11 ธันวาคม 2011, 11:03:AM |
อริญชย์
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2011, 11:03:AM » |
ชุมชน
|
ต้นมะลื่น ผลดก หล่นตกพื้น เด็กยิ้มรื่น ยามผ่า หมากกะบก ใช้มีดพร้า ผ่าครึ่ง สับหนึ่ง“ป๊ก” แล้วหยิบยก เคี้ยวกินกัน กรอบมันเอย !ฯ
อริญชย์ 7/6/2553<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" " frameborder="0"></iframe> เมล็ดกะบกคั่ว http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%94+%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%81+%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7&um=1&hl=th&biw=1280&bih=578&tbm=isch&tbnid=slxszESKMxOoCM:&imgrefurl=http://www.bansuanporpeang.com/node/2794&docid=fpGP1CnjPxnmvM&imgurl=http://www.bansuanporpeang.com/files/images/user1048/DSC02289.jpg&w=420&h=315&ei=CCrkTtqXHs7nrAfroPD2Bw&zoom=1&iact=hc&vpx=458&vpy=223&dur=94&hovh=194&hovw=259&tx=167&ty=83&sig=114725656472240134159&page=1&tbnh=169&tbnw=238&start=0&ndsp=10&ved=1t:429,r:1,s:0 กะบก (Irvingia malayana Oliv. ex Benn.) พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลจังหวัดร้อยเอ็ด ชื่อวิทยาศาสตร์ Irvingia malayana Oliv. ex Benn. วงศ์ IRVINGIACEAE ชื่ออื่น หมากบก มะมื่น มะลื่น หลักกลาย ไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10 - 30 เมตร ผลัดใบ เปลือก สีเทาอ่อนปนน้ำตาลค่อนข้างเรียบบางทีแตกเป็นสะเก็ด เรือนยอดเป็นพุ่มแน่นทึบ กลมรี ใบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบรูปมนแกมรูปขอบขนานจนถึงรูปหอก กว้าง 2.5 - 9 เซนติเมตร ยาว 8 - 20 เซนติเมตร ผิวใบเกลี้ยง เนื้อหนา โคนใบมนปลายใบทู่ถึงแหลม หูใบโค้ง ม้วนหุ้มยอดอ่อน ยาวถึง 3 เซนติเมตร ดอก ดอกเล็กสีขาวปนเขียวอ่อน ผล กลมรีเมื่อสุกสีเหลือง เมล็ดแข็ง เนื้อในเมล็ดขาวมีรสมัน นิเวศวิทยา ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้ง และป่าดิบแล้งทั่วไป ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 150 - 300 เมตร การผลัดใบจะผลัดใบหมดทั้งต้นและผลิใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว ออกดอก มกราคม - มีนาคม เป็นผล กุมภาพันธ์ - เมษายน ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้เผาถ่าน ได้ถ่านดีให้ความร้อนสูง เนื้อไม้เสี้ยนตรง แข็งมาก ใช้ทำเครื่องมือกสิกรรม เมื่ออาบน้ำยาโดยถูกต้องแล้วใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ในร่มที่ต้องการความแข็งแรงได้ เนื้อในเมล็ดใช้รับประทานได้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่ เทียนไข ผลสุกเป็นอาหารพวกเก้งกวางและนก นิเวศวิทยา ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้ง และป่าดิบแล้งทั่วไป ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 150 - 300 เมตร การผลัดใบจะผลัดใบหมดทั้งต้นและผลิใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว ออกดอก มกราคม - มีนาคม เป็นผล กุมภาพันธ์ - เมษายน ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้เผาถ่าน ได้ถ่านดีให้ความร้อนสูง เนื้อไม้เสี้ยนตรง แข็งมาก ใช้ทำเครื่องมือกสิกรรม เมื่ออาบน้ำยาโดยถูกต้องแล้วใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ในร่มที่ต้องการความแข็งแรงได้ เนื้อในเมล็ดใช้รับประทานได้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่ เทียนไข ผลสุกเป็นอาหารพวกเก้งกวางและนกhttp://www.dnp.go.th/EPAC/province_plant/roied.htm
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, Prapacarn ❀, บูรพาท่าพระจันทร์, masapaer, ...สียะตรา.., พิมพ์วาส, sunthornvit, รพีกาญจน์, Thammada, บ้านริมโขง, ลมหนาว, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, สุนันยา, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง..
ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
|
|
|
11 ธันวาคม 2011, 11:15:AM |
panthong.kh
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2011, 11:15:AM » |
ชุมชน
|
จากบ้านมา ความหลัง ยังจำได้ ต้นหว้าใหญ่ ผลดก นะอกเอ๋ย สีม่วงม่วง กินที ติดลิ้นเลย แต่ไม่เคย ลืมเลือน ย้ำเตือนใจ พันทอง
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, masapaer, อริญชย์, ...สียะตรา.., พิมพ์วาส, sunthornvit, รพีกาญจน์, Thammada, บ้านริมโขง, ลมหนาว, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, เพรางาย, สุนันยา, พี.พูนสุข, ..กุสุมา.., คนกันเอง..
ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
11 ธันวาคม 2011, 12:16:PM |
...สียะตรา..
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2011, 12:16:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พิมพ์วาส, sunthornvit, อริญชย์, panthong.kh, รพีกาญจน์, Thammada, บ้านริมโขง, ลมหนาว, บูรพาท่าพระจันทร์, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, เพรางาย, สุนันยา, พี.พูนสุข, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง..
ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
11 ธันวาคม 2011, 02:56:PM |
อริญชย์
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2011, 02:56:PM » |
ชุมชน
|
หว้าต้นใหญ่สูงเด่นมองเห็นง่าย เป็นต้นไม้ล้ำค่ายิ่ง แผ่กิ่งกว้าง ผลสุกดำรสหวานพอปานกลาง พบทุกทางป่าเขาลำเนาไพร ฯ อริญชย์
(บทความต่อไปนี้ก๊อบมาจากเวบอื่นฮะ ตามลิงค์ข้างล่างเน้อ)ลูกหว้ามีประโยชน์อย่างไร? หว้าอินเดียออกลูกใหญ่มาก ดกเต็มต้นเลยค่ะ เหมือนจะอร่อย แต่พอทานไปเหนียวๆฝาดๆในปากเหมือนกัน อยากทราบว่าลูกหว้ามีสรรพคุณเป็นประโยชน์และโทษอย่างไร นอกจากหยิบลูกมาใส่ปากทานแล้ว เอาไปทำอย่างอื่น หรือ แปรรูปอย่างไรได้อีกบ้าง และคุณสมบัติ ของลูกห้า ใกล้เคียงกับลูกชำมะเลียงหรือเปล่า เพราะที่บ้านมีต้นชำมะเลียงออกลูกเช่นกันค่ะ • 3 ปี ผ่านไป • แจ้งลบ by Aragon เป็นสมาชิกตั้งแต่: 07 สิงหาคม 2008 คะแนนรวม: 3,208 (ระดับ 4) • เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อ • บล็อค คำตอบที่ดีที่สุด - เลือกโดยเจ้าของคำถาม ลูกหว้า น ำมากินสดๆ ทำไวน์ ทำน้ำส้ม น่าจะทำแยมได้ด้วย(แบบแบลคเบอรี่) “หว้า” ชาวฮินดูเรียกว่า “จามาน” หรือ “จามูน” “หว้า” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า จัมโบลาน (Jambolan) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ซีสส์จิอัม คูมินิ (Syzygium cumini (L.) Skeels) จัดอยู่ในวงศ์ ไมร์ทาซีอี้ (Myrtaceae) "หว้า" เป็นพันธุ์ไม้พวก ชมพู่ คือสกุล (Genus Syzygium) ในวงศ์ (Family Myrtaceae) มีมากทั้งในอินเดีย พม่า ไทย และมาเลเซีย ตลอดจนฟิลิปปินส์ โดยมากหว้ามีลูกเล็กสีม่วงดำ แต่ในบางแห่ง