ผมเรียนรู้เพื่อจะสู้อัลไซเมอร์
ที่ผ่านมาพลั้งเผลออยู่หลายหน
ขาดข้อมูลดูแลแม่ด้วยอดทน
แต่เผลอบ่นว่าท่านเราช้ำใจ
ผมถอยไปตั้งหลักปักใจสู้
แล้วเรียนรู้ดูตำรามาแก้ไข
ว่าเราทำผิดพลาดประการใด
ปรับปรุงใหม่ให้ดียิ่งกว่าเดิม...เวลาที่คอยดูแลความเป็นอยู่ของแม่ บางครั้งท้อมาก รู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนที่ไม่อดทน กับความเจ็บป่วยของแม่ทั้งๆที่แม่เลี้ยงดูเรามาอย่างดีในตอนที่เรายังเด็ก ผมพยายามหาข้อมูล แล้วก็พบว่า คนที่ดูแลผู้ป่วย อัลไซเมอร์นั้นจะมีอาการ อย่างที่ผมเป็น และต้องใช้เวลาปรับตัวยอมรับความจริง
และเมื่อได้อ่านอาการป่วยของคนอื่นๆ ในเวลาสองปีนั้น แต่ละคนอาการหนัก มาก พูดไม่รู้เรื่อง การตอบสนองแทบไม่มี ผมอ่านแล้วกลับมาคิดว่า แม่ผมยังมีอาการที่ดีกว่าคนป่วยเหล่านี้มากมาย ท่านยังคุยได้ แม้จะหลงลืม คุยผิดประเด็นบ้าง ใช้สิ่งของไม่ตรงกับการใช้งานบ้าง ก็ต้องคอยดูคอยบอก ทำให้ผมมองดูแม่ด้วยความรู้สึกที่ดีขี้น ผมไม่ได้หวังให้แม่ดีเหมือนเดิม เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ผมพยามยามเข้าใจแม่มากขึ้น คุยกับท่านเหมือนท่านยังปกติ ให้ท่านมั่นใจที่พูดคุย (แม้ว่าบทสนทนานั้นอาจไม่ต่อเนื่องกัน) ให้ท่านรู้สึกว่าท่านยังปกติ คอยดูแลสอดส่อง ประคับประคอง ให้ท่านมีความสุขกับชีวิตบั้นปลาย...
******************************************
สาธุค่ะ คุณพืช
ดูแลคนป่วย...เราต้องเข้มแข็งทั้งกายและใจให้เยอะๆ...หมั่นเติมเต็มกำลังใจให้ตัวเองแบบนี้..ดีจังเลยค่ะ
ตราบใดที่เรา เป็นผู้ที่มีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจพลังบริสุทธิ์ส่วนนี้คงได้แผ่ไปยังผู้ป่วยได้...อย่างน้อยๆ ก็มีความสบายใจเป็นพื้นฐาน
สู้ๆนะค๊ะ
สงกรานต์ปีนี้ ขอให้มีความสุขๆมากนะคะ ^______________________^
"ความหวังเล็กน้อยย่อมเป็นแสงส่องประกายในความมืดที่งดงามเสมอ"....ถ้าเปรียบเทียนแท่งนี้เป็นคุณพืช...แสงเทียนอันเจิดจรัสนี้คงแผ่ซ่านในทรวงอกของผู้เป็นแม่อย่างแน่นอนทีเดียวค่ะ ...หากไม่มีแสงนี่แล้ว โลกของท่านคงจะดับสูญ...เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