะ เว้นที่ให้ท่านอื่นแสดงบ้าง (ที่แท้ที่เหลือคิดไม่ออก) อิ อิ
|
|
|
|
25 มิถุนายน 2013, 12:32:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2013, 12:32:PM » |
ชุมชน
|
ที่คุณ กรกช ตอบ #47
หนังสือเขา ใช่กล่าว ทะลุโลก เรากลับโยก คำมาใช้ ให้ขัดเขิน ระยะทาง กลางทะเล ที่เผชิญ ไม่ใช่เพลิน ทะลุเล่น เห็นแล้วปลง
ถูกครับ ชื่อไทยนั้นผู้แปลท่านละในฐานที่เข้าใจครับ
Twenty Thousand Leagues under the Seas ใต้(ผิวน้ำ)ทะเล(โลดแล่นไป)สองหมื่นโยชน์
..........หนึ่งโยชน์คือสี่ร้อย................เส้นนา ทอนย่อยยี่สิบวา..............................หนึ่งเส้น วาหนึ่งคิดมาตรา.............................เมตริก เทียบเท่าสองเมตร - เน้น.................สูตรนี้พึงจำ ..........เขาสูงล้ำเสียดฟ้า...................ใหญ่โต ทะเลลึกยิ่งอักโข.............................กว่านั้น แต่เพียงสิบกิโล(เมตร)....................ลึกสุด ควรคิดหลีกกลกั้น...........................กรอบนี้ผิดหนอ
(หนึ่งโยชน์ = 400*20*2 = 16000 เมตร หรือ 16 กิโลเมตร)
The deepest known spot on the planet is called the Challenger Deep, found at the bottom of the Mariana Trench east of the Philippine Islands in the Pacific Ocean. Sounding of the depths in the Mariana Trench measure 11,033 meters (36,198 feet). (Source: NOAA)
|
|
|
|
25 มิถุนายน 2013, 01:01:PM |
กรกช
Special Class LV4 นักกลอนรอบรู้กวี
คะแนนกลอนของผู้นี้ 130
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 277
แม้มิเคยพบหน้า เชื่อเถอะว่า ที่นี่มีรัก
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2013, 01:01:PM » |
ชุมชน
|
....รถหนึ่ง เทียมม้าคู่.............ดูราคา แจ้งไว้ ใช้เงิน หกหมื่นห้า.................แต่ละม้า แจกแจง แพงกว่ารถ ห้าเท่า .....................................จึ่งขอเข้า คำถาม ตามตำรา “ประถมสี่”..............ควรที่ ม้าหนึ่งนั้น มีค่า ตามกรอบกั้น.................มากน้อย เท่าใด ...แน่นา
#๒๒๒
-๐-๐-๐- เทียบราคารถตั้ง พึงวาง หนึ่งหน่วย บวกคู่อาชากลาง กว่าห้า คือหกส่วนของฐาน เพียงหนึ่ง ตัวนา รวมส่วนสิบสาม,ม้า คู่ต้องสองตัว -๐-๐-๐- รวมทั่วหกหมื่นห้า บวกกัน ที่แบ่ง คงส่วนละห้าพัน อย่าช้า ราคารถสัมพันธ์ ตามส่วน สามหมื่นราคาม้า ที่ซื้อต่อตัว -๐-๐-๐-
๑ รถ + ๒ ม้า = ๖๕,๐๐๐ ๑ ม้า = ๖ รถ ๒ ม้า = ๑๒ รถ ๑๓ รถ = ๖๕,๐๐๐ ๑ รถ = ๕,๐๐๐ ๑ ม้า = ๓๐,๐๐๐
|
|
|
|
26 มิถุนายน 2013, 01:39:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2013, 01:39:PM » |
ชุมชน
|
ผมหยุดหาวแล้วคุณ เอ๊พ ครับ แต่เวียนหัว 555 ที่ตอบมา ต้องเปลี่ยนโจทย์เป็น
....พระพุทธองค์ตรัสรู้.......ธรรมใด ระบุแก่นแห่งหัวใจ............ลึกซึ้ง แจกแจงเหมาะนำไป.........ปฏิบัติ เป็นเกราะกันมารทึ้ง..........อาจแกล้วกลางสกล
คำตอบจึงเป็น
พุทธองค์ตรัสหนทางมีแปดหน กุศโลยลเป็นวิถีอุปถัมภ์ หลักคือ'อริยะสัจสี่'ที่กลืนกล้ำ จบทุกข์ขนาบจำเริ่มจากสัมมา...
