Re: **จังหวะชีวิต**
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
11 มิถุนายน 2024, 11:51:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: **จังหวะชีวิต**  (อ่าน 13119 ครั้ง)
blues
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 173
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


รอยยิ้มเธอเปลี่ยนโลกได้


« เมื่อ: 20 สิงหาคม 2012, 09:35:PM »

<a href="http://www.youtube.com/v/wrEggYMu-1s&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/wrEggYMu-1s&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

บนเส้นทางยาวไกลไร้สิ้นสุด
มวลมนุษย์ก้าวย่างบนทางหวัง
บ้างมืดมนหล่นห้วงลวงชิงชัง
พาจิตพลั้งพ่ายแพ้แก่ชะตา

หากจังหวะชีวิตลิขิตได้
จังหวะใจแม้พลาดปรารถนา
อาจเลื่อนเลยฝั่งฝันวันเวลา
แต่ข้างหน้าใช่สิ้นกวินใด

ไม่รู้ใจ



In younger days, I told myself my life would be my own
เมื่อตอนเป็นเด็ก ฉันบอกตัวเองว่า ฉันขอลิขิตชีวิตเอง
And I'd leave the place where sunshine never shone
และแล้ว ก็เดินจากที่ที่ชีวิตฉันไม่มีใครเห็นความสำคัญ
(ที่ที่หมดหวัง เหมือนแสงอาทิตย์ส่องไม่ถึง)
For my life's too short for waiting when I see the rising sun
เพราะชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าที่รอ เมื่อฉันเห็นดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นตรงเส้นขอบฟ้า

Then I know again that I must carry on
ก็เป็นการย้ำเตือนว่า ฉันต้องเดินต่อไป
Carry on till tomorow, there's no reason to look back
เดินต่อไปให้ถึงพรุ่งนี้, ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะหันหลังกลับไปมองอดีต
Carry on, carry on, carry on
จงเดินต่อไป

Beyond the shadows of the clouds and onward to the sky
เบื้องหลัง เงามืดของเมฆครึ้ม มีท้องฟ้าอยู่ไกลโพ้น
Carry on till I find the rainbow's end
จงเดินต่อไปจนพบปลายสายรุ้ง
For my life's too short for waiting when I see the rising sun
เพราะชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าที่รอ เมื่อฉันเห็นดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นตรงเส้นขอบฟ้า

Then I know again that I must carry on
Carry on till tomorow, there's no reason to look back
Carry on, carry on, carry on

Drifting on the wings of freedom, leave this stormy day
โบยบินพร้อมปีกแห่งเสรีภาพ ทิ้งวันที่เลวร้ายไว้เบื้องหลัง
And we'll ride to tomorrow's golden fields
เราจะโลดแล่นไปยังทุ่งหญ้าสีทองอร่าม
For my life's too short for waiting when I see the rising sun
เพราะชีวิตนํ้นสั้นเกินกว่าที่จะรอ เมื่อฉันเห็นดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นตรงเส้นขอบฟ้า

Then I know again that I must carry on
เป็นการย้ำเตือนว่า ฉันต้องเดินต่อไป
Carry on, carry on, carry on
เดินต่อไป
And when the heavy journey's done, I'll rest my weary head
เมื่อการเดินทางอันแสนจะเหน็ดเหนื่อยได้สิ้นสุดลง ฉันจะได้เอนกายพักใจที่เหนื่อยล้า

For the world and it's colours will be mine
เพราะโลกและความสวยงามจะเป็นของฉัน
For my life's too short for waiting when I see the setting sun
เมื่อฉันเห็นลำแสงของอาทิตย์ที่กำลังจะตกอยู่ที่ปลายขอบฟ้า

Then I know again that I must carry on
Carry on till tomorow, there's no reason to look back
Carry on, carry on, carry on

ขอขอบคุณคุณวิ ไม่รู้ใจที่มอบบทกลอนสำหรับเพลง"Carry on till tomorrow"
ที่มีเนื้อหาซาบซึ้งมากเลยครับ
ขอขอบคุณhttp://webboard.sanook.com/forum/index.php?topic=3342012.7900;wap2 ที่แปลได้สวยงามครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแจมสนุกกันเสมอ.

บนหนทางยากลำบากเป็นขวากหนาม
ความพยายามเท่านั้นจะเห็นผล
การถอยหลังไม่ได้สร้างเส้นทางตน
เกิดเป็นคนต้องเดินหน้าท้าฝ่าฟัน

มีเจ็บบ้างล้มบ้างบนทางสู้
จะได้รู้ยากลำบากหากสู่ฝัน
ไม่มีใครเคยสบายหากหมายจันทร์
เส้นทางนั้นเป็นของเราให้เฝ้าลอง

เพราะชีวิตไม่ได้ยาวสักเท่าไหร่
และโลกนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ
อยู่ที่ใครมีมานะมาจับจอง
ก็จะต้องเดินหน้า..มาคว้าไป

เป็นกำลังใจบนหนทางต้องสู้ครับ..

 เคารพรัก

Blues..


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

Music, ไม่รู้ใจ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, D, กวีน้อย ลุ่มน้ำยาว, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 สิงหาคม 2012, 10:31:PM โดย blues » บันทึกการเข้า

"ทุกถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ย  เพื่อจะเปรยให้เธอฟัง"

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s