ฉันเขียนกลอนผ่อนคลายเพื่อหายเหงา
ขจัดเศร้าใจหม่นบนทางฝัน
นั่งอ่านกลอนที่แต่งแล้วแบ่งปัน
เป็นสีสันสร้างสุขให้ทุกข์คลาย
อาจมีบ้างบางครั้งยังไม่เหมาะ
ความไพเราะแลลดถึงหดหาย
ใส่ถ้อยคำซ้ำซากเบื่อมากมาย
ไม่เฉิดฉายฉ่ำชื่นระรื่นจินต์
คือคำพูดจากใจในบางครั้ง
ย่อมมีพลั้งมีพลาดมีขาดวิ่น
ด้อยสัมผัสจัดวางต่างเคยชิน
ผู้ได้ยินผินหน้าระอาเมิน
แต่ตนเองชอบใจว่าไพเราะ
แม้ใครเยาะเย้ยฉันไม่สรรเสริญ
ก็ช่างเขาเราไซร้ใช่ส่วนเกิน
เราย่อมเดินตามทางที่วางมา
เป็นนักกลอนอ้อนฝันในวันว่าง
รักเสียอย่างมีใจเฝ้าใฝ่หา
ก็เขียนไปในถวิลจินตนา
ถึงใครบ่นว่าบ้าข้าไมฟัง
กลอนประตูหน้าต่างข้าวางไว้
ตามแต่ในใจข้าจะว่าขลัง
ก็ข้าแต่งตามใจใช่อยากดัง
ถึงจะกลอนพังพังก็ยังลง
![น้อยใจแล้วด้วย](http://www.klonthaiclub.com/Smileys/default/zzznoyjai.gif)
มิใช่กลอนประตูอ่ย่าตู่ค่อน
มิใช่กลอนหน้าต่างวางส่งส่ง
มิใช่กลอนคนบ้าอย่าเจาะจง
มิใช่กลอนก็ยังคงกวีงาม
ใครเยาะรสบทกวีอย่างที่ว่า
คือคนป่าควรใช้ไม้หน้าสาม
ซัดตรงปากไม่ดีที่ลวนลาม
สืบทอดตามโบราณการกวี