~คิดถึง...จึ่งครวญ~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
16 มิถุนายน 2024, 03:55:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~คิดถึง...จึ่งครวญ~  (อ่าน 8298 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
23 มีนาคม 2011, 01:16:AM
แม่ค้าหน้าหวาน
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 217
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 319


~ วจีหวานเริงรสพจน์ไม่ลวง ~


เว็บไซต์
« เมื่อ: 23 มีนาคม 2011, 01:16:AM »
ชุมชนชุมชน




๏ ระยิบพราวพร่างฟ้านภาเด่น
แสงจันทร์เพ็ญเฉิดฉายปลายสิงขร
เมียงมองครั้งคิดถึงจึงมอบกลอน
ทออักษรอ่อนหัดร้อยรัดรึง

๏ มวลหมู่ดาวดื่นฟ้านำพาบอก
เพราะรักดอกแย้มนัยส่งไปถึง
ลำนำขานสื่อไปให้ตราตรึง
อยากเป็นหนึ่งแนบทรวงเชื่อมดวงใจ

๏ บรรจงกลั่นถ้อยความให้งามงด
ร่ายเรียงพจน์จำนรรจ์มิหวั่นไหว
จะพันผูกคล้องบ่วงด้วยห่วงใย
พร้อมแนบนัยแห่งรักปักดวงแด

๏ เฝ้าเพียรส่งคำหวานผ่านคำถ้อย
หวังให้รอยแห่งรักประจักษ์แด่
บอกความหมายพี่ยาช่วยมาแล
มิผันแปรรักให้ผู้ใดเลย

~แม่ค้าหน้าหวาน~

ข้อความนี้ มี 27 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
23 มีนาคม 2011, 02:35:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,699


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 23 มีนาคม 2011, 02:35:AM »
ชุมชนชุมชน


 
คืนจันทร์เพ็ญแจ่มฟ้าเวหาหาว
กลบแสงดาวหม่นแสงไร้แรงเผย
หวังได้พบอบอุ่นคนคุ้นเคย
แม้อยากเอ่ย คำว่า ยังอาลัย

เธอจะเชื่อไหมหนอใคร่ขอถาม
ว่าสุดห้ามรักหลง ยังสงสัย
ยังคร่ำครวญ หวนคะนึง คิดถึงใคร
คนที่ไม่ เคยซึ้ง คิดถึงเรา

 
ข้อความนี้ มี 24 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
23 มีนาคม 2011, 08:12:AM
ยามพระอาทิตย์อัสดง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 691
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,437


~ ทุกถิ่นแถนแดนอักษร ~


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 23 มีนาคม 2011, 08:12:AM »
ชุมชนชุมชน


อ่านลำนำ...คำรัก...ว่ามักหวาน
เหมือนว่าปาน...หัวใจ...ใครจะขาด
ลงอักษร...กลอนรัก...ปักใจบาด
ได้แต่ปาด...น้ำตา...พากล่ำกลืน

เพราะเขามี...คำรัก...หว่านเรียงร้อย
มีเพียงถ้อย...รับขวัญ...เมื่อยามตื่น
มีใครใคร...ส่งใจ...ทุกวันคืน
เราทนฝืน...คืนนี้...ไม่มีใคร

หวานนักหวาน...ความหวาน...ก็คงหวาน
แสนยาวนาน...ผ่านวัน...ยังหวั่นไหว
หากความรัก...ทำหวาน...จนบาดใจ
ขอหลีกไกล...กลัวใจ...ให้ขาดกัน

ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อัสดง..ขอขอบคุณภาพสวยๆจากอินเตอร์เนต..
http://noisunset.blogspot.com/
Thinking about you makes me smile...
23 มีนาคม 2011, 04:29:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #3 เมื่อ: 23 มีนาคม 2011, 04:29:PM »
ชุมชนชุมชน



...เพียงคำแผ่วซึ่งไร้ใครห่วงหา
แม้แววตาใครมองประคองฝัน
คนคุ้นหน้ามาหายคลายชีวัน
เคยคุ้นกันก็ตีจากฝากอาลัย

...ค่ำคืนร้างทางเรามีเงาทบ
ราตรีพบรอยน้ำตาพาหวั่นไหว
แม้กลอนเนาว์เล่ากานท์ยังพานไกล
สิงสู่ใจยังยาก...หากถามทวง

...วันนี้ฉันคิดถึง...จึงครวญคร่ำ
ส่งบทพร่ำมาพะนอรอใครห่วง
หรือสิ้นทางรักฝาก...ให้ฉากลวง
ส่งเข้าทรวงแล้วตีจาก...ฝากคะนึง...


ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
23 มีนาคม 2011, 07:11:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #4 เมื่อ: 23 มีนาคม 2011, 07:11:PM »
ชุมชนชุมชน




...เพียงคำแผ่วซึ่งไร้ใครห่วงหา
แม้แววตาใครมองประคองฝัน
คนคุ้นหน้ามาหายคลายชีวัน
เคยคุ้นกันก็ตีจากฝากอาลัย

...ค่ำคืนร้างทางเรามีเงาทบ
ราตรีพบรอยน้ำตาพาหวั่นไหว
แม้กลอนเนาว์เล่ากานท์ยังพานไกล
สิงสู่ใจยังยาก...หากถามทวง

...วันนี้ฉันคิดถึง...จึงครวญคร่ำ
ส่งบทพร่ำมาพะนอรอใครห่วง
หรือสิ้นทางรักฝาก...ให้ฉากลวง
ส่งเข้าทรวงแล้วตีจาก...ฝากคะนึง...




~คิดหวน..จึ่งไห้~

…ชลนัยน์ ไหลนอง สองนวลเนตร
เกิดแต่เหตุ ไห้หวน คร่ำครวญถึง
คนคุ้นเคย เกยหนุน อุ่นรำพึง
ย้อนติดตรึง สองตา ทุกคราไป

...นอกจากโซ่ มโนภาพ อาบฝันแล้ว
ยังมีแก้ว กาพย์ฉันท์ อันพริ้วไหว
ให้ดูต่าง นางเนื้อ จุนเจือใจ
ยามอาลัย ใคร่เปลี่ยว อยู่เดียวดาย

...แสนจะเศร้า เหงาโศก เจ้าโรครัก
ไยจึงผลัก พักตร์ขวัญ ให้หันหาย
ซ้ำกำเริบ เสิบสาน แทบปราณวาย
พาโฉมฉาย ไกลห่าง สุดร้างลา

...ได้เพียงอ่าน กานท์ถ้อย ที่ค่อยซีด
รอยหมึกขีด กรีดวาง อย่างห่วงหา
อยู่ไหนหนอ แจ่มจันทร์ แก้วขวัญตา
ทุกเวลา พี่รอ แสนท้อทรวง

...จึ่งเป็นเหตุ เนตรนอง ร้องสะอื้น
หวั่นค่ำคืน ฉุดคร่า วิญญาสรวง
โทมนัส อัดแน่น เต็มแผ่นดวง
ก็เพราะหวง โหยหา เจียนบ้าบอ...


***เมฆา...***




ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
23 มีนาคม 2011, 09:40:PM
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 685


เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย


« ตอบ #5 เมื่อ: 23 มีนาคม 2011, 09:40:PM »
ชุมชนชุมชน


แว่วเสียงลมครวญแผ่วแล้วคิดถึง
สุดคนึงถึงรักที่ฟากฝัน
แม้วันนี้เราจะอยู่ห่างไกลกัน
มิเคยลืมเธอสักวันนั้นเรื่องจริง

เฝ้าแหงนมองดวงดาวที่พราวเกลื่อน
เป็นดั่งเพื่อนเตือนใจในทุกสิ่ง
อ้อนวอนเดือนมอบรักได้พักพิง
อยากได้อิงแอบใจเธอเสมอไป

..............................

