เนื่องในวันวิสาขบูชานี้ ขอเลือก ธรรม...ธรรมจริยา
รสปาก ๓
เรื่องรสปาก พระพุทธองค์ ทรงรู้แจ้ง ต้องปรุงแต่ง แปลงรสดี ที่ปากหวาน
ถ้าปากเหม็น คนฟัง ชังรำคาญ คบยืนนาน ต้องปากหอม ถนอมกัน
คูถภาณี คือ ปากเหม็น สันดานเป็น คนถ่อย พลอยหยามหยัน
มักโป้ปดมดเท็จ ทั้งเจ็ดวัน ยิ่งพูดยิ่งห้ำหั่น บั่นตัวเอง
บุปผภาณี คือ ปากหอม ปากถึงพร้อม น้อมความสัตย์ ปัดข่มเหง
ปากตรงใจ ใจตรงคำ ให้ยำเกรง ไม่ละเลงสีปาก ถากถางใคร
มธุรภาณี คือ ปากหวาน กินอ้อยตาล กลั้วลิ้น ไม่สิ้นไฉน
อันคำหวาน ซ่านซึ้ง ถึงทรวงใน เหมือนมดไต่ ตอมลิ้ม ไม่อิ่มตาล
สุนทรภู่ครูกวีสี่แผ่นดิน รัตนโกสินทร์โลกเล่าขาน
วรรณคดีหลากรสร้อยบทกานท์ สุภาษิตสอนลูกหลานยังชื่นชม
"อันรสปากหากหวานก็หวานเด็ด
บอระเพ็ดก็ไม่มากเหมือนปากขม
มีดว่าคมก็ไม่มากเหมือนปากคม
รสหวานขมก็ไม่มากเหมือนปากคน"
...................
...ใครมีปากอยากพูดก็พูดไป เรื่องอะไรก็ช่างอย่าฟังขาน
เราอย่าก่อต่อก้าวให้ร้าวราน ความรำคาญก็จะหายสบายใจฯ
(อุทานธรรม จ.ศ.)
Peepoonsuk





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า