เขียนถึงยามสายฝนสาดกระเซ็น
เม็ดเล็กเล็ก..กระเด็นเย็นชื่นฉ่ำ
ยืนใต้ร่มอยู่นั้นวันฝนพรำ
ตกเปาะแปะตอกย้ำท่วงทำนอง
เพียงปลายนิ้ว...ยื่นออกไปนอกร่ม
รับหยาดฝนประพรมสายลมล่อง
สดชื่นสัมผัสได้ใช่แค่มอง
ใจฟูฟ่องร้องทักขอสักครั้ง
เปียกทั่วตัวตากฝนหล่นเป็นสาย
เย็นสบายอยากลองสมองสั่ง
ได้ยินเสียงฟ้าร้องกึกก้องดัง
รัวบ่อยจังฟังช้ำ..ใจจำนน
ทำ ไ ม ต้ อ ง ก ลั ว ใจจึงดึงความกล้า
คงไม่ผ่าแค่ร้องตรองอีกหน
โยนร่มทิ้งวิ่งผ่านธารสาชล
ยิ้มท่ามกลางสายฝนที่หล่นโปรย
กรีนซี

เขียนถึงความซื่อใส ของวัยเด็ก ถอดหัวใจเล็กเล็ก กระหายโหย ไร้กังวลปอนเปียก ร้องเรียกโวย ชื่นฉ่ำโชย เย้ยฟ้า จังก้าทะนง ยะเยียบยืนตากฝน จนชุ่มโชก ปล่อยโซมโซกซอนทรวง ล่วงประสงค์ คล้ายต่อเชื่อมสัมผัส ชี้ตัดตรง- เจตจำนงธรรมชาติ พิลาสเลอ เสียงหัวใจเต้นรำกับพรำฝน ทิ้งโลกหม่นทั้งใบ พ้นใจเหม่อ อยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน ฉันและเธอ หลอมละเมอร่วมฝัน…วันฝนพรำ โซ…เซอะเซอ 9 ตุลาคม 2568 |





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า