ฉันเอง..
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอแต่งโลกสวย  ด้วยคำกลอน
24 มีนาคม 2011, 09:14:AM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #6 เมื่อ: 24 มีนาคม 2011, 09:14:AM »
ชุมชนชุมชน



~คิดหวน..จึ่งไห้~

…ชลนัยน์ ไหลนอง สองนวลเนตร
เกิดแต่เหตุ ไห้หวน คร่ำครวญถึง
คนคุ้นเคย เกยหนุน อุ่นรำพึง
ย้อนติดตรึง สองตา ทุกคราไป

...นอกจากโซ่ มโนภาพ อาบฝันแล้ว
ยังมีแก้ว กาพย์ฉันท์ อันพริ้วไหว
ให้ดูต่าง นางเนื้อ จุนเจือใจ
ยามอาลัย ใคร่เปลี่ยว อยู่เดียวดาย

...แสนจะเศร้า เหงาโศก เจ้าโรครัก
ไยจึงผลัก พักตร์ขวัญ ให้หันหาย
ซ้ำกำเริบ เสิบสาน แทบปราณวาย
พาโฉมฉาย ไกลห่าง สุดร้างลา

...ได้เพียงอ่าน กานท์ถ้อย ที่ค่อยซีด
รอยหมึกขีด กรีดวาง อย่างห่วงหา
อยู่ไหนหนอ แจ่มจันทร์ แก้วขวัญตา
ทุกเวลา พี่รอ แสนท้อทรวง

...จึ่งเป็นเหตุ เนตรนอง ร้องสะอื้น
หวั่นค่ำคืน ฉุดคร่า วิญญาสรวง
โทมนัส อัดแน่น เต็มแผ่นดวง
ก็เพราะหวง โหยหา เจียนบ้าบอ...

***เมฆา...***




...อัสสุชลหล่นแต้มแซมสองหน้า
เขียนกานท์พามาปลอบเจ้าเข้าวอนขอ
เช็ดน้ำเนตรเขตอาทรกลอนพะนอ
เฝ้าแต่รอกาพย์ฉันท์สัมพันธ์กาล

...คำอุทรณ์อาจช้าน้ำตาตก
เลยหยิบยกพรรณนามาประสาน
จึงหยดหมึกฝึกประพันธ์นำคำจาร
สู่วันวานที่หลงเหลือ...ไว้เยื่อไอ

...เฝ้าเพียรอ่านงานกลอนทอนยามหวั่น
เก็บเข้าฝัน พอบรรเทา เงาสั่นไหว
มโนภาพฉาบส่องท่องนำใจ
เป็นมาลัยคล้องศอต่อราตรี...

...แม้นห่างพจน์รจนาภาษาเศ้รา
ทุกบทเข้ากลั่นสายมิหน่ายหนี
เพราะยังรักยังหวงดวงชีวี
เท่าที่มีมิเคยเลือนเหมือนเดือนลา...


ตะวันฉาย



ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
24 มีนาคม 2011, 12:06:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #7 เมื่อ: 24 มีนาคม 2011, 12:06:PM »
ชุมชนชุมชน




...อัสสุชลหล่นแต้มแซมสองหน้า
เขียนกานท์พามาปลอบเจ้าเข้าวอนขอ
เช็ดน้ำเนตรเขตอาทรกลอนพะนอ
เฝ้าแต่รอกาพย์ฉันท์สัมพันธ์กาล

...คำอุทรณ์อาจช้าน้ำตาตก
เลยหยิบยกพรรณนามาประสาน
จึงหยดหมึกฝึกประพันธ์นำคำจาร
สู่วันวานที่หลงเหลือ...ไว้เยื่อไอ

...เฝ้าเพียรอ่านงานกลอนทอนยามหวั่น
เก็บเข้าฝัน พอบรรเทา เงาสั่นไหว
มโนภาพฉาบส่องท่องนำใจ
เป็นมาลัยคล้องศอต่อราตรี...

...แม้นห่างพจน์รจนาภาษาเศ้รา
ทุกบทเข้ากลั่นสายมิหน่ายหนี
เพราะยังรักยังหวงดวงชีวี
เท่าที่มีมิเคยเลือนเหมือนเดือนลา...


