คืนไร้ดาว
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
11 พฤศจิกายน 2024, 02:45:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คืนไร้ดาว  (อ่าน 15153 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
10 พฤศจิกายน 2012, 09:30:PM
ธันวาคม
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 63
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 47



« เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2012, 09:30:PM »
ชุมชนชุมชน

 

                                                  บานหน้าต่างรางเลือนเปื้อนรอยร้าว
                                                  ม่านบางขาวปลิวไหวคล้ายใจฉัน
                                                  ห้องสี่เหลี่ยมเปี่ยมเหงาเฝ้ากักกัน
                                                  ดั่งคุมขังผนังคั่นกั้นกางไว้

                                                  นอกผ้าม่านผ่านมองช่องหน้าต่าง
                                                  ดูเวิ้งว้างว่างเปล่าเหงาเพียงไหน
                                                  นั่งเหม่อพลอยลอยใจไปแสนไกล
                                                  คิดถึงใครใต้ฟ้าคราไร้ดาว

                                                  แก้วบางใสใส่เบียร์คลอเคลียข้าง
                                                  ไม่เคยห่างร้างไกลยามใจหนาว
                                                  เปิดบรรเลงเพลงเศร้าเคล้าเรื่องราว
                                                  หวนถึงคราวดาวพร่างอยู่กลางฟ้า

                                                  ล้มลงนอนหมอนกอดทอดตัวนิ่ง
                                                  คล้ายจมดิ่งในห้วงบ่วงเสน่หา
                                                  นอนปล่อยใจให้ผ่านกาลเวลา
                                                  พร่ำเพ้อหาคว้าดาวคราวมืดมน

                                                         

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, --ณัชชา--, ดาว อาชาไนย, ชลนา ทิชากร, กวีพเนจร, Prapacarn ❀, รพีกาญจน์, D, panthong.kh, เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, ธาตรี รติกานท์, ไร้นวล^^, สุวรรณ, ไม่รู้ใจ, กามนิต, รการตติ, สะเลเต, ดุลย์ ละมุน, แป้งน้ำ, พิมพ์วาส

ข้อความนี้ มี 22 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 พฤศจิกายน 2012, 09:44:PM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2012, 09:44:PM »
ชุมชนชุมชน





...คืนท้องฟ้า ไร้ดาว สาวหม่นหมาง
ให้อ้างว้าง อุรา คราสับสน
ฟ้าไร้ดาว คืนนี้ ที่ทุกข์ทน
น้ำตาหล่น ห่วงหา มองฟ้าพลาง..

รัตนาวดี
 ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดาว อาชาไนย, ชลนา ทิชากร, กวีพเนจร, Prapacarn ❀, รพีกาญจน์, yaguza, D, panthong.kh, เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, ไร้นวล^^, สุวรรณ, ไม่รู้ใจ, กามนิต, สะเลเต, รการตติ, ดุลย์ ละมุน, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
10 พฤศจิกายน 2012, 10:32:PM
ยามพระอาทิตย์อัสดง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 691
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,437


~ ทุกถิ่นแถนแดนอักษร ~


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2012, 10:32:PM »
ชุมชนชุมชน


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, กวีพเนจร, Prapacarn ❀, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, yaguza, D, เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, ดาว อาชาไนย, ธาตรี รติกานท์, ไร้นวล^^, สุวรรณ, ไม่รู้ใจ, กามนิต, รการตติ, สะเลเต, ดุลย์ ละมุน, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อัสดง..ขอขอบคุณภาพสวยๆจากอินเตอร์เนต..
http://noisunset.blogspot.com/
Thinking about you makes me smile...
11 พฤศจิกายน 2012, 11:16:AM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2012, 11:16:AM »
ชุมชนชุมชน



ไร้ดวงดาว พราวฟ้า พาอ้างว้าง
หนาวน้ำค้าง พร่างพรม โปรยห่มหญ้า
ดวงใจคน  หม่นเหน็บ เจ็บวิญญา
รักมาลา พาไกล สุดใจลอย

