กลอนรัก...
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤษภาคม 2024, 03:25:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนรัก...  (อ่าน 3652 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
28 ธันวาคม 2009, 02:01:PM
jjseed01
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 38



« เมื่อ: 28 ธันวาคม 2009, 02:01:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ กลางสายลมโรยละลอก..ท่ามหมอกเช้า
เยียบเย็น-เหงา..โลกสรรพ, รูปอัปสร-
ค่อยเผยผ่านรุมเร้า..คอยเว้าวอน
ให้คำนึงช่วงตอน..เจ้าย้อนคำ

๐ พี่-เช่นยอดหญ้าพลิ้วท่ามริ้วลม
แห่งความชื่นฉ่ำ-ฉม..คอยบ่มร่ำ
มีความหมายสุมซ้อน..ออดอ้อนนำ
ผ่านให้สัมผัสทั่วทั้งหัวใจ

๐ ลู่ระเนนเอนล้ม..ล้อลมร่าย
เรียวใบปลิวปัดป่าย..ต้นส่ายไหว
เช้าชื่นเมื่อพรมผ่านด้วยหวานใคร
แม้น-เยียบเย็นเพียงไหน..ก็ไม่รู้

๐ ด้วยอบอุ่นอ่อนหวาน..ได้ผ่านล้อม-
เพื่อใจน้อมนอบหวานที่ผ่านสู่
น้ำใจเช่นสายน้ำ..ถ้อยคำตรู-
ย่อมดำรูรอยร่าง..ที่กลางทรวง

๐ คืนสายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
ผ่านฟากฟ้าเดือนดาว..ส่งหนาวล่วง-
สู่โลกร้อนหญ้าเขียว..เพื่อเรียวรวง-
รับรู้ช่วงเหน็บหนาวอีกคราวครั้ง

๐ เรียวยอดหญ้าอ่อนพลิ้วด้วยริ้วลม
รอรับชื่นฉ่ำฉม..สายลมหลั่ง
พลิ้วยอดเอนไหวลู่..เหมือนรู้ฟัง-
ความอ่อนหวานกระซิบสั่ง..อีกครั้งครา

๐ รับรู้ความรื่นรมย์แห่งลมร่ำ
อ่อนละมุนหนุนนำ..ราวย้ำว่า-
รื่นที่หวนห้อมเห่ห้วงเวลา
จนเฝ้าคอยไขว่คว้า-จากฟ้าไกล

๐ ลมลูบเรียวซัดส่ายปัดป่ายยอด
นัยพร่ำพลอดสืบหมาย..ก็ส่ายไหว-
ย่อมด้วยโดยดุษฎี..ก็ที่ใจ-
จะล่องไหลระลอกหวังอีกครั้งคราว

๐ ระยิบเอยเนตรคมกลางลมร่ำ
ผ่องผกายร่ายรำในค่ำหนาว
ดูเถิด..แววปลดเปลื้องแฝงเรื่องราว-
แทนคำกล่าวสั่นรัว..จากหัวใจ

๐ งดงามเอยผกายวับให้นับเนื่อง
รอปลงเปลื้องความร้อยผ่านถ้อยไข
อย่างแฝงเร้น..งดงามแห่งความนัย-
ก็ค่อยไหวลำดับช่วงเข้าพ่วงพัน

๐ บ่ายโบกผ่านลมร่ำแห่งค่ำหนาว
ฝ่าเดือนดาวโอบล้อมเข้ากล่อมขวัญ
เพื่อโอนอุ่นแอบแฝงเข้าแบ่งปัน
ให้เหน็บหนาวทั้งนั้น..ต้องบั่นทอน

๐ ผ่านมาเถิด..เกรียวกรู..ฤดูลม
อุ่นจะห่มหนาวร้ายให้ถ่ายถอน
ยอดหญ้าเรียว..ลมร่ำ..ถ้อยคำวอน-
จะร่วมฟ้อนฝากช่วง..บำบวงฟ้า