หลักพุทธปทีปคือ'อริยะสัจจ์' ทุกข์สมุทนิโรธลัดหนทางหา มรรคาแปดเป็นมูลบทปฏิปทา จบวิธีฆ่าทุกข์หลุดวงจร
ชราภาพทราบแล้วเปลี่ยน
....... คืออริยสัจสี่แก้ว...............ก่องกมล ดุจประทีปส่องใจชน................. สว่างหล้า พิสิฐเสกสถาผล.......................พิสุทธิ์ด้วย ธรรมนา ผันผ่อนใจร้อนล้า.....................กลับฟื้นคืนเย็น
........ทุกข์คือความทุกข์ท้น.........ท่วมใจ เหตุทุกข์คือสมุทัย......................แน่แท้ นิโรธชัดรหัสไข.........................ทางดับ ทุกข์เฮย มรรคปฎิบัติจึ่งแก้.......................หลุดพ้นโดยธรรม
ตอบใหม่นะครับ ผมถามถึง "ปัจฉิมโอวาท" ครับ
....ขอลองถามเพื่อนบ้าง........ได้ไหม พระพุทธองค์ตรัสกระไร..........ใคร่รู้ ธรรมท้ายสุดอันใด...............คือหลัก ปฏิบัติเป็นมรรคสู้................หลุดพ้นบ่วงกรรม
|
|
|
|
26 มิถุนายน 2013, 02:38:PM |
กรกช
Special Class LV4 นักกลอนรอบรู้กวี
คะแนนกลอนของผู้นี้ 130
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 277
แม้มิเคยพบหน้า เชื่อเถอะว่า ที่นี่มีรัก
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2013, 02:38:PM » |
ชุมชน
|
....รถหนึ่ง เทียมม้าคู่.............ดูราคา แจ้งไว้ ใช้เงิน หกหมื่นห้า.................แต่ละม้า แจกแจง แพงกว่ารถ ห้าเท่า .....................................จึ่งขอเข้า คำถาม ตามตำรา “ประถมสี่”..............ควรที่ ม้าหนึ่งนั้น มีค่า ตามกรอบกั้น.................มากน้อย เท่าใด ...แน่นา
#๒๒๒
-๐-๐-๐- เทียบราคารถตั้ง พึงวาง หนึ่งหน่วย บวกคู่อาชากลาง กว่าห้า คือหกส่วนของฐาน เพียงหนึ่ง ตัวนา รวมส่วนสิบสาม,ม้า คู่ต้องสองตัว -๐-๐-๐- รวมทั่วหกหมื่นห้า บวกกัน ที่แบ่ง คงส่วนละห้าพัน อย่าช้า ราคารถสัมพันธ์ ตามส่วน สามหมื่นราคาม้า ที่ซื้อต่อตัว -๐-๐-๐-
๑ รถ + ๒ ม้า = ๖๕,๐๐๐ ๑ ม้า = ๖ รถ ๒ ม้า = ๑๒ รถ ๑๓ รถ = ๖๕,๐๐๐ ๑ รถ = ๕,๐๐๐ ๑ ม้า = ๓๐,๐๐๐
#๒๒๙
-๐-๐-๐-
ตัวอาชาหากตั้ง คู่สอง สี่ตัว หักส่วนตามทำนอง ผิดแท้ สองพันหกคือของ ตัวรถ ราคา คงหนึ่งอาชาแก้ หมื่นห้าหกร้อย
-๐-๐-๐-
คำตอบแรก คิดม้าคู่เดียว ๒ ตัว วิธีคิดอีกแบบ คำตอบที่ ๒ คิดม้าสองคู่ ๔ ตัว
๑ รถ + ๔ ม้า = ๖๕,๐๐๐ ๑ ม้า = ๖ รถ ๔ ม้า = ๒๔ รถ ๒๕ รถ = ๖๕,๐๐๐ ๑ รถ = ๒,๖๐๐ ๑ ม้า = ๑๕,๖๐๐
คำถามนี้แบบเปิด ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง
|
|
|
|
26 มิถุนายน 2013, 03:19:PM |
จารุทัส
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2013, 03:19:PM » |
