Re: กลอนเขา เอามาเล่าใหม่
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 พฤษภาคม 2024, 03:58:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนเขา เอามาเล่าใหม่  (อ่าน 44036 ครั้ง)
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 685


เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย


« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2010, 11:30:AM »

ซึ้งจัง

สรวงสวรรค์ชั้นกวี..

ข้าเทอดงานกานท์กลอนอักษรสวรรค์
เป็นสายขวัญชีวิตสนิทสนม
เป็นธารธั่งหลั่งมาจากอารมณ์
เป็นอาคมเสน่ห์รึงตรึงหทัย

ทุ่มดวงจิตคิดถ้อยร้อยภาษา
สิบปีกว่า..ผลหรือคือไฉน?
เกิดกลอนซ้ำสัมฤทธิ์จากจิตใจ
ที่หมองไหม้ไร้ค่าคิดอาวรณ์

เคยใฝ่ฝันบรรเจิดสุดเพริศพริ้ง
หวังส่อสิงแดนกวีศรีอักษร
ชั่วสังขารจารจดแต่บทกลอน
ผลสะท้อนนิดหนึ่งไม่พึงมี

กว่ารู้สึกหมึกงวดจากขวดแล้ว
ร่างนอนแซ่วจวนตายดูคล้ายผี
แข็งใจเพียรเขียนลักษณ์อีกสักที
ทั้งรู้ดีขื่นขมไม่สมจินต์

โอย!..ตัวมันสั่นกระตุกขนลุกหนาว
หัวแทบร้าววุ่นวายเป็นสายสินธุ์
ดวงจิตหวิวปริวว่อนเหมือนร่อนบิน
น้ำตารินโลมเจือด้วยเหงื่อกาฬ

สะดุ้งโดดโสตรับเสียงสับสน
ทุกแห่งหนยินคำพร่ำสงสาร
ในอ้อมแขนแทนองค์นิ่มนงคราญ
มีผลงานจากชีวาคือค่ามัน

เป็นกลอนช้ำกำสรดบทสุดท้าย
สิ้นใจกายสร้างถ้อยร้อยความฝัน
อนิจจา!..ลาก่อน...สุนทรวรรณ
ต้องซี้อกันด้วยค่าราคาแพง

ปากกาสะดุดหยุดกึกเพราะหมึกสิ้น
พร้อมชีวีสิ้นกวีคงมีแสง
ชีพจรอ่อนระโหยเริ่มโรยแรง
เหมือนเลือดแห้งแอ่งใจที่ไหม้เกรียม

อักนิษฐ์  อนรรฆธีรพันธ์
จากนิตยสารปี2506

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มกราคม 2011, 04:10:AM โดย ฉันเอง » บันทึกการเข้า

ขอแต่งโลกสวย  ด้วยคำกลอน

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s