Re: ส่วนลึก..ของหัวใจดวงน้อย
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
04 มิถุนายน 2024, 12:49:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ส่วนลึก..ของหัวใจดวงน้อย  (อ่าน 27960 ครั้ง)
เทโพ
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 58
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2013, 10:54:AM »

....ในพระคัมภีร์ คนตาบอดมองเห็นได้ เพราะพระเยซูเจ้ารักษา ....แต่ชีวิตจริง ลุงโชนตาบอดเพราะพระเยซูเจ้า....

- ในฐานะบาทหลวงคาทอลิก ผมว่าผมก็ทำหน้าที่เจ้าวัดได้ดี ที่วัดเล็กๆของผมมีกางเขนเก่าแก่อยู่อันหนึ่ง สัตบุรุษจะมาขอพรจากกางเขนนี้ทุกวัน กางเขนอายุร่วมสองร้อยปี ไม้เก่าผุ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศรัทธายาวนานของชาวบ้าน มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับกางเขนนี้ ทั้งอัศจรรย์พระเยซูหลั่งน้ำตาออกมาจากรูปปั้น บ้างก็ว่ามีคราบเลือดอยู่ที่รอยตะปูที่พระหัตถ์ นี่ยิ่งทำให้กางเขนวัดผมมีคุณค่า จนมีสัตบุรุษต่างถิ่นมาเยี่ยมไม่ขาดสาย.... ศรัทธาจะไม่หมดไปจากวัดผมแน่ๆ..ผมมั่นใจเลย....
- ลุงโชนก็มาไหว้พระทุกวัน แกเป็นพุทธ แต่ก็ศรัทธาไม่แพ้ใครในหมู่บ้าน อาจเป็นเพราะบ้านลุงโชนอยู่ใกล้วัดที่สุด หรืออาจเป็นเพราะอายุที่ย่างเข้าเลขแปดของแกทำให้แกหาที่พึ่งทางใจ....
- ด้วยกิติศัพท์ของกางเขน ทำให้เมื่ออาทิตย์ก่อน มีโจรใจบาปลอบเข้ามาในวัด กลุ่มวัยรุ่นสวมหมวกไอ้โม่งสีดำคลุมหน้า ลอบเข้ามาในวัดตอนผมหลับ เล่าว่าลุงโชนเป็นคนเห็นกับตา ไอ้โม่งพวกนั้นจะขโมยรูปกางเขนเก่าๆนี้ไป .... นี่คงเป็นภาพไอ้โม่งภาพสุดท้ายที่แกมีโอกาสเห็น ....กลุ่มวัยรุ่นทุบตีลุงโชนวัยเจ็ดสิบแปดจนร่อแร่ปางตาย ....ผมพาลุงโชนไปส่งโรงพยาบาลใกล้วัดได้ทันเวลา แต่มาไม่ทันจับพวกไอ้โม่ง ....ไม่ว่าด้วยกิเลสหรือด้วยศรัทธาก็ตาม ตอนนี้พวกมันได้ไม้กางเขนไปแล้ว ....วัดเล็กๆของผมไม่มีไม้กางเขนอีก ไม่มีรูปพระเยซูเจ้าเก่าแก่ขรึมขลังอีกต่อไป ....นี่ก็อาทิตย์นึงมาแล้ว....
- อาทิตย์นึงมาแล้ว..คนมาวัดน้อยลง ..ผมคงต้องหาซื้อกางเขนมาแทนของเดิม....
- เมื่อคืนหมอให้ลุงโชนกลับบ้านได้แล้ว ลุงโชนรอดตาย แต่ตาทั้งสองข้างกลับบอดสนิท นับว่าถึกมากสำหรับคนอายุปูนนี้....ผมไม่ได้บอกแก ว่ากางเขนหายไปแล้ว ..กลัวลุงแกจะเสียใจ....
- ....ในพระคัมภีร์ คนตาบอดมองเห็นได้ เพราะพระเยซูเจ้ารักษาเขา ....แต่ชีวิตจริง ลุงโชนตาบอดเพราะพระเยซูเจ้า.... "มันคุ้มแล้วหรือ?"ผมถามตัวเอง....ในฐานะบาทหลวงเจ้าวัด ผมไม่มั่นใจอีกต่อไปว่า ศรัทธาจะคงอยู่หรือไม่....
- ....เช้าวันใหม่ ผมทึ่งเลย..ทั้งที่ตาบอดลุงโชนยังคงพยายามเดินมาโบสถ์เหมือนเดิม ..ดูเหมือนข่าวลือว่าแกจำทางมาวัดได้แม้จะหลับตา ดูจะเป็นความจริง....ผมได้ยินแกนับ "สิบเจ็ดก้าว แล้วเลี้ยวขวาสามก้าว ซ้ายอีกสิบเจ็ดก้าว ขึ้นบันไดหกขั้น เดินตรงอีกสิบก้าว ....อา ถึงหน้ากางเขนแล้ว" ....ลุงโชนยังไม่รู้ว่ากางเขนวัดได้หายไปแล้ว วันนั้นแกหมดสติไปก่อน....แกเริ่มก้มลงเหมือนทุกครั้ง เพื่อจะกราบสามคำรบอย่างชาวพุทธ....กราบต่อหน้ากางเขนศักดิ์สิทธิ์....แกเริ่มกราบคำรบที่หนึ่ง ..คำรบที่สอง....
...."กางเขนหายไปแล้วครับ " ..ผมน้ำตาคลอ ทนเห็นลุงโชนกราบกำแพงเปล่าๆไม่ได้.... "ที่ลุงกราบนั่นแค่กำแพงเปล่าๆ กางเขนหายไปแล้ว ..เราตามจับไม่ทัน...."
..ลุงโชนชะงัก ดูเหนื่อยล้า....แกหันหน้ามาทางเสียงของผมแล้วเริ่มพูดกับผม
"ฉันไม่ได้มาไหว้กางเขนนะ ..ฉันมาไหว้พระต่างหาก...." ..แล้วลุงโชนก็ก้มลงกราบคำรบสาม....
....
....
....ในฐานะบาทหลวงคาทอลิก ผมว่าศรัทธาไม่หมดไปจากวัดผมแน่ๆ ผมมั่นใจเลย....

........เทโพ:ประพันธ์........

(....ในพระคัมภีร์ คนตาบอดมองเห็นได้ เพราะพระเยซูเจ้ารักษา .... ในชีวิตจริง ลุงโชนมองเห็นพระเยซูเจ้าตั้งนานแล้ว....)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, Music, ตรีประภัสร์ โสม, panthong.kh, เวหน.., เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s