ชุมชน
|
... ตอบใหม่นะครับ ผมถามถึง "ปัจฉิมโอวาท" ครับ
....ขอลองถามเพื่อนบ้าง........ได้ไหม พระพุทธองค์ตรัสกระไร..........ใคร่รู้ ธรรมท้ายสุดอันใด...............คือหลัก ปฏิบัติเป็นมรรคสู้................หลุดพ้นบ่วงกรรม
รู้ธรรมแต่ไม่ใช้ . . . . . . . ซักที วันพรุ่งเวลาดี . . . . . . . . . . ค่อยคล้อย ครั้นตายร่างกลายผี . . . . . ข้ามภพ ตาชั่งบอกบุญน้อย . . . . . . สะดุ้งลืมตา
กายายังครบถ้วน . . . . . . บริบูรณ์ โอวาทท้ายอนุกูล . . . . . . . กอบกู้ ชีวิตอาจสิ้นสูญ . . . . . . . . . ทุกเมื่อ อย่าประมาทประหนึ่งผู้ . . . ไป่รู้รสธรรม
|
|
|
|
27 มิถุนายน 2013, 01:20:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2013, 01:20:PM » |
ชุมชน
|
คำสอนครั้งสุดท้าย หมายถึง ปัจฉิมวาจา คือ พระดำรัสสุดท้ายของพระพุทธเจ้าก่อนจะปรินิพพานว่า "วยธมฺมา สงฺยารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ"
แปลว่า "สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดาท่านทั้งหลายจง (ยังประโยชน์ ตนและประโยชน์ผู้อื่น) ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด"
http://palungjit.com/dict/407362
====
....รู้ธรรมแต่ไม่ใช้ . . . . . . . ซักที วันพรุ่งเวลาดี . . . . . . . . . ค่อยคล้อย ครั้นตายร่างกลายผี . . . . . ข้ามภพ ตาชั่งบอกบุญน้อย . . . . . . สะดุ้งลืมตา
....กายายังครบถ้วน . . . . . . บริบูรณ์ โอวาทท้ายอนุกูล . . . . . . . กอบกู้ ชีวิตอาจสิ้นสูญ . . . . . . . . . ทุกเมื่อ อย่าประมาทประหนึ่งผู้ . .... . ไป่รู้รสธรรม จารุทัส
ถูกต้องแล้วครับ ขอขอบคุณ (ยังอีกหลายข้อนะ เร่งมือหน่อยครับ ฮา)
....ปัจฉิมโอวาทให้............คำนึง "ไม่ประมาท"ปฏิบัติถึง.........เปี่ยมพร้อม สรรพสิ่งเสื่อมอย่าตรึง.........ยึดติด เจริญสติหมั่นฝึกซ้อม..........ย่อมซึ้งพระธรรม (๒๐๐๗)
....นานาในโลกแล้..................ปรวนแปร พึงเพ่งสอบเล็งแล...................ถี่ถ้วน ประมาทอาจติดแห..................เหตุแห่ง...ทุกข์นา รอบคอบประกอบกิจ ล้วน...........สรุปสิ้นพระธรรมสอน
|
|
|
|
02 กรกฎาคม 2013, 01:45:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2013, 01:45:PM » |
ชุมชน
|
เห็นข้อเดิม ยังไม่มีผู้ ขยับ+ขยัน ตอบ แต่ก็อดซ่าไม่ได้ครับ
ของัดปริศนาเก่า มากวนโทสะหน่อย 555
......บ้านฉันประหลาดแท้.................เพื่อนเอย แลรอบทั่วทิศเผย...........................แต่ "ใต้" สัตว์เด่นอวดได้เลย.........................หายาก ปีหนึ่ง_หกเดือนได้.........................โผล่หน้าให้เห็น
