เจ็บให้..สาสม
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
20 เมษายน 2024, 01:24:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เจ็บให้..สาสม  (อ่าน 11092 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
10 พฤศจิกายน 2013, 12:16:AM
ตรีประภัสร์ โสม
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 192


บุปผา ลอยลิ่ว พลิ้วไหว


« เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2013, 12:16:AM »
ชุมชนชุมชน




โอ้ใจน้อง ครวญถึง คะนึงหา
ไยพี่ยา ลาเลื่อน กลบเกลื่อนสรวง
บดบังแสง แห่งขวัญ ร้อยพันดวง
มิอาจท้วง ล่วงลับ ไม่กลับคืน

จึงรำพัน กลั่นกรอง ทำนองโศก
ความวิโยค โบกโบย โหยสะอื้น
หนาวในอก ฟกช้ำ ทนกล้ำกลืน
ยิ้มระรื่น ฝืนสุข...แม้ทุกข์ตรม

เพรียกรำเพย เคยเคียง สำเนียงน้อง
ขลุ่ยพลิ้วก้อง ปานใด นัยขื่นขม
รักมลาย หายลับ เหมือนดับลม
ถ้อยคำบ่ม  จักจาง ดั่งวางวาย

หนึ่งโสม ร้องไห้งอแง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ~ขลุ่ยกันแสง~, เวหน.., รพีกาญจน์, D, อริญชย์, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, Shumbala

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 พฤศจิกายน 2013, 03:07:AM
~ขลุ่ยกันแสง~
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 322
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 796


~รักเธอ..เสมอใจ~


tanee.teena
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2013, 03:07:AM »
ชุมชนชุมชน

หัวเราะเยาะ
ส่งเสียงขลุ่ย เข้าควง ทรวงนงน้อง
เฝ้าประคอง เคียงข้าง ไม่ห่างหาย
ให้เหว่ว้า วิโยค โศกเศร้าคลาย
ทุกข์ทั้งหลาย ลาลับ ดับสูญไป..
 ยิ้มให้จ้ะ ยิ้มให้จ้ะ
..เพียงออพร่ำ ทำนอง หวาน..ก้องโสต
ขอ..เอื้อนโอษฐ์ ออกมา ว่า..ยินไหม
ขลุ่ยส่งเสียง แซมซึ้ง ถึงทรามวัย
จงสดับ ด้วยใจ ให้ดี-ดี..
 ยิ้มแบบรักนะ.. หัวเราะยิ้มๆ
..ครวญขลุ่ยพลิ้ว เพื่อเจ้า เพียงเท่านั้น
มิมีวัน ผันแปร ดวงแดหนี
ขอสัญญา ว่ารัก ภักดิ์นรี
ทุกนาที มีน้อง..เต็มห้องใจ
 ส่งจูบจ้ะ สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เธอนั่นแหละจ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เวหน.., รพีกาญจน์, D, อริญชย์, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, ตรีประภัสร์ โสม, ชลนา ทิชากร, Shumbala

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 พฤศจิกายน 2013, 08:58:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #2 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2013, 08:58:AM »
ชุมชนชุมชน


แว่วกังวาน หวานใด ไหนเล่าพี่
จักหวานเท่า วจี ที่หย่อนใส่
เหยาะความหอม ล้อมห้วง ดวงฤทัย
ฤดีไหว หวั่นทรวง พวงพะยอม

เคล้าเพลงพิณ จินต์ฉัน รำพันถึง
แสนตราตรึง ตรมหาย หมายความหอม
เสียงพลิ้วผ่าน ม่านใจ ได้ดมดอม
เกินจะน้อม โน้มน้าว พราวระย้า

ละมุนไอ อบอวล ชวนชื่นฉ่ำ
เดือนคล้อยต่ำ พร่ำจินต์ ถวิลหา
ผวากอด หมอนข้าง ร้างแรมรา
ปานอุรา วิ่นขาด สวาทวาย

เอียงหูฟัง อีกครา พาหม่นหมอง
สิ้นเสียงของ เพลงหวาน มานสลาย
ม่านหน้าต่าง พลางปลิว เป็นริ้วราย
คงสิ้นชาย หมายซึ้ง ที่พึงชม
พันทอง
๑๐/๑๑/๕๖