๐ เพื่อหอมหวานต่างตอนได้ย้อนสู่-
ร่วมรับรู้ใฝ่ฝันร่วมฟันฝ่า-
ฝาก-อบอุ่นโลมไล้ผู้ไกลตา
แทนอ้อนแขนปรารถนา..ผู้อาลัย

๐ ชื่น..สายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
เมื่อสองดาวดวงนั้น..คล้ายสั่นไหว-
ตอบรับความหอมกรุ่น..แห่งอุ่นไอ-
ที่หลั่งไหลซ่านซึ้งเข้าตรึงตน

๐ คล้าย-ความคิดถึงกันในวันนี้
นับครั้งที่..มีนั้น..นับพันหน
คล้าย-ความนัยอกชาย..ที่ว่าย-วน
ทุกครั้งหน..ถวิลอยู่แต่ผู้เดียว

๐ เมื่อ..บทเพลงปฏิพัทธ์ระบัดบ่ม
ย่อมปรารมภ์..ถวิลแต่ชะแง้เหลียว
เมื่อ..อ่อนหวานรำร่าย-ที่คลายเกลียว-
พันโน้มเหนี่ยวร่วมหมาย..คือ-สายใย

๐ เมื่อสายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
คืนเรื่องราวตอกย้ำ..ผ่านคำไข
ก็ด้วยโดยซาบซึ้งของหนึ่งใจ
ที่อ่อนไหวรับรู้..ฤดูลม

๐ เกสรดอกไม้หอม..ที่ยอมหลั่ง-
หอมประดังถิ่นอยู่ให้รู้ฉม
ต่างฤๅหอมเสน่หา..ห้วงอารมณ์-
ที่จ่อมจมหอมอยู่..ฤๅรู้พอ ?   


            ชอบใจๆ ชอบใจๆ ขอบคุณสำหรับ การ คอมเม้นท์  ชอบใจๆ ชอบใจๆ

 
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 ธันวาคม 2009, 11:26:PM
แพรว >w<
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 35
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 191


ห้ามสามัญ12+*ห้ามจัตวาวรรณ3-*ห้ามตายวรรณ4-


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2009, 11:26:PM »
ชุมชนชุมชน

สายลมหวนชวนหอมพยอมกรุ่น
รุ่งอรุณอุ่นไอใจหวานหวาน
เสียงกระซิบรักปักพักเพียงผ่าน
จะยาวนานกาลฤาพี่ยาเอ๋ย

น้องโน้มเอียงเบี่ยงใจใฝ่หาพี่
โอ้ฤดีน้องปองตระกองเอ่ย
รักปักจิตพินิจแล้วแพรวเพลินเลย
ฤทัยเคยเชยชมสมทรวงล้ำ

น้ำค้างพรมจมรักปักใจพี่
ตัวน้องนี้มิมีวันยีย่ำ
จะปักใจใฝ่รักภักดีคำ
ทุกสิ่งซ้ำเว้าวอนไม่ห่อนคลา

อันกลอนรักพักใจใส่รักล้อม
ประโคมพร้อมอ้อมรักพักใจหา
น้องรักพี่นี้แล้วไม่แคล้วว่า
ไม่เลือนลาลืมเลือนเตือนตนจำ

อันกวีที่แต่งกลอนวอนความรัก
ใจสมัครปักจิตแต่งแฝงครวญคร่ำ
ปรารถนาค่ารักปักหนักย้ำ
ใฝ่หาคำรักมาเติมค่าใจ

จะมีใหมใครเคียงเอียงแนบข้าง
ใจเจือนลางร้างรักหักวอนไว้
เพียงสักคนค้นรักแท้แพ้มอบให้
น้องจะกอบกลอนรักไว้ให้เพียงเธอ


ปล.ทักทายค่ะคุณพี่ JJSEED01 (แต่งกลอนเก่งจังอ่ะค่ะ + ให้เลย อิอิ++) เธอนั่นแหละจ้ะ
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

จะรัก ก็รัก ไม่รัก ก็ไม่ต้องรัก - -
07 มกราคม 2010, 05:28:PM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #2 เมื่อ: 07 มกราคม 2010, 05:28:PM »
ชุมชนชุมชน