อ้อมอกเอ๋ย เชยชิด สนิทแนบ
เคยอิงแอบ  แทบซบ มาพบหงอย
รักสะดุด สุดช้ำ น้ำตาปรอย
มานล้าถอย คอยทาง อย่างไร้แรง

ทอดระทม ห่มฟ้า น้ำตาอุ่น
ที่เคียงคุ้น คือหมอน นอนซบแอ่ง
สองมือกอด สอดอิง พิงกำแพง
หวังสบแจ้ง แห่งรุ้ง พรุ่งทิวา

"ดิน"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, Prapacarn ❀, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ธาตรี รติกานท์, ไร้นวล^^, สุวรรณ, ชลนา ทิชากร, ไม่รู้ใจ, กามนิต, รการตติ, สะเลเต, panthong.kh, รัตนาวดี, ดุลย์ ละมุน, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

11 พฤศจิกายน 2012, 11:51:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #4 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2012, 11:51:AM »
ชุมชนชุมชน



                                                  บานหน้าต่างรางเลือนเปื้อนรอยร้าว
                                                  ม่านบางขาวปลิวไหวคล้ายใจฉัน
                                                  ห้องสี่เหลี่ยมเปี่ยมเหงาเฝ้ากักกัน
                                                  ดั่งคุมขังผนังคั่นกั้นกางไว้

                                                  นอกผ้าม่านผ่านมองช่องหน้าต่าง
                                                  ดูเวิ้งว้างว่างเปล่าเหงาเพียงไหน
                                                  นั่งเหม่อพลอยลอยใจไปแสนไกล
                                                  คิดถึงใครใต้ฟ้าคราไร้ดาว

                                                  แก้วบางใสใส่เบียร์คลอเคลียข้าง
                                                  ไม่เคยห่างร้างไกลยามใจหนาว
                                                  เปิดบรรเลงเพลงเศร้าเคล้าเรื่องราว
                                                  หวนถึงคราวดาวพร่างอยู่กลางฟ้า

                                                  ล้มลงนอนหมอนกอดทอดตัวนิ่ง
                                                  คล้ายจมดิ่งในห้วงบ่วงเสน่หา
                                                  นอนปล่อยใจให้ผ่านกาลเวลา
                                                  พร่ำเพ้อหาคว้าดาวคราวมืดมน

           
บานหน้าต่าง เราสอง เคยปองรัก
หวานยิ่งนัก ชักพา มาพร่ำบ่น
แม้เดือนมืด ปานใด ใจสองคน
สุขเหลือล้น บนทาง ต่างรู้ใจ

เธอชวนชี้ มองดาว พร่างพราวฟ้า
ช่องหน้าต่าง พรางว่า แก้วตาใส
กลางขุนเขื่อน เดือนดับ ลับตาไป
แต่ฤทัย สองเรา เฝ้าผูกพันธ์

อากาศเย็น โชยมา ประทะร่าง
หนาวน้ำค้าง กลางป่า พนาสัณฑ์
เสียงชะนี โหยหวน ชวนจาบัลย์
หริ่งเรไร ร้องลั่น มิหวั่นเกรง

นั่งจิบเหล้า บางบาง พลางมองหน้า
สุขอุรา เปรมปรีดิ์ ฤดีเพ่ง
จึงชวนกัน ร้องรำ คร่ำครวญเพลง
เสียงวังเวง ทั่วไพร ในคืนนั้น



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, ไร้นวล^^, D, สุวรรณ, ชลนา ทิชากร, ไม่รู้ใจ, กามนิต, รการตติ, สะเลเต, รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 พฤศจิกายน 2012, 08:42:PM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #5 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2012, 08:42:PM »
ชุมชนชุมชน

เสียงลมล่องท้องฟ้าในครานี้
ไร้แสงยามราตรีที่เฝ้าฝัน
นอกหน้าต่าง มืดมิดสนิทวัน
พาใจคนหวั่นหวั่นเหมือนผ่านมา

นั่งตัวตรงลงร่างปลายดินสอ
ขีดเส้นคดหักงอตามประสา
นึกถึงโครงโงงงาน กาลเวลา
อนิจจา วันคืนผ่านเร็วไว