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ~ขลุ่ยกันแสง~, ไพร พนาวัลย์, เวหน.., รพีกาญจน์, ตรีประภัสร์ โสม, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, Shumbala

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 พฤศจิกายน 2013, 01:33:PM
เวหน..
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20



« ตอบ #3 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2013, 01:33:PM »
ชุมชนชุมชน

เอ็นดู    ฉลองกัน    เอ็นดู

ช่างแช่มชื่น รื่นรมณ์ สมใจมาส
เพลินพิลาส หยอกเย้า เคล้าสุขสม
นั่งมองตานงยาแม่ตากลม    
เอ่ยคำบ่มว่าเจ้าอย่าเศร้าครวญ..

หากตรงนี้ มีเจ้า เหงาคงสิ้น
ขอถวิล เข้ากอด โอบยอดขวัญ
อย่าได้มี หนีร้าง ดั่งเรรวน
เจ้าเนื้อนวล เพียงนี้ ก็ปรีดา

ขอลำเลียง เสียงคะนึง ส่งถึงเจ้า
ก่อนรุ่งเช้า ลุล่วง ช่วงหรรษา
ท่ามราตรี นี้หนอ ขอดารา
ส่องแสงมา ห่มห้อม เข้าล้อมใจ

นอนหลับตาพักใจในวันนี้
เถอะคนดีมุ่งมั่นอย่าหวั่นไหว
สุริยาลับฟ้ามืดคราใด
ต่อวันใหม่ตะวันส่องก็รองเรือง..

เวหน

  เอ็นดู    ฉลองกัน    เอ็นดู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ตรีประภัสร์ โสม, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, รพีกาญจน์, ~ขลุ่ยกันแสง~, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, Shumbala

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 พฤศจิกายน 2013, 02:20:PM
เวหน..
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20



« ตอบ #4 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2013, 02:20:PM »
ชุมชนชุมชน




โอ้ใจน้อง ครวญถึง คะนึงหา
ไยพี่ยา ลาเลื่อน กลบเกลื่อนสรวง
บดบังแสง แห่งขวัญ ร้อยพันดวง
มิอาจท้วง ล่วงลับ ไม่กลับคืน

จึงรำพัน กลั่นกรอง ทำนองโศก
ความวิโยค โบกโบย โหยสะอื้น
หนาวในอก ฟกช้ำ ทนกล้ำกลืน
ยิ้มระรื่น ฝืนสุข...แม้ทุกข์ตรม

เพรียกรำเพย เคยเคียง สำเนียงน้อง
ขลุ่ยพลิ้วก้อง ปานใด นัยขื่นขม
รักมลาย หายลับ เหมือนดับลม
ถ้อยคำบ่ม  จักจาง ดั่งวางวาย

หนึ่งโสม ร้องไห้งอแง


ยอดนางแก้วแวววรรณจอมขวัญศรี
เพลานี้จิตครวญนวลเดือนฉาย
พี่จรพรากจากนางมาห่างกาย
มิแหนงหน่ายหทัยคร่ำครางรำพึง

แลฟ้าโปรยโรยสายพรมพรายฉ่ำ
ระรินพรำย้ำจิตครุ่นคิดถึง
โอ้!แม่เอยเคยเนาแนบเคล้าคลึง
ละมุนซึ้งตรึงแน่นในแก่นมน

พราวละอองล่องปลิวผ่านผิวแผ่ว
หนาวนักแก้วแผ้วพานเซ็นซ่านฝน
แต่หาเทียบเปรียบไม่กับใจตน
หนาวผลิผลบนรักภักดิ์ทวี

เพลาผันวันปีจรลี้ล่วง
เถิดพุ่มพวงทรวงชายมิหน่ายหนี
ในคำนึงหนึ่งเนาพี่เฝ้าพลี
กอบฤดีนี้วางเพียงนางชม

คือคำมั่นสัญญาวาจาสัตย์
หากตระบัดกัดกลืนขอขื่นขม
จงสนองครองฝืนสิ้นรื่นรมย์
ใช่ลิ้นคมถ่มพล่อยดอกกลอยตา

เวหน..

