ถึงไม่แพ้แต่หวังชัยนั้นให้ยาก
เห็นมามากหลากล้วนเล็บข่วนแขน
บ้างหน้าบวมอ่วมไม่น้อยเหมือนรอยแตน
หากขืนแค่นแม้นอยากฝีปากลอง
แม้นมารดาว่าไปไม่เท่านี้
ชอบจ้ำจี้ชี้คำจำสนอง
หากทำหืออือออชอบต่อรอง
โดนไม้พลองร้องครางนางประเคน...
-บูรพาฯ-
ผมไม่กลัวหรอก เพราะผมมีสูตรดี
(ตั้งใจจะแต่งสองบท...แต่ความมันไม่จบ...ก็เลย...)
จำได้ว่า...เมื่อเด็ก...เล็กกระจิด
มีหมา mid-road ชรา...ชอบมาเล่น
ที่บ้านผม...ทุกเย็น...มิเห็นเว้น
กระโดดเต้น...อวดโอ้...โชว์หนังกลับ
ผมจัดหา...ข้าวให้...ด้วยใจหมาย
เจ้าตูบหาย...ฉวีวรรณ...คืนมันขลับ
หาเศษเนื้อ, หมู, ปลา...มารองรับ
หกโมงปั๊บ...ผมก็เพรียก...เรียกมันมา
ทำอย่างนี้..ประจำ...สม่ำเสมอ
มิมีเผลอ...ใจลอย...ปล่อยเจ้าหมา
ให้อดข้าว...หิวน้ำ...ช้ำชีวา
จนเกิดขา...แข้งขวิด...เพราะอิดโรย
มีวันหนึ่ง...ผมมา...ช้านิดนิด
ด้วยมีกิจ...ทำสะอาด (ห้อง)...มิอาจโบ้ย
เป็นโทษที่...ครูประทาน...แทนการโบย
เพราะแอบโซ้ย...ขนมปัง...หลังห้องเรียน
เจ้าสุนัข...ก็ส่ายหาง...กางใบหู
น้ำลายพรู...ร่วงมา...พาคลื่นเหียน
วนรอบตัว...เด็กชาย...คล้ายวงเวียน
คงหิวเจียน...ใจจะขาด...อนาถจริง
จึ่งใช้เรื่อง...ที่เห็น...เป็นข้อคิด
สูตรพิชิต...หฤทัย...ใจเหล่าหญิง
แรกต้องหนึบ...เข้าประชิด...ติดเหมือนปลิง
แล้วค่อยชิ่ง...ห่างห่าง...ให้นางรอ
เธอจะคิด...ถึงเรา...เฉกเจ้าตูบ
จนร่างซูบ...กายหน่วง...ทรวงระย่อ
เช้าชะเง้อ...สายก็แล...ชะแง้คอ
น้ำลายสอ...เพราะอยากพบ...ประสบเรา
ศรีเปรื่อง
๒๘ มิ.ย. ๒๕๕๖
mid-road มาจาก (mid = กลาง)+(road = ถนน)