~*~ ฝากคำ..ในค่ำหนาว ~*~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
17 มิถุนายน 2024, 03:45:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*~ ฝากคำ..ในค่ำหนาว ~*~  (อ่าน 3957 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
18 มกราคม 2012, 10:45:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« เมื่อ: 18 มกราคม 2012, 10:45:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ ลำแสงสูรย์สุดท้ายเรื่อปลายฟ้า
ก่อนจันทราผันดวงสู่ห้วงหาว
คาบวันเปลี่ยนเวียนคืนอันยืนยาว
กับเรื่องราวร้าวร้างบนทางลวง

๐ ย่อมมีทุกข์โศกเศร้ารุมเร้าอยู่
บางครั้งจู่โจมใจอย่างใหญ่หลวง
ปัดป้ายคราบกาลคล้ำลงย้ำทรวง
เป็นด่างดวงเปรอะเปื้อนอยู่เกลื่อนไป

๐ เงาหม่นมัวทั่วถิ่นยามสิ้นสูรย์
พรากจำรูญผ่านผันช่วงวันใส
เพื่อเดือนเพ็ญเด่นฟ้าอ่าอำไพ
แต่หัวใจมืดมนอนธการ

๐ รอวันที่โคมสรวงกลางทรวงส่อง
รอแสงทองเรื่อสายจักฉายฉาน
เพื่อดอกรักถูกเร่งให้เบ่งบาน
พ้นรอบวารเศร้าหมองที่ครองทรวง

๐ ได้พบ..ใครหนึ่งนั้นในวันนี้
เหมือนสุรีย์ส่องสว่างในกลางสรวง
ขับไล่ความหม่นหมองที่ครองดวง-
หหัยล่วงเลยผ่าน..ด้วยหวานนั้น-

๐ ย้อมให้คอยคิดถึงคะนึงหา
บุพเพพาพ้นช่วงจากห้วงฝัน
แม้หนทางขวางให้ต้องไกลกัน
ก็อาจคั่นเพียงตัว..แต่หัวใจ-

๐ ถูกยึดโยงแน่นเหนียวเป็นเกลียวล่าม
ดึงรั้งข้ามจากอุราลงอาศัย
ในอีกทรวงอกหนึ่งซึ่งห่างไกล
ผูกอาลัยรัดมั่นพันธนา

๐ ทุกเช้าสายบ่ายเย็นไม่เว้นช่วง
ได้แต่หวงห่วงถึงคะนึงหา
แม้พลบค่ำผ่านล่วงห้วงนภา
ก็ยังว้าเหว่อยู่มิรู้คลาย

๐ ค่ำคืนหนาวแผ่ห้อมโอบล้อมถิ่น
รื่นริ้วลมรวยรินไม่สิ้นสาย
โพ้นฟ้า..แสงพร่างพราวธารดาวพราย
วาบประกายนั้นชวนหวนคำนึง-

๐ ถึงแววตาอาวรณ์เกินซ่อนไหว
บ่งบอกความอาลัยของใครหนึ่ง
ยามนี้เพียงลมร่ำรั้งรำพึง-
ลอยล่องถึงอีกทรวงผู้ห่วงรอ

๐ ได้พบ..แล้วไยสรวงยังหน่วงรั้ง
ให้พลัดฝั่งต่างฟากซ้ำซากต่อ
มิตัดบั่นวิบากขุดรากตอ
ต้องให้ท้อทรมานสักปานใด

๐ เมื่อไรหนอรอบบุญจักหนุนวาสน์
จะต้องคลาดแคล้วกันถึงวันไหน
หวั่นว่ากาลหมุนเวียนจนเปลี่ยนใจ
หมดสิ้นเยื่อขาดใยร้างไมตรี

๐ ค่ำคืนสายลมหนาวแพดาวพร้อย
เดือนเพ็ญลอยกลางสรวงช่วงรังสี
ยังด้อยกว่าแสงสว่างกลางฤดี
เมื่อรู้ทีท่านั้นว่ามั่นปอง