 ฉลองกัน    เอ็นดู    ฉลองกัน


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ตรีประภัสร์ โสม, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, panthong.kh, ~ขลุ่ยกันแสง~, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, Shumbala

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 พฤศจิกายน 2013, 08:25:PM
มังตรา
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 133
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 345



« ตอบ #5 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2013, 08:25:PM »
ชุมชนชุมชน

โอ้ใจน้อง ครวญถึง คะนึงหา
ไยพี่ยา ลาเลื่อน กลบเกลื่อนสรวง
บดบังแสง แห่งขวัญ ร้อยพันดวง
มิอาจท้วง ล่วงลับ ไม่กลับคืน

จึงรำพัน กลั่นกรอง ทำนองโศก
ความวิโยค โบกโบย โหยสะอื้น
หนาวในอก ฟกช้ำ ทนกล้ำกลืน
ยิ้มระรื่น ฝืนสุข...แม้ทุกข์ตรม

เพรียกรำเพย เคยเคียง สำเนียงน้อง
ขลุ่ยพลิ้วก้อง ปานใด นัยขื่นขม
รักมลาย หายลับ เหมือนดับลม
ถ้อยคำบ่ม  จักจาง ดั่งวางวาย

           หนึ่งโสม 


ด้วยภาระ   หน้าที่    เขามีมาก               
จึงจำจาก   จันทร์เพ็ญ   เช้าเย็นสาย
ให้ฝืนทุกข์   ทนเศร้า   เหงาเดียวดาย     
ช่างน่าอาย   คนนี้   น่าตีจัง

อย่าเศร้าโศก  พี่ประโลม   แม่โสมแก้ว       
อันค่ำแล้ว   ยังลับ   ไม่กลับหลัง
พี่พะเน้า  พะนอ   ต่อกลอนฟัง                   
ให้ลืมวัง  วนเวียน   เบียดเบียนใจ

ถึงรุ่งสาง   ย่างเช้า   ยังหนาวอยู่                   
พ่อยอดชู้    ละเนา   เอาใจใส่
พี่ขอห่ม   โสมเจ้า    ยามเขาไกล                   
ครวญคร่ำให้   ระลึก   เผื่อตรึกตรอง

หากตะวัน   ผันผ่าน   กาลปรากฏ               
ยังละลด   หลีกเว้น  เห็นเป็นสอง
ขอโสมแข   แน่คิด   เพ่งจิตมอง                   
สองตาจ้อง   คนตรงหน้า    อย่าช้าเลย
                           

                ฉลองกัน
           
   




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, panthong.kh, ~ขลุ่ยกันแสง~, ตรีประภัสร์ โสม, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, เวหน.., Shumbala

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 พฤศจิกายน 2013, 09:06:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #6 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2013, 09:06:PM »
ชุมชนชุมชน

เอ็นดู    ฉลองกัน    เอ็นดู

ช่างแช่มชื่น รื่นรมณ์ สมใจมาส
เพลินพิลาส หยอกเย้า เคล้าสุขสม
นั่งมองตานงยาแม่ตากลม    
เอ่ยคำบ่มว่าเจ้าอย่าเศร้าครวญ..

หากตรงนี้ มีเจ้า เหงาคงสิ้น
ขอถวิล เข้ากอด โอบยอดขวัญ
อย่าได้มี หนีร้าง ดั่งเรรวน
เจ้าเนื้อนวล เพียงนี้ ก็ปรีดา

ขอลำเลียง เสียงคะนึง ส่งถึงเจ้า
ก่อนรุ่งเช้า ลุล่วง ช่วงหรรษา
ท่ามราตรี นี้หนอ ขอดารา
ส่องแสงมา ห่มห้อม เข้าล้อมใจ

นอนหลับตาพักใจในวันนี้
เถอะคนดีมุ่งมั่นอย่าหวั่นไหว
สุริยาลับฟ้ามืดคราใด
ต่อวันใหม่ตะวันส่องก็รองเรือง..
เวหน
  เอ็นดู    ฉลองกัน    เอ็นดู


ไม่อยากเศร้า รัญจวน คร่ำครวญหา
ไม่อยากลา แรมรอน ตอนคุยเขื่อง
ไม่อยากจาก จำใจ ให้ขุ่นเคือง
ไม่อยากเปลือง ดวงจิต คิดทุกยาม

