สู่คืนและวันที่ฝันใฝ่
ยอมรับเคยท้อแท้เจ็บแพ้พ่าย
ไร้จุดหมายปลายทางเคว้งคว้างฝัน
ไม่อาจยิ้มหยัดยืนต่อคืนวัน
เก็บจาบัลย์ช้ำหม่นอยู่คนเดียว
มองเห็นโลกไร้ค่าไม่น่าอยู่
กลายเป็นผู้อ่อนแอสิ้นแลเหลียว
ดวงหน้าปานถูกรีดจนซีดเซียว
อยู่เปล่าเปลี่ยวไม่กล้าสบตาใคร
แต่เมื่อได้หวนคิดชีวิตว่า
ยังมีค่าเริ่มต้นฝึกฝนใหม่
จึงลุกขึ้นเพื่อขอก้าวต่อไป
สู่เส้นชัยที่หวังอีกครั้งครา
วันนี้ได้ถึงฝั่งที่หวังแล้ว
เห็นวาวแววเดือนดาวที่พราวฟ้า
คล้ายรางวัลแก้วมณีปลอบชีวา
จึงน้ำตาเอิบอิ่มคลอปริ่มทรวง!ฯ
อริญชย์
๒๓/๘/๒๕๕๕






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า