กว่าสาระสะสางจักสร่างสิ้น
แทบดับการได้ยิน เสียงสวดใส่
โลกทั้งโลกโศกเยือนอยู่รำไร
เป็นไฉนไยไม่เสร็จหนองาน

มองไปนอกหน้าต่างอ้างว้างนัก
ไร้ดาวใดให้พักสายตาสาน-
ลงตรงที่ใจคนหม่นดวงมาน
หวังว่าคงไม่นานได้พบดาว


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, plang, รพีกาญจน์, panthong.kh, ไม่รู้ใจ, D, ไพร พนาวัลย์, กามนิต, ไร้นวล^^, รการตติ, สะเลเต, รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 พฤศจิกายน 2012, 03:47:PM
ไม่รู้ใจ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 568
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 593


« ตอบ #6 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2012, 03:47:PM »
ชุมชนชุมชน




.....
แก้วบางใสใส่เบียร์คลอเคลียข้าง
ไม่เคยห่างร้างไกลยามใจหนาว
เปิดบรรเลงเพลงเศร้าเคล้าเรื่องราว
หวนถึงคราวดาวพร่างอยู่กลางฟ้า

ล้มตัวนอนหมอนกอดทอดตัวนิ่ง
คล้ายจมดิ่งในห้วงบ่วงเสน่หา
นอนปล่อยใจให้ผ่านกาลเวลา
พร่ำเพ้อหาคว้าดาวคราวมืดมน

ธันวาคม

อยากเป็นดาวแสงเลือนยามเดือนส่อง
มิงามผ่องขอเพียงเคียงเวหน
เพียงได้อาบแสงนวลยามยวนยล
กว่าใดดลฉ่ำชื่นระรื่นจินต์

อย่าเป็นเหมือนวันวานที่ผ่านล่วง
ให้ดาวห่วงเฝ้าคอยรอยถวิล
เดือนเคยหลบเร้นแสงแฝงเมฆินทร์
ดาวคงสิ้นระยับกับรอยลา

ไม่รู้ใจ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, ไพร พนาวัลย์, กามนิต, ปาระ, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, รการตติ, สะเลเต, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 พฤศจิกายน 2012, 11:06:AM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #7 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2012, 11:06:AM »
ชุมชนชุมชน




อีกคืนที่ฝนมาพาพลิ้วไหว
รู้หรือไม่ยามมองดูหมองหม่น
ขอบหน้าต่างห่างดาวเมื่อคราวยล
ทำใจคนอ้างว้างแลลางเลือน

นอกหน้าต่างรางม่านผ่านคุ้งฟ้า
ใจที่ล้าหดหู่ก็ดูเหมือน-
ไร้แสงดาวสักน้อยคอยมาเยือน
ที่เคยเกลื่อนกลับลอยแล้วถอยไป

จึงยังคงหลับนิดก็คิดถึง
คนที่ซึ่งเคยเคียงจะเพียงไหน
จะคิดถึงถึงกันบ้างหรืออย่างไร
หรือเผลอไผลเลือนลับไปกับดาว

แต่..หลับตาคราใดเมื่อใจนิ่ง
กับความจริงฝนห่มกับลมหนาว
ใต้ขอบฟ้าเธอต่างยังพร่างพราว
หรือสกาวเพียงใดก็ไม่รู้...?

รการตติ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, D, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
13 พฤศจิกายน 2012, 01:51:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #8 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2012, 01:51:PM »
ชุมชนชุมชน


ซึ้งจัง      ลาตายดีกว่าตู      ซึ้งจัง

ยามสองเราเคล้าคลอพะนอขวัญ
แม้คืนวันข้างแรมก็แจ่มใส
จะคืนจันทร์เคียงดาวก็เร้าใจ
สองฤทัยชื่นบานสราญรมย์

ในคืนนี้ไร้ดาวพี่หนาวสั่น
ความสัมพันธ์ห่างหายหทัยขม
ยิ่งคิดไปใจหายมิคลายตรม
เจ้าชื่นชมอยู่กับใครในคืนนี้

