09 กันยายน 2010, 05:01:AM |
บ้านริมโขง
|
|
« เมื่อ: 09 กันยายน 2010, 05:01:AM » |
ชุมชน
|
ความขื่นขมถมทับลงกับอก ให้สะทกสะเทือนเหมือนโลกไหว ความปวดร้าวเข้าแทรกรอยแตกใจ ให้สะท้านทรวงใน..ให้ตรอมตรม
เพราะพิษรักผลักชีวิตเลยผิดหวัง โรคเรื้อรังเกาะติดพิษรักขม เสาะหายามารักษาคราซานซม ยิ่งระบมผสมไข้ในรักเรา
อยากได้ รัก มาถมทับเพื่อดับพิษ อยากได้ มิตร มากน้ำใจเหมือนใครเขา อยากได้ คนรักมั่น มาบรรเทา อยากได้ เจ้า เข้ามาเติมเพิ่มยาดี
เสี้ยวของเดือนยังเคลื่อนเหมือนชีวิต จากน้อยนิดยังเพิ่มสวยด้วยแสงสี เมื่อเต็มดวงเปล่งแสงแข่งราตรี แต่รักนี้ ยังขื่นขม...ถมไม่เต็มhttp://img716.imageshack.us/img716/7296/x727377012.jpg
|
|
|
|
09 กันยายน 2010, 10:29:AM |
ตะวันฉาย
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 กันยายน 2010, 10:29:AM » |
ชุมชน
|
...พิษรักแรงแทงลงตรงที่เริ่ม พิษลวงเพิ่มฝังในเหมือนใช้เข็ม พิษสวาทหลอกล่อพอแทะเล็ม ถมไม่เต็มเพราะฤทธิ์ล้ำย้ำทรวงใน
...เสาะหายามาแก้ยังแพ้พิษ เข้าผูกจิตต่อเงื่อนเคลื่อนไม่ไหว เมื่อซึมแทรกแตกซ่านพล่านฤทัย คงยากไซร้จะรักษาพาบรรเทา
...หากเอารักทับตรงที่ตรมเจ็บ เพื่อคอยเย็บรอยบาดที่ขาดเฉา ด้ายเวลาทาแต้มแซมบางเบา ถักใจเราเติมต่อทอรักคืน
...ได้แต่ขอรอเสี้ยวเศษเข้าเขตพัก ใครตระหนักส่งให้ใช่จะฝืน แสงสุรีย์ราตรีกาลวานมายืน ลบรอยขื่นที่ขมในใจคนรอ...
|
ว่างเปล่า
|
|
|
09 กันยายน 2010, 01:51:PM |
|
|
09 กันยายน 2010, 02:16:PM |
ตะวันฉาย
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 09 กันยายน 2010, 02:16:PM » |
ชุมชน
|
...หากลาตายเพราะรักที่หนักอก น้ำตาตกเพราะเขาเข้าเสกสรร เกิดแผลเป็นเซ่นทรวงดวงชีวัน เวลามันก็เข่นฆ่ามิปรานี
...ขอเอาเส้นอักษรกลอนผูกจิต ดั่งลิขิตจากฟ้าว่าสักขี เอากานท์ทักถักรอทอไมตรี จากคนนี้ที่ส่งมายังอาวรณ์
...จะช่วยไล่ขับพิษที่ฤทธิ์แทรก ดวงใจแตกคอยเย็บเหน็บอักษร เฝ้าร้อยเรียงเคียงคำนำบางตอน อย่าเพิ่งจรจากคนไกลที่ใจรอ...
|
ว่างเปล่า
|
|
|
09 กันยายน 2010, 02:27:PM |
จ้อง เจรียงคำ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 09 กันยายน 2010, 02:27:PM » |
ชุมชน
|
เธอรักฉันขั้นไหน..ไม่กล้าคิด เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ที่ปิดกั้น หรือหัวใจใครแย่แล้วแต่มัน จึงแชเชือนเหมือนฉันนั้นบ้าบอ
พิศวงวงรอบเขตขอบจิต นั้นเพียงน้อยหน่อยนิดแค่คิดหนอ ไยเรียกร้องปองรักไม่จักพอ ฉันต้องต่อท่อรักสักเท่าใด
หรือใจเธอทั้งทรวงกี่ดวงแน่ รักจากฉันนั้นแผ่ถึงแค่ไหน ฉันเคี่ยวรักหลอมรสหมดทั้งใจ ก็ยังไม่อาจถมสมใจเธอ
หรือรอยริ้วผิวพื้นดื่นรอยรั่ว หลากรูไหลไปทั่วหัวใจเผลอ รักที่เพียรเวียนย้ำถมบำเรอ ถึงไม่เคยพบเจอ..คำว่าเต็ม..โอย เต่าเกาะกลอน..