เพลินเพลงพราย ร่ายมนต์ ดลไขว่คว้า
เนตรนภา ตาฉ่ำ มีคำถาม
หากรักแรก แทรกกมล ของคนงาม
โปรดเอ่ยความ นัยบอก ออกจากใจ

ว่ารักจริง ยิ่งแท้ แน่นอนนัก
ว่าจะปัก รักตรึง ขึงไฉน
ว่าจะมั่น คงอยู่ คู่หทัย
ว่าจะรัก จะใคร่ ไปชั่วกาล
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ~ขลุ่ยกันแสง~, รพีกาญจน์, ตรีประภัสร์ โสม, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, เวหน.., Shumbala

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 พฤศจิกายน 2013, 08:30:AM
ตรีประภัสร์ โสม
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 192


บุปผา ลอยลิ่ว พลิ้วไหว


« ตอบ #7 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2013, 08:30:AM »
ชุมชนชุมชน

หัวเราะเยาะ
ส่งเสียงขลุ่ย เข้าควง ทรวงนงน้อง
เฝ้าประคอง เคียงข้าง ไม่ห่างหาย
ให้เหว่ว้า วิโยค โศกเศร้าคลาย
ทุกข์ทั้งหลาย ลาลับ ดับสูญไป..
 ยิ้มให้จ้ะ ยิ้มให้จ้ะ
..เพียงออพร่ำ ทำนอง หวาน..ก้องโสต
ขอ..เอื้อนโอษฐ์ ออกมา ว่า..ยินไหม
ขลุ่ยส่งเสียง แซมซึ้ง ถึงทรามวัย
จงสดับ ด้วยใจ ให้ดี-ดี..
 ยิ้มแบบรักนะ.. หัวเราะยิ้มๆ
..ครวญขลุ่ยพลิ้ว เพื่อเจ้า เพียงเท่านั้น
มิมีวัน ผันแปร ดวงแดหนี
ขอสัญญา ว่ารัก ภักดิ์นรี
ทุกนาที มีน้อง..เต็มห้องใจ
 ส่งจูบจ้ะ สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เธอนั่นแหละจ้ะ

น้อยใจแล้วด้วย      น้อยใจแล้วด้วย
 
 ยินเสียงขลุ่ย แว่วหวิว ลิ่วหวามหวาน
กล่อมดวงมาน น้องหวน ชวนหวั่นไหว
เสียงเพียงออ คลอจิต ครวญคิดใด
พี่เจ้าไซร้ ห่างเห ดั่งเรรวน

ดวงฤทัย ลอยวน อยู่หนไหน
อย่าเลื่อนไหลแรมห่างทิ้งร้างขวัญ
แสนรักแสนห่วงหวงดวงชีวัน
สุดหวาดหวั่น กลัวใจ ไม่กลับคืน

คงเพลินชม มวลมาลี สีสดสวย
หอมระรวย รินรัด มิขัดขืน
ใจคอยบอก ชอกช้ำ ทนกล้ำกลืน
พี่เป็นอื่น มีสอง..สำรองกาย..

หนึ่งโสม ร้องไห้งอแง

 น้อยใจแล้วด้วย    ลาตายดีกว่าตู    น้อยใจแล้วด้วย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, เวหน.., Shumbala

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

11 พฤศจิกายน 2013, 11:42:AM
ตรีประภัสร์ โสม
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 192


บุปผา ลอยลิ่ว พลิ้วไหว


« ตอบ #8 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2013, 11:42:AM »
ชุมชนชุมชน




โอ้ใจน้อง ครวญถึง คะนึงหา
ไยพี่ยา ลาเลื่อน กลบเกลื่อนสรวง
บดบังแสง แห่งขวัญ ร้อยพันดวง
มิอาจท้วง ล่วงลับ ไม่กลับคืน

จึงรำพัน กลั่นกรอง ทำนองโศก
ความวิโยค โบกโบย โหยสะอื้น
หนาวในอก ฟกช้ำ ทนกล้ำกลืน
ยิ้มระรื่น ฝืนสุข...แม้ทุกข์ตรม