เช่น ในฟิลิปปินส์มีลูกโตเท่าไข่นกพิราบ หว้ามีกิ่งก้านมาก แข็งแรง ปลายกิ่งห้อยย้อยลง ใบดกหนา ทำให้เกิดเป็นพุ่มทรงรูปไข่ แน่นทึบ ใบอ่อนจะแตกสีแดงเรื่อ ๆ แม่ค้าที่ขายลูกหว้าเขาจะพรมน้ำเกลือเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาดให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น ผล หว้ามีขนาดยาว 1 – 2.5 ซม. และโตประมาณ 1 ซม. น้ำจากผลหว้าก็เป็น 1 ใน 8 น้ำปานะที่พระพุทธองค์ทรงมีพุทธานุญาตแก่พระภิกษุ เมล็ดลดน้ำตาลในเลือด แก้ท้องเสีย และใช้ถอนพิษ ในพม่านั้น ต้นหว้าถือเป็นไม้มงคลในเรื่องความสำเร็จและชัยชนะ ด้วยชื่อว่าชมพูทวีป หรือดินแดนแห่งไม้หว้านั้น เป็นแผ่นดินอันเป็นแดนกำเนิดของพระพุทธศาสนาและพระบรมศาสดานั่นเอง
“หว้า” มีคุณค่าทางโภชนาการคือ ในผลหว้าจะประกอบด้วย น้ำตาล วิตามินซี มีแคลเซียม(สูง) และเหล็ก ส่วนในเมล็ดหว้าจะมีสารอัลคาลอยด์ น้ำมันหอมระเหย ฟอสฟอรัส และแคลเซียม
สรรพคุณของหว้าและวิธีใช้ เปลือกและใบหว้า ใช้ทำยาอม ยากวาดคอ แก้ปากเปื่อย ลิ้นและคอมีเม็ด
ใบและเมล็ดหว้า ใช้แก้บิด มูกเลือด ท้องเสีย นำใบและเมล็ดหว้ามาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ในการชะล้างแผลเน่าเปื่อย หรือนำใบและเมล็ดหว้ามาตำแล้วใช้ทาแก้โรคผิวหนัง
เมล็ดหว้า เมล็ดหว้าเมื่อนำมาต้มหรือบด แล้วนำมารับประทาน มีสรรพคุณใช้แก้เบาหวาน แก้บิด แก้ท้องร่วงได้
"ผลหว้าสุก" จะลักษณะสีม่วงดำ และมีรสเปรี้ยวฝาดอมหวาน จึงสามารถนำมาใช้ในการทำไวน์ได้ดี ส่วนยอดอ่อนของหว้า สามารถใช้รับประทานเป็นผักสด
สำหรับในประเทศไทย ต้นหว้าเป็นพันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลประจำจังหวัดเพชรบุรี
ส่วนชำมะเลียง หรือลูกชุมเรียง(ภาคใต้) ลูกกินได้ รสฝาดๆหวานๆ ไม่อร่อย แต่เด็กๆชอบใบของมันมาก เพราะนิยมนำมาใช้ทำธนบัตรเวลาเล่นขายของกัน..สนุกที่มา http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20090423165318AA4S8qD
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พิมพ์วาส, Prapacarn ❀, ลมหนาว, Thammada, panthong.kh, บูรพาท่าพระจันทร์, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, สล่าผิน, รัตนาวดี, ...สียะตรา.., สุนันยา, พี.พูนสุข, บ้านริมโขง, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง..
ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
|
|
|
19 ธันวาคม 2011, 07:39:PM |
อริญชย์
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2011, 07:39:PM » |
ชุมชน
|
แมงมุมพิษดักซุ่มรอตัวต่อร้าย หวังจะได้กินเพราะเห็นว่าเป็นต่อ เมื่อต่อมา จึงโจมตีไม่รีรอ เกมพลิกต่อพิษแรงฆ่าแมงมุม !ฯ อริญชย์
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, ลมหนาว, พี.พูนสุข, บูรพาท่าพระจันทร์, รัตนาวดี, บ้านริมโขง, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง..