โอ้ต่ำต้อยด้อยค่าหากว่ารัก
ใครกันนั่นฉันปักใจรักแล้ว
รักเล่นเล่นเข็ญใจไร้วี่แวว
คงกินแห้วอกเดาะเพราะรักคุณ

แม้นเหมือนบัวสี่เหล่าเราเข้าขั้น
เปรียบวงษ์วรรณตัวเราเล่าว้าวุ่น
สี่วรรณะอนิจาโปรดการุญ
ขั้นที่สี่นี้ไม่คุ้นกับคุณเลย

ในนิทานชาดกสาทกไว้
เป็นเรื่องของหัวใจใคร่เฉลย
เรวัตรักลีลาวดีนี้คุ้นเคย
เกินเปิดเผยวรรณะห่างต่างกันไกล

เรวัตนั้นจันทานวรรณะต่ำ
ลีลาวดีสูงล้ำพิสมัย
เป็นเศรษฐีรูปงามหนอทรามวัย
กลับมีใจให้ลูกทาสประหลาดจัง

แล้วทั้งสองปวดร้าวและเศร้าหนัก
ไม่สมรักช้ำจิตเพราะผิดหวัง
ด้วยความต่างของวรรณะอนิจจัง
มันน่าหลั่งน้ำตาให้จริงไหมคุณ

เหมือนดั่งเรารักใครไม่หวังอื่น
ทุกวันคืนใฝ่หาอย่างว้าวุ่น
ในข้างกายคืนนี้หากมีคุณ
เหลือจะอุ่นจวบแจ้งแสงตะวัน

               ดอกกระเจียว  เศร้าน้ำตานอง เศร้าน้ำตานอง ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 มกราคม 2010, 06:49:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,699


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 มกราคม 2010, 06:49:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ กลางสายลมโรยละลอก..ท่ามหมอกเช้า
เยียบเย็น-เหงา..โลกสรรพ, รูปอัปสร-
ค่อยเผยผ่านรุมเร้า..คอยเว้าวอน
ให้คำนึงช่วงตอน..เจ้าย้อนคำ

๐ พี่-เช่นยอดหญ้าพลิ้วท่ามริ้วลม
แห่งความชื่นฉ่ำ-ฉม..คอยบ่มร่ำ
มีความหมายสุมซ้อน..ออดอ้อนนำ
ผ่านให้สัมผัสทั่วทั้งหัวใจ

๐ ลู่ระเนนเอนล้ม..ล้อลมร่าย
เรียวใบปลิวปัดป่าย..ต้นส่ายไหว
เช้าชื่นเมื่อพรมผ่านด้วยหวานใคร
แม้น-เยียบเย็นเพียงไหน..ก็ไม่รู้

๐ ด้วยอบอุ่นอ่อนหวาน..ได้ผ่านล้อม-
เพื่อใจน้อมนอบหวานที่ผ่านสู่
น้ำใจเช่นสายน้ำ..ถ้อยคำตรู-
ย่อมดำรูรอยร่าง..ที่กลางทรวง

๐ คืนสายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
ผ่านฟากฟ้าเดือนดาว..ส่งหนาวล่วง-
สู่โลกร้อนหญ้าเขียว..เพื่อเรียวรวง-
รับรู้ช่วงเหน็บหนาวอีกคราวครั้ง

๐ เรียวยอดหญ้าอ่อนพลิ้วด้วยริ้วลม
รอรับชื่นฉ่ำฉม..สายลมหลั่ง
พลิ้วยอดเอนไหวลู่..เหมือนรู้ฟัง-
ความอ่อนหวานกระซิบสั่ง..อีกครั้งครา

๐ รับรู้ความรื่นรมย์แห่งลมร่ำ
อ่อนละมุนหนุนนำ..ราวย้ำว่า-
รื่นที่หวนห้อมเห่ห้วงเวลา
จนเฝ้าคอยไขว่คว้า-จากฟ้าไกล