......เป็นสัตว์ใดอยากรู้......................ไหมหนา ฤ เพื่อนจักอาสา...............................ตอบให้ บ้านฉันเล่าอยากมา..........................ฤๅเปล่า อยู่แห่งหนไกลใกล้..........................หากรู้วานเฉลย
|
|
|
|
09 กรกฎาคม 2013, 12:15:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2013, 12:15:PM » |
ชุมชน
|
http://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=19538Free Style01 พอดีพูดถึงเรื่องประวัติคณิตศาสตร์เเล้ว ผมเกิดข้อสงสัยที่ค้างคาใจมานานครับ ขอสอบถามว่า ทำไม -1 * -1 = 1 ครับ มีประวัติมาอย่างไร ...ลบคูณลบ เหตุไฉน ได้เป็นบวก ว่างสะดวก วานเฉลย เผยหน่อยหนา แบบให้เห็น จะจะ กระจ่างตา ปลุกปัญญา พาพบ ลบแผลใจ
|
|
|
|
09 กรกฎาคม 2013, 03:41:PM |
ศรีเปรื่อง
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2013, 03:41:PM » |
ชุมชน
|
Free Style01 ( http://www.mathcenter.net/forum/index.php) พอดีพูดถึงเรื่องประวัติคณิตศาสตร์เเล้ว ผมเกิดข้อสงสัยที่ค้างคาใจมานานครับ ขอสอบถามว่า ทำไม -1 * -1 = 1 ครับ มีประวัติมาอย่างไร ...ลบคูณลบ เหตุไฉน ได้เป็นบวก ว่างสะดวก วานเฉลย เผยหน่อยหนา แบบให้เห็น จะจะ กระจ่างตา ปลุกปัญญา พาพบ ลบแผลใจอืมม อธิบายเป็นร้อยแก้วนะครับ... บวก หรือ ลบ เป็นเรื่องของชุดตัวเลขที่มีลักษณะตรงข้ามกัน (ลองพิจารณาจากเรื่องแกนนะครับ เช่น แกน x ด้านขวาเป็นบวก ด้านซ้ายเป็นลบ) ผมอธิบายด้วยการเทียบกับการเดินจากจุด ๆ หนึ่งนะครับ สมมุติเราวางกฎว่า 1. เดินไปข้างหน้า เครื่องหมาย เป็น + 2. เดินถอยหลัง เครื่องหมาย เป็น - ลบ (-) คือ การปฏิเสธลักษณะของชุดตัวเลขเดิม เทียบกับกรณีนี้ ก็คือ เปลี่ยนทิศการเดิน ถ้า 1 คือ เดินหน้า 1 ก้าว -1 ก็คือ ไม่ใช่ เดินหน้า 1 ก้าว = ถอยหลัง 1 ก้าว -1 * -1 เขียนอีกแบบเป็น -(-1) ก็คือ ไม่ใช่ ถอยหลัง 1 ก้าว = เดินหน้า 1 ก้าว ซึ่งก็คือ 1 ตามกฎที่เราวางไว้ครับ ทีนี้ประยุกต์กับชุดตัวเลขอื่นบ้างครับ -2 * -4 แยกองค์ประกอบเป็น (-1) (2) (-4) = (-1) (-8) = -(-8) คือ ไม่ใช่ลบแปด ก็ต้องเป็น บวกแปดครับ ศรีเปรื่อง 9 ก.ค. 2556
|
|
|
|
09 กรกฎาคม 2013, 05:00:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2013, 05:00:PM » |
ชุมชน
|
เยี่ยมครับ ศรีเปรื่อง เข้าใจถูกแล้ว
ลบ (-) คือ การเปลี่ยนทิศทาง หรือกระทำตรงข้าม จากเดิม ๆ
แต่ติติงว่า คำอธิบายยังอบอวลด้วย ตัวเลข ทำให้ชวน งง ๆๆๆ