|
|
|
|
09 กันยายน 2010, 04:07:PM |
|
|
09 กันยายน 2010, 04:59:PM |
|
|
09 กันยายน 2010, 05:40:PM |
ไม่รู้ใจ
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 09 กันยายน 2010, 05:40:PM » |
ชุมชน
|
เคยรู้สึก บ้างไหม ยามใจเหงา ไยจึงเศร้า ร้อนรน จนหม่นหมอง ไม่มีใคร เหลียวแล แม้แต่มอง การใฝ่ปอง เธอนั้น มันยากเย็น
จะต้องทุ่ม เทรัก สักแค่ไหน จึงทำให้ เธอนั้น หันมาเห็น ท้อแท้จน บ่นพร่ำ เกินจำเป็น ช่างลำเค็ญ ถมรัก ยากจักคืน
|
|
|
|
09 กันยายน 2010, 05:58:PM |
|
|
09 กันยายน 2010, 07:08:PM |
|
|
10 กันยายน 2010, 04:40:AM |
บ้านริมโขง
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 10 กันยายน 2010, 04:40:AM » |
ชุมชน
|
...หากลาตายเพราะรักที่หนักอก น้ำตาตกเพราะเขาเข้าเสกสรร เกิดแผลเป็นเซ่นทรวงดวงชีวัน เวลามันก็เข่นฆ่ามิปรานี
...ขอเอาเส้นอักษรกลอนผูกจิต ดั่งลิขิตจากฟ้าว่าสักขี เอากานท์ทักถักรอทอไมตรี จากคนนี้ที่ส่งมายังอาวรณ์
...จะช่วยไล่ขับพิษที่ฤทธิ์แทรก ดวงใจแตกคอยเย็บเหน็บอักษร เฝ้าร้อยเรียงเคียงคำนำบางตอน อย่าเพิ่งจรจากคนไกลที่ใจรอ...
.....ถึงวันนี้ ก็มีเพียง เสียงอักษร อยู่เป็นเพื่อนเว้าวอนอ้อนคำขอ มาเย้าหยอกเป็นเพื่อนเตือนให้พอ อักษรพ้อให้ร้อยเรียง เพียงแต่เธอ
.....หากมีมิตรมุ่งหมายช่วยคลายเศร้า ก้มรับเอาใส่ใจไว้เสมอ ช่วยกันเรียง เสียงประสาน งานบำเรอ อักษรเธอ+ อักษรฉัน คงบรรเทา
.....พิษไหนไหนว่าร้ายต้องหายสิ้น ที่เกาะกินลึกล้น จนคนเหงา ได้สร่างซาลาสิ้นชิ้นมัวเมา เหลือรับเอา..แต่ชื่น ทุกคืนวัน..
|
|
|
|
10 กันยายน 2010, 11:42:AM |
ตะวันฉาย
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 10 กันยายน 2010, 11:42:AM » |
ชุมชน
|
...หากลาตายเพราะรักที่หนักอก น้ำตาตกเพราะเขาเข้าเสกสรร เกิดแผลเป็นเซ่นทรวงดวงชีวัน เวลามันก็เข่นฆ่ามิปรานี
...ขอเอาเส้นอักษรกลอนผูกจิต ดั่งลิขิตจากฟ้าว่าสักขี เอากานท์ทักถักรอทอไมตรี จากคนนี้ที่ส่งมายังอาวรณ์
...จะช่วยไล่ขับพิษที่ฤทธิ์แทรก ดวงใจแตกคอยเย็บเหน็บอักษร เฝ้าร้อยเรียงเคียงคำนำบางตอน อย่าเพิ่งจรจากคนไกลที่ใจรอ...
