ตอเอ๋ยตอไม้ที่แห้งเหี่ยว
ผู้เปล่าเปลี่ยวเพียงผู้เดียวกลางป่าเขา
เดินโซซัดโซเซเช่นคนเมา
แถมขี้เซาไม่เป็นรองจากใครๆ
พอฟ้าสางเจ้าตอก็เริ่มตื่น
จากค่ำคืนสู่ท้องฟ้าที่สดใส
หลับตาเดินไปซดน้ำชื่นหัวใจ
แต่ข้างในกลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
หลับตาทักเจ้าเม็ดทรายสีแดงเลือด
หลับตาเอือกเจ้าสาหร่ายที่ยุ่งเหยิง
หลับตาคุยกับท่านจ้าวอาทิตย์เพลิง
หลับตาเติ่งเจ้าป่าโฉดจึงแซวตอ
กลับที่พักฟื้นกายที่อ่อนล้า
ยืนหลับตาอย่างแน่นิ่งไม่มีท้อ
ผ่านไปน่านจนเจอเหยื่อที่เฝ้ารอ
วาปไปจ่อที่หน้าเหยื่อแล้วลืมตา
ทันใดนั้นทุกสิ่งอย่างหยุดขยับ
ตอจึงงับคำแรกที่ต้นขา
เคี้ยวง่ำๆแล้วกลืนกินสุขอุรา
แล้วหลับตาฟังเสียงเหยื่ออย่างสุขใจ
เหยื่อตกใจร้องลั่นและสั่นกลัว
ไม่รู้ตัวว่าโดนกัดแต่ตอนไหน
หันซ้ายขวาก็ไม่เห็นจะมีใคร
เอาแล้วไงคือสิ่งไหนหรืออะไร
ตอลืมตาอย่างเพลิดเพลินเข้าไปหา
เลียน้ำตาของเหยื่อที่รินไหล
รสกลมกล่อมหอมหวานอย่าบอกใคร
และขี้ไคลก็อร่อยกำลังดี
ตอเห็นแขนขาวนวลน่าหลงไหล
จึงหมันไส้จับแขนเหยื่อมาครวี
เพิ่มความเร็วถึงพันรอบต่อนาที
เพียงเท่านี้แขนเหยื่อก็หลุดลอย
ตอกระโดดงับแขนอย่างสนุก
มีความสุขและสมที่รอคอย
ใช้เวลาหน่วยนาทีเป็นร้อยๆ
จะไม่ปล่อยให้ใครแย่งเป็นแน่นอน
ตอหลับตาทะลวงท้องที่โหยหา
ตอหลับตาดึงไส้คล้ายตัวหนอน
ตอหลับตาเหยื่อลืมตาร้องอ้อนวอน
ตอไชชอนแหวกร่างกายแล้วกัดกิน
ตอหลับตารีบกัดกินเสียให้หมด
เลือดทุกหยดที่แปะลงบนก้อนหิน
หรือที่เปรอะอยู่ตามพื้นและตามดิน
เลียจนสิ้นไม่มีเหลือซักนิดเดียว
ฦๅฤๅ