อึกทึกครึกโครม..ประโลมโลก
อุปโลกน์ชื่นชายมากลายกล้ำ
มิได้เหงาเฝ้าง้อหรือรอคำ
เป็นกงกรรมลงทัณฑ์กล้าฟันธง
ประชดชายคายคำ..ที่ทำพลาด
ขอประกาศเอิกเกริกเลิกลุ่มหลง
เมื่อความรักเป็นอื่นไม่ยืนยง
รักมั่นคงเป็นเยี่ยงไร...ก็ไม่รู้
ลองเยื้องย่างข้างสาว...ขาวผ่องผุด
บริสุทธิ์สดใสจิตใจหรู
เฝ้าเอาใจก่ายกอดยอดพธู
รักเชิดชู...เพียงเดียวไม่เหลียวใคร
อึกทึกลึกลับ..ไปกับรัก
เหนื่อยก็พัก..แอบดื้อทำซื่อใส
อ่านเรื่องราวชาวโลก..สุขโศกใด?
ช่างไม่เหมือนดั่งใจ...ของข้าเลย
๐ อึกทึกครึกครื้นในคืนค่ำ
ยังคงร่ำเมรัยใจเรียบเฉย
กับมุมบาร์แห่งหนึ่งซึ่งคุ้นเคย
มิอยากเปรยปรารภสบตาใคร
๐ มองปรายฟองผุดพรายสู่ปลายแก้ว
กระทบไฟพรายแพรวดุจแววใส
ละเลียดฉ่ำอำพันอันอำไพ
กับห้วงใจละเมียดละเอียดนัก
๐ เฉยชาต่อเบื้องหน้าราตรีนี้
อาจบางทีหนีความจริงยิ่งช้ำหนัก
กับอารมณ์สบถประชดรัก
กับหัวใจยอมหักไม่มักงอ
๐ ณ เบื้องหน้าวุ่นวายยังกรายสู่
เริ่มเรียนรู้ใจทำกำแพงก่อ
ปิดกั้นจากอีกฟากด้วยอยากพอ
พอแล้วหนอต่อหญิงไม่จริงใจ
๐ ละอองปรายผุดพรายเป็นสายพร่า
ก่อเป็นฝ้ามัวฟากฝากแก้วใหม่
แม้จะลบกลบเกลื่อนมิเลือนไป
สักเท่าใดมัวใจจะเลือนราง
๐ อึกทึกครึกโครมยังโลมเล้า
เพียงตัวเรามิเร้าใจในทุกอย่าง
จึงออกเดินเมินมองสองข้างทาง
กอดกายชมจันทร์จางอย่างเดียวดาย
ก้าวที่ล้า...