.....ถึงวันนี้ ก็มีเพียง เสียงอักษร อยู่เป็นเพื่อนเว้าวอนอ้อนคำขอ มาเย้าหยอกเป็นเพื่อนเตือนให้พอ อักษรพ้อให้ร้อยเรียง เพียงแต่เธอ
.....หากมีมิตรมุ่งหมายช่วยคลายเศร้า ก้มรับเอาใส่ใจไว้เสมอ ช่วยกันเรียง เสียงประสาน งานบำเรอ อักษรเธอ+ อักษรฉัน คงบรรเทา
.....พิษไหนไหนว่าร้ายต้องหายสิ้น ที่เกาะกินลึกล้น จนคนเหงา ได้สร่างซาลาสิ้นชิ้นมัวเมา เหลือรับเอา..แต่ชื่น ทุกคืนวัน.. ...เพียงกระซิบผ่านมนต์ดลอักษร เข้ามาป้อนสัมผัสจัดสร้างสรรค์ เหย้าคำพจน์จดแต้มแซมประพันธ์ บ่วงจาบรรณ์หวังบรรเทาให้เบาบาง
...ซึ้งความเรียงเสียงฝากจากริมโขง มาเชื่อมโยงกานท์เนาเคล้ามิห่าง มิตรภาพฉาบทานำพาวาง จนรุ่งสางทางตะวันมีฉันรอ
...อาจเป็นแค่คนผ่านมาจารพบ ไม่เคยลบคำชิดมิตรเลยหนอ ส่งบทกลอนตอนว่างวางพะนอ หวังพิษพอออกจากใจ...ใสกลับคืน...
|
ว่างเปล่า
|
|
|
10 กันยายน 2010, 02:14:PM |
บ้านริมโขง
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 10 กันยายน 2010, 02:14:PM » |
ชุมชน
|
...หากลาตายเพราะรักที่หนักอก น้ำตาตกเพราะเขาเข้าเสกสรร เกิดแผลเป็นเซ่นทรวงดวงชีวัน เวลามันก็เข่นฆ่ามิปรานี
...ขอเอาเส้นอักษรกลอนผูกจิต ดั่งลิขิตจากฟ้าว่าสักขี เอากานท์ทักถักรอทอไมตรี จากคนนี้ที่ส่งมายังอาวรณ์
...จะช่วยไล่ขับพิษที่ฤทธิ์แทรก ดวงใจแตกคอยเย็บเหน็บอักษร เฝ้าร้อยเรียงเคียงคำนำบางตอน อย่าเพิ่งจรจากคนไกลที่ใจรอ...
.....ถึงวันนี้ ก็มีเพียง เสียงอักษร อยู่เป็นเพื่อนเว้าวอนอ้อนคำขอ มาเย้าหยอกเป็นเพื่อนเตือนให้พอ อักษรพ้อให้ร้อยเรียง เพียงแต่เธอ
.....หากมีมิตรมุ่งหมายช่วยคลายเศร้า ก้มรับเอาใส่ใจไว้เสมอ ช่วยกันเรียง เสียงประสาน งานบำเรอ อักษรเธอ+ อักษรฉัน คงบรรเทา
.....พิษไหนไหนว่าร้ายต้องหายสิ้น ที่เกาะกินลึกล้น จนคนเหงา ได้สร่างซาลาสิ้นชิ้นมัวเมา เหลือรับเอา..แต่ชื่น ทุกคืนวัน.. ...เพียงกระซิบผ่านมนต์ดลอักษร เข้ามาป้อนสัมผัสจัดสร้างสรรค์ เหย้าคำพจน์จดแต้มแซมประพันธ์ บ่วงจาบรรณ์หวังบรรเทาให้เบาบาง
...ซึ้งความเรียงเสียงฝากจากริมโขง มาเชื่อมโยงกานท์เนาเคล้ามิห่าง มิตรภาพฉาบทานำพาวาง จนรุ่งสางทางตะวันมีฉันรอ
...อาจเป็นแค่คนผ่านมาจารพบ ไม่เคยลบคำชิดมิตรเลยหนอ ส่งบทกลอนตอนว่างวางพะนอ หวังพิษพอออกจากใจ...ใสกลับคืน...
