ไม่มีใครให้ทะเลาะ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 พฤษภาคม 2024, 03:20:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่มีใครให้ทะเลาะ  (อ่าน 4325 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
15 สิงหาคม 2010, 04:01:PM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« เมื่อ: 15 สิงหาคม 2010, 04:01:PM »
ชุมชนชุมชน

เสียงบ่นมาไกลจากยายพุฒ
นั่งงุ้มหลังคุดให้ไปหา
เร็วๆรีบเข้าอย่ารอช้า

“ยายท่านานแล้วนะหนุ่ยเอย”

“แลๆหิดติ นิยาใคร่
โหร่ม่ายยายแลม่ายเห็นเว่ย
ของยายช่ายม่ายละหนุ่ยเอย
ขอเลย สักเม็ดแก้เคล็ดเอว”


“ม่ายช่ายยายมั่ว หยิบยาผิ๊ด
เห็นม่ายเขาขี๊ดเส้นไว้เหล่ว
สำหรับตาพัฒน์ ทองคำเปลว
แย่เหล่วยายไยไปหยิบมา”


“ก็ยายเคล็ดเอว ปวดจังหู้
แลๆเดาดู คงใช่หน๊า
บรรเทาหายยอกปวดกายา
ยายว่าน่าใช้ได้กับยาย”


เงียบเสียงลงแล้วขวัญแก้วลูก
เหลือเพียงแต่ฟูก ให้ใจหาย
เคยเห็นร่างหนึ่งซึ่งเอนกาย
วันนี้กลับหายเลือนลับตา

อยากยินเสียงที่เคยทะเลาะ
อยากยิ้มหัวเราะยามท่านว่า
อยากยินเสียงท่านเปล่งวาจา
อยากเข้าไปหา แต่..ยามนี้ไม่มี



แลๆหิดติ นิยาใคร่      =  ช่วยดูหน่อย นี่ยาของใคร

โหร่ม่ายยายแลม่ายเห็นเว่ย = ยายมองไม่เห็น

แย่เหล่ว = แย่แล้ว   

(เป็นบทกลอนที่แต่งจากเสียงครวญของเพื่อน)
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 สิงหาคม 2010, 02:59:AM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #1 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2010, 02:59:AM »
ชุมชนชุมชน


สองตายายมาชวนป่วนทะเลาะ
แหม จำเพาะเรื่องยาช่างน่าขัน
รู้ไหมหนอตายายตายพร้อมกัน
ขาด “ยา” นั้น ตา ยา ย  ตายทันที

น่าสงสารตายาย มาตายจาก
เกิดนานมากแล้วหนอจึงขอหนี
จากโลกไปเสียก่อนผ่อนชีวี
ได้ยาดีเกิดใหม่ ไม่ปวดเอว  หัวโขมย

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

 “ปรางค์  สามยอด”

มาแจมสุวรรณ จ้า
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

21 สิงหาคม 2010, 07:37:AM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #2 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2010, 07:37:AM »
ชุมชนชุมชน

[color=darkslateblue]




สตังส์ของลุง

เหวย เหวย ลูกหลานเอ๋ย มาเข้าแถว!!
เสียงเรียกจากลุงแป๋ว...เสียงแว่วแว่วมาไหวๆ
แกคอนท่อนฟืนแห้งจนหน้าแดงมาแต่ไกล
ชายแก่แต่แกร่งกาย..มีความหมายให้จดจำ.....

เด็กหญิงชายรายเรียงหน้าจ้าละหวั่น
ยิ้มร่าหน้าเบิกบานทำอะไรกันไม่ต้องถาม
ลุงแจกตังส์กินหนมพร้อมอบรมเป็นประจำ
เด็กน้อยจดจำคำจนเติบใหญ่ในสังคม....

ลูกแกสิบเอ็ดคนระเหหนแยกกันไป
วันรวมญาติมาคราใดลูกหญิงชายมาพร้อมหน้า
ภาพลุงปริ่มความสุขที่เห็นลูกพร้อมเพียงตา
เหวยๆ ลูกหลานมา รับสตังส์ซื้อโรตี...

เหมือนย้อนคืนวันวานเหล่าลูกหลานเรียงเข้าแถว
ทุกคนมองลุงแป๋วเห็นแววตาแสนสุขขี
ถึงลูกแต่ละคนจะมีครอบครัวมีหน้าที่
บางคนมียศสี แต่วันนี้มารับตังส์....

ชายแก่แย่ยักยันยิ้มหน้าบานล้วงถุงเงิน
ลูกหลานทะยอยเดินรับตังส์เหรียญ"คนละบาท"
ทุกคนกำตังส์แน่นให้หวงแหนอย่างประหลาด
พร้อมหน้าบนเสื่อสาด ฟังพ่อแก่แกเทศกัณฑ์....

"ลูกหลานเอ๋ย! ทำอะไรขอให้มีสติมั่น"
"สามัคคีอย่าตีกัน สุขแบ่งปันทุกข์ร่วมต้าน"
"ความจัญไรอย่าไฝ่รู้ อย่าเชิดชูหมู่สามาน"
"เกี่ยวกันไว้เหมือนเถาวัลย์ อย่าให้พ่อกังวลใจ"

"ตังส์เหรียญในมือลูก ค่าเท่าไหร่ใจลูกวัด"
"หนึ่งบาทหรือแสนบาทก็ไม่อาจเอาไปได้"
"ก่อเก็บเพียงพอกิน เคี้ยวผ่านลิ้นสิ้นผ่านไป"
"อย่าเบียดเบียนเพื่อยิ่งใหญ่ ลูกของพ่อจงจดจำ"


ชายแก่ยันร่างกายลุกเดินหายเข้าในบ้าน
แต่ทุกคนยังเงียบงันทุกหัวใจไร้คำถาม
เหรียญบาทที่พ่อมอบคือคำตอบคือนิยาม
"เพื่อปากท้องต้องแบกหาม อย่าแบกกรรมเพราะท้องตน"

ปีเดือนเคลื่อนคล้อยไป...แต่ดอกไม้ยังเบ่งบาน
ลุงแป๋วของลูกหลานเดินลับไปในปุยเมฆ
เหลือเพียงเศษสะตังส์ที่สูงค่าดั่งฟ้าเสก
ซื้อใจลูกผูกติดเหล็ก "ให้แข็งแกร่งเช่นพ่อเรา"


(อาลัยรักลุงแป๋ว ลุงคนดีของลูกหลานตลอดไปครับ)

บอม ซอง ดุ๊ก




ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
21 สิงหาคม 2010, 10:08:AM
เพรางาย
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 553
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,312


ทุกคำถามจะนำมาซึ่งคำตอบ


« ตอบ #3 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2010, 10:08:AM »
ชุมชนชุมชน

เคืองขัดกันบ้างช่างมันเถอะ
เลอะเทอะลืมหลงจงอดกลั้น
ก่อนเราเดียงสาสารพัน
กี่วันท่านทนจนเราโต

วัดใจรู้คุณว่าจริงไหม
แทนคุณมิใช่แค่พอโก้
ยกคำปราชญ์ใหญ่ไว้คุยโว
ภาพผลยลโผล่โม้หรือจริง

เสียงบ่นเสียงว่าถ้าสิ้นสุด
ถึงจุดตรองตรึกสำนึกนิ่ง
ใจโหวงวันไร้ใครพึ่งพิง
อยากทิ้งวันใหม่ย้อนไปนัก



ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คนที่กำลังไล่ตามความฝัน  ท่ามกลางความผกผันของเวลา
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s