๐ เหลือแต่รอบาปบรรพ์ให้ผันผ่าน
ป่นขวากหนามแหลกลาญเพื่อมานสอง
ได้หลอมรวมร่วมขวัญสู่วันครอง
แนบประคองเคียงข้างบนทางเดียว

๐ บวงสรวงปวงเทพไท้........ทอนทาง
รอนวิบากขวากขวาง...........ป่นสิ้น
ผูกจิตผูกใจวาง..................เคียงคู่
ตราบร่างลับดับดิ้น..............ไป่ร้างเสน่หา

๐ กรองกานท์จักตอกย้ำ.......แรงคะนึง
กี่ภพกี่ชาติพึง....................ร่วมร้อย
สบพากย์ผูกทรวงตรึง..........ราวสั่งมนต์เฮย
โยงยึดดั่งสายสร้อย-...........มาศรั้งรวมขวัญ

วลีลักษณา
๑๓ มกราคม ๒๕๕๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : victoria's secret, amika29, ดาว อาชาไนย, ลมหนาว, Design with love ᵔᴥᵔ, ขจาริน, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥หทัยกาญจน์♥, เพรางาย, สะเลเต, รการตติ, panthong.kh, สุนันยา, แป้งน้ำ, สล่าผิน

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
19 มกราคม 2012, 12:09:PM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #1 เมื่อ: 19 มกราคม 2012, 12:09:PM »
ชุมชนชุมชน

เธอมิแคร์แท้มีใครใจเหน็บหนาว
เพราะมองดาวพราวมืดดับใกล้ลับแสง
คืนหมองหม่นคนหมายหมั้นพลันเปลี่ยนแปลง
ฟ้ากลั่นแกล้งแฝงกลับกลายใจทรมาน

คราวเหมันต์ครั้นหวนมาพาสะอื้น
คอยเขาคืนขื่นข่มคอยเดือนคล้อยผ่าน
คราบน้ำตาครานองตกอกร้าวราน
ภาพวันวานพานวนเวียน..เจียนขาดใจ

---สะเลเต---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥หทัยกาญจน์♥, ดาว อาชาไนย, panthong.kh, สุนันยา, เมฆา..., แป้งน้ำ, สล่าผิน

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 มกราคม 2012, 04:17:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 มกราคม 2012, 04:17:PM »
ชุมชนชุมชน

เธอมิแคร์แท้มีใครใจเหน็บหนาว
เพราะมองดาวพราวมืดดับใกล้ลับแสง
คืนหมองหม่นคนหมายหมั้นพลันเปลี่ยนแปลง
ฟ้ากลั่นแกล้งแฝงกลับกลายใจทรมาน

คราวเหมันต์ครั้นหวนมาพาสะอื้น
คอยเขาคืนขื่นข่มคอยเดือนคล้อยผ่าน
คราบน้ำตาครานองตกอกร้าวราน
ภาพวันวานพานวนเวียน..เจียนขาดใจ

---สะเลเต---





คุ้นเคียงใจใครเคยจรตอนหวานชื่น
ยิ้มระรื่นยืนเรียงร้อยถ้อยหวามไหว
จวนหมองหม่นจนมืดมิดเพราะผิดใด
คราร่ำไห้ใครร้องห่มระทมทรวง

เหมันต์ครวญหวนมาคืนสะอื้นไห้
ร้าวรานใจไร้เรือนจางรักต่างหวง
เคยเชยชิดคิดช้ำชอกเหมือนหลอกลวง
ทั้งใจห่วงท้วงจิตหาย..แสนหน่ายล้า


รการตติ





สุดเสียดายสายเสียดุจยากหยุดยั้ง
สูญสิ้นหวังสังสารวนเฝ้าค้นหา
เกิดดับร่างกลางแดนโลกโศกโศกา
หมายเอื้อมคว้ามาโอบ..คว้างออกห่างมือ

เสพรสหวานสาส์นร้อยวางรวมทางสร้อย
เน้นร่ำร้อยน้อยหรือไร..จึงไม่ถือ-
สัตย์สาบานสานสั่งบทลืมหมดฤๅ
ไยมิซื่อยื้อมาซึ้งแล้วจึงวางฯ

วลีลักษณา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, ♥หทัยกาญจน์♥, สล่าผิน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s