อย่างทำไม (-2) = (-1) คูณ (2) หรือ (2) คูณ (-4) ทำไมได้ (-8)
เอาตัวอย่างแบบชีวิตประจำวัน เช่น การรับจ่ายเงิน ได้ไหมครับ 555
|
|
|
|
09 กรกฎาคม 2013, 07:42:PM |
ศรีเปรื่อง
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2013, 07:42:PM » |
ชุมชน
|
อืมม...ไอ้ตัวเลขลบคูณกันเนี่ย คงเอาใช้กับชีวิตประจำวันทั่วไปได้ยาก ผมว่ามันเป็นการนำคณิตศาสตร์มาใช้ในระดับที่ซับซ้อนมากขึ้น อย่างพวกสมการ อะไรประมาณนี้ เช่น 3m - 2(m-2) = 0 ผมก็หมดปัญญาจะอธิบายเหมือนกันครับ เพื่อน ๆ ท่านไหนมีแนวทางการอธิบายดี ๆ ก็ลองมาแชร์กันนะครับ
|
|
|
|
09 กรกฎาคม 2013, 08:25:PM |
เนิน จำราย
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2013, 08:25:PM » |
ชุมชน
|
เส้นตรงเส้นหนึ่ง ตัดเส้นตรงอีกเส้นหนึ่ง มุมประชิดรวมกันเข้าเท่ากับสองมุมฉากครับ
|
|
|
|
10 กรกฎาคม 2013, 09:23:AM |
toshare
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2013, 09:23:AM » |
ชุมชน
|
คุณ Free Style01 ต้องเข้าใจให้แม่นว่า ลบ(เครื่องหมาย -) เป็นการบ่งบอก "ทิศทาง" ถ้าเราให้ การกระทำใด ๆ ไปในทางหนึ่ง เป็น + การให้ทำย้อน หรือให้กลับเป็นตรงกันข้าม ก็บอกโดยใช้ - เช่นให้ ได้เงิน มีเงิน เป็น + จ่ายเงิน เป็นหนี้ ก็เป็น -
คุณมีเจ้าหนี้ 2 คน คนละ 10 ดังนั้นคุณมีเงิน 2x(-10)= -20 (เป็นหนี้) จึงได้ ลบxบวก เป็น ลบ ถ้าตอนนี้ คุณมีเงิน 20 รวม(คือ บวก)กับการเป็นหนี้(คือ ลบ) คุณจะมีเงิน 20+(-20) = 0 (ถ้าคุณคืนหนี้) ถ้าเจ้าหนี้ทุกคนยกหนี้ให้ (คือกลับสภาพทั้งสองคน) จึงเป็น (-2) หนี้ของแต่ละคนคือ (-10) ดังนั้นคุณยังคงมีเงิน (-2)x(-10) = 20 (คุณไม่ต้องจ่ายหนี้ เงินจึงมีเหมือนเดิม)
02 กรกฎาคม 2013 18:18
====
กำลังพยายามแต่งเป็นร้อยกรองอธิบายครับ
|
|
|
|
10 กรกฎาคม 2013, 10:08:AM |
ศรีเปรื่อง
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2013, 10:08:AM » |
ชุมชน
|
โอ้! สุดยอดมากเลยครับ ท่าน Toshare ไอ้ 2 * (-10) ได้ค่าเป็น -20 นี่ ก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะพื้นฐานของการคูณก็มาจากบวกนั่นเอง 2 * (-10) ก็คือ -10 บวกกัน 2 ตัว มันก็ย่อมต้องเป็น -20 เหมือนกับเราเดินถอยหลังครั้งแรก 10 ก้าว แล้วต่อมาเราก็ถอยเพิ่มอีก 10 ก้าว แน่นอนรวมกันมันก็ต้องเป็น ถอยหลัง 20 ก้าว (-20) แต่...ไอ้เรื่องยกหนี้นี่สิ...สุดยอดเลยครับ...ผมเข็มขัดสั้นไปเลย (สาธุ! ขอให้มีคนยกให้ผมอย่างนี้บ้างเต๊อะ!)ศรีเปรื่อง 10 ก.ค. 2556
|
|
|
|
|