เรื่องของการสะกดจิตนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
-ข้อดีก็คือทำให้เราโปรแกรมความคิดของเราได้ตามต้องการ อยากคิด อยากฝัน อยากเชื่อมั่นไปให้ถึงสิ่งใดย่อมมีดอกาสเป็นไปได้
-ข้อเสีย ทั้งผู้ที่ถูกสะกดจิต และผู้ที่ฝึกหัดทางสะกดจิต มักขาดสติ ใจลอย ป้ำๆเป๋อๆ ขี้หลงขี้ลืม
เนื่องจากการสะกดจิตนั้นคือต้องการให้ผู้ถูกสะกด หมดความรู้สึก ขาดความเป็นตัวของตัวเอง
แม้ตัวผู้ทำการสะกดจิตก็เช่นกัน ต้องฝึกในทางสะกดตัวเองเสียก่อนจึงไปสะกดผู้อื่นได้ ซึ่งขัดกับหลักทางพุทธศาสนาที่ต้องการให้คนมีสติ
(อันนี้ผมจำจากหนังสือมาพูด)
แม้ในผู้ที่สวดมนตร์นั่งสมาธก็เช่นกัน ถ้าไม่ทำให้ถูกวิธี(คือฝึกให้เกิดสติ) บางคราวนั่นสมาธิก็กลายเป็นสะกดตัวเองให้หลับ
แล้วก็หมดความรู้สึกไปในที่สุด ระหว่างคนมีสมาธิ กับคนฝึกสมาธิจนสะกดตัวเองนั้นสังเกตง่าย
คนมีสมาธิ ต้องมีสติรู้ตัวตลอดเวลา จะไม่มีอาการหลงๆลืม ในขณะที่คนที่สวดมนตร์นั่งสมาธิและเผลอสะกดตัวเองนั้นจะเป็นตรงข้าม
คือนั่งสมาธิแล้วจะง่วง กลายเป็นคนป้ำๆเป๋อๆ ขี้หลงขี้ลืมบ่อยๆ สาเหตุหลักคือสวดมนตร์และนั่งสมาธิพร้อมสะกดจิตตัวเองโดยไม่รู้ตัว
การปลูกฝังความเชื่อ ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
-ข้อดีก็คือ ทำให้มีความมั่นใจในตนเอง กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก
-ข้อเสีย เชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป คิดว่าตัวเองทำได้ทุกสิ่งโดยไม่ดูเหตุผล และปัจจัยแวดล้อม
ทุกสิ่งล้วนมีสองด้านเสมอ ดังนั้นความกล้ากับสติปัญญาจึงต้องมาคู่กัน
การสะกดจิตตัวเอง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น แต่ความเชื่อมั่นก็ต้องอิืงเหตุผลความเป็นจริงและความเป็นไปได้






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า