ตะวันฉาย






...เกิดแต่เหตุ แห่งไห้ เพราะไกลห่าง
เปรียบพยางค์ วางไขว่ ให้ค้นหา
แม้นมุ่งเสาะ สืบสาว กี่คราวครา
ก็ไร้ซึ่ง ปัญญา จะหาเจอ

...คล้ายหมอกม่าน มุ้งเศร้า เข้าครอบคร่อม
จนอกตรอม ยอมตราบ ภาพผันเพ้อ
จะจางหาย มลายไป สิ้นไอเบลอ
หรือจนเซ่อ ซมแซว แล้วแต่ดวง

...ชลเนตร เช็ดหน้า กี่คราเล่า
หรือต้องเช็ด ถึงเข่า ของเจ้าหลวง
จึงจะแห้ง เหือดหยุด หลุดจากรวง
ที่ท่วมทรวง หน่วงรั้ง ครั้งคร่ำครวญ

...หรือให้ท่วม รวมกานท์ งานประพจน์
อันเป็นบท อ้อนอื้น ให้คืนหวน
หากว่าเป็น เช่นนั้น ขวัญเนื้อนวล
มากประมวล ก็ม้วย ด้วยท่วมจริง

...สิ่งใดหนอ ทอฝัน สรรค์ได้บ้าง
จะเบญจางค์ กราบสรง แทบองค์สิง
วอนบันดาล สายใย ไออุ่นอิง
ถึงน้องหญิง มิ่งขวัญ ของฉันที

...ก่อนจะเศร้า เหงาสุด ที่จุดพร่ำ
ตาแดงก่ำ ร่ำริน ปานจินต์หนี
หลุดจากร่าง คว้างเคว้ง เกรงฤดี
ว่าทรวงนี้ จะ..สิ้นลม ด้วยตรมตรอม...



***เมฆา...***



ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
24 มีนาคม 2011, 02:58:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #8 เมื่อ: 24 มีนาคม 2011, 02:58:PM »
ชุมชนชุมชน



...เกิดแต่เหตุ แห่งไห้ เพราะไกลห่าง
เปรียบพยางค์ วางไขว่ ให้ค้นหา
แม้นมุ่งเสาะ สืบสาว กี่คราวครา
ก็ไร้ซึ่ง ปัญญา จะหาเจอ

...คล้ายหมอกม่าน มุ้งเศร้า เข้าครอบคร่อม
จนอกตรอม ยอมตราบ ภาพผันเพ้อ
จะจางหาย มลายไป สิ้นไอเบลอ
หรือจนเซ่อ ซมแซว แล้วแต่ดวง

...ชลเนตร เช็ดหน้า กี่คราเล่า
หรือต้องเช็ด ถึงเข่า ของเจ้าหลวง
จึงจะแห้ง เหือดหยุด หลุดจากรวง
ที่ท่วมทรวง หน่วงรั้ง ครั้งคร่ำครวญ

...หรือให้ท่วม รวมกานท์ งานประพจน์
อันเป็นบท อ้อนอื้น ให้คืนหวน
หากว่าเป็น เช่นนั้น ขวัญเนื้อนวล
มากประมวล ก็ม้วย ด้วยท่วมจริง

...สิ่งใดหนอ ทอฝัน สรรค์ได้บ้าง
จะเบญจางค์ กราบสรง แทบองค์สิง
วอนบันดาล สายใย ไออุ่นอิง
ถึงน้องหญิง มิ่งขวัญ ของฉันที

...ก่อนจะเศร้า เหงาสุด ที่จุดพร่ำ
ตาแดงก่ำ ร่ำริน ปานจินต์หนี
หลุดจากร่าง คว้างเคว้ง เกรงฤดี
ว่าทรวงนี้ จะ..สิ้นลม ด้วยตรมตรอม...

***เมฆา...***



...เข้ามาเป่าเมฆหมอกที่หมองหม่น
ให้ลอยพ้นฤทัยเศร้าเฝ้าขื่นขม
กี่รอยร้าวที่เยือนเตือนระบม
ร้องระงมก้องใจอยู่ให้รู้คลาย

...มาบรรจงลงกานท์บนลานฝัน
จุนชีวันเราสองครองมิหาย
แม้ห่างไกลใกล้พจน์เข้าจรดกาย
มิเว้นวายจากทรวงดวงชีวา

...แม้สิ้นแสงตะวันคล้อยแรงน้อยลับ
ไร้คำรับบอกกล่าวส่งข่าวหา
ก็อย่าเคืองทิ้งลำคำวาจา
หวังสบตาหน้าจอพอบรรเทา

...คงไม่นานหรอกหนาพี่ยาเอ๋ย
คงได้เชยแนบชิดสนิทเรา
คำสัญญาวาจาฝากหากบางเบา
แต่เข้มเงาอักษรกานท์ธารชีวัน...



ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s