ลืมพี่แล้วหรือไรดวงใจจ๋า
เมื่อไหร่หนาได้ชมเจ้าโฉมศรี
ให้สมกับมอบรักมอบภักดี
มอบชีวีเพียงนางจึ่งครางครวญ ร้องไห้งอแง

“ไพร พนาวัลย์”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, D, รพีกาญจน์, รการตติ, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

13 พฤศจิกายน 2012, 03:57:PM
อาทิตา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 47
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 89



« ตอบ #9 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2012, 03:57:PM »
ชุมชนชุมชน


คืนไร้ดาว  พราวแสง  แห่งห้วงหน
นภาดล  เปลี่ยนสี  ที่หม่นหมอง
หมู่เมฆดำ  คล้ำคล้อย  ลอยละออง
ทั่วทั้งท้อง  ฟ้านี้  สีมืดมอ 

ให้คิดถึง  ซึ่งคน  ที่ห่วงหา
ให้อุรา  พาคิด  นิจจาหนอ
ให้ห่างไกล  ไร้นุช  สุดทางรอ
โอ้ล่ะหนอ  เจ้าลับ  ไม่กลับมา

หมู่ดารา  คงรู้  จึงสู้หม่น
ผิว่าคน  ไกลห่าง  ทางนั้นหนา
จักรับรู้  หมู่ปวง  ดวงดารา
ดลใจยา  พานาง  นำทางจร

กลับมาเถิด  นวลน้อง  พี่ต้องเจ็บ
แสนหนาวเหน็บ  กายา  อุราร้อน
แม่เนื้อเย็น  คือดวง  ตะวันรอน
กลับมาถอน  ความมืดมิด  ที่ปิดใจ
------------------------------

อาทิตา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, D, panthong.kh, รพีกาญจน์, รการตติ, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 พฤศจิกายน 2012, 04:35:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #10 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2012, 04:35:PM »
ชุมชนชุมชน


ซึ้งจัง      ลาตายดีกว่าตู      ซึ้งจัง

ยามสองเราเคล้าคลอพะนอขวัญ
แม้คืนวันข้างแรมก็แจ่มใส
จะคืนจันทร์เคียงดาวก็เร้าใจ
สองฤทัยชื่นบานสราญรมย์

ในคืนนี้ไร้ดาวพี่หนาวสั่น
ความสัมพันธ์ห่างหายหทัยขม
ยิ่งคิดไปใจหายมิคลายตรม
เจ้าชื่นชมอยู่กับใครในคืนนี้

ลืมพี่แล้วหรือไรดวงใจจ๋า
เมื่อไหร่หนาได้ชมเจ้าโฉมศรี
ให้สมกับมอบรักมอบภักดี
มอบชีวีเพียงนางจึ่งครางครวญ ร้องไห้งอแง

“ไพร พนาวัลย์”


เสียงครวญคร่ำ ร่ำเรียก สำเนียกหา
ในอุรา พาชื่น รื่นสงวน
ไปอิงแอบ ใครกัน รำพันจวน
ใจปั่นป่วน ไหมเล่า เขาเป็นใคร

ได้ข่าวมา ว่าเมียลุง ยุ่งพิลึก
พอตกดึก คึกมาก ลำบากไหม
อย่าหักโหม นักนะ จะล้าใจ
เพลาเพลาหน่อย เป็นไร เดี๋ยวใจวาย

ลุงอายุ เลขหก หัวอกสั่น
คิดหวาดหวั่น ถ้วนถี่ ฤดีหมาย
หัวใจหยุด สะดุดลง คงปางตาย
หากโชคร้าย คางเหลือง เรื่องนังนุง
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, yaguza, --ณัชชา--, D, รพีกาญจน์, รการตติ, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 พฤศจิกายน 2012, 06:03:PM
yaguza
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1567
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,308


**ยากูซ่า บ้าไม่เลือกที่**


« ตอบ #11 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2012, 06:03:PM »
ชุมชนชุมชน




คงไม่ถึง กับแย่ แค่คางเหลือง
มันเป็นเรื่อง ธรรมดา อย่าไปยุ่ง
ยังระริก ระรี้ นอนตีพุง
นับถือลุง ยอมสยบ ขอปรบมือ


อย่าคิดหมาย ดูหมิ่น สิ้นลายเสือ
ฉันยังเชื่อ ยอมรับ และนับถือ
คงจะจริง ดั่งคำ เขาร่ำลือ
ว่าเขาคือ ทหารม้า ถอดผ้าไว



......ยากูซ่า......

