ปี 52 ไทยลุ้นชม 2 สุริยคราส ในปีดาราศาสตร์สากล
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 เมษายน 2024, 04:04:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปี 52 ไทยลุ้นชม 2 สุริยคราส ในปีดาราศาสตร์สากล  (อ่าน 2454 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
16 ธันวาคม 2008, 11:30:AM
Alpha
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 16 ธันวาคม 2008, 11:30:AM »
ชุมชนชุมชน

ปี 52 ลุ้นชมสุริยคราสกันเต็มตาอีก 2 ครั้ง คนไทยห้ามพลาดเด็ดขาด แม้จะได้เห็นอาทิตย์เว้าแหว่งแค่บางส่วน
ปรากฏการณ์แรก "สุริยุปราคาวงแหวน" เกิดขึ้นในเดือน ม.ค. และอีกครั้งในเดือน ก.ค. กับ "สุริยุปราคาเต็มดวง"
ที่ปีนี้พิเศษกว่าครั้งไหน เพราะคราสจับเต็มดวงนานกว่า 6 นาที


เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.51 ที่ผ่านมา สมาคมดาราศาสตร์ไทย ได้แถลงข่าวมหกรรมการเกิดสุริยุปราคาวงแหวนและสุริยุปราคาเต็มดวงในปี 2552
ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์สำคัญทางดาราศาสตร์ที่ไม่ควรพลาด และประเทศไทยก็อยู่เขต
ที่เงามืดของดวงจันทร์พาดผ่านขณะเคลื่อนเข้าบดบังดวงอาทิตย์ด้วย โดยจะเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วนทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งในงานนี้มีสื่อมวลชน
ให้ความสนใจมาร่วมมากมายรวมทั้งผู้จัดการวิทยาศาสตร์ด้วย
       
นายอารี สวัสดี อุปนายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่จะเกิดขึ้นในปี 52 นั้นมี 2 ครั้งด้วย ครั้งแรกจะเกิดในวันที่
26 ม.ค.52 เป็นสุริยุปราคาวงแหวน เนื่องจากดวงจันทร์มีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์ เส้นทางของสุริยุปราคาวงแหวนส่วนใหญ่อยู่ในทะเล
โดยมีเพียงบางส่วนของประเทศอินโดนีเซียที่เท่านั้นที่จะสังเกตเห็นสุริยุปราคาวงแหวนได้ในเวลาประมาณ 16.37 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ซึ่งกินเวลานานกว่า 5 นาที
       
ขณะเดียวกันชาวไทยจะเริ่มเห็นเงาของดวงจันทร์เคลื่อนเข้าบดบังดวงอาทิตย์ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.38 น. เป็นเวลาขณะที่ดวงอาทิตย์อยู่ใน
ตำแหน่งมุมเงยราว 30 องศา โดยภาคใต้ของประเทศจะเริ่มเห็นปรากฏการณ์นี้ก่อนภูมิภาคอื่นๆ และเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่งมากที่สุดในเวลา 16.55 น.
ประมาณ 60% ซึ่งมากกว่าภูมิภาคอื่นด้วยเช่นกัน ส่วนกรุงเทพฯ จะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ 15.53 น. และจะเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่งมากสุดราว 45%
ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ภาคเหนือจะเห็นเว้าเพียง 30% เท่านั้น และปรากฏการณ์นี้จะสิ้นสุดลงในเวลาประมาณ 18.00 น.

       
นอกจากนี้ยังมีประเทศในแถบแอฟริกาตอนใต้ บางส่วนของแอนตาร์กติกา จีน อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย ที่จะสามารถเห็น
ปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนได้เช่นกัน

ส่วนในวันที่ 22 ก.ค. 52 จะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงที่มีเส้นทางผ่านประเทศอินเดีย เนปาล ภูฏาน บังกลาเทศ ตอนเหนือของพม่า จีน และบางเกาะ
ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น และเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกก่อนจะสิ้นสุดลง

สุริยุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากระยะเวลาขณะดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์จนมืดมิด กินเวลานานกว่า 6 นาที นับว่ายาวนานที่สุด
ในศตวรรษที่ 21
โดยจุดที่เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงนานที่สุดอยู่บริเวณทะเลทางด้านตะวันออกของเกาะดิโวะจิมะ ประเทศญี่ปุ่น ยาวนานประมาณ 6 นาที 39 วินาที
ตรงกับเวลาประมาณ 9.29 น. ของประเทศไทยไทย ทั้งนี้ สุริยุปราคาเต็มดวงสามารถเกิดขึ้นได้นานสุดราว 7 นาที ส่วนสุริยุปราคาเต็มดวงที่เคยเกิดขึ้น
ในประเทศไทยเมื่อปี 2538 กินเวลาประมาณ 2 นาทีเท่านั้น
       
ส่วนประเทศไทยก็จะเห็นเป็นเพียงสุริยุปราคาบางส่วนเช่นกัน โดยจะเริ่มต้นและสิ้นสุดลงในช่วงเวลาประมาณ 7.00-9.00 น. ซึ่งในครั้งนี้จังหวัดในภาคเหนือ
และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่งได้มากที่สุด

       
สำหรับปี 2552 นั้นยังได้รับการประกาศให้เป็น "ปีดาราศาสตร์สากล" อีกด้วย เนื่องในวาระครบรอบ 400 การศึกษาดาราศาสตร์เป็นครั้งแรกอย่างจริงจัง
ของกาลิเลโอ กาลิเลอิ นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลี ผู้ประดิษฐ์กล้องโทรทัศน์เป็นคนแรกและพิสูจน์ได้ว่าโลกมีสัณฐานกลมและโคจรรอบดวงอาทิตย์
       
ด้าน น.ส.ประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ กล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า ข้อสำคัญในการชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาคือ ห้ามดูด้วยตาเปล่าเด็ดขาด
เพราะอาจเป็นอันตรายถึงตาบอดได้ และห้ามดูผ่านฟิล์มเอ็กซ์เรย์ ฟิล์มขาวดำ หรือกระจกรมควัน เพราะยังไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ
ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อดวงตาได้เช่นกัน

วิธีการดูสุริยุปราคาที่ถูกต้องคือการมองผ่านแผ่นฟิล์มชนิดพิเศษที่ใช้ในการสังเกตดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยป้องกันดวงตาจากรังสีที่เป็นอันตราย
จากดวงอาทิตย์ได้ จึงมีความปลอดภัย 100% หรือชมปรากฏการณ์ทางอ้อมผ่านเงาของดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบลงบนฉากรับแสง
       
ในการนี้ทางสมาคมดาราศาสตร์ไทยก็ได้จัดทำแผ่นฟิล์มดังกล่าวในรูปแบบ "แว่นสุริยะ" สำหรับชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานหลายสิบปี
โดยจำหน่ายในราคาชิ้นละ 50 บาท ผู้สนใจปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์หรือแว่นสุริยะ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สมาคมดาราศาสตร์ไทย โทร. 02-381-7409-10.

ที่มา http://board.postjung.com/topic-366509.html
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s