มองจันทร์หลบ...ซบกลีบเมฆวิเวกหวิว
สายลมพลิ้วปลิวว่อนร่อนเวหน
สกุณาโผบิน..ระรินรน
มองหาคน...คนไกลใยจากจร
ระหกระเหินสะเทินลม..ระทมทุกข์
ต้องลมคลุก..เคล้าสาย..ใจสุดถอน
โผผกผินบินเลียบเทียบอุดร
หรือสังหรณ์ศรชี้..ที่บูรพา
จึงจำผินบินต่อ...หรดี
ข้ามคีรีสิงขร..รอนอุษา
สู่ทักษิณถิ่นที่..มโนราห์
มิพบพาอิสานทิศปิดอำพราง
ทั่วประจิมสิ้นหวังถึงพังพับ
แม้นพายัพมิพบนวลจวนฟ้าสาง
จึงร่อนเร่อาคเนย์จร...กร่อนใจบาง
ยาตรบ่จาง...ถึงห่างไกล..ใจครวญละเมอ
...แบบว่า
บินมาไกลแล้วนะที่รัก
โปรดจงแวะพิงพักข้างกายฉัน
ฉันรู้เธออ่อนล้า...พักก่อนเถอะนะหนึ่งวัน
มาอยู่ข้างกัน...ก่อนเธอนั้นจะลาไกล
เหนื่อยมากสินะ
ต้องพักแล้วล่ะรู้ไหม?
เหนื่อยอ่อนล้า...ก็ถึงเวลาพักกาย
จะเห่กล่อมห่วงใย..กอดเธอไว้ให้ฝันดี
อย่ากังวลสิ่งใด
ฉันจะอยู่ข้างกายเธอตรงนี้
เพียงหนึ่งเวลา ขอลบความเหว่ว้าที่เธอมี
ด้วยใจบางใจดีดี...ให้เธอคนนี้พักกาย
หลับตานะคนดี
ฉันจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน
สายตาอาทร..จะกล่อมให้เธอนอนหลับไป
ก่อนตื่นพบวันใหม่..เพือตามหาคนไกลของเธอ
อย่าห่วงฉันเลย
ฉันก็เป็นอย่างเคย..ห่วงเธอเสมอ
แม้รู้เธอมีคนไกล...ที่เธอโหยไห้อยากเจอ
ยังยินดีที่มีเธอ...แม้เป็นเพียงความเผอเรอชั่วข้ามคืน...