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, panthong.kh, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, รการตติ, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, --ณัชชา--, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

13 พฤศจิกายน 2012, 11:08:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #12 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2012, 11:08:PM »
ชุมชนชุมชน



ไร้ดวงดาว พราวฟ้า พาอ้างว้าง
หนาวน้ำค้าง พร่างพรม โปรยห่มหญ้า
ดวงใจคน  หม่นเหน็บ เจ็บวิญญา
รักมาลา พาไกล สุดใจลอย

อ้อมอกเอ๋ย เชยชิด สนิทแนบ
เคยอิงแอบ  แทบซบ มาพบหงอย
รักสะดุด สุดช้ำ น้ำตาปรอย
มานล้าถอย คอยทาง อย่างไร้แรง

ทอดระทม ห่มฟ้า น้ำตาอุ่น
ที่เคียงคุ้น คือหมอน นอนซบแอ่ง
สองมือกอด สอดอิง พิงกำแพง
หวังสบแจ้ง แห่งรุ้ง พรุ่งทิวา

"ดิน"





คืนไร้ดาว สาวครวญ หวนคิดถึง
ใครคนถึง จากไกล อาลัยหา
ถ้าเขาอยู่ คงไม่หนาว ร้าวอุรา
เขาด่วนมา ลาไกล ใจเลื่อนลอย

อ้อมอกเธอ เคยมีเขา เฝ้ากกกอด
อุ่นตลอด ใจนี้ ไม่มีหงอย
อุ่นอกเขา เฝ้าอิงแอบ แนบเนื้อกลอย
อุ่นไม่น้อย ร้อยรัก สลักใจ

นอนหนุนแขน แทนหมอน อ้อนเฉลย
พร่ำเอื้อนเอ่ย เผยคำหวาน ปานไฉน
มาบัดนี้ เขาหนีหน้า ราร้างไกล
ร้าวทรวงใน ใจจะทน พ้นทิวา

ชลนา  ทิชากร


<a href="http://www.youtube.com/v/YK03QYE7xTw&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/YK03QYE7xTw&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, D, รพีกาญจน์, รการตติ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, --ณัชชา--, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

14 พฤศจิกายน 2012, 08:13:AM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2012, 08:13:AM »
ชุมชนชุมชน



ไร้ดวงดาว พราวฟ้า พาอ้างว้าง
หนาวน้ำค้าง พร่างพรม โปรยห่มหญ้า
ดวงใจคน  หม่นเหน็บ เจ็บวิญญา
รักมาลา พาไกล สุดใจลอย

อ้อมอกเอ๋ย เชยชิด สนิทแนบ
เคยอิงแอบ  แทบซบ มาพบหงอย
รักสะดุด สุดช้ำ น้ำตาปรอย
มานล้าถอย คอยทาง อย่างไร้แรง

ทอดระทม ห่มฟ้า น้ำตาอุ่น
ที่เคียงคุ้น คือหมอน นอนซบแอ่ง
สองมือกอด สอดอิง พิงกำแพง
หวังสบแจ้ง แห่งรุ้ง พรุ่งทิวา

"ดิน"





คืนไร้ดาว สาวครวญ หวนคิดถึง
ใครคนถึง จากไกล อาลัยหา
ถ้าเขาอยู่ คงไม่หนาว ร้าวอุรา
เขาด่วนมา ลาไกล ใจเลื่อนลอย

อ้อมอกเธอ เคยมีเขา เฝ้ากกกอด
อุ่นตลอด ใจนี้ ไม่มีหงอย
อุ่นอกเขา เฝ้าอิงแอบ แนบเนื้อกลอย
อุ่นไม่น้อย ร้อยรัก สลักใจ