เหมือนพบเพื่อน ที่ถูกใจ ในภาษา ร่วมเจรจา ออกรสชาติ ไม่อาจฝืน ช่วยปลอบใจ คนไข้ ได้ฟื้นคืน จิตเต็มตื้น ในเมตตา เอื้ออาทร
อาจจะเป็นเห็นชอบในกรอบรส อันหมดจดด้วยภาษาตราอักษร หรืออาจเป็น เห็นตาขรัว ตัวละคร ใจเลยอ่อนเอนเอียงเสียงอ่อนลง...
ถึงอย่างไรเราสองคงต้องชอบ อยู่ในกรอบกลอนการย์จารลุ่มหลง ใส่ภาษาเสียงใสให้บรรจง แล้วส่งตรงถึงกัน...เพื่อบันเทิง
ภาษากลอนอันอ่อนหวานเป็นงานชอบ จึงโต้ตอบถึงกันจนฉันเหลิง นั่งหน้าคอมตอบกลับรับรื่นเริง เพราะภาษาพาบันเทิง...จนเหลิงลม
ภาษากลอน แก้โศก โรคกำเริบ ได้อาบเอิบยามเหงา เฝ้าสะสม จินตนาหาคำนำรื่นรมย์ มาผสมให้กลมกล่อม..ล้อมลองชิม
|
|
|
|
10 กันยายน 2010, 03:40:PM |
ตะวันฉาย
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 10 กันยายน 2010, 03:40:PM » |
ชุมชน
|
...สิ้นเสียงกลอนบรรเลงเกรงเป็นอื่น ฉันคงตื่นจากภวังค์ครั้งปัจฉิม อักษรคล้อยลอยลมห่มเพียงริม- ใจสนิมเกาะกินทั่วทั้งตัวตน
...ได้ร่วมแบ่งความเหงาที่เข้าแทรก ได้ร่วมแยกให้บางเงาเบาอีกหน ขอแค่ฝันกับฉันในกมล สุดท้ายปนด้วยน้ำตาอำลากลอน
...หวังหมู่มิตรชิดเชื้อเอื้อมาให้ ทุกบทใจใส่ลงตรงอักษร ทิวาจางลางเลือนเยือนสุนทร อย่าเพิ่งจรเบื่อนาง...จางสำเนียง...
|
ว่างเปล่า
|
|
|
10 กันยายน 2010, 04:38:PM |
|
|
10 กันยายน 2010, 07:15:PM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 10 กันยายน 2010, 07:15:PM » |
ชุมชน
|
ดึกสงัด คืนก่อน นึกย้อนหลัง ยังคงฝัง ใจจำ ทำเศร้าหมอง บนสะพาน แห่งนี้ ที่ฝั่งคลอง แม่เนื้อทอง สิ้นคิด ผิดหวังมา
เข้าไปถาม รู้ความ ตามบอกกล่าว ดูเจ้าสาว อิดโรย ห่วงโหยหา โดนผู้ชาย สลัดรัก หักใจลา เสียน้ำตา ขอตาย หมายจากกัน
แต่ด้วยใจ ปราณี เรื่องที่รู้ ยังขาดคู่ รับได้ ไปกับฉัน เรื่องผ่านมา อย่าเศร้า เฝ้าจาบัลย์ ยังมีวัน เริ่มใหม่ รีบไตร่ตรอง
ผลสุดท้าย ได้รัก สลักจิตร สมดังคิด ครองคู่ ร่วมอยู่สอง ถมรักเต็ม เติมให้ ดังใจปอง ตามครรลอง รักใหม่ ได้ปลามัน
ดึกสงัด คืนนี้ มีเรื่องแปลก นำคิดแยก แยะดู รู้แปรผัน ราวสะพาน คืนนั้น อันเดียวกัน กลายเป็นฉัน จนตรอก มาบอกลา
ใจของหล่อน ลึกนัก ถมรักให้ ก็ยังไม่ เต็มดี มีปัญหา อ่อนต่อโลก จึงเศร้า เฝ้าโศกา โดดคงคา แทนเขา เราโง่เอง.
|
|
|
|
|