เพรียกรำเพย เคยเคียง สำเนียงน้อง
ขลุ่ยพลิ้วก้อง ปานใด นัยขื่นขม
รักมลาย หายลับ เหมือนดับลม
ถ้อยคำบ่ม  จักจาง ดั่งวางวาย

หนึ่งโสม ร้องไห้งอแง



ยอดนางแก้วแวววรรณจอมขวัญศรี
เพลานี้จิตครวญนวลเดือนฉาย
พี่จรพรากจากนางมาห่างกาย
มิแหนงหน่ายหทัยคร่ำครางรำพึง

แลฟ้าโปรยโรยสายพรมพรายฉ่ำ
ระรินพรำย้ำจิตครุ่นคิดถึง
โอ้!แม่เอยเคยเนาแนบเคล้าคลึง
ละมุนซึ้งตรึงแน่นในแก่นมน

พราวละอองล่องปลิวผ่านผิวแผ่ว
หนาวนักแก้วแผ้วพานเซ็นซ่านฝน
แต่หาเทียบเปรียบไม่กับใจตน
หนาวผลิผลบนรักภักดิ์ทวี

เพลาผันวันปีจรลี้ล่วง
เถิดพุ่มพวงทรวงชายมิหน่ายหนี
ในคำนึงหนึ่งเนาพี่เฝ้าพลี
กอบฤดีนี้วางเพียงนางชม

คือคำมั่นสัญญาวาจาสัตย์
หากตระบัดกัดกลืนขอขื่นขม
จงสนองครองฝืนสิ้นรื่นรมย์
ใช่ลิ้นคมถ่มพล่อยดอกกลอยตา

เวหน..

 ฉลองกัน    เอ็นดู    ฉลองกัน



ปลื้มจัง ปลื้มจัง ปลื้มจัง

ได้เห็นกานท์ สานพจน์ จดหมายร้อย
รำบายถ้อย คำหวาน มานหนักหนา
จากใครหนึ่ง ซึ่งห่าง เส้นทางมา
ยังเสน่หา จันทร์ฉาย มิคลายคลอน

อ่านวลี พี่ยา ก็พาเคลิ้ม
แสนหยาดเยิ้ม ฉ่ำรัก ตัวอักษร
บรรจงถ้อย ร้อยสรรค์ จำนรรจ์กลอน
มาออดอ้อน เอื้อนซึ้ง ตรึงฤดี

จันทราเอ๋ย เผยแสง เติมแต่งสรวง
ห้อมล้อมทรวง แนบรัก เยี่ยงสักขี
ช่างงดงาม อร่ามส่อง ผ่องราตรี
โอ้...คืนนี้ ดวงโสม ช่วยโลมใจ

ดั่งเทวัญ สรรเสก ปุยเมฆขาว
พร้อมหมู่ดาว แวววับ ดลหลับใหล
มาลีล้อม หอมกลิ่น โรยรินไกล
เสียงคลอไพร แผ่ซ่าน กังวานแดน

ทำบุหลัน หวั่นไหว โอ้หทัยหนอ
อยากอ่านต่อ ให้สม อารมณ์แสน
แล้วหอมรัก สักฟอด ออดอ้อนแทน
แสนหวงแหน..มั่นรัก..ใจภักดิ์เอย

หนึ่งโสม ยิ้มหน้าใส

 เคารพรัก
ปลื้มจัง    ปลื้มจัง    ปลื้มจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, เวหน.., Shumbala

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

11 พฤศจิกายน 2013, 01:21:PM
ตรีประภัสร์ โสม
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 192


บุปผา ลอยลิ่ว พลิ้วไหว


« ตอบ #9 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2013, 01:21:PM »
ชุมชนชุมชน

ฉลองกัน    เอ็นดู    ฉลองกัน

ด้วยภาระ   หน้าที่    เขามีมาก               
จึงจำจาก   จันทร์เพ็ญ   เช้าเย็นสาย
ให้ฝืนทุกข์   ทนเศร้า   เหงาเดียวดาย     
ช่างน่าอาย   คนนี้   น่าตีจัง

อย่าเศร้าโศก  พี่ประโลม   แม่โสมแก้ว       
อันค่ำแล้ว   ยังลับ   ไม่กลับหลัง
พี่พะเน้า  พะนอ   ต่อกลอนฟัง                   
ให้ลืมวัง  วนเวียน   เบียดเบียนใจ