นอนหนุนแขน แทนหมอน อ้อนเฉลย
พร่ำเอื้อนเอ่ย เผยคำหวาน ปานไฉน
มาบัดนี้ เขาหนีหน้า ราร้างไกล
ร้าวทรวงใน ใจจะทน พ้นทิวา

ชลนา  ทิชากร





เคยมีเขา เคลียคลอ พะนอแนบ
อิงอกแอบ อุ่นไอ หลายปีกว่า
ขาดความหวาน มานท้อ ทรมา
หนาวอีกครา ตาปรอย รอยอาลัย

มาห่างหาย กลายกลับ ลาลับหลอก
อยากจะบอก คิดถึง จะซึ้งไหม
อ้อมอกเขา นี้อุ่น คุ้นละไม
หากเขาให้ รอเก้อ เธอแทนที


"ดิน"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, รการตติ, ชลนา ทิชากร, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

14 พฤศจิกายน 2012, 02:00:PM
อาทิตา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 47
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 89



« ตอบ #14 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2012, 02:00:PM »
ชุมชนชุมชน


แหงนมองฟ้า  ไร้ดาว  คราวฟ้าปิด
มืดสนิท  รัตติกาล  พาลใจหวิว
หมู่เมฆน้อย  ลอยล่อง  ท้องทุ่งทิว
ลมหวีดหวิว  พลิ้วไหว  ใจร้าวรอน

แสนเอกา  ข้าเดียว  เปลี่ยวใจนัก
นางที่รัก  จากหาย  ไม่ไถ่ถอน
ปวดอุรา  เมื่อฟ้าสิ้น  ทินกร
พี่ร้าวรอน  ไร้รักเจ้า  เศร้าวิญญู
-----------------------------

อาทิตา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, รการตติ, Prapacarn ❀, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 พฤศจิกายน 2012, 02:53:PM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #15 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2012, 02:53:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, ชลนา ทิชากร, D, ไพร พนาวัลย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, แป้งน้ำ, --ณัชชา--, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
14 พฤศจิกายน 2012, 04:33:PM
ชลนา ทิชากร
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1601
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,453



« ตอบ #16 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2012, 04:33:PM »
ชุมชนชุมชน



เคยมีเขา เคลียคลอ พะนอแนบ
อิงอกแอบ อุ่นไอ หลายปีกว่า
ขาดความหวาน มานท้อ ทรมา
หนาวอีกครา ตาปรอย รอยอาลัย

มาห่างหาย กลายกลับ ลาลับหลอก
อยากจะบอก คิดถึง จะซึ้งไหม
อ้อมอกเขา นี้อุ่น คุ้นละไม
หากเขาให้ รอเก้อ เธอแทนที


"ดิน"





ให้ฉันแทน จริงจริงเหรอ โอ้เธอจ๋า
ฝังวาจา เอ่ยชวน จนถ้วนถี่
ได้ยินเธอ เอ่ยย้ำ พร่ำวจี
ยินคำนี้  ให้ซาบซึ้ง ตรึงทรวงใน

อยากได้ยิน คำนี้ วจีหวาน
มาตั้งนาน แล้วเน้อ เธอรู้ไหม
ถ่อยคำนี้ ออกจากปาก หากจากใจ
หรือหลอกใคร มามากมาย ตั้งหลายคน

หากหลอกฉัน อีกคน คงบ่นเพ้อ
นอนละเมอ เผลอใจ ไปหลายหน
ตื่นแล้วหลับ หลับแล้วเพ้อ เจอหน้ามล
มาลอยวน ในดวงใจ ไปอีกนาน

ชลนา  ทิชากร


<a href="http://www.youtube.com/v/4Gd-mY6xZ-U&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/4Gd-mY6xZ-U&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, รการตติ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, แป้งน้ำ, ธันวาคม

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ

17 พฤศจิกายน 2012, 12:07:AM
ดุลย์ ละมุน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


กลั่นอักษร หมายอ้อนเธอ


« ตอบ #17 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2012, 12:07:AM »
ชุมชนชุมชน