๐ ลมลูบเรียวซัดส่ายปัดป่ายยอด
นัยพร่ำพลอดสืบหมาย..ก็ส่ายไหว-
ย่อมด้วยโดยดุษฎี..ก็ที่ใจ-
จะล่องไหลระลอกหวังอีกครั้งคราว

๐ ระยิบเอยเนตรคมกลางลมร่ำ
ผ่องผกายร่ายรำในค่ำหนาว
ดูเถิด..แววปลดเปลื้องแฝงเรื่องราว-
แทนคำกล่าวสั่นรัว..จากหัวใจ

๐ งดงามเอยผกายวับให้นับเนื่อง
รอปลงเปลื้องความร้อยผ่านถ้อยไข
อย่างแฝงเร้น..งดงามแห่งความนัย-
ก็ค่อยไหวลำดับช่วงเข้าพ่วงพัน

๐ บ่ายโบกผ่านลมร่ำแห่งค่ำหนาว
ฝ่าเดือนดาวโอบล้อมเข้ากล่อมขวัญ
เพื่อโอนอุ่นแอบแฝงเข้าแบ่งปัน
ให้เหน็บหนาวทั้งนั้น..ต้องบั่นทอน

๐ ผ่านมาเถิด..เกรียวกรู..ฤดูลม
อุ่นจะห่มหนาวร้ายให้ถ่ายถอน
ยอดหญ้าเรียว..ลมร่ำ..ถ้อยคำวอน-
จะร่วมฟ้อนฝากช่วง..บำบวงฟ้า

๐ เพื่อหอมหวานต่างตอนได้ย้อนสู่-
ร่วมรับรู้ใฝ่ฝันร่วมฟันฝ่า-
ฝาก-อบอุ่นโลมไล้ผู้ไกลตา
แทนอ้อนแขนปรารถนา..ผู้อาลัย

๐ ชื่น..สายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
เมื่อสองดาวดวงนั้น..คล้ายสั่นไหว-
ตอบรับความหอมกรุ่น..แห่งอุ่นไอ-
ที่หลั่งไหลซ่านซึ้งเข้าตรึงตน

๐ คล้าย-ความคิดถึงกันในวันนี้
นับครั้งที่..มีนั้น..นับพันหน
คล้าย-ความนัยอกชาย..ที่ว่าย-วน
ทุกครั้งหน..ถวิลอยู่แต่ผู้เดียว

๐ เมื่อ..บทเพลงปฏิพัทธ์ระบัดบ่ม
ย่อมปรารมภ์..ถวิลแต่ชะแง้เหลียว
เมื่อ..อ่อนหวานรำร่าย-ที่คลายเกลียว-
พันโน้มเหนี่ยวร่วมหมาย..คือ-สายใย

๐ เมื่อสายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
คืนเรื่องราวตอกย้ำ..ผ่านคำไข
ก็ด้วยโดยซาบซึ้งของหนึ่งใจ
ที่อ่อนไหวรับรู้..ฤดูลม

๐ เกสรดอกไม้หอม..ที่ยอมหลั่ง-
หอมประดังถิ่นอยู่ให้รู้ฉม
ต่างฤๅหอมเสน่หา..ห้วงอารมณ์-
ที่จ่อมจมหอมอยู่..ฤๅรู้พอ ?   


            ชอบใจๆ ชอบใจๆ ขอบคุณสำหรับ การ คอมเม้นท์  ชอบใจๆ ชอบใจๆ

อยากจะเขียนกลอนรักอีกสักครั้ง
อยากจะหวังว่าใจได้พบฝัน
โอ้รักเอยเคยหวานไม่นานครัน
กลับแปรผันบั่นทอนจนรอนร้าว

เมื่อพบรักชักพาให้ว้าวุ่น
เมื่อพบคุณครุ่นคะนึงคิดถึงสาว
เขียนกลอนรักร้างลาน้ำตาพราว
อยากจะกล่าวคำรัก...ต้องหักใจ
         ขอจีบ...ได้ป่ะ
 