ถึงรุ่งสาง   ย่างเช้า   ยังหนาวอยู่                   
พ่อยอดชู้    ละเนา   เอาใจใส่
พี่ขอห่ม   โสมเจ้า    ยามเขาไกล                   
ครวญคร่ำให้   ระลึก   เผื่อตรึกตรอง

หากตะวัน   ผันผ่าน   กาลปรากฏ               
ยังละลด   หลีกเว้น  เห็นเป็นสอง
ขอโสมแข   แน่คิด   เพ่งจิตมอง                   
สองตาจ้อง   คนตรงหน้า    อย่าช้าเลย

ปลื้มจัง           ปลื้มจัง

กายอยู่ใกล้ ช่างเลือน เหมือนไกลห่าง
ความอ้างว้าง เปลี่ยวจิต ร่ำคิดเอ๋ย
สองกายคลอ พนอพร่ำ ที่ฉ่ำเคย
มิซึ้งเลย เท่าใจสอด กอดดวงแด

สุดหมองใจ ทุกข์ตรม ดั่งวนอยู่
มิอาจรู้ กาลนั้น เจ้าจันทร์แข
น้องแสนภักดิ์ รักพี่ มิเชือนแช
สุดหวั่นแท้ ฤทัยพ่าย นะชายเอย..

เพียงพบพักตร์ ค้นฤดี มิมีพบ
คงจะหลบ ซ่อนอยู่ ดูนิ่งเฉย
สองดวงนิล สิ้นแววนัย หวั่นไหวเลย
โอ้ตาเอ๋ย เปิดประตู ขอดูใจ

มังตราพี่ มั่นรัก ประจักษ์โสม
ช่างประโลม ฤทัยน้อง แสนผ่องใส
คอยเคียงข้าง ห่อนห่าง มิย่างไกล
สัญญาไว้ ชายมิกลับ มอบภักดี

หนึ่งโสม ยิ้มหน้าใส

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, เวหน.., Shumbala

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

11 พฤศจิกายน 2013, 09:37:PM
เวหน..
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20



« ตอบ #10 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2013, 09:37:PM »
ชุมชนชุมชน

 

ไม่อยากเศร้า รัญจวน คร่ำครวญหา
ไม่อยากลา แรมรอน ตอนคุยเขื่อง
ไม่อยากจาก จำใจ ให้ขุ่นเคือง
ไม่อยากเปลือง ดวงจิต คิดทุกยาม

เพลินเพลงพราย ร่ายมนต์ ดลไขว่คว้า
เนตรนภา ตาฉ่ำ มีคำถาม
หากรักแรก แทรกกมล ของคนงาม
โปรดเอ่ยความ นัยบอก ออกจากใจ

ว่ารักจริง ยิ่งแท้ แน่นอนนัก
ว่าจะปัก รักตรึง ขึงไฉน
ว่าจะมั่น คงอยู่ คู่หทัย
ว่าจะรัก จะใคร่ ไปชั่วกาล
พันทอง
  เอ็นดู ฉลองกัน เอ็นดู
 
ความจริงมาก จากใจ คงไม่ผิด
                  รัก..ที่คิด ฝากกัน หมั่นทวงถาม                   
รัก..เป็นดั่ง แรงใจ ให้ติดตาม
รัก..ทุกยาม เสมอมั่น..ไม่หวั่นใด..
เธอ-คนเดียว ที่ใจ เฝ้าใฝ่ฝัน
เธอ-เท่านั้น ปรารถนา คราหวั่นไหว
เธอ-คงรู้ ว่ารักปักษ์ ทรวงใน
เธอ-นั้นคง เข้าใจ เหตุใดพา
เพียง-ห้วงลึก แห่งทรวง ยังห่วงถาม
เพียง-พะวง รักงาม ที่ย้ำหา
เพียง-ใจหนึ่ง ถึงหนึ่งใจ ไม่เลือนลา
เพียง-เวหา ห้วงหาว มีเรารอ

เวหน..

 เอ็นดู    ฉลองกัน  เอ็นดู


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, Shumbala, รพีกาญจน์, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s