                                                  บานหน้าต่างรางเลือนเปื้อนรอยร้าว
                                                  ม่านบางขาวปลิวไหวคล้ายใจฉัน
                                                  ห้องสี่เหลี่ยมเปี่ยมเหงาเฝ้ากักกัน
                                                  ดั่งคุมขังผนังคั่นกั้นกางไว้

                                                  นอกผ้าม่านผ่านมองช่องหน้าต่าง
                                                  ดูเวิ้งว้างว่างเปล่าเหงาเพียงไหน
                                                  นั่งเหม่อพลอยลอยใจไปแสนไกล
                                                  คิดถึงใครใต้ฟ้าคราไร้ดาว

                                                  แก้วบางใสใส่เบียร์คลอเคลียข้าง
                                                  ไม่เคยห่างร้างไกลยามใจหนาว
                                                  เปิดบรรเลงเพลงเศร้าเคล้าเรื่องราว
                                                  หวนถึงคราวดาวพร่างอยู่กลางฟ้า

                                                  ล้มลงนอนหมอนกอดทอดตัวนิ่ง
                                                  คล้ายจมดิ่งในห้วงบ่วงเสน่หา
                                                  นอนปล่อยใจให้ผ่านกาลเวลา
                                                  พร่ำเพ้อหาคว้าดาวคราวมืดมน

                                                         




อยู่คนเดียว เปลี่ยวเหงา ใต้เงาโศก
เหมือนทั้งโลก สาปวาง กลางเวหน
เย็นจดเช้า เคล้าคลุก ความทุกข์ทน
สุดดิ้นรน พ้นบ่วง แห่งห้วงกาล

นิจนิรันดร์ ผันเปลี่ยน หมุนเวียนหลอน
ยามกินนอน ร้อนใจ ดั่งไฟผลาญ
ทนหนาวเหน็บ เจ็บแค้น นานแสนนาน
ทรมาน ปานนรก ในอกร้อง

คืนไร้ดาว ดับดิ้น สิ้นแสงสาด
ดั่งรอยบาด แผลใจ ที่ไหม้หมอง
ความมืดมิด พิษเหงา เข้าจำจอง
กอดประคอง โอบรัด บีบมัดทรวง

ในราตรี สิ้นแรง แสงสลัว
นอนหวาดกลัว หัวใจ ไร้ใครหวง
ฤาปีศาจ วาดบาป มาสาปลวง
ให้ดาวดวง ร่วงเลือน หล่นเปื้อนดิน

เหมือนต้องมนต์ วนหลง ในวงกต
รอยรันทด บดบัง ความหวังสิ้น
ซากวิญญาณ ร่วงโรย กร่อนโบยบิน
ร้างรสกลิ่น แสงดาว เคยพราวพราย

รอเสพสม ความงาม ของยามเช้า
ความมืดเหงา เฝ้ากลืน ให้ตื่นสาย
จนแสงสาด บาดชอน แสบร้อนกาย
แต่สบาย กว่าใจ คืนไร้ดาว
 ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, รการตติ, แป้งน้ำ, --ณัชชา--, พิมพ์วาส, ธันวาคม, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 พฤศจิกายน 2012, 12:21:AM
my smile
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 333
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,183


รอยยิ้มที่จริงใจ มองทีไรก็รู้สึกดี. ..


« ตอบ #18 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2012, 12:21:AM »
ชุมชนชุมชน



ฟ้าหม่น.เกินไป
หรือเพราะใจฉันเหงา..กันแน่
กระทั่งฟ้า..ยังไร้ดาว..ให้เหลียวแล
มันเกิดอะไรขนาดหัวใจตัวเองแท้ ๆ. .ยังไม่เข้าใจ

ทำไมถึง ..เดียวดาย. ..



เพ้อล่ะ. ..?? ห้า า า

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, รการตติ, แป้งน้ำ, ดุลย์ ละมุน, ธันวาคม, ชลนา ทิชากร, D

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

17 พฤศจิกายน 2012, 11:50:AM
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« ตอบ #19 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2012, 11:50:AM »
ชุมชนชุมชน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, แป้งน้ำ, ไม่รู้ใจ, --ณัชชา--, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, ธันวาคม, ชลนา ทิชากร, D

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง
หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s