....ไปเจอกลอนเหมือนของคุณ “jjseed01” เลยครับ
ไม่ทราบว่าเป็น นามปากกาท่านเดียวกันหรือเปล่านะ...
ที่นี่ครับ...
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem123127.html

 emo_28ป.ล. เป็นบทกวีที่ไพเราะมากครับ    ตบมือให้
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
22 มกราคม 2010, 09:45:PM
jjseed01
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 38



« ตอบ #4 เมื่อ: 22 มกราคม 2010, 09:45:PM »
ชุมชนชุมชน

 อ๋อ ครับ ผม แต่งเอง คับ เขา มาก๊อบ ของผม ปล่าว นิ   อะไรวะ...งง ว่ะ อะไรวะ...งง ว่ะ ลองไปถามเขา ดู ละ กาน แต่ ผม แต่ง เอง คับ







  ปล. ต้อง ตอบ เพราะ เผื่อ มี การ เข้า จัย ผิด กาน นะคับ  ฝัน ดีทุกคน
บันทึกการเข้า
23 มกราคม 2010, 09:36:AM
hort39
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 388
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,216


คำพูดที่ให้ร้าย ไม่อาจเปลียนแปลงความจริงทีผ่านมา


« ตอบ #5 เมื่อ: 23 มกราคม 2010, 09:36:AM »
ชุมชนชุมชน

๐ กลางสายลมโรยละลอก..ท่ามหมอกเช้า
เยียบเย็น-เหงา..โลกสรรพ, รูปอัปสร-
ค่อยเผยผ่านรุมเร้า..คอยเว้าวอน
ให้คำนึงช่วงตอน..เจ้าย้อนคำ

๐ พี่-เช่นยอดหญ้าพลิ้วท่ามริ้วลม
แห่งความชื่นฉ่ำ-ฉม..คอยบ่มร่ำ
มีความหมายสุมซ้อน..ออดอ้อนนำ
ผ่านให้สัมผัสทั่วทั้งหัวใจ

๐ ลู่ระเนนเอนล้ม..ล้อลมร่าย
เรียวใบปลิวปัดป่าย..ต้นส่ายไหว
เช้าชื่นเมื่อพรมผ่านด้วยหวานใคร
แม้น-เยียบเย็นเพียงไหน..ก็ไม่รู้

๐ ด้วยอบอุ่นอ่อนหวาน..ได้ผ่านล้อม-
เพื่อใจน้อมนอบหวานที่ผ่านสู่
น้ำใจเช่นสายน้ำ..ถ้อยคำตรู-
ย่อมดำรูรอยร่าง..ที่กลางทรวง

๐ คืนสายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
ผ่านฟากฟ้าเดือนดาว..ส่งหนาวล่วง-
สู่โลกร้อนหญ้าเขียว..เพื่อเรียวรวง-
รับรู้ช่วงเหน็บหนาวอีกคราวครั้ง

๐ เรียวยอดหญ้าอ่อนพลิ้วด้วยริ้วลม
รอรับชื่นฉ่ำฉม..สายลมหลั่ง
พลิ้วยอดเอนไหวลู่..เหมือนรู้ฟัง-
ความอ่อนหวานกระซิบสั่ง..อีกครั้งครา

๐ รับรู้ความรื่นรมย์แห่งลมร่ำ
อ่อนละมุนหนุนนำ..ราวย้ำว่า-
รื่นที่หวนห้อมเห่ห้วงเวลา
จนเฝ้าคอยไขว่คว้า-จากฟ้าไกล

๐ ลมลูบเรียวซัดส่ายปัดป่ายยอด
นัยพร่ำพลอดสืบหมาย..ก็ส่ายไหว-
ย่อมด้วยโดยดุษฎี..ก็ที่ใจ-
จะล่องไหลระลอกหวังอีกครั้งคราว

๐ ระยิบเอยเนตรคมกลางลมร่ำ
ผ่องผกายร่ายรำในค่ำหนาว
ดูเถิด..แววปลดเปลื้องแฝงเรื่องราว-
แทนคำกล่าวสั่นรัว..จากหัวใจ