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
|
|
|
19 ธันวาคม 2011, 08:12:PM |
บูรพาท่าพระจันทร์
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2011, 08:12:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, Thammada, อริญชย์, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, panthong.kh, บ้านริมโขง, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง.., ลมหนาว
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
|
|
|
21 ธันวาคม 2011, 08:59:PM |
อริญชย์
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2011, 08:59:PM » |
ชุมชน
|
“อ้น” เป็นสัตว์ชอบอยู่ในรูลึก ตามพงพฤกษ์ลำเนาเทือกเขาใหญ่ ฟันแทะเคี้ยวอาหารสำราญใจ แมว หมาใน นกเค้า งู ศัตรูเอย ฯ
อริญชย์
อ้ น : g r o u n d h o g
" อ้น เป็นสัตว์สี่เท้าเลี้ยงลูกด้วยนม อาศัยอยู่ใต้ดิน มีรูปร่างหน้าตาคล้ายหนูพุกตัวอ้วน มีฟันหน้าคู่ใหญ่เป็นพิเศษคู่หนึ่ง สำหรับเมืองไทยมีอ้นอยู่ 3 ชนิดคือ อ้นใหญ่ อ้นกลาง และ อ้นเล็ก "
ลั ก ษ ณ ะ เ ด่ น ลักษณะเด่นที่สุดของอ้นคือ ฟันคู่หน้าใหญ่หนึ่งคู่ ฟันนี้มีสีเหลือง สีน้ำตาลอ่อน บางครั้งก็อาจจะเป็นสีส้ม อ้นใช้ฟันคู่นี้ขุดอุโมงค์ กัดดิน รากไม้ และเป็นอาวุธป้องกันตัว อ้นมีหัวมน ก้นมน คอสั้น ขากรรไกรกว้าง ตาเล็ก หูเล็ก ไม่มีใบหูยื่นยาวเหมือนกับสัตว์อื่นๆ นิ สั ย - พ ฤ ติ ก ร ร ม อ้น เป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตแบบเดี่ยว คือ อ้นจะอยู่ลำพังเพียงตัวเดียวใน 1 รัง นอกจากเวลาผสมพันธุ์จึงจะอยู่ด้วยกันกับคู่ของมัน อ้นตัวผู้จะอยู่กับตัวเมีย จนกว่าตัวเมียจะคลอดลูกออกมาแล้วจึงออกไป อ า ห า ร อ้นทั้งสามชนิดนี้ กินอาหารต่างกัน อ้นใหญ่จะกินแต่รากไผ่เป็นอาหารเท่านั้น ส่วนอ้นกลางและอ้นเล็กกินไม่เลือก ขอให้เป็นรากไม้ หักเครือเถาใดๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นไม้ไผ่เหมือนอ้นใหญ่ ศั ต รู ข อ ง อ้ น ศัตรูของอ้น ซึ่งมักมาดักกินอ้น ขณะออกจากรัง คือ พวกเสือดาว แมวดาว หมาไน บางทีก็โดนนกฮูก นกเค้าแมวจับกินด้วย ที่ อ ยู่ อ า ศั ย อ้น เป็นสัตว์ที่มีการระวังสูง จึงชอบขุดเจาะท่อทางเดินให้มีขนาดเฉพาะเท่ากับลำตัวเท่านั้น ความลึกจากผิวดินก็อยู่ในระดับเดียวกับรากเหง้าและหัวรากไม้ต่างๆ วิธีขุด อ้นจะใช้ปากกัดดิน และใช้เท้าตะกุยส่งผ่านใต้ท้อง และใช้ขาหลังถีบดินกองไว้ข้างหลัง เมื่อดินกองใหญ่พอสมควร อ้นจะกลับตัวแล้วใช้ส่วนหัวของมันดันกองดินขึ้นมาบนผิวดินเป็นระยะๆ
http://www.reocities.com/taooop/vers3/groundhog.html
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, panthong.kh, บ้านริมโขง, Thammada, รัตนาวดี, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง.., ลมหนาว
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
|
|
|
23 ธันวาคม 2011, 07:06:PM |
อริญชย์
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2011, 07:06:PM » |
ชุมชน
|
|
เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
|
|
|
25 ธันวาคม 2011, 04:24:PM |
อริญชย์
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2011, 04:24:PM » |
ชุมชน
|
|
เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 08:34:PM |
อริญชย์
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 08:34:PM » |
ชุมชน
|
|
เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
|
|
|
|