๐ งดงามเอยผกายวับให้นับเนื่อง
รอปลงเปลื้องความร้อยผ่านถ้อยไข
อย่างแฝงเร้น..งดงามแห่งความนัย-
ก็ค่อยไหวลำดับช่วงเข้าพ่วงพัน

๐ บ่ายโบกผ่านลมร่ำแห่งค่ำหนาว
ฝ่าเดือนดาวโอบล้อมเข้ากล่อมขวัญ
เพื่อโอนอุ่นแอบแฝงเข้าแบ่งปัน
ให้เหน็บหนาวทั้งนั้น..ต้องบั่นทอน

๐ ผ่านมาเถิด..เกรียวกรู..ฤดูลม
อุ่นจะห่มหนาวร้ายให้ถ่ายถอน
ยอดหญ้าเรียว..ลมร่ำ..ถ้อยคำวอน-
จะร่วมฟ้อนฝากช่วง..บำบวงฟ้า

๐ เพื่อหอมหวานต่างตอนได้ย้อนสู่-
ร่วมรับรู้ใฝ่ฝันร่วมฟันฝ่า-
ฝาก-อบอุ่นโลมไล้ผู้ไกลตา
แทนอ้อนแขนปรารถนา..ผู้อาลัย

๐ ชื่น..สายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
เมื่อสองดาวดวงนั้น..คล้ายสั่นไหว-
ตอบรับความหอมกรุ่น..แห่งอุ่นไอ-
ที่หลั่งไหลซ่านซึ้งเข้าตรึงตน

๐ คล้าย-ความคิดถึงกันในวันนี้
นับครั้งที่..มีนั้น..นับพันหน
คล้าย-ความนัยอกชาย..ที่ว่าย-วน
ทุกครั้งหน..ถวิลอยู่แต่ผู้เดียว

๐ เมื่อ..บทเพลงปฏิพัทธ์ระบัดบ่ม
ย่อมปรารมภ์..ถวิลแต่ชะแง้เหลียว
เมื่อ..อ่อนหวานรำร่าย-ที่คลายเกลียว-
พันโน้มเหนี่ยวร่วมหมาย..คือ-สายใย

๐ เมื่อสายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
คืนเรื่องราวตอกย้ำ..ผ่านคำไข
ก็ด้วยโดยซาบซึ้งของหนึ่งใจ
ที่อ่อนไหวรับรู้..ฤดูลม

๐ เกสรดอกไม้หอม..ที่ยอมหลั่ง-
หอมประดังถิ่นอยู่ให้รู้ฉม
ต่างฤๅหอมเสน่หา..ห้วงอารมณ์-
ที่จ่อมจมหอมอยู่..ฤๅรู้พอ ?   


            ชอบใจๆ ชอบใจๆ ขอบคุณสำหรับ การ คอมเม้นท์  ชอบใจๆ ชอบใจๆ

อยากจะเขียนกลอนรักอีกสักครั้ง
อยากจะหวังว่าใจได้พบฝัน
โอ้รักเอยเคยหวานไม่นานครัน
กลับแปรผันบั่นทอนจนรอนร้าว

เมื่อพบรักชักพาให้ว้าวุ่น
เมื่อพบคุณครุ่นคะนึงคิดถึงสาว
เขียนกลอนรักร้างลาน้ำตาพราว
อยากจะกล่าวคำรัก...ต้องหักใจ
         ขอจีบ...ได้ป่ะ
 
....ไปเจอกลอนเหมือนของคุณ “jjseed01” เลยครับ
ไม่ทราบว่าเป็น นามปากกาท่านเดียวกันหรือเปล่านะ...
ที่นี่ครับ...
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem123127.html

 emo_28ป.ล. เป็นบทกวีที่ไพเราะมากครับ    ตบมือให้


เป็นบทกลอนชวนซึ้งถึงวันเก่า
ทั้งสุขเศร้าเนาว์นานผ่านวัยฝัน
อารมณ์รักถ้กทอพ้อรำพัน
เหมือนดังกลั่นจากใจให้ชื่นชม

(เห็นด้วยกับลุงสายใย ให